เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 633
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 633
อู่คงหลิงส่งสายตาหยาดเยิ้มให้ลู่ฝาน แล้วพูดว่า “คุณชายลู่ฝานจะคุยอะไร ฉันได้ทั้งนั้น คืนนี้ฉันยังสามารถไปพูดคุยกับคุณชายลู่ได้ด้วย”
ลู่ฝานมองเธออย่างราบเรียบ แววตานิ่งๆ ทำให้อู่คงหลิงรู้สึกว่าการแสดงออกของตัวเองน่าขำ รอยยิ้มบนใบหน้าชะงักไป
ลู่ฝานพูดว่า “คุณอู่คงหลิง ฉันคงไม่ต้องพูดถึงตัวตนของเธอมาก เธอกับฉันรู้ดีแก่ใจ ฉันแค่อยากถามประโยคเดียว ฉันสามารถให้เธอเป็นคนต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ได้ไหม หรือตอนนี้ฉันควรจัดการเธอก่อน แล้วค่อยไปต่อสู้ตัวต่อตัวกับกุยวัว”
อู่คงหลิงตอบว่า “ไม่ได้หรอก เพราะนายไม่เชื่อใจฉันสักนิด เพราะตัวตนของฉัน นายจึงไม่เชื่อคำพูดของฉันสักนิด ถึงตอนนี้ฉันบอกนายว่าฉันไม่มีทางทำเรื่องที่ทำร้ายนาย นายก็ไม่เชื่อฉันหรอก”
อู่คงหลิงมองลู่ฝานอย่างไม่ยอมอ่อนข้อ
ระหว่างที่ทั้งสองสบตากัน เหมือนมีประกายไฟพุ่งขึ้นมา
ทันใดนั้น ลู่ฝานพูดว่า “เธอพูดถูก งั้นเธอคิดว่าเราควรแก้ปัญหานี้ยังไง ฉันไม่อยากโดนแทงข้างหลัง ตอนที่ต่อสู้กับกุยวัวหรอกนะ”
อู่คงหลิงแววตาขบขัน “ฉันก็ไม่ชอบเหมือนกัน เอาแบบนี้ดีไหม คุณชายลู่ฝานสร้างสัญญาเป็นตายแห่งสวรรค์ขึ้นมา”
ลู่ฝานขมวดคิ้ว “สัญญาเป็นตายแห่งสวรรค์เหรอ นั่นเป็นสัญญาที่ใช้ตอนต่อสู้เป็นตายไม่ใช่เหรอ เธอจะไม่จบไม่สิ้นกับฉันเหรอ”
อู่คงหลิงพูดว่า “ถูกต้อง เป็นสัญญาที่ใช้ตอนต่อสู้เป็นตาย แต่เราสามารถกำหนดเวลาต่อสู้เป็นตาย หลังจากกลับไปได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันจะไม่สามารถลอบทำร้ายนายที่นี่ได้ เพราะมันผิดกฎของสัญญา ฉันจะโดนลงโทษจากสวรรค์”
ลู่ฝานรีบถามเจดีย์เสวียนเก้ามังกรในใจ “ไอ้เก้า มีวิธีสร้างสัญญาแบบนี้ด้วยเหรอ”
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรพูดว่า “ก็มีนะ แต่เธอทำแบบนี้ ถ้าออกไปก็เป็นการแบ่งแยกเป็นตายกับเจ้านายไม่ใช่เหรอ ผิดปกตินะ!”
เหมือนเห็นแววตาวูบไหวของลู่ฝาน อู่คงหลิงพูดว่า “หลังจากออกไป เราค่อยยกเลิกสัญญา”
“ยกเลิกสัญญาได้ด้วยเหรอ” ลู่ฝานถาม
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรกับอู่คงหลิงตอบพร้อมกันว่า “ได้!”
อู่คงหลิงพูดเสริมอีกว่า “แค่เราสองคนละทิ้งสัญญาก็ได้แล้ว”
สีหน้าลู่ฝานอึมครึมเล็กน้อย “งั้นถ้ามีคนไม่ยอมละทิ้งล่ะ”
อู่คงหลิงหัวเราะแล้วพูดว่า “คุณชายลู่ฝานกลัวฉันหรือไง ควรเป็นฉันที่กลัวคุณชายลู่ฝานจะฆ่าอย่างไม่สนใจอะไร แต่ฉันเชื่อว่าคุณชายลู่ฝานเป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้ว”
พูดจบ อู่คงหลิงกัดปลายนิ้วแล้วยื่นมือออกมา
ลู่ฝานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายจึงยื่นแขนออกมา ปราณชี่กลายเป็นสายลม ปาดผิวจนแตก เลือดสดไหลออกมา
ฝ่ามือทั้งสองคนประสานกัน อู่คงหลิงพูดว่า “ฉันอู่คงหลิง หลังจากสามวันจะต่อสู้เป็นตาย ฟ้าดินเป็นพยาน”
ลู่ฝานพูดว่า “ฉันลู่ฝาน หลังจากสามวันจะต่อสู้เป็นตาย ฟ้าดินเป็นพยาน”
ทั้งสองคนพูดจบ เลือดสดรวมกัน แล้วหายไปในอากาศ
ออร่าลึกลับแผ่ขยายไปทั่ว นี่คือออร่าแห่งสวรรค์ที่ทำให้โลกหมุนไป ลู่ฝานยังไม่ทันสัมผัสอย่างละเอียด มันก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
อู่คงหลิงยิ้มแล้วพูดว่า “โอเค คุณชายลู่ฝาน ตอนนี้นายคงเชื่อฉันได้แล้ว เราเป็นเพื่อนร่วมรบกันแล้วใช่ไหม”
ลู่ฝานดึงมือกลับมาแล้วพูดว่า “เชื่อเธอชั่วคราว คุณอู่คงหลิง ห้ามทำเรื่องผิดทุกเรื่อง แม้ตอนนี้เราเป็นเพื่อนร่วมรบกันแบบกะทันหัน แต่ถ้าเธอทำเรื่องที่เป็นภัยต่อชีวิตฉัน หรือพวกเจิงหยงกับอี้ว์เสี้ยวเอ๋อร์ ถึงฉันต้องสู้กับสวรรค์ ฉันก็จะฆ่าเธอ”
ความอาฆาตอันน่ากลัวออกมาจากตัวลู่ฝาน
ความอาฆาตอันน่ากลัว เหมือนมาจากมารนรก จู่ๆ ตัวอู่คงหลิงแข็งทื่อขึ้นมาทันที
นี่เป็นความอาฆาตที่มาจากการเข่นฆ่าเป็นพันเป็นหมื่นศพ เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ความอาฆาตที่อู่คงหลิงเคยเจอ เป็นเพียงความอาฆาตของพวกนักเลงข้างถนนเท่านั้น
ลู่ฝานจ้องอู่คงหลิง ขณะนั้นอู่คงหลิงเงยหน้ามองฟ้า
“ฝนจะตกแล้ว!”
เมื่อพูดจบ มีเสียงฟ้าร้องดังมาจากไกลๆ
ในป่าทึบมีแรงสั่นสะเทือนอีกแล้ว ไม่ไกลมีฝูงสัตว์อสูรโผล่ออกมา หลังจากนั้นพากันหมอบลงบนพื้น