เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 634
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 634
เมฆดำทะมึนท่วมเมือง
เมื่อกี้ท้องฟ้ายังแจ่มใสอยู่เลย จู่ๆ ก็มืดลงอย่างกะทันหัน
เสียงฟ้าร้องดังขึ้น ฝนตกลงมาอย่างหนัก
จู่ๆ ฟ้าดินท้องฟ้าเปลี่ยนสี ลู่ฝานและคนอื่นพากันถอยไปข้างหลัง
“สัตว์อสูรเยอะมาก พวกมันกำลังทำอะไร”
ลู่ฝานมองสัตว์อสูรพวกนี้ปรากฏตัวออกมาเป็นแถวอย่างเป็นระเบียบ จากนั้นหมอบลงริมทะเล
ท่าทางนอบน้อมของพวกมัน เหมือนมนุษย์บูชาเทพเจ้า
“นี่สัตว์อสูรระดับต่ำกำลังยอมแพ้ให้กับสัตว์อสูรระดับสูง หรือไม่ก็อุทิศตน”
อู่คงหลิงพูดช้าๆ หางตามีรอยยิ้ม
“อุทิศตนเหรอ”
ลู่ฝานไม่ค่อยเข้าใจ
อู่คงหลิงอธิบายว่า “พวกสัตว์อสูรที่แข็งแกร่ง ตอนพวกมันตื่นขึ้นและต้องการกินอาหาร พวกสัตว์อสูรระดับต่ำจำเป็นต้องรออยู่ตรงนั้น เรียงเป็นแถวให้มันกิน นี่เรียกว่าอุทิศตน ถ้าพวกมันไม่ทำแบบนี้ สัตว์อสูรที่แข็งแกร่งจะทำลายที่อยู่ของพวกมัน ดังนั้นพวกมันจึงอุทิศชีวิตตัวเอง เพื่อให้เผ่าพันธุ์ได้สืบทอดต่อไป นี่เรียกว่าอุทิศตน”
ลู่ฝานพูดอย่างราบเรียบว่า “น่าเศร้า”
อู่คงหลิงพูดว่า “น่าเศร้าจริงๆ แต่นี่คือความเศร้าของผู้อ่อนแอ มนุษย์ก็เหมือนกันไม่ใช่หรือไง”
ลู่ฝานขมวดคิ้วมองอู่คงหลิง “มนุษย์ก็เหมือนกันเหรอ เธอบอกว่ามนุษย์ก็ถวายชีวิตให้คนอื่นกินเหมือนกันเหรอ”
อู่คงหลิงเหมือนคิดอะไรได้ แววตาเปลี่ยนไปเล็กน้อย ลู่ฝานเห็นหางตาของเธอกระตุก
เหมือนนึกถึงเหตุการณ์น่าหวาดผวาขึ้นมาได้
ผ่านไปนาน อู่คงหลิงพูดว่า “คุณชายลู่ฝาน ถ้านายเป็นพวกเดียวกับฉัน งั้นนายควรรู้ว่าเรื่องแบบนี้มีเยอะมาก”
ลู่ฝานพูดว่า “น่าเสียดาย ฉันไม่ได้เป็นพวกเดียวกับเธอ”
อู่คงหลิงพูดว่า “คงงั้น แต่นายก็มีโอกาสเจอเหตุการณ์แบบนั้น เชื่อฉันสิ ความโหดเหี้ยมของมนุษย์ สัตว์อสูรไม่มีทางเทียบได้หรอก”
ลู่ฝานเงียบไป เจดีย์เสวียนเก้ามังกรพูดว่า “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ฉันรู้เรื่องเกี่ยวกับความโหดเหี้ยมของผู้ฝึกวิชาชั่วร้ายมาเยอะ จะให้ฉันเล่าให้ฟังไหม ฉันฉายภาพเหตุการณ์ให้นายดูได้”
ลู่ฝานพูดในใจว่า “เหรอ ให้ฉันดูหน่อย”
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรหัวเราะคิกคักแล้วพูดว่า “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ฉันรับรองว่าหลังจากดู นายจะมีความเข้าใจใหม่กับพวกมนุษย์บางส่วน”
พูดจบภาพต่างๆ ปรากฏขึ้นในหัวลู่ฝาน
ภาพพวกนี้เป็นเหตุการณ์ที่เจดีย์เสวียนมังกรเคยผ่านมากับเซียนสือฟาง
แม้ไม่รู้ว่าเจดีย์เสวียนเก้ามังกรเก็บสิ่งเหล่านี้ไว้ได้ยังไง แต่ลู่ฝานเห็นความทารุณนับไม่ถ้วน
เขาเห็นผู้ฝึกวิชาชั่วร้ายคนหนึ่ง กินหญิงสาวสองคนอย่างโหดเหี้ยมต่อหน้าคนที่บำเพ็ญเพียร
เห็นภาพที่ผู้ฝึกวิชาชั่วร้ายร้อยคนฆ่าทั้งเมือง
ศพเกลื่อนกลาด โหดเหี้ยมไร้ความปรานี เสียงหัวเราะดังสนั่น
ภาพเหตุการณ์เหล่านี้บาดตาลู่ฝาน แม้ดูเพียงครู่เดียว เขาก็มีความเข้าใจใหม่กับผู้ฝึกวิชาชั่วร้าย
คนบางส่วน ไม่สามารถเรียกว่าคนได้จริงๆ
เจดีย์เสวียนมังกรให้ลู่ฝานดูภาพ พลางพูดว่า “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ฉันจำเป็นต้องเตือนนาย คนส่วนหนึ่งในภาพเหล่านี้ คือคนที่พวกนายเรียกว่าผู้ฝึกวิชาชั่วร้าย ส่วนคนอีกส่วนหนึ่ง หึหึ เป็นนักบู๊หรือไม่ก็ผู้ฝึกชี่ของสำนักใหญ่”
ลู่ฝานอึ้งไป พูดในใจว่า “สำนักใหญ่เหรอ แกล้อเล่นหรือเปล่า พวกไหนเป็นคนของสำนักใหญ่”
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรพูดว่า “คนที่เข่นฆ่าทั่วเมือง แล้วก็คนที่ทำลายล้างทั้งตระกูลแล้วเก๊กท่า ล้วนเป็นคนของสำนักใหญ่ หนึ่งในนั้นคือสำนักเทพวิญญาณ ตอนนั้นสือฟางเคยบาดหมางกับพวกเขา จึงบักทึกภาพที่เขาเห็นเอาไว้ กะจะส่งให้ราชสำนักประเทศอู่อาน แต่น่าเสียดาย หึหึ คนดื้อรั้นอย่างสือฟางไม่มีทางเข้าใจเหตุผลที่ว่าผลประโยชน์เหนือกว่าชีวิตคน เฮ้อ……”