เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 658
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 658
ปากลู่ฝานขยับเล็กน้อย เขาส่งเสียงออกมาว่า “เธอเดินไปรอบๆ ใช้จิตอัคคีขจัดเส้นทางการไหลของน้ำเย็น ฉันจะดึงดูดความสนใจของมันต่อ”
อู่คงหลิงพยักหน้า เริ่มเดินอย่างระมัดระวัง
ตอนนี้เหมือนมังกรโลหิตสามหัวโมโหลู่ฝานแล้ว มันคำรามออกมาว่า “มนุษย์ต่ำต้อย นายกล้าดูหมิ่นฉันสองครั้ง ฉันจะเอาหนังของนายมาเป็นของสะสม จะเอาวิญญาณนายมาบดขยี้ ให้นายสัมผัสกับความทรมานอย่างแท้จริง”
ลู่ฝานแคะหู การกระทำของเขาคือการเลียนแบบศิษย์พี่หานเฟิงชัดๆ
เพราะในบรรดาคนที่เขารู้จัก มีแค่ศิษย์พี่หานเฟิงที่มีท่าทางน่าโมโหที่สุด
“อืม นายพูดเยอะขนาดนี้ ทำไมฉันยังยืนมีชีวิตอยู่ที่นี่ล่ะ คุณท่านโลหิตสีครามผู้ยิ่งใหญ่ นายทำเป็นแต่พูดเหรอ ในเมื่อฉันต่ำต้อยขนาดนี้ ทำไมนายไม่ฆ่าฉันเลยล่ะ ฉันรออยู่นะ รีบเข้ามาสิ!”
ลู่ฝานกระดิกนิ้วให้มังกรโลหิตสามหัว ท่าทางน่าโดนกระทืบมาก
มังกรโลหิตสามหัวทนไม่ไหวแล้ว แสงสีฟ้าพัดเข้ามาอีกครั้ง
ครั้งนี้ลู่ฝานมองเห็นชัดเจนแล้ว นั่นเป็นเงาร่างที่มังกรโลหิตสามหัวสร้างขึ้นมา!
เกราะเกล็ดมังกรปรากฏขึ้นบนตัวลู่ฝานทันที ฝ่าเท้าจมลงไปในพื้น ปราณชี่เปิดออก
พลั่ก!
ลู่ฝานต้านทานการโจมตีของมังกรโลหิตสามหัว
แม้เลือดลมปั่นป่วน เกราะเกล็ดมังกรบนตัวยุบลงไป แต่ลู่ฝานก็ต้านทานไว้ได้
ทันใดนั้นเงาสีฟ้ามีเสียงดังออกมา
มังกรโลหิตสามหัวเก็บเงากลับไป เหมือนกำลังร้องอย่างเจ็บปวด หัวทั้งสามหัวเริ่มขยับไม่หยุด
ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “ที่แท้นายกลัวฉัน เงาของนายไม่สามารถแตะต้องฉันได้ คุณท่านเลือดสีครามผู้ยิ่งใหญ่ แตะต้องมนุษย์ต่ำต้อยอย่างฉันไม่ได้ ฉันตกใจจนคางแทบหล่นลงบนพื้น นายแน่ใจเหรอว่าไม่ใช่งูกระจอก งูกระจอกที่น่าสงสาร”
ลู่ฝานพูดคำว่างูกระจอก ทำให้มังกรโลหิตสามหัวแทบจะถึงขีดสุดแล้ว
“ไอ้มนุษย์สมควรตาย ต่ำต้อย ไร้ยางอาย บอกชื่อนายมา บอกชื่อนายมาก”
ลู่ฝานพูดด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ “ได้ บอกนายก็ได้ ฉันชื่ออี่ว์ชิงเฉิน นายสาปฉันสิ!”
ขณะนั้นมังกรโลหิตสามหัวชะงักไปทันที มองลู่ฝานด้วยสายตาประหลาด “มนุษย์โง่เขลา นายบอกชื่อมาจริงๆ ด้วย งั้นฉันจะทำให้นายรู้ว่าคำสาปแท้จริงคืออะไร”
ลู่ฝานสีหน้าหวาดกลัว แต่ในดวงตาเต็มไปด้วยความคาดหวัง
แสงสีฟ้าบนตัวมังกรโลหิตสามหัวทะลักขึ้นมา เหมือนเปลวไฟสีครามลุกโชน เคลื่อนไหวอย่างประหลาด
ขณะนั้นอู่คงหลิงเดินกลับมา เธอกำจัดน้ำเย็นที่ไหลมายังกำแพงหินจนหมดแล้ว
“วิชาคำสาป มันกำลังท่องวิชาคำสาป!”
ลู่ฝานยังคงมีสีหน้าหวาดกลัว แต่มุมปากกระตุกอย่างอดไม่ได้
“เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งมีความสามารถพิเศษ สัตว์อสูรประเภทมังกร วิชาคำสาปคือสิ่งที่มีชื่อเสียงที่สุด พวกมันคือผู้เก็บเกี่ยววิญญาณ ในตำนานบอกว่าผู้ฝึกวิชาชั่วร้ายจำนวนมาก ชอบสัตว์อสูรประเภทมังกร เพราะสามารถยกระดับพลานุภาพวิชาวิญญาณส่วนหนึ่งของพวกเขา”
ทันใดนั้น แสงของมังกรโลหิตสามหัวหายไป จู่ๆ ก็สั่นอย่างรุนแรง
หัวหนึ่งหดกลับเข้าไปในกำแพง
“ทุเรศ! มนุษย์สมควรตาย นายบอกชื่อใครมา นี่ไม่ใช่ชื่อนาย นายบอกชื่อผู้แข็งแกร่งที่เป็นมนุษย์ให้ฉัน ยังดีที่เขายังไม่เข้าสู่วิถี มนุษย์ต่ำต้อย ทำไมฉันถึงเชื่อนายได้นะ”
ความหวาดกลัวบนใบหน้าลู่ฝานแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม