เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 697
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 697
“ผู้ฝึกชี่เถ่เมี่ยน เงินค่ารักษา ฉันนำมาให้ท่านแล้ว ท่านลองตรวจดู”
สิ่งของหลายกล่องนำมาจัดวางอยู่เบื้องหน้าของลู่ฝาน หากเป็นพวกเงินทองทรัพย์สินอะไรเหล่านี้ มันช่างธรรมดาไร้ค่าเสียจริง คิด ๆ ว่าคงจะไม่มีผู้ฝึกชี่คนไหนที่ขาดแคลนสิ่งของเหล่านี้หรอก
ดังนั้นสิ่งของที่จัดวางอยู่หน้าของลู่ฝานนั้นส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งของที่ผู้ฝึกชี่ต้องการทั้งนั้น
โดยสมุนไพรนั่นเป็นสิ่งของพื้นฐานอยู่แล้ว สูตรการกลั่นยาก็มี และสมบัติล้ำค่าก็มี
หากจะบอกว่ามีมูลค่ามากมายมหาศาลมันก็จะดูเกินไปหน่อย แต่หากบอกว่ามีมูลค่าสูงระดับหนึ่ง ก็คงไม่น่าเป็นปัญหา โดยลู่ฝานได้ตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว สิ่งของเหล่านี้สำหรับอาจารย์บำเพ็ญชี่แล้วถือได้ว่ามีแรงดึงดูดมากพอสมควรทีเดียว
แต่สำหรับเขาที่เข้าสู่ระดับนักเรกิแล้ว สิ่งของเหล่านี้มันไม่ค่อยจะเข้าตาสักเท่าไร
ทำเป็นเล่นไปได้ ตอนนี้เขากำลังกลั่นยา อย่างน้อยก็ต้องกลั่นยาทิพย์แล้ว
แต่พวกสมุนไพรและสูตรการกลั่นยาเหล่านี้ ไม่มีสิ่งใดที่จะทำให้เขาสามารถกลั่นยาทิพย์ได้
ซึ่งไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้ฝึกชี่อู๋เหลียงนั้นถึงไม่เอ่ยถึงพวกสิ่งของเหล่านี้เลย คาดว่าคงจะไม่สนใจเช่นกัน
คิดถึงตรงจุดนี้แล้ว ลู่ฝานก็กลับเกิดความสนใจในอุกกาบาตเหล็กหลิงซานที่ผู้ฝึกชี่อู๋เหลียงพูดถึงอยู่ตลอดเวลานั่น
แต่ตอนนี้ก็ยังคงไม่ถามก่อน รอถึงวันพรุ่งนี้ เมื่ออี่ว์ชิงเฉินตื่นขึ้นมาแล้ว ค่อยไปสอบถามต่อหน้าจะดีกว่า
เพราะว่าตนเองนั้นได้ “ช่วยชีวิต” ของเขาเอาไว้ หากไปสอบถามต่อหน้า เขาคงจะไม่บอกปัดด้วยข้ออ้างต่าง ๆ หรอก
ลู่ฝานสะบัดมือนำเอาพวกสิ่งของเหล่านี้โยนไว้ภายในเข็มขัดทั้งหมด
ก่อนที่จะมานั้น เขายังได้จงใจทาสีเข็มขัดทับไว้ชั้นหนึ่ง เพื่อหลีกเลี่ยงคนอื่นจดจำได้
มองเห็นลู่ฝานโบกมือนำสิ่งของทั้งหมดเก็บขึ้น โดยที่ไม่ได้ใส่ใจมองดูมากนัก พ่อบ้านอาวุโสเองก็รู้ได้เลยว่าสิ่งของเหล่านี้เกรงว่าจะไม่เป็นที่ดึงดูดความสนใจของลู่ฝานสักเท่าไร
แม้ว่าเขาจะสั่งให้คนปรับเปลี่ยนสมบัติล้ำค่าพิเศษหลายชิ้นโดยเฉพาะแล้ว แต่ลู่ฝานเองก็ยังไม่แสดงท่าทีอะไร
สิ่งนี้ทำให้พ่อบ้านอาวุโสเกิดความสงสัยขึ้นมาว่า ตกลงผู้ฝึกชี่เถ่เมี่ยนคนนี้ต้องการอะไรกันแน่
คงจะไม่ได้มาเพราะอุกกาบาตเหล็กหลิงซานหรอกนะ!
พ่อบ้านอาวุโสสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย มองไปที่ลู่ฝานและพูดขึ้นว่า: “ผู้ฝึกชี่เถ่เมี่ยน ท่านยังต้องการอะไรอีกไหม? ”
นี่คือคำถามหยั่งเชิง ลู่ฝานเองก็ฟังออกได้ถึงความหมายที่แฝงอยู่บ้าง แต่ก็พูดขึ้นอย่างสงบนิ่งว่า: “ไม่ต้องการอะไรแล้ว อีกสักครู่อย่าลืมนำอาหารส่งมาให้ด้วยล่ะ”
พ่อบ้านอาวุโสถอนหายใจยาว ไม่สมควรที่จะใช้ความคิดเห็นที่เลวร้ายไปคาดเดาผู้ที่มีจิตใจสูงส่งเลยจริง ๆ!
“แน่นอน ผู้ฝึกชี่เถ่เมี่ยน ท่านพักผ่อนเถอะ”
พ่อบ้านอาวุโสโค้งคำนับแล้วก็เดินจากไป พร้อมกับนำพาพวกคนรับใช้กลับไปด้วย
ลู่ฝานยิ้มเล็กน้อย แล้วก็เดินเข้าไปในห้อง
อีกด้านหนึ่ง ผู้ฝึกชี่อู๋เหลียงที่ออกมาจากตระกูลอี่ว์นั่นพลันมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น
พร้อมกับกำหมัดแน่นแล้วก็หันหลังกลับไปมองยังตระกูลอี่ว์อีกครั้ง
“เถ่เมี่ยน! ”
ผู้ฝึกชี่อู๋เหลียงพูดขึ้นพร้อมกับขบฟันไปด้วย
วันนี้ เขาถือว่าได้จดจำชื่อนี้ไว้โดยสิ้นเชิงแล้ว
“พวกเราจะต้องพบเจอกันอีกแน่นอน เถ่เมี่ยน ผู้ใดที่แย่งชิงสิ่งของของฉันไป ต่างก็จะต้องพบกับชะตากรรมที่เลวร้ายเป็นแน่! ”
ผู้ฝึกชี่อู๋เหลียงสะบัดมือ สายลมเบา ๆ ก็พัดขึ้นจากใต้ฝ่าเท้า แล้วเขาก็หายตัวแวบไปโดยพลัน
……
เวลากลางคืน มักจะมาถึงอย่างเงียบเชียบอยู่เสมอ
ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิด ส่องสะท้อนตัวเมืองราวกับว่ามีสัตว์อสูรยักษ์วนเวียนไปมาอยู่ที่แห่งนี้
ภายในสวนสี่ฤดู ลู่ฝานกำลังบำเพ็ญฝึกฝน
โดยเขานั่งอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ และปิดตาสองข้างลงเบา ๆ
ห้องพักโอ่อ่าหรูหรา ตกแต่งด้วยไม้แพรทั้งหมด คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นไม้จันทร์ แสงจันทร์สาดส่องลงมา สะท้อนแสงไปบนใบหน้าของลู่ฝาน
ก๊อกก๊อกก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้น
ลู่ฝานลืมตาขึ้น แล้วก็หยิบหน้ากากเงินมาสวมใส่บนใบหน้า และพูดขึ้นว่า: “เชิญเข้ามาได้! ”
ประตูก็เปิดออก
หญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่งก็เดินเข้ามา แล้วก็ยื่นมือกลับมาปิดประตูห้อง
“ผู้ฝึกชี่เถ่เมี่ยน ฉันนำอาหารว่างมื้อดึกมาส่งให้ท่านแล้ว”
หญิงสาวมีน้ำเสียงที่ไพเราะ รูปร่างสะโอดสะอง รูปลักษณ์หน้าตาก็ไม่เลว
มีแค่คู่ดวงตาเท่านั้น ที่ดูเหมือนจะผิดปกติเล็กน้อย