เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 70
ในเขาซีซาน น้ำไหลริมผา
ลู่ฝานเอาเหล้าดี อาหารดี มากินกับอาจารย์หวูเฉิน
หวูเฉินดื่มจนตาปรือ เจ้าดำนอนหลับอยู่บนพื้นข้างๆ เสียงกรนดังสนั่น
แต่มันหลับแล้ว ยังไม่ยอมปล่อยไหเหล้า ลู่ฝานหัวเราะ มองสภาพเจ้าดำ แล้วพูดว่า “มันเป็นขี้เมานะเนี่ย”
หวูเฉินหัวเราะเหมือนกัน จากนั้นจึงพูดว่า “ลู่ฝาน ผ่านเทศกาลเซ่นไหว้ประจำปีไป นายต้องไปสถาบันสอนวิชาบู๊แล้ว ยังจำที่ฉันพูดกับนายได้ไหม”
ลู่ฝานพยักหน้า “จำได้ครับ สถาบันสอนวิชาบู๊ คณะหนึ่งเดียว เพลงเต๋าหนึ่งเดียว”
หวูเฉินพูดว่า “ถูกต้อง อย่าลืมเด็ดขาด มันสำคัญสำหรับนายมาก ทำทุกวิถีทางเพื่อเข้าไปในคณะหนึ่งเดียวให้ได้ ถ้าไม่สำเร็จ งั้นสถาบันสอนวิชาบู๊คงไม่มีคุณค่าสำหรับนายเท่าไรแล้ว”
ลู่ฝานงงเล็กน้อย แล้วพูดว่า “สถาบันสอนวิชาบู๊ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในการฝึกบู๊ไม่ใช่เหรอครับ ทำไมถึงไม่มีคุณค่าล่ะครับ”
หวูเฉินพูดว่า “แค่สถาบันเท่านั้น จะมีคุณค่าแค่ไหนกัน นายฝึกปราณชี่สำเร็จแล้ว เทียบกับผู้ฝึกชี่และนักบู๊คนอื่นแล้ว รู้หรือเปล่าว่าแข็งแกร่งตรงส่วนไหน”
ลู่ฝานพูดว่า “ผมใช้วิชาได้สองทาง เข้าไปโจมตี ถอยมาป้องกัน เดิมปราณชี่แข็งแกร่งกว่าพลังปราณอยู่แล้ว”
หวูเฉินส่ายหน้าพูดว่า “นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งในภายนอกเท่านั้น ฉันจะบอกนายให้ ผลดีที่สุดของการฝึกทั้งพลังชี่และบู๊คือ นายสามารถกินยาได้ทุกชนิด”
ลู่ฝานมองหวูเฉินอย่างไม่เข้าใจ เขาไม่เข้าใจว่ามันเป็นจุดแข็งแกร่งตรงไหน
“ผู้ฝึกชี่ทั่วไป หากต้องการกลั่นยายกระดับพละกำลังตัวเอง เป็นเรื่องยากมาก เพราะยาที่สามารถยกระดับพลังชี่ของผู้ฝึกชี่ได้ ล้วนเป็นยาระดับดีเยี่ยม ตั้งแต่สมุนไพร จนไปถึงสูตรยา ล้วนล้ำค่ามาก ผู้ฝึกชี่ระดับหนึ่งหลายปียังรวบรวมสมุนไพรที่กลั่นยาเบญจธาตุได้ไม่ครบเลย เป็นเรื่องปกติที่ทั้งชีวิต จะมีสูตรยายกระดับพลังชี่น้อยกว่าสามหรือห้าสูตร แต่ยาที่ผู้ฝึกชี่ทำให้นักบู๊ ง่ายดายมาก เพราะการคิดค้นยาพวกนี้ เพราะต้องการให้นักบู๊รับใช้พวกเขาเท่านั้น
ดังนั้น สูตรยาพวกนี้ ระหว่างผู้ฝึกชี่ เป็นเรื่องธรรมดามาก ไม่ได้มีอะไรเป็นความลับ สูตรยาที่ทำให้นักบู๊ปราณดินยกระดับพละกำลังได้ สามารถใช้เงินซื้อได้ พวกสูตรยาสำหรับผู้ฝึกชี่แล้ว แค่สานสัมพันธ์ที่ดีกับนักบู๊เท่านั้น หรือเป็นการขูดรีดวิธีการของนักบู๊ แต่สำหรับนาย เป็นสิ่งสำคัญในการยกระดับพละกำลัง ผู้ฝึกชี่ไม่สามารถใช้ได้
การยกระดับพละกำลังของผม สามารถฝึกบู๊ แล้วก็สามารถฝึกพลังชี่ได้ด้วย สามารถกินยาได้ทั้งสองแบบ ถ้าทำยาที่ยกระดับพลังชี่ไม่ได้ สามารถยกระดับพลังปราณก็ไม่เป็นปัญหา
สถาบันสอนวิชาบู๊ ไม่ได้มีคุณค่ากับนายมากเท่าไร สิ่งที่นายต้องทำ คือไปที่ที่มีผู้ฝึกชี่รวมตัวกัน พูดคุยทำความรู้จักกับผู้ฝึกชี่เอาไว้เยอะๆ จากนั้นซื้อสูตรยาจากพวกเขา ถ้ามีสูตรยาเป็นกอง ระดับการยกระดับของนายจะเร็วขึ้นมาก อีกทั้งเมื่อปราณชี่ยกระดับ นายจะสามารถกลั่นยาได้ดียิ่งขึ้น นี่เป็นวัฎจักรที่ดีงาม เพียงพอจะทำให้นายยกระดับอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องไปสถาบันสอนวิชาบู๊อะไรสักนิด
ลู่ฝานพยักหน้า เหมือนนึกอะไรได้ จึงพูดว่า “พูดแบบนี้ งั้นผู้ฝึกชี่ก็เป็นผู้ชุบเลี้ยงนักบู๊ผู้แข็งแกร่งได้ง่าย ไม่ใช่เหรอครับ”
อยากก้าวหน้าถึงแดนปราณฟ้า จำเป็นต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ยาทั่วไปจะยกระดับได้ ยาที่สามารถยกระดับความเข้าใจได้ ก็ล้ำค่ามากเหมือนกัน เพราะผู้ฝึกชี่ต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้เช่นกัน ดังนั้นต่อไป ถ้านายเจอผู้ฝึกชี่
ลู่ฝานพรูลมหายใจออกมา แล้วพูดว่า “พูดแบบนี้ สถาบันสอนวิชาบู๊มีคุณค่าไม่มากจริงๆ ก่อนที่ยังฝึกไม่ถึงแดนปราณดิน ผมไม่ต้องตั้งใจไปเรียนรู้วิชาบู๊อะไร แค่รวบรวมสูตรยามาให้ได้ รวบรวมสมุนไพรมากพอ แค่กินยาที่ตัวเองทำ ก็สามารถยกระดับได้แล้ว”
หวูเฉินพูดว่า “ถูกต้อง แต่ฉันไม่ค่อยเห็นด้วย กับวิธีใช้ยายกระดับตลอดเวลา จะทำให้พื้นฐานไม่มั่นคง ต่อไปพลังจะน้อย ต้องกินยาอย่างเหมาะสม เลือกกินที่ดีที่สุด ตอนนี้ฉันจะถ่ายทอดสูตรยาของผู้ฝึกชี่ที่ฉันมีอยู่ให้นายก่อน ล้วนเป็นสูตรยาล้ำค่า อย่าเปิดเผยให้คนอื่นง่ายๆ นายไปฝึกฝนที่สถาบันสอนวิชาบู๊ครั้งนี้ ในเวลาสามปี พยายามอย่ากลับมา เทศกาลเซ่นไหว้ประจำปีทุกปี เป็นตอนที่ผู้ฝึกชี่รวมตัวกัน ถ้าฉันจำไม่ผิด มีอยู่สถานที่หนึ่ง ผู้ฝึกชี่จะรวมตัวกัน ที่ทางเหนือของเขตตงหวาซึ่งไม่ไกลจากสถาบันสอนวิชาบู๊ของนาย นายลองไปดูเยอะๆ”
หวูเฉินพูดพลาง เอานิ้ววางไว้ที่หว่างคิ้วของลู่ฝาน ทันใดนั้น สูตรยาแต่ละสูตร ผุดขึ้นในหัวของเขา ฝังลึกอยู่ในความจำของเขา
หวูเฉินพูดช้าๆ ว่า “โลกกว้างขวาง ไร้ขอบเขต แต่พื้นที่สงบสุขอย่างประเทศอู่อาน มีเขตหนึ่งหมื่นแปดพันเขต เขตเล็กๆ อย่างเขตตงหวา นายไม่ต้องเสียเวลามากหรอก อาจารย์หวังว่าจะได้เห็นนาย อยู่ในจุดสูงสุดของโลกเร็วๆ”