เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 757
ลู่ฝานเดินออกมาจากร้าน แล้วหามุมที่ไม่มีใครสังเกต เอาของสองอย่างออกมาจากเข็มขัด
เสื้อคลุมกับหน้ากากเงิน
แต่สองอย่างนี้ไม่ใช่ของสองชิ้นในตอนแรกสุด การต่อสู้กับอี่ว์ชิงเฉิน ทำให้หน้ากากเงินของเขาพัง เขาจนปัญญา จึงต้องแอบทำใหม่มาหนึ่งอัน ลู่ฝานยังทำโดยใช้โลหะพิเศษ สามารถใส่ปราณชี่ของเขาเข้าไปได้ พลังป้องกันเพิ่มขึ้นมาก อย่างน้อยก็เรียกได้ว่าเป็นเครื่องป้องกันได้
ลู่ฝานใส่เรียบร้อย เปลี่ยนเป็นผู้ฝึกชี่เถ่เมี่ยนอีกครั้ง
เก็บมุกสองลูกเอาไว้ ลู่ฝานเดินเข้าไปในกลุ่มคนมากมาย
ถามคนเกี่ยวกับตำแหน่งของหอแดนสวรรค์ ลู่ฝานตรงไปที่หอแดนสวรรค์ทันที
หอแดนสวรรค์ สิ่งก่อสร้างที่เป็นเครื่องหมายของตลาดหม้อยา
บอกว่าเป็นตึกแห่งหนึ่ง แต่ดูแล้วสูงกว่าเจดีย์ยารอบๆ
ตึกสูงมีทั้งหมดเก้าชั้น สูงเสียดฟ้า
กระเบื้องเคลือบ ชายคาที่โค้งขึ้นแบบจีน หินบลูสโตน ผนังเก้าสี
ลู่ฝานยืนหน้าหอแดนสวรรค์ มองแสงระยิบระยับของอาคาร เหมือนสมบัติล้ำค่าชิ้นหนึ่งจริงๆ
หน้าประตูมีคนยืนล้อมอยู่ไม่น้อย แต่ยังห่างจากประตูหอแดนสวรรค์มาก
หน้าประตูมีหุ่นเชิดยืนอยู่สองตัว ตัวเป็นเกราะสีทอง มีอักษรยันต์บนตัว สูงสามเมตรกว่า ดูกำยำมีพลัง
ในมือมีอาวุธแกร่งกล้า มีแสงสีแดงออกมาจากเกราะสีทอง
“รวยจริงๆ!”
ลู่ฝานพึมพำออกมา
หุ่นเชิดสองตัวนี้ หลอมขึ้นมาด้วยทองทั้งหมด ไม่ใช่การเคลือบทองไว้ด้านนอก
ลู่ฝานรู้สึกถึงออร่าทรงพลังในตัวหุ่นเชิดสองตัวนี้ ต้องเป็นฝีมือของยอดฝีมือแน่นอน พละกำลังไม่ด้อยไปกว่ายอดฝีมือแดนปราณชีวิต
มิน่าล่ะคนพวกนี้ถึงอยู่ห่างมาก คนในที่นี้คงมีไม่กี่คนที่สามารถต้านทานกระบวนท่าของหุ่นเชิดนี่ได้
ลู่ฝานเงยหน้ามองเข้าไปในประตูหอแดนสวรรค์ แม้ประตูเปิดออก แต่ไม่เห็นแสงสว่างด้านในเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเงาคน
“ค่ายกลปลุกเสก!”
ลู่ฝานพึมพำออกมา
พอเข้าใจได้ สถานที่สำคัญแบบนี้ ไม่มีค่ายกลสิถึงจะแปลก
“หลีกไปๆ อย่าขวางทาง!”
ผู้ฝึกชี่ในชุดขาวเบียดออกมาจากกลุ่มคน สะบัดมือตรงหน้าหุ่นเชิดทั้งสองตัว
แขนเสื้อกว้างบังฝ่ามือไว้เกือบหมด แอบเห็นเขาถือของที่ทำจากหยกเอาไว้ในมือ หลังจากนั้นหุ่นเชิดทั้งสองตัวหลีกทางให้ ก้มหน้าเชิญให้ผู้ฝึกชี่คนนี้เข้าไป
เสียงถกเถียงดังขึ้นรอบๆ
“นี่คือผู้ฝีกชี่สวีหวงสินะ อาจารย์ผู้สร้างที่มีชื่อเสียง”
“เหมือนจะใช่เขานะ เขาก็มียันต์หยกแล้ว ถูกแล้วล่ะ ตอนนี้ผู้ฝึกชี่สวีหวงเป็นนักเรกิแล้ว”
……
น้ำเสียงของทุกคนแฝงด้วยความอิจฉา
ลู่ฝานหันมาถามคนข้างๆ “ต้องเป็นนักเรกิเหรอ ถึงจะได้ยันต์หยก”
ชายวัยกลางคนมองลู่ฝานหัวจรดเท้า แล้วพูดอย่างตกใจว่า “สหายท่านนี้ก็เป็นนักเรกิเหมือนกันเหรอ”
ลู่ฝานพูดว่า “แค่ถามเท่านั้น”
ชายวัยกลางคนพูดว่า “ถ้านายเป็นนักเรกิจริงๆ เดินเข้าไปลองข้างหน้าได้”
ลู่ฝานขมวดคิ้วพูดว่า “เข้าไปลองก็ได้แล้วเหรอ อย่าบอกนะว่าโชว์พลังชี่ของนักเรกิ ก็จะได้ยันต์หยก”
ชายวัยกลางคนแบมือออกทั้งสองข้าง “อันนี้ฉันไม่รู้”
ลู่ฝานสีหน้ากลุ้มใจ ไม่รู้ทำไมนายถึงพูดไร้สาระเยอะขนาดนี้
ขณะที่กำลังจะถามคนอื่นว่าทำยังไง จู่ๆ มีคนเดินออกมาจากประตู
เมื่อเห็นคนนี้ ลู่ฝานขมวดคิ้วเบาๆ
เขารู้จักคนนี้ เคยสู้กันที่ตระกูลอี่ว์หนึ่งครั้ง ผู้ฝึกชี่อู๋เหลียง
ผู้ฝึกชี่อู๋เหลียงเอาสองมือไพล่หลัง มองคนนอกประตูด้วยสีหน้าโอหัง