เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 77
หลังผ่านไปหนึ่งวันหนึ่งคืน ยารวมพลังร้อยกว่าเม็ด เสร็จเรียบร้อย
ยังดีที่เชี่ยวชาญเรื่องกลั่นยา ยิ่งกลั่นไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งเร็วขึ้น จึงทำให้กลั่นเสร็จเร็วขนาดนี้
เอายารวมพลังเม็ดสุดท้ายใส่ลงไปในขวด ลู่ฝานเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก แล้วถอนหายใจออกมา
มียารวมพลังร้อยกว่าเม็ดนี้ ไม่เพียงแต่จะยกระดับพละกำลังของตระกูลลู่ได้ ยังเหลือไว้สำรองใช้ได้อีกด้วย
หวูเฉินดูลู่ฝานกลั่นยา ตั้งแต่ต้นจนจบ จนลู่ฝานทำเสร็จทั้งหมด หวูเฉินจึงกลับไปฝึกฝนในห้อง
จากการสังเกตดูมาหนึ่งวันหนึ่งคืน หวูเฉินแน่ใจแล้วว่า ลูกศิษย์ตัวเอง มีพรสวรรค์ด้านการกลั่นยามาก อีกทั้งทำอย่างจริงจัง นิ่งสงบ เขาไม่จำเป็นต้องกังวลอีก
เจ้าดำที่อยู่ข้างๆ วิ่งไปวิ่งมา อ้าปากเหมือนตะกละ
ลู่ฝานมองมันแล้วหัวเราะ “ชอบกินอย่างแก อะไรก็อยากลองชิม ไม่กลัววันหนึ่งกินของมีพิษ แล้วตายหรือไง”
พูดพลาง ลู่ฝานโยนยาให้มันหนึ่งเม็ด มันกลืนเข้าไปในท้อง ทันใดนั้น มีเสียงกระดูกดังขึ้นทั่วตัวเจ้าดำ
เห็นได้ด้วยตาเปล่าว่า เจ้าดำตัวใหญ่ขึ้น ได้ยินมาตั้งนานว่า ประโยชน์ของยาต่อสัตว์ มีมากกว่านักบู๊ เมื่อเห็นวันนี้ เป็นจริงอย่างว่า แค่ยารวมพลังเม็ดเดียว เหมือนทำให้พละกำลังของเจ้าดำ เพิ่มขึ้นไม่น้อย
อ้าปากพ่นเปลวไฟออกมา พื้นโดนเผาจนไหม้เกรียม ดูออกเลยว่า เปลวไฟของเจ้าดำ ยกระดับขึ้นอย่างชัดเจน
เจ้าดำรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ดีใจจนวิ่งไปวิ่งมา จากนั้นหันมาเบิกตาโตใสซื่อ มองลู่ฝาน ในแววตาวูบไหว เต็มไปด้วยความคาดหวัง
แต่ลู่ฝานกลับปิดฝาขวด แล้วพูดว่า “กินยาเยอะไม่ได้ วันนี้กินไปเม็ดนึงแล้ว อีกสักระยะค่อยกินอีก ให้ฤทธิ์ยาที่เหลือหมดไปก่อน แล้วค่อยว่ากัน”
ราวกับเจ้าดำฟังออก ก้มหัวลงอย่างผิดหวัง
ลู่ฝานยังคงหัวเราะ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เจ้าดำจะโดนเขาเลี้ยงด้วยยา จนกลายเป็นสัตว์ตัวโตหรือเปล่า!
เหอะๆ ดูเหมือนจะมีความเป็นไปได้สูง
เอายาใส่เข้าไปในห่อผ้าทั้งหมด ลู่ฝานบอกลาอาจารย์ และรีบกลับเมืองเจียงหลิน
เพิ่งเดินถึงหน้าประตูตระกูลลู่ ลู่ฝานเห็นพ่อตัวเองเดินไปเดินมาหน้าประตู
เมื่อเห็นลู่ฝาน ลู่หาวรีบเดินเข้ามาพูดว่า “ลู่ฝาน เป็นยังไงบ้าง”
ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “กลั่นยาออกมาได้เรียบร้อย ผมเอากลับมาแล้ว”
ลู่หาวหัวเราะออกมา “ดี รีบเข้ามาสิ ปู่นายรอจนนอนไม่หลับทั้งคืนแล้ว วันนี้ให้ฉันมาเฝ้าหน้าประตูตั้งแต่เช้า”
ลู่ฝานอดหัวเราะไม่ได้ จากนั้นเดินตามลู่หาวเข้าไป ลู่หาวให้ยามไปแจ้งก่อน ยามวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
ยังเดินไม่ทันถึงสวนหลังบ้าน ลู่ฝานเห็นปู่เดินมาอย่างร้อนใจ
ลู่เฮ่าหรานจับมือลู่ฝาน แล้วพูดเบาๆ ว่า “เอายากลับมาแล้วเหรอ มีเท่าไร”
ลู่ฝานพูดว่า “ร้อยกว่าเม็ด”
ลู่เฮ่าหรานสีหน้าดีใจเป็นอย่างมาก ตบไหล่ลู่ฝานไปสามครั้งติด แล้วพูดว่า “คุณผู้ชายเถ่เมี่ยน มีสัจจะจริงๆ”
ลู่ฝานพยักหน้าเบาๆ เขามี “สัจจะ” จริงๆ เพื่อยาร้อยกว่าเม็ดนี้ เขาวุ่นตั้งหนึ่งวันหนึ่งคืน จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้พัก แน่นอนว่า จากสภาพร่างกายของเขาในตอนนี้ ถึงโต้รุ่งอีกสักสองวัน ก็ไม่ใช่ปัญหา
ลู่เฮ่าหรานให้คนออกไป เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครในสวนหลังบ้าน จึงพูดกับลู่ฝานว่า “มา เอายาออกมาสิ ฉันดูหน่อยว่ายาอะไร”
ลู่ฝานเปิดห่อผ้าออกช้าๆ ขวดยาปรากฏอยู่ในสายตา ทำให้ลู่หาว ลู่เฮ่าหราน ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
เปิดขวดยาเล็กๆ เอายาออกมาดู ลู่หาวพูดอย่างตกใจ “นี่คือยารวมพลังเหรอ”
ลู่ฝานพยักหน้า “ถูกต้อง ยารวมพลัง ทั้งหมด 125 เม็ด ทุกขวดมีห้าเม็ด”
ลู่หาวเอ่ยชม “ของดี ของดีจริงๆ ลู่ฝาน ดูเหมือนยารวมพลังนี้ จะดีกว่าที่ฉันให้นายครั้งที่แล้วเยอะมาก ดูเหมือนคุณชายเถ่เมี่ยนจะไม่ใช่แค่ระดับหนึ่งเท่านั้น อย่างน้อยน่าจะระดับสองขึ้นไป ตระกูลลู่ของเรา มีอนาคตแล้ว”
ลู่เฮ่าหรานยิ้มแล้วพูดว่า “ทั้งหมดเป็นความดีความชอบของลู่ฝาน ลู่ฝานนายเอาไปก่อนครึ่งหนึ่ง ตระกูลเอาแค่ครึ่งเดียวพอแล้ว”
ลู่ฝานส่ายหน้า “ยารวมพลังนี้ ผมกินไป ไม่ค่อยได้ประโยชน์เท่าไร ปู่กับพ่อเอาไปทั้งหมดเถอะ”
ลู่ฝานพูดความจริง ยาที่เขากิน ล้วนเป็นยาดีที่อาจารย์หวูเฉินกลั่นให้ ไม่รู้ว่าดีกว่ายารวมพลังตั้งเท่าไร เว้นเสียแต่เป็นยารวมพลังที่อาจารย์หวูเฉินกลั่นให้เขา ไม่งั้นคงไม่มีประสิทธิภาพเท่าไร
ยิ่งไปกว่านั้น ช่วงก่อนหน้านี้ ลู่ฝานกินยารวมพลังมาแล้ว เป็นยาเพิ่มพละกำลังเหมือนแบบนี้ เม็ดแรกประสิทธิภาพดีที่สุด ยิ่งกินเยอะ ประสิทธิภาพจะยิ่งแย่ลง ลู่ฝานคิดว่าอย่าสิ้นเปลืองดีกว่า ถ้าจะกิน ก็รอให้เขาถึงแดนปราณในชั้นแปดชั้นเก้าเสียก่อน ค่อยกลั่นสักร้อยเม็ดออกมา ใช้เพื่อผ่านด่าน
เหมือนลู่เฮ่าหรานคิดอะไรได้ จึงพูดว่า “ก็จริง นายสนิทกับคุณผู้ชายเถ่เมี่ยนขนาดนี้ คงกินยาที่ดีกว่านี้ไปตั้งนานแล้ว มิน่าล่ะ พละกำลังของนายจึงเพิ่มเร็ว จนฝีมือห่างไกลคนอื่น”
ลู่เฮ่าหรานคิดว่าหาเหตุผลที่ลู่ฝาน ยกระดับพละกำลังอย่างรวดเร็วได้แล้ว เพราะมีผู้ฝึกชี่ คอยช่วยเหลือนี่เอง แดนผลการฝึกตนของนักบู๊ จึงก้าวหน้ารวดเร็ว นี่เป็นสิ่งที่ทุกคนรู้กันอยู่แล้ว
ลู่ฝานลูบจมูก ไม่ได้อธิบาย คิดไปคิดมา จึงตัดสินใจพยักหน้ายอมรับ