เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 774
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 774
ลู่ฝานพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่สองคำที่พูดออกมา ราวกับหินขนาดใหญ่ที่โยนลงไปในน้ำ ทำให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้นมา
“กุยวัวเหรอ สัตว์อสูรไร้เทียมทานริมทะเลตงไห่ตัวนั้น มีคนฆ่ามันแล้วเหรอ”
“ฉันได้ยินว่าปีนี้การสอบผู้ตรวจการชั้นกลางคือฆ่ากุยวัว อย่าบอกนะว่าคนนี้คือผู้ตรวจการลู่ในตำนาน!”
“น่าจะเป็นเขา คิดไม่ถึงว่าผู้ตรวจการลู่ในตำนานจะเด็กขนาดนี้”
……
คนในหอแดนสวรรค์เป็นคนที่มีฐานะ มีตำแหน่ง มีความสามารถทั้งนั้น
แค่ลู่ฝานเอาแก้วหินของกุยวัวออกมา คนจำนวนไม่น้อยเดาตัวตนของเขาได้ทันที
การพูดคุยดังไปทั่วหอแดนสวรรค์ พลเอกทั้งสี่คนที่รู้ตัวตนของลู่ฝานนานแล้วไม่ตกใจ ส่วนคนอื่นพากันมองมาทางลู่ฝาน
โดยเฉพาะฉางเจี๋ยหน้าผี เขามองลู่ฝานอย่างละเอียด ราวกับจะสลักลู่ฝานเอาไว้ในหัวสมอง
ผู้ชายสองคนกับผู้หญิงหนึ่งคนด้านหลังเขา ล้วนมองมาทางลู่ฝานด้วยแววตาชื่นชม
“ผู้ตรวจการชั้นกลาง เป็นคนหนุ่มมีความสามารถ พรสวรรค์น่าตกใจ ฉันรู้สึกหิวแล้ว”
“อืม เด็กขนาดนี้ ชี่หยางคงเต็มเปี่ยมมาก”
“พอใช้ขึ้นมาต้องไม่เลวแน่นอน”
“พอกินก็น่าจะอร่อยเหมือนกัน”
“เมื่อเอามาเป็นหม้อกลั่นยา ต้องกลั่นยาดีได้แน่นอน!”
ผู้ชายสองคนกับผู้หญิงหนึ่งคนคุยไปหัวเราะไป ราวกับลู่ฝานไม่ใช่คนที่มีชีวิตในสายตาพวกเขา แต่เป็นสัตว์อสูรตัวหนึ่ง ยาสมุนไพรต้นหนึ่ง หรือไม่ก็อาหารมื้อใหญ่
ลู่ฝานไม่ได้ยินที่พวกเขาพูด เขามองเซียนอวี่ซานอย่างเงียบๆ
ตอนนี้เซียนอวี่ซานกำลังมองแก้วหินที่ลู่ฝานโยนมา
จู่ๆ เซียนอวี่ซานพูดว่า “เป็นของดีจริงๆ แต่ยังเทียบไม่ได้กับวิชาระดับฟ้า”
สุ่ยเชียนโหรวยิ้มบางๆ แม้เป็นรอยยิ้มเย็นชา แต่งดงามจนหาที่เปรียบไม่ได้
เดิมทีเธอเป็นคนสวยอยู่แล้ว สาวงามผู้เย็นชา ก็เป็นสาวงามอยู่ดี
ความเยาะเย้ยในรอยยิ้ม คนล้วนดูออก แต่เธอไม่ได้พูดอะไร
ศิษย์พี่หานเฟิงพูดว่า “ศิษย์น้องลู่ฝาน พูดตามตรง ตัวตนของนายใช้การได้จริงๆ สุ่ยเชียนโหรวไม่ได้พูดว่านายกระจอก”
ลู่ฝานไม่มีเวลาโกรธสุ่ยเชียนโหรว เขาเอาของสิ่งนี้ออกมา ไม่ใช่เพราะต้องการเปรียบเทียบกับสุ่ยเชียนโหรว เขาแค่อยากได้ยาวิเศษจริงๆ
“ผมยังมีเลือดสารจำเป็นของกุยวัว”
ลู่ฝานมองเซียนอวี่ซานแล้วเอ่ยขึ้น
เซียนอวี่ซานเลิกคิ้วขึ้น มุมปากกระตุก แต่เขาก็ยังส่ายหน้า “ไม่พอ ยังไม่พอ! แม้กุยวัวเป็นสัตว์อสูรไร้เทียมทาน มีค่าตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่พูดว่าสัตว์อสูรบนโลกนี้จะเยอะก็ไม่เยอะ แต่จะพูดว่าน้อยก็ไม่น้อย ถ้าจะเอาของที่มองเห็น ของที่หาได้ มาแลกกับของที่ทั้งชีวิตจะไม่ได้เห็นอีก ยังไงก็ยังไม่พอ แม้นายจะเอาศพกุยวัวมาได้ทั้งตัว ฉันก็คิดให้นายได้แค่แสนเจ็ดหรือแสนแปดคะแนน ส่วนของพวกนี้คิดได้แค่แสนสามหรือแสนสี่คะแนนเท่านั้น”
ลู่ฝานกัดฟัน
ตอนนี้เจดีย์เสวียนเก้ามังกรก็ไม่พูดอะไร ไอ้คนฉลาดคนนี้ดูออกแล้วว่าเจ้านายของมันต้องการยาวิเศษจริงๆ ไม่แน่อาจมีความคิดที่จะเอามันไปแลกด้วย ขืนพูดอีกก็โง่สิ
ลู่ฝานค่อยๆ เอาของออกมาจากอก เป็นอุกกาบาตเหล็กเขาอี้ว์หลิง ที่เขาได้จากในจวนตระกูลอี่ว์
“เพิ่มสิ่งนี้ไปด้วยเป็นไง”
ลู่ฝานโยนอุกกาบาตเหล็กเขาอี้ว์หลิงออกไป อันที่จริงเขาก็ไม่มั่นใจ แต่คิดถึงตอนอี่ว์ชิงเฉินบาดเจ็บสาหัส ก็ยังไม่ยอมเอาสิ่งนี้ออกมา มูลค่าน่าจะไม่ธรรมดา
เซียนอวี่ซานรับมา มองเพียงแวบเดียว มีแสงออกมาจากดวงตาเขา
“อุกกาบาตเหล็กเขาอี้ว์หลิง!”
เมื่อได้ยิน ทุกคนตกใจอีกครั้ง อาจเป็นเพราะของที่คนจำนวนไม่น้อยเห็นวันนี้ มากกว่าสิ่งที่พวกเขาเคยเห็นมาเมื่อหลายสิบปีก่อน
ครั้งนี้ไม่เพียงแค่ผู้ฝึกชี่ที่แววตามีความอยากรู้ ขนาดพลเอกทั้งสี่คน รวมไปถึงนักบู๊ทั้งหมดในงานต่างมองไป เพราะอุกกาบาตเหล็กเขาอี้ว์หลิง ไม่เพียงแต่เป็นของดีในการทำเครื่องรางของผู้ฝึกชี่ ยังเป็นของล้ำค่าชั้นยอดในการทำอาวุธของนักบู๊
ของระดับนี้ อยู่ในมือของผู้ฝึกชี่ผู้แข็งแกร่ง ใช้แค่ขนาดเท่าเล็บ ก็สามารถทำให้เครื่องรางมีจิตวิญญาณ ถ้าใช้ประมาณชิ้นเล็กๆ สามารถสร้างอาวุธมีชื่อเสียงในใต้หล้าออกมาได้
แต่ตอนนี้ลู่ฝานเอามันออกมาทั้งก้อน จะไม่ทำให้คนตาร้อนได้อย่างไร