เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 808
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 808
ลู่ฝานฉีกยิ้มมองศิษย์พี่หานเฟิง ตอนนี้เขาแน่ใจแล้วว่าสองคนนี้ต้องมีเรื่องอะไรที่บอกคนอื่นไม่ได้แน่นอน
สุ่ยเชียนโหรวเดินเข้ามา “หานเฟิง เป็นลูกหลานตระกูลหาน นายหลบฉันแบบนี้ไม่ดีเท่าไรมั้ง อีกทั้งระหว่างเราสองคน มีเรื่องแต่งงานติดตัวอยู่ นายคงไม่ได้ลืมเรื่องนี้ใช่ไหม”
“เรื่องแต่งงานเหรอ”
ลู่ฝานกับหลิงเหยาพูดอย่างตกใจ
หานเฟิงตะโกนเสียงดังว่า “ฉันไม่มีเรื่องแต่งงานกับเธอ นั่นเป็นเรื่องที่ตาแก่ตระกูลฉันจัดการ ฉันไม่ยอม ใครจะแต่งกับคนบ้าอย่างเธอ เธอเลิกเอาเรื่องนี้มาพูดได้แล้ว”
สุ่ยเชียนโหรวพูดด้วยแววตาเย็นชา “ฉันก็ไม่ยอมเหมือนกัน ใครจะแต่งกับสุนัขขี้ขลาด สวะแล้วก็เลวแบบนาย”
ลู่ฝานเอียงตัวออกช้าๆ คำด่าเป็นชุดของสุ่ยเชียนโหรว ทำให้ลู่ฝานคิดถึงฝีมือการด่าคนของศิษย์พี่หานเฟิงเป็นอันดับแรก
เขาให้ศิษย์พี่หานเฟิงโจมตีกลับเองดีกว่า
น่าเสียดาย สิ่งที่ทำให้ลู่ฝานผิดหวังคือ ศิษย์พี่หานเฟิงไม่ด่ากลับ ทำเพียงแค่ชี้สุ่ยเชียนโหรวแล้วพูดว่า “ฉันไม่สนคนความรู้ตื้นเขินของผู้หญิงบ้าแบบเธอหรอก เธออย่ามาขวางทางฉัน ฉันจะไปแล้ว ศิษย์น้องลู่ฝาน เรารีบไปกันเถอะ เธอไม่มีพละกำลังแล้ว ตามเราไม่ทันหรอก”
สุ่ยเชียนโหรวเห็นหานเฟิงจะหนี จึงตะโกนว่า “หานเฟิง ถ้านายหนีตอนนี้ ฉันจะฆ่าตัวตาย ให้คนตระกูลฉันเห็นนายหนีผ่านอักษรยันต์”
หานเฟิงชะงักฝีเท้าลงทันที โมโหจนหน้าซีด “คนบ้าอย่างเธอจะเอายังไงกันแน่”
สุ่ยเชียนโหรวส่งเสียงหึอย่างเย็นชา “ง่ายมาก ส่งฉันกลับเมืองหลวง ตอนนี้ฉันบาดเจ็บสาหัส สัตว์อสูรสักตัวฉันก็สู้ไม่ได้ องครักษ์หญิงก็ตายหมดแล้ว นายต้องปกป้องไม่ให้ฉันได้รับบาดเจ็บ ส่งฉันกลับตระกูลสุ่ยอย่างปลอดภัย”
สุ่ยเชียนโหรวเชิดหน้าขึ้น มองหานเฟิงอย่างเย่อหยิ่ง
แต่ลู่ฝานเห็นในแววตาเป็นประกายของสุ่ยเชียนโหรว ตอนนี้เธอไม่มีท่าทางของคนเย่อหยิ่งอะไรแล้ว แค่เหมือนสิงโตตัวเมียที่ได้รับบาดเจ็บ และดึงดันปกป้องศักดิ์ศรีสุดท้ายของตัวเอง
หานเฟิงกัดฟันพูดว่า “เธอฝันไปเถอะ!”
พูดจบ หานเฟิงเดินไปข้างหน้า
ลู่ฝานดึงหลิงเหยาเดินตามหานเฟิงไป
หลิงเหยาถามลู่ฝานเบาๆ ว่า “ลู่ฝาน นายว่าพวกเขาเป็นอะไรกัน”
ลู่ฝานพูดว่า “ความสัมพันธ์แบบไม่ชัดเจน อาจซับซ้อนกว่าที่เราจินตนาการไว้”
สิบสามไม่พูดอะไร เดินตามไปเงียบๆ แค่ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาไม่มองสุ่ยเชียนโหรวเลย
สุ่ยเชียนโหรวกัดฟัน เงียบอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็เดินตามมา
ลู่ฝานหันมามองสุ่ยเชียนโหรว แล้วพูดกับหานเฟิงว่า “ศิษย์พี่หานเฟิง พี่คิดยังไงกันแน่”
หานเฟิงพูดว่า “จะคิดยังไงได้อีก แน่นอนว่าหลบได้ไกลแค่ไหนยิ่งดี”
ลู่ฝานส่ายหน้า ยิ้มแล้วพูดว่า “เหมือนจะไม่ใช่นะ ถ้าพี่อยากหลุดพ้นจากเธอจริง คงไม่เดินช้าขนาดนี้หรอก”
หานเฟิงเงียบอยู่นาน จึงพูดว่า “ศิษย์น้องลู่ฝาน ถ้าเธอเป็นอะไรก่อนที่ยังไม่เจอฉัน ก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับฉัน แต่ตอนนี้ถ้าเธอเป็นอะไรหลังจากเจอฉัน ฉันจบเห่แน่ นายเคยเห็นไข่ไก่ที่โดนคนเหยียบจนเละหรือเปล่า ฉันคงเป็นแบบนั้นแหละ”
ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “งั้นให้เธอตามมาสิ”
หานเฟิงถอนหายใจ สุดท้ายจึงพยักหน้าอย่างทำอะไรไม่ได้
……
พระอาทิตย์ตก ดวงจันทร์ลอยขึ้นมา พริบตาเดียวก็ค่ำแล้ว
ยังหาตลาดไม่เจอ คืนนี้พวกลู่ฝานทำได้เพียงพักในป่า
สิบสามรับผิดชอบดูแลเรื่องอาหาร เจ้าดำย่างเนื้อ ไม่นานอาหารเย็นมื้อใหญ่ก็เตรียมต่อไป
พวกลู่ฝานนั่งล้อมวงกันกินอาหารเงียบๆ ข้างกองไฟ ฝีมือการทำอาหารของเจ้าดำยังดีเหมือนก่อน หลิงเหยาชมไม่หยุดปาก สิบสามกินจนหน้าตาอิ่มเอมใจ กินอย่างตะกละตะกลาม
มีเพียงสุ่ยเชียนโหรวที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้คนเดียว หลับตาไม่สนใจใคร