เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 870
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 870
“ฟาดฟันชี่!”
เมื่อกระบี่ฟันลงมา เมฆกระจาย อากาศแยกออก
ฉู่สิงรู้สึกถึงความอันตรายรุนแรงทันที ความแข็งแกร่งของกระบี่นี้ อันตรายถึงชีวิตเขาแล้ว
“กระบี่มังกรหยินหยาง น้ำแข็งหนา!”
ฉู่สิงตวัดท่ากระบี่ หยินหยางปากว้าด้านล่างเท้าคุ้มกันทั้งตัว น้ำแข็งแผ่ขยายเข้ามา แม้แต่เท้าทั้งสองข้างของอี้ไป๋ก็โดนแช่แข็งไปด้วย
แต่อี้ไป๋ไม่ขยับไปไหน ในสายตาของเขามีเพียงกระบี่ มีเพียงกระบี่นี้เท่านั้น
มีเลือดออกตรงมุมปากของฉู่สิง เขาแผดเสียงออกมา
“ทำลาย!”
อักษร 16 ตัวระเบิดพร้อมกัน ตัวทั้งฝ่ายกระเด็นถอยหลัง
อี้ไป๋กระแทกลงบนพื้น กระบี่ทั้งสี่เล่มหล่นลงข้างตัวเขา ปักลึกลงไปในก้อนหิน
ฉู่สิงกุมหน้าอก นอนแผ่อยู่บนพื้น
ทั้งสองคนดิ้นเพื่อที่จะลุกขึ้นมา
แต่สุดท้ายทั้งสองคนก็ลุกขึ้นมาไม่ได้ มีเสียงอึกทึกดังออกมาจากตัวอี้ไป๋ เหมือนเสียงพลังชี่ระเบิด มนตร์ 16 อักษรของฉู่สิง ระเบิดพลังออกมา ทำให้เขาสลบไปเลย
ฉู่สิงมองบาดแผลขนาดใหญ่ตรงอกตัวเอง กัดฟันไม่ได้สลบไป
อาจารย์เต้ากวงขมวดคิ้วพูดว่า “แบกฉู่สิงกลับมาเถอะ”
หานเฟิงกับฉู่เทียนรีบเข้าไป แบกฉู่สิงกลับมา อาจารย์เต้ากวงรีบป้อนยาให้ฉู่สิงหนึ่งเม็ด
อาจารย์เสวียนคงก็รีบให้คนแบกอี้ไป๋กลับมา อาจารย์เสวียนคงพูดช้าๆ ว่า “ฉันว่ารอบนี้นับว่าเสมอกัน”
หานเฟิงพูดว่า “ศิษย์พี่ฉู่สิงคณะฉันชนะแท้ๆ เขายังไม่ได้สลบเลย”
อาจารย์เต้ากวงขัดคำพูดของหานเฟิง พยักหน้าแล้วพูดว่า “งั้นถือว่าเสมอ”
ทันใดนั้น พวกนักเรียนคณะนานา พากันส่งเสียงเชียร์ออกมา ราวกับว่าได้เสมอหนึ่งรอบก็ทำให้พวกเขาพอใจแล้ว
หานเฟิงไม่เข้าใจพวกนักเรียนคณะนานา เขาก็ไม่สามารถสัมผัสได้ด้วยตัวเอง หนึ่งปีมานี้ นักเรียนคณะนานามักจะไม่คิดถึงภาพที่ตอนนั้นเกือบโดนเขาท้าสู้เพียงคนเดียว
วันนี้สู้จนเสมอได้ ไม่ว่าจะเป็นอี้ไป๋ อาจารย์เสวียนคง หรือนักเรียนพวกนี้ ล้วนรู้สึกค่อนข้างพอใจแล้ว
“ไม่เลว เสวียนคงนายอบรมศิษย์ออกมาได้ไม่เลวเลย”
ตอนนี้เสวียนเจินยังเอ่ยปากชม ขนาดเขายังยอมรับ จากความสามารถของอี้ไป๋ สามารถสอนได้ขนาดนี้ นับว่าไม่ง่ายจริงๆ
อี้ไป๋มีความสามารถเป็นผู้แข็งแกร่งแน่นอน ไม่แน่ในอนาคตอาจต่อสู้เพียงคนเดียวก็ได้
“งั้นรอบที่สอง ให้พวกเราละกัน เสวียนเฟิงนายไปสู้!”
ตอนนี้เสวียนเฟิงที่รออยู่นานแล้วเดินออกมา เสวียนเฟิงไม่มองคนรอบๆ เขามองตรงไปที่หานเฟิงแล้วพูดว่า “หานเฟิง นายกล้าออกมาสู้กับฉันไหม”
หานเฟิงอึ้งไปก่อน หลังจากนั้นก่นด่าออกมาว่า “ทำไมจะไม่กล้า ฉันจะซัดหน้านายให้เละตอนนี้เลย”
หานเฟิงถกแขนเสื้อขึ้น ก้าวออกมาข้างนอก
อาจารย์เต้ากวงไม่ได้รั้งเขาไว้ ทำได้เพียงยิ้มแหยๆ มองหานเฟิงเดินไปกลางลานประลองบู๊
เสวียนเฟิงคณะกระบี่สู้กับหานเฟิงคณะหนึ่งเดียว ต้องเป็นการต่อสู้ชั่วร้ายอย่างไม่ต้องสงสัย
ขณะที่การต่อสู้ที่คณะหนึ่งเดียวดำเนินไปเรื่อยๆ
กลางภูเขาอันกว้างใหญ่ ในสถาบันสอนวิชาบู๊ ลู่ฝานกับฮ่วนเย่ว์กลับมาถึงเขาวิพากษ์แล้ว
เมื่อเห็นเขาวิพากษ์อันคุ้นเคย ทั้งสองตัดสินใจหยุดพักครู่หนึ่ง เข้าไปหาอะไรกินเล็กน้อย
แต่ยังไม่ทันเดินขึ้นเขา พวกนักเรียนสองสามคนจำลู่ฝานได้ทันที
นักเรียนหญิงรูปร่างงดงาม ตะโกนเสียงดังว่า “ลู่ฝาน นายคือลู่ฝานคณะหนึ่งเดียว! ทำไมนายถึงอยู่ที่นี่ได้”
ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันเอง ทำไมฉันถึงอยู่ที่นี่ไม่ได้ล่ะ”
นักเรียนพูดอย่างตกตะลึงว่า “นายควรอยู่ที่คุกใต้ดินไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่สิ ถึงนายออกมาแล้ว ก็ควรอยู่ที่คณะหนึ่งเดียวสิ! นายไม่รู้เหรอ ศิษย์พี่ของคณะอื่น พากันไปสู้ที่คณะหนึ่งเดียวแล้ว”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ ลู่ฝานยืนอึ้งอยู่ที่เดิม แล้วพูดว่า “มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ”
นักเรียกสองสามคนพยักหน้าหงึกๆ
ลู่ฝานกับฮ่วนเย่ว์มองหน้ากัน ใบหน้ามีความตกใจ
นักเรียนหญิงพูดต่อ “ยังมีอีกหนึ่งเรื่อง!”
ลู่ฝานพูดว่า “เรื่องอะไร อย่าบอกนะว่าคณะหนึ่งเดียวแพ้”
นักเรียนหญิงส่ายหน้าพูดว่า “ไม่ใช่เรื่องนี้”
นักเรียนคนนี้รีบเอาพู่กันออกมา ฉีกเสื้อของตัวเอง ชี้ไปที่หน้าอกตัวเองแล้วพูดว่า “ช่วยเซ็นชื่อให้ฉันหน่อย!”