เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 889
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 889
อุโมงค์ข้ามมิติ เส้นทางฟ้าดินหนึ่งเส้นทางสินะ
อุโมงค์ที่ว่า อันที่จริงก็เหมือนพลังฟ้าดินที่เหมือนสายน้ำไหล พวกมันลอยไปในอากาศธาตุ พร้อมแสงหลากหลายสีสัน
อุโมงค์แบบนี้ กว้างขวางอย่างมาก มองไม่เห็นจุดสิ้นสุด
ไม่มีคลื่น ไม่มีลวดลาย เป็นเพียงแสงกะพริบ และมิติที่รอบๆ เต็มไปด้วยความมืด
นี่คืออากาศธาตุ ลึกล้ำและเงียบสงัด
รถม้าคันหนึ่งเคลื่อนตัวไปข้างหน้า เห็นแบบวับๆ แวบๆ
รถม้าที่โบราณและเรียบง่าย ตัวรถสีดำ ด้านในปูด้วยหนังสัตว์เต็มไปหมด เมื่อนั่งลงไป รู้สึกอบอุ่นสบาย
ตัวรถใหญ่มาก นั่งสิบกว่าคนก็ยังมีพื้นที่เหลือ
สองข้างยังมีไข่มุกเรืองแสงสองสามเม็ด ส่องแสงบางๆ ออกมา ด้านล่างตัวรถเป็นกระจกใส ด้านในเห็นคูเมืองและป่าไม้เมื่อรถเคลื่อนตัวผ่าน ทันใดนั้นก็ผ่านด้านนอกนับไม่ถ้วน
ลู่ฝานนั่งอยู่ในรถม้า มองวิวแสนอัศจรรย์ด้านนอกผ่านทางหน้าต่าง
คนจำนวนมากอาจไม่ได้เห็นภาพแบบนี้ทั้งชีวิต ลู่ฝานจำได้ว่าตอนตัวเองนั่งรถม้า เข้ามาในอุโมงค์ข้ามมิติ ก็ตกใจเป็นอย่างมากเหมือนกัน
ภาพที่รถม้าชนทำลายอากาศธาตุเพียงพริบตา แล้วพุ่งเข้าสู่การเคลื่อนตัว เขาไม่มีทางลืมทั้งชีวิต
อากาศธาตุที่แตกเหมือนกระจก อีกทั้งแสงการเคลื่อนตัวระยิบระยับเช่นนี้ ทำให้ลู่ฝานรู้จักโลกขึ้นมาทันที ที่แท้ยิ่งใหญ่และลึกลับกว่าที่เขาจินตนาการไว้
จนถึงตอนนี้สิบสามยังไม่ใจเย็นลงเลย เขาเอาแต่มองด้านล่างรถม้า มองภาพที่เคลื่อนตัวผ่านไป โดยไม่พูดอะไรสักคำ
เหมือนเจ้าดำก็ตกใจเหมือนกัน มันปีนขึ้นมาบนไหล่ลู่ฝาน หลับตาอยู่ตลอดเวลา
ลู่ฝานละสายตาออกมา เดินมานอกรถม้า
เมื่อมองออกไป โลกช่างมีสีสันและสะดุดตา
ลู่ฝานพูดว่า “อุโมงค์ข้ามมิติ จะพาเราไปถึงเมืองหลวงได้จริงเหรอ”
ตอนนี้สิบสามเงยหน้าขึ้นพูดว่า “ได้”
ลู่ฝานยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “นายมีความมั่นใจมากเลยนะ แต่นายคงไม่รู้แม้แต่จะหยุดรถม้านี้ยังไงสินะ”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ อารมณ์บนใบหน้าลู่ฝานเปลี่ยนไปทันที
ตอนนี้เขาเพิ่งนึกได้ เหมือนว่าเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหยุดรถม้านี้ยังไง
ลู่ฝานอ้าปาก รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนโง่
สิบสามมองซ้ายมองขวา จากนั้นส่ายหน้าไปมา
จู่ๆ ลู่ฝานก็ไม่พูดอะไร เขากำลังครุ่นคิดว่าจะหยุดรถม้านี้ยังไง
เขาจำได้ว่าตอนรถม้าพุ่งเข้ามาในอุโมงค์ข้ามมิติ เพราะท่านผอ.ใส่พลังเข้าไปในรถม้า งั้นหมายความว่า รถม้าเคลื่อนตัวด้วยพลังสินะ
ลู่ฝานคิดว่าถ้าถึงตอนนั้น ก็ต้องใช้ปราณชี่ของตัวเองทำให้รถม้าหยุดใช่ไหม
นี่เหมือนจะเป็นวิธีแก้ปัญหา แต่ตอนนี้ลู่ฝานไม่กล้าทดลองดู
ขณะที่เขากำลังครุ่นคิด จู่ๆ ลู่ฝานเห็นอะไรบางอย่างลอยมาบนท้องฟ้า เมื่อเพ่งมองดู ลู่ฝานตกตะลึง เขาเห็นเรือลำใหญ่ลำหนึ่ง
ไม่มีใบเรือ ไม่มีไม้พาย
เหมือนบนเรือมีคนยืนอยู่ไม่น้อยด้วย พวกเขามองมาทางลู่ฝานเช่นกัน
“ฮ่าๆ สหายท่านนี้ก็ไปเมืองหลวงเหมือนกันเหรอ”
ชายคนหนึ่งบนดาดฟ้าเรือ พูดด้วยเสียงก้อง ขณะเดียวกันเรือลำใหญ่ก็เข้ามาใกล้ลู่ฝาน ทำให้ลู่ฝานเห็นหน้าพวกเขาชัดขึ้น
เป็นวัยรุ่นสามคน อายุไม่ต่างจากเขาเท่าไร
สวมชุดนักบู๊สุดเนี้ยบ มีเสื้อคลุมสีดำ ด้านบนเขียนว่าสถาบันพิภพ เหมือนเป็นนักเรียนของสถาบันใดสถาบันหนึ่ง
ลู่ฝานตอบกลับอย่างราบเรียบว่า “ใช่ พวกนายก็ไปเมืองหลวงเหรอ”
ชายที่เป็นหัวหน้ายิ้มแล้วพูดว่า “ใช่ คิดไม่ถึงว่าจะเจอคนเพื่อนร่วมทาง ในอุโมงค์ข้ามมิติ ฉันชื่อหยวนเลี่ย ฉันมาจากสถาบันจิตพิภพ ไม่ทราบว่าสหายชื่ออะไร”