เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 895
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 895
ลู่ฝานกินพลาง พูดคุยเรื่อยเปื่อยกับหยวนเลี่ย “สหายหยวนเลี่ย คนที่นี่แปลกมาก เมื่อกี้ฉันเห็นคนลักษณะประหลาดตั้งหลายคน คนพวกนี้เป็นมนุษย์จริงเหรอ”
หยวนเลี่ยพูดว่า “ใช่สิ เขตเยี่ยนของเราก็มีคนแบบนี้ไม่น้อย เขตอื่นอาจเยอะกว่านี้ด้วย คนพวกนี้คือเอเลี่ยน อย่างเช่น มนุษย์เผ่ามังกรที่มีชื่อเสียงที่สุด ก็รวมอยู่ด้วย แต่เอเลี่ยนบางประเภท ยอมรับว่าตัวเองเป็นมนุษย์ และบางประเภทก็ไม่ยอมรับ แต่ภายใต้กฎหมายของประเทศอู่อาน พวกเขาเหมือนกันทั้งหมด เป็นคนที่ใช้ชีวิตเหมือนกันกับพวกเรา”
ลู่ฝานส่งเสียงตอบรับ ดูเหมือนการเจอโลกของตัวเองยังน้อยไปหน่อย
เป็นไปตามคาด ยังไงการออกมาเจอโลกก็ดีอยู่แล้ว
ลู่ฝานถามต่อ “สหายหยวนเลี่ย พวกนายไปเมืองหลวงทำไมเหรอ ฉันได้ยินพวกนายพูดการคัดเลือกอะไรเหรอ มันคืออะไร”
หยวนเลี่ยพูดด้วยความตกใจเล็กน้อย “อย่าบอกนะว่าสหายลู่ฝานไม่ได้ไปเข้าร่วมการคัดเลือก การคัดเลือกการแข่งนานาประเทศ สหายลู่ฝานไม่เคยได้ยินเหรอ”
ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “เรื่องนี้เคยได้ยิน”
หยวนเลี่ยหัวเราะคิกคักแล้วพูดว่า “เราไปเข้าร่วมการคัดเลือกนี่แหละ แม้ไม่แน่ใจว่าจะได้รับการคัดเลือก แต่แค่ได้เข้าร่วมก็เป็นเกียรติอย่างหนึ่งแล้วไม่ใช่เหรอ”
ขณะกำลังพูด เด็กเสิร์ฟข้างๆ เดินเข้ามาพูดว่า “ลูกค้าไปเมืองหลวงเหรอ ดูเหมือนช่วงนี้จะไปไม่ได้แล้ว”
ลู่ฝานพูดว่า “หมายความว่ายังไง”
เด็กเสิร์ฟพูดว่า “พวกคุณไม่รู้เหรอ ทางหลวงข้างหน้าถูกปิดกั้น ถูกแมลงอากาศธาตุฝูงหนึ่งปิดกั้นเอาไว้ อย่างน้อยต้องรอส่วนราชการส่งคนมาจัดการให้เรียบร้อยหลังปีใหม่ ถึงจะเดินทางได้ ไปตอนนี้อันตรายถึงชีวิต”
ลู่ฝานสีหน้าเคร่งขรึม หยวนเลี่ยก็พูดอย่างตกใจว่า “มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ ทำยังไงดี เรารอหลังปีใหม่ไม่ได้หรอก คนของส่วนราชการมาเร็วกว่านี้ไม่ได้เหรอ”
เพิ่งพูดจบ ชายรูปร่างกำยำสูงใหญ่สองคนโต๊ะข้างๆ หัวเราะแล้วพูดว่า “ส่วนราชการดำเนินเรื่อง มีที่ทันเวลาด้วยเหรอ เจ้าหนุ่ม พวกนายยังเด็กเกินไป จะไปตอนนี้ ก็ไปหาคนร่วมกลุ่มกัน ตอนนี้เหมือนพวกลุงชางกำลังหาคนรวมกัน พวกนายจ่ายเงินนิดหน่อย เข้าร่วมกับพวกเขาสิ”
หยวนเลี่ยขมวดคิ้วถามว่า “ลุงชางคือใคร”
ชายกำยำทั้งสองคนหัวเราะเสียงดัง ราวกับว่าหยวนเลี่ยถามคำถามที่โง่ที่สุดออกมา
“ขนาดลุงชางยังไม่รู้จัก พวกนายมาที่นี่ครั้งแรกสินะ รีบไปสิ ถ้าช้าพวกนายทำได้แค่เลี้ยวหัวกลับไปนะ”
ลู่ฝานกับหยวนเลี่ยมองหน้ากัน แล้วเลิกคิ้วขึ้น
ตอนนี้เด็กเสิร์ฟพูดเบาๆ ว่า “ลุงชางเป็นคนที่มีชื่อเสียงเรื่องเรือข้ามฟากบนถนนหลวงเส้นนี้ มีเขาอยู่ พวกคุณสามารถผ่านแมลงพวกนั้นได้ แต่พวกคุณก็ต้องมีพละกำลังเพียงพอ อย่างน้อยระดับแดนปราณนอก พวกเขาไม่ต้องการตัวถ่วง”
ลู่ฝานวางตะเกียบลงแล้วพูดว่า “งั้นโอเค ดูเหมือนจะต้องไปเจอลุงชางคนนี้แล้ว”
หยวนเลี่ยก็ยิ้มแล้วพูดว่า “แค่แดนปราณนอก เรื่องเล็กน้อย”
เฝิงอิ่งกับเซี่ยงจู้ก็ยิ้มอย่างผ่อนคลาย บ่งบอกว่าไม่สนใจ
เมื่อกินดื่มจนอิ่ม ทุกคนเดินออกจากร้านอาหาร
ลู่ฝานใช้จิตรับรู้ พบว่าไอ้สองคนที่มีเจตนาไม่ดีกับเขา ยังตามอยู่ด้านหลัง
สองคนนี้มีความรับผิดชอบจริงๆ ลู่ฝานยิ้มอย่างมีความสุข
“จะหาใครถามว่าลุงชางอยู่ไหนดีล่ะ”
หยวนเลี่ยมองไปรอบๆ แล้วสอบถาม
ลู่ฝานพูดว่า “ฉันรู้ว่าถามใคร”
พูดพลาง ลู่ฝานก้าวไปด้านหลัง พวกหยวนเลี่ยมองเขาอย่างงุนงง ไม่รู้เขาจะทำอะไร
มีเพียงสิบสามที่รู้ความคิดของลู่ฝาน แต่เขาตามหลังลู่ฝานไปด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
สองคนที่สะกดรอยตามลู่ฝาน เห็นลู่ฝานเดินเข้ามา รีบทำเป็นซื้อของทันที
ลู่ฝานเดินมาหยุดลงข้างพวกเขา ยื่นมือไปที่ไหล่ทั้งสองคน
เสียงดังปักปัก ชายกำยำทั้งสองคนเกือบโดนลู่ฝานตบลงบนพื้น
“ขอถามหน่อย ลุงชางคือใคร ตอนนี้อยู่ไหน”
ชายกำยำหนึ่งในนั้นพูดอย่างโมโหว่า “ไอ้เด็กเวร นายกล้าตีฉัน”
ขณะที่พูดมีเสื้อปราณโผล่ขึ้นทั้งตัว ลู่ฝานค่อยๆ หุบยิ้ม สีหน้าเคร่งขรึม
ต่อมา ชายกำยำคนนี้ไม่กล้าขยับแล้ว