เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 904
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 904
“พญาหนอน ฉันกำลังกังวลว่าในกลุ่มพวกหนอนเหล่านี้ จะมีพญาหนอนอยู่หรือไม่”
ลู่ฝานสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย และพูดขึ้นว่า: “พญาหนอนก็คือราชาของพวกหนอนเหล่านี้ใช่ไหม? ”
ลุงชางพูดขึ้นว่า: “สามารถเข้าใจแบบนี้ได้ แต่พญาหนอนนั้นน้อยมากที่จะปรากฏตัวขึ้น ต่อให้เป็นพวกคนเดินเรือเหล่านี้ ทั้งชีวิตก็คงจะไม่พบเห็นอีกเป็นครั้งที่สอง ช่างน้อยมากเหลือเกิน”
ลู่ฝานถามต่ออีกว่า: “พญาหนอนนั้นมีพลังความสามารถระดับไหน? ”
ลุงชางขมวดคิ้วและพูดขึ้นว่า: “แข็งแกร่งอย่างมาก ยอดฝีมือแดนปราณดินชั้นสุดยอดก็ไม่แน่ว่าจะสามารถต่อสู้กับมันได้หรือไม่ ทำได้เพียงหลบหนีเอาตัวรอดจากน้ำมือของมันเท่านั้น พญาหนอนมีพลังความสามารถพิเศษ มันสามารถสร้างมิติประหลาดขึ้นมาจากการควบรวมพลังฟ้าดิน คล้ายกันกับค่ายกลลวงตาของผู้ฝึกชี่ ที่กักขังคนให้อยู่ด้านใน แล้วดูดกลืนพลังจนตาย หากว่าทำให้มันโมโห มันยังสามารถควบคุมให้พวกหนอนธรรมดานั้นระเบิดตัวเอง ซึ่งพลังอานุภาพนั้นสามารถข่มขู่คุกคามยอดฝีมือแดนปราณชีวิตได้เลย หากเมื่อกองรวมกันเป็นจำนวนมากแล้ว ต่อให้เป็นนักบู๊แดนปราณดินก็ยังสามารถได้รับบาดเจ็บได้”
ขณะที่ลุงชางพูดไปพลาง ก็ได้นำกาเล็กใบหนึ่งออกมา วางตรงที่จมูกแล้วสูดดมอย่างแรงไปด้วย
ลู่ฝานได้กลิ่นหอมพิเศษ ซึ่งหอมถึงขนาดทำให้จิตใจล่องลอยเคลิบเคลิ้ม
ลุงชางนำกาเล็กใบนั้นส่งให้กับลู่ฝานและพูดว่า: “จะลองดูไหม? ธูปหอมปีศาจ ที่มีกลิ่นหอมอย่างที่สุด แม้แต่เซียนเทพได้กลิ่นแล้วก็ยังทรงตัวไม่อยู่ มันช่วยเพิ่มความสดชื่นและทำให้สมองปรอดโปร่ง”
ลู่ฝานปฏิเสธด้วยรอยยิ้ม จากความรู้ความสามารถที่เขาเป็นผู้ฝึกชี่นั้น เมื่อได้กลิ่นหอมนี้แล้วก็รู้ได้เลยว่าธูปหอมปีศาจนี้กลั่นมาจากสมุนไพรอะไร
หญ้าฝิ่น และธูปหอมหลอนประสาท จะต้องเป็นสิ่งที่กลั่นออกมาจากสองสมุนไพรนี้ คาดว่านอกจากจะทำให้คนสัมผัสได้ถึงภาพหลอนภาพลวงตาที่สวยงามแล้ว ก็คงจะไม่มีประโยชน์อะไรอย่างอื่นอีก
ลู่ฝานไม่ต้องการใช้สิ่งเหล่านี้มามอมเมาให้ตนเองเฉยชา
โดยจากคำพูดของลุงชางนั้น ลู่ฝานรับฟังได้ถึงเรื่องราวอื่นอีกเล็กน้อย
ลู่ฝานจึงค่อย ๆ ถามขึ้นว่า: “ลุงชาง ท่านเคยเห็นพญาหนอนใช่ไหม? ”
ลุงชางตกใจเล็กน้อย เงียบนิ่งไม่พูดไม่จาอะไร
ลู่ฝานมองสังเกตไปที่ลุงชางอีกครั้ง เมื่อเขาเห็นว่าพลังฟ้าดินรอบกายของลุงชางนั้นได้เคลื่อนไหววนเวียนรอบตัวเขาอย่างประหลาด ลู่ฝานก็ยิ้มและพูดขึ้นว่า: “ลุงชาง นักบู๊แดนปราณดิน ดูเหมือนว่าท่านเองก็มีเรื่องราวความหลังอยู่เหมือนกันนะ! ”
ลุงชางตื่นตกใจ ฝ่ามือสั่นเทาเล็กน้อย
สายตาเย็นชาขึ้น และพูดว่า: “นายรู้ได้อย่างไร……”
ยังไม่ทันพูดจบ ลุงชางก็พลันลงมือ ชกเข้าไปที่ศีรษะของลู่ฝาน
หมัดนี้พุ่งเข้ามาอย่างกระทันหัน ใครจะไปคิดได้ล่ะว่าเขาพูดเพียงแค่ครึ่งเดียวก็หยุดพูด แล้วก็ลงมือในทันที
แต่ลู่ฝานก็ยื่นมือขวาออกไป สกัดกั้นเอาไว้
หมัดและฝ่ามือปะทะใส่กัน จนเกิดพลังปราณแผ่กระจายขึ้นเล็กน้อย
ลู่ฝานไม่ขยับเคลื่อนไหวร่างกาย ราวกับว่าหมัดของลุงชางนั้น ไม่มีพลังแม้แต่น้อย
แต่ลุงชางรู้ดีว่า พลังหมัดนี้ของเขาเพียงพอที่จะชกให้นักบู๊แดนปราณชีวิตทั่วไปกระเด็นลอยไปไกลหลายเมตรได้ ในขณะที่ปล่อยหมัดนั้น เขาก็ได้เตรียมพร้อมที่จะเก็บคืนพลังหมัดอยู่ตลอด แต่เขาเองก็คิดไม่ถึงว่าลู่ฝานจะสามารถรับมือกับพลังหมัดนี้ของเขาได้อย่างง่ายดาย
นี่แสดงให้เห็นว่า พลังความสามารถของลู่ฝานนั้น เหนือกว่านักบู๊แดนปราณชีวิตไปกว่าครึ่ง โดยยังไม่ได้ปลดปล่อยพลังปราณในร่างกายออกมา ก็สามารถที่จะรับมือได้อย่างง่ายดายแล้ว
ปฏิกิริยาตอบรับแบบนี้ แรงพลังขนาดนี้ วิทยายุทธขนาดนี้ ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
ลุงชางหัวเราะ ราวกับว่าเป็นจิ้งจอกเฒ่าอย่างไรอย่างนั้น เวลานี้สีหน้าท่าทางที่เป็นคนดีของเขานั้น ได้หายสูญไปหมดแล้ว โดยยิ้มและมองไปที่ลู่ฝานแล้วก็พูดขึ้นว่า: “ไอ้หนุ่มนี้ ฉันมองผิดไปแล้วจริง ๆ ด้วย นายต่างหากที่เป็นถึงยอดฝีมือ ช่างปกปิดได้อย่างลึกลับเลยทีเดียว ฉันว่าแล้วว่าผู้ที่ทำให้นักบู๊แดนปราณชีวิตถึงได้ยอมติดตามอย่างเต็มใจขนาดนี้ ตัวเขาจะอ่อนแอได้อย่างไรกัน”
ลู่ฝานยิ้มอย่างเฉยชา แล้วดึงมือกลับคืนมาและพูดว่า: “ยอดฝีมือเหรอ ฉันเพิ่งจะเริ่มต้นต่างหาก”