เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 916
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 916
เรือหัวใจมังกรได้แล่นไปข้างหน้าต่อเนื่อง ลู่ฝานยืนอยู่ที่บนเรือ และกระบี่หนักไร้คมตั้งตรงอยู่ด้านหน้าตัวเขา
“ทุกท่าน หากอีกสักครู่เกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็อย่าได้ทำอะไรบุ่มบ่ามไป! ”
ลู่ฝานพูดขึ้นเสียงดัง
เมื่อได้ยินที่ลู่ฝานพูด นักบู๊ทุกคนต่างก็ตื่นตกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีใครสงสัยอะไร
ไม่นานนักเรือหัวใจมังกรก็แล่นมาถึงเบื้องหน้าของรังไหมแล้ว ระยะห่างขนาดนี้ เพียงพอที่จะทำให้รังไหมที่เรียงรายอยู่ด้านหน้านั้นระเบิดสลายได้ แล้วก็กระโจนใส่พวกหนอนนั้น
เวลานี้พวกหนอนบริเวณโดยรอบ ก็เริ่มที่จะรวมตัวกันเข้ามาที่ทางลู่ฝานและคณะแล้ว ขณะเดียวกันพญาหนอนที่อยู่ท่ามกลางหลุมดำในระยะไกลนั้น ก็ได้โผล่หัวออกมาบ้างแล้วด้วย
ลู่ฝานใช้มือซ้ายหยิบสิ่งของออกมา แล้วนำมันปักลงบนเรือ
ทันใดนั้น พวกหนอนที่พุ่งเข้ามาก็หยุดการเคลื่อนไหวโดยพลัน เพราะสิ่งของที่ลู่ฝานนำออกมานั้น ไม่ใช่สิ่งของอื่นใด ซึ่งก็คือหนวดของพญาหนอนนั่นเอง
เวลานี้ ท่ามกลางฝ่ามือของลู่ฝาน ก็ได้ปล่อยพลังปราณเข้าสู่ภายในหนวดเส้นนั้น
ต่อมา หนวดก็ได้ส่งกลิ่นเหม็นที่รุนแรง ซึ่งพวกหนอนเหล่านั้น ดูเหมือนจะหวาดกลัวกลิ่นนี้ จึงได้ถอยร่นกลับไปทั้งหมด
เดิมทีรังไหมที่แตกออกเป็นรอยแยกบ้างแล้วนั้น เวลานี้กลับไม่มีการเคลื่อนไหวแล้ว
ลู่ฝานยิ้มเล็กน้อย และพูดในใจว่า: “ไอ้เก้า นายพูดถูกต้องแล้ว หนวดเส้นนี้ มีประโยชน์จริงด้วย”
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรพูดขึ้นอย่างยิ้มแย้มว่า: “เป็นเพราะเจ้านายผู้ยิ่งใหญ่มีทัศนวิสัยที่ยาวไกล ไม่ทำสิ่งอื่นพร่ำเพรื่อ พอลงมือแล้วก็นำหนวดเส้นนี้กลับมาได้เลย เมื่อมีหนวดเส้นนี้แล้ว รังไหมเหล่านี้ของมันก็เท่ากับว่าไร้ประโยชน์แล้ว เพราะในรังไหมเหล่านั้นไม่ใช่หนอนที่มีชีวิต พวกมันจะต้องอาศัยกลิ่นเพื่อมาทำลายไหม ตอนนี้พวกเรามีหนวดอยู่ในมือ พวกมันก็สับสนมึนงงแล้ว ไม่สามารถทำลายไหมลงได้ แต่ว่าเจ้านาย ท่านก็จะต้องระมัดระวังพวกหนอนเหล่านั้นให้ดี เพราะพญาหนอนก็ยังคงสามารถสั่งการพวกมันได้”
ลู่ฝานกับคนอื่น ๆ ก็ขับเคลื่อนเรือหัวใจมังกร ผ่านค่ายกลรังไหมด่านแรกไปได้อย่างปลอดภัย
บริเวณที่ไกลออกไป พวกนักบู๊ที่อยู่บนขบวนเรือที่ไม่ได้เดินทางมากับลู่ฝานนั้น เมื่อมองเห็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าวแล้วต่างก็ตกตะลึงเลยทีเดียว
“พวกเขาผ่านเข้าไปด้านแล้ว ทำไหมรังไหมถึงไม่ระเบิดล่ะ ทำไมพวกหนอนเหล่านั้นถึงได้เอาแต่ถอยร่น? ”
“พระเจ้า หรือว่าพวกมันจะหวาดกลัวคุณชายลู่ฝาน”
“คุณชายลู่ฝานช่างเก่งกาจดั่งเทพเลยจริง ๆ! ”
……
ด้านบนเรือหัวใจมังกร เฝิงอิ่งกับคนอื่น ๆ ก็มองไปที่ลู่ฝานด้วยสายตาอันเร่าร้อน
แม้ว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะเหตุใด แต่ก็ไม่สงสัยเลยว่า นี่คงจะเป็นวิธีการพิเศษที่ลู่ฝานได้ใช้ขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งคนจำนวนไม่น้อยต่างก็พากันมองมาที่หนวดในมือของลู่ฝาน
“ยอดฝีมือก็คือยอดฝีมือ ฉันว่าแล้วว่าทำไมครั้งก่อนคุณชายลู่ฝานถึงได้พยายามที่จะตัดหนวดเส้นนี้มาให้ได้ เดิมทีก็ได้วางแผนเอาไว้แล้ว! ”
“โธ่ วางแผนก่อนแล้วค่อยลงมือ นี่ถึงจะเป็นท่วงท่าของยอดฝีมือ ฉันว่าเมื่อช่วงกี่วันก่อนหน้านี้ คุณชายลู่ฝานคงน่าจะกำลังสังเกตพวกหนอนเหล่านี้อย่างละเอียดอยู่แน่เลย”
“อืม เมื่อนายพูดแบบนี้ฉันก็เข้าใจได้ทันทีเลย คุณชายลู่ฝานช่างอัจฉริยะจริง ๆ”
“น่าขันเสียจริงที่ฉันนึกว่าคุณชายลู่ฝานเป็นคนอ่อนแอ ซึ่งคนอ่อนแอไหนล่ะที่จะมายืนสังเกตการณ์อยู่ที่หัวเรือติดต่อกันนานหลายวัน? ”
……
ด้านหลัง กลุ่มคนกำลังชื่นชมจากใจจริง และแสดงออกถึงความเลื่อมใส
ลู่ฝานได้ฟังแล้วถึงกับเขินอายเล็กน้อย นี่มัน……เหมือนฉันจะไม่ได้เก่งกาจราวกับเทพอย่างที่พูดกันสักหน่อย ที่จริงแล้วก็ไม่ได้คิดมากมายอะไรขนาดนั้น ทุกอย่างก็เป็นเพราะความบังเอิญและโอกาสเท่านั้น
แต่เกรงว่าหากพูดออกไปตอนนี้ก็คงจะไม่มีใครเชื่อแล้วล่ะสิ!
ทุกคนฝ่าด่านรังไหมไปได้อย่างปลอดภัย ในขณะนี้เอง ในที่สุดพญาหนอนก็แทรกตัวออกมาจากหลุมดำอีกครั้ง มันพบว่า หากมันยังไม่ปรากฏตัวออกมา สถานการณ์ก็ยากที่จะควบคุมแล้ว
พญาหนอนกรีดร้องเสียงดัง พร้อมกับกวัดแกว่งหนวดของมันที่หลงเหลืออยู่เพียงเส้นเดียว และวงแสงสีทองก็ได้แผ่ซ่านออกมาจากตัวของมัน
“เตรียมพร้อม! ”
ลู่ฝานตะโกนเสียงดัง และชูกระบี่หนักไร้คมของตนเองขึ้น ส่วนนักบู๊ทุกคนทางด้านหลัง ก็ชูอาวุธในมือของตนเองขึ้นอย่างพร้อมเพรียง