เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 92
ฮ่วนเย่ว์ยิ้มพูด “ได้ แต่นายก็ต้องรู้ไว้ว่า เพราะกระบี่หนักของนายเล่มนี้ ทำให้นกเมฆธรรมดาไม่สามารถบรรทุกนายได้ ฉันเลยต้องหานกปิดฟ้าที่ดีที่สุดมาโดยเฉพาะ ถึงจะพาพวกเราขึ้นบินได้ ถ้านายไม่บอกฉัน ฉันก็จะไล่นายลงไปจากนกปิดฟ้า ให้นายเดินทางไปเอง”
ลู่ฝานมองไปถามความจริงจากลู่หมิง ลู่หมิงก็พยักหน้า แสดงให้รู้ว่าที่ฮ่วนเย่ว์พูดนั้นเป็นความจริง
ลู่ฝานกลืนน้ำลาย ถึงว่านกตัวนี้ถึงตัวใหญ่ขนาดนี้ แค่ส่วนหลัง ก็กว้างหลายลี้ขนาดนี้ ที่แท้เป็นสุดยอดของนกเมฆ เป็นนกปิดฟ้า!
ทำอะไรไม่ได้ ลู่ฝานเลยพูดว่า “เพราะว่ากระบี่เล่มนี้ได้หยดเลือดไปเพื่อเลือกเจ้านายแล้ว ผมเลยใช้ได้ คนอื่นใช้ไม่ได้”
ลู่ฝานพูดจริงบ้างปลอมบ้าง หยดเลือดไปเพื่อเลือกเจ้านายนั้นเป็นเรื่องจริงๆ หวูเฉินอาจารย์ของเขาได้สร้างผนึกไว้บนกระบี่หลังจากที่สร้างมันเสร็จแล้ว ทำให้ลู่ฝานหยดเลือดลงใส่เพื่อเป็นเจ้าของกระบี่ไปหนึ่งครั้ง แต่ผลของการทำแบบนี้ มีผลกับแค่อุกกาบาตจิตเย็นบนกระบี่เท่านั้น ส่วนอื่นๆ รวมถึงน้ำหนักไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย ส่วนที่บอกว่าคนอื่นใช้ไม่ได้นั้น ก็พูดออกมามั่วๆ
แต่ดูเหมือนว่าฮ่วนเย่ว์จะคำโกหกของเขาไม่ได้
ส่งเสียงว่า อ๋อ ออกมา ฮ่วนเย่ว์ก็พูดว่า “อย่างนี้นี่ ฉันก็ว่าอยู่ กระบี่ที่แม้แต่ฉันยังยกไม่ขึ้น นายจะยกขึ้นได้อย่างไร เอาเถอะ ถือว่านายซื่อสัตย์ดี คำถามที่สอง นายทำให้สัตว์อสูรตัวนี้ติดตามนายได้อย่างไร ฉันจำได้ว่าตอนแรก มันเผานายไปด้วยเหมือนกันนะ”
คำถามนี้ตอบง่ายหน่อย ลู่ฝานตอบอย่างมั่นใจว่า “ง่ายมาก ผมพามันออกมา ไม่ให้เธอฆ่ามันตาย จากนั้นก็ให้มันกินเนื้อย่างไปชิ้นหนึ่ง มันก็ติดตามผมแล้ว”
ฮ่วนเย่ว์อึ้งไป แล้วพูดว่า “อะไรนะ? เนื้อย่างชิ้นเดียวงั้นหรือ?”
ลู่ฝานยิ้มพูดว่า “ใช่ เนื้อย่างชิ้นเดียว”
ฮ่วนเย่ว์มองบน ” เนื้อย่างชิ้นเดียวก็แลกอสูรวิเศษที่สิงเข้าร่างได้งั้นหรือ นายนี่มันโชคดีจริงๆ ไม่สิ นายโชคดีหลายครั้งมาก ความโชคดีทั้งหมดในโลกนี้ถูกนายได้ไปหมดแล้ว”
บ่นไป แล้วฮ่วนเย่ว์ก็พูดเบาๆ ว่า “ทำไมฉันไม่เห็นได้อสูรวิเศษสักตัวบ้างเลย”
ลู่ฝานยิ้มพูดเบาๆ ว่า “เธอลองเอาเนื้อย่างเข้าไปในป่าดูสิ ไม่แน่ว่าอาจจะได้สักตัว”
ฮ่วนเย่ว์พูดเสียงดัง “นายคิดว่าอสูรวิเศษมันจะหากันได้ง่ายๆ หรือไง เอาเถอะ คำถามสุดท้าย นายไปเรียนวิชาอสูรเข้าสิงมาจากไหน นายก็เป็นคนของหอสัตว์พันลายงั้นหรือ?”
ลู่ฝานขมวดคิ้วพูดว่า “หอสัตว์พันลายอะไร?”
ฮ่วนเย่ว์หลุดพูดออกมาว่า “แม้แต่หอสัตว์พันลายนายก็ไม่รู้จัก แต่ใช้วิชาอสูรเข้าสิงได้เนี่ยนะ?”
ลู่ฝานส่ายหัว “ไม่รู้จริงๆ แล้วอสูรเข้าสิงมันคืออะไร?”
ลู่หมิงทนไม่ไหวแล้ว เลยพูดว่า “ลู่ฝาน นายจำเรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้นได้แล้วหรือไง? เจ้าดำของนายสิงเข้าไปในแขนของนาย จากนั้นนายก็ต่อยไอ้อ้วนคนนั้นจนตาย”
ลู่ฝานพยายามนึก แล้วก็คิดออก แขนที่มีสีดำ มีมังกรเคลื่อนไหวอยู่
“นั่นคืออสูรเข้าสิงหรือ?”
ฮ่วนเย่ว์ก็นวดขมับของตนเอง รู้จะหมดแรง
“ถูกต้อง คืออสูรเข้าสิง เป็นเคล็ดวิชาที่แข็งแกร่งสำหรับการใช้สัตว์อสูร สามารถรวมเป็นหนึ่งกับสัตว์อสูรได้ในชั่วพริบตา ได้รับพลังของสัตว์อสูร จะต้องมีพรสวรรค์สูงส่งอย่างมากถึงจะใช้ได้ และสัตว์อสูรที่สามารถสิงเข้าร่างได้นั้น ก็จะถูกเรียกว่าอสูรวิเศษ”
ลู่ฝานพูดอย่างอึ้งๆ ว่า “แบบนี้นี่เอง ผมก็ถือว่าเป็นคนที่มีพรสวรรค์สูงส่งงั้นหรือ?”
“คนที่ฝึกเคล็ดวิชาจนสำเร็จ ถึงจะถือว่ามีพรสวรรค์สูงส่ง อย่างนายไม่เคยฝึกเคล็ดวิชาเลย แต่ใช้ออกมาได้เอง ที่หอสัตว์พันลายจะเรียกว่า บู๊พรสวรรค์ ไม่อาจจะใช้คำว่าพรสวรรค์มาอธิบายได้ บอกได้อย่างว่าเป็นปีศาจ หรือไม่ก็สัตว์อสูรของนายค่อนข้างพิเศษ สามารถสิงเข้าร่างได้เอง แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน
ลู่ฝานหัวเราะเหอะๆ ออกมา คิดไม่ถึงว่าเนื้อย่างชิ้นเดียวแล้วพาเจ้าดำออกมาได้จะมีประโยชน์มากมายแบบนี้ ดูเหมือนว่าพอมันตื่นขึ้นมา จะต้องเอาของอร่อยๆ ให้กินเยอะๆ เสียแล้ว
เจ้าดำก็เหมือนจะรับรู้ถึงความคิดของลู่ฝาน แล้วมันก็ยิ้มขึ้นมาทั้งๆ ที่หลับอยู่ ทำตาหยีด้วย
“ไม่คุยกับนายแล้ว คุยกับคนโชคดีแบบนายคุยแล้วก็เจ็บปวด ฉันไปฝึกวิชาดีกว่า เดี๋ยวพอถึงแล้ว ค่อยเรียกฉันแล้วกัน”
พูดจบ ฮ่วนเย่ว์ก็เดินไปอีกฝั่ง แล้วนั่งฝึกวิชา
ลู่หมิงมองลู่ฝาน แล้วก็ลุกขึ้นพูดว่า “ฉันก็รู้สึกว่าเจ็บปวดเหมือนกัน ลู่ฝาน นายไปฝึกวิชาเถอะ ด้วยความเร็วของนกปิดฟ้า วันเดียวก็น่าจะถึง”
ลู่ฝานพยักหน้า มองลู่หมิงเดินไปฝึกวิชาอีกฝั่ง เขาก็ฝึกกายทองไฟอาบเหมือนกัน
ลู่ฝานก็เดินไปข้างๆ เจ้าดำ มองดูเจ้าดำที่กำลังนอนกรนอยู่ ลู่ฝานก็ยิ้มหน้าบาน
หายใจเข้าอย่างลึก ลู่ฝานก็นั่งขัดสมาธิเริ่มฝึกวิชาเหมือนกัน
ปราณชี่ถูกใช้ไปเยอะมาก บนร่างกายก็มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย ลู่ฝานจำเป็นต้องปรับร่างกายตนเองให้เป็นถึงจุดสูงสุดในเวลาอันสั้น เพราะว่าพอถึงสถาบันสอนวิชาบู๊แล้ว จะมีการต่อสู้รอเขาอยู่
รอยยิ้มบนใบหน้าค่อยๆ หายไป ลู่ฝานก็อยู่ในสมาธิของการฝึกวิชา
หนึ่งวันผ่านไป ความเร็วของนกปิดฟ้าก็ค่อยๆ ช้าลง
ลู่ฝานลืมตาขึ้น มองออกไป ก็เห็นเมืองเมืองหนึ่งปรากฏขึ้นในสายตา
มีตัวอักษรขนาดใหญ่เขียนไว้ที่ประตูเมืองว่า เมืองเผิง!
สถาบันสอนวิชาบู๊ ในที่สุดเราก็มาถึงแล้ว