เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 941
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 941
เมื่อพูดเช่นนี้ ลู่ฝานเอาของชิ้นหนึ่งออกมา นั่นเป็นจิตอัคคีครึ่งหนึ่งที่เขาใส่ไว้ในเข็มขัด
มองอยู่สองสามที ลู่ฝานเก็บมันลงไปอย่างรวดเร็ว
พยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองให้สงบลง ในที่สุดลู่ฝานมาถึงหน้าห้องสีขาวแล้ว
หน้าประตูมีต้นไม้หนึ่งต้น ชายวัยกลางคนคนหนึ่ง กำลังนั่งเล่นหมากรุกใต้ต้นไม้ เสื้อสีขาว เท้าเปล่า ผมเผ้ายุ่งเหยิง หนวดเต็มหน้า
ไม่มีใครเล่นหมากรุกกับเขา เขาเล่นอยู่คนเดียว
ลู่ฝานเพิ่งเดินถึงหน้าประตู ชายวัยกลางคนพูดแบบไม่เงยหน้าขึ้นว่า “นายมาหาใคร”
ลู่ฝานพูดว่า “ขอถามหน่อย พ่อของหานเฟิงอยู่ที่นี่ไหม”
ชายวัยกลางคนพูดเสียงดังว่า “ตายแล้ว พ่อหานเฟิงโกรธหานเฟิงจนตายไปแล้ว”
พูดพลาง ชายวัยกลางคนวางตัวหมากลงบนกระดานอย่างแรง จนเกือบทำให้กระดานหมากรุกแตกกระจาย
ลู่ฝานมองการกระทำนี้ แอบหวั่นใจเล็กน้อย เขาเดินมาข้างหน้าแล้วพูดว่า “คุณเป็นพ่อของหานเฟิงใช่ไหม”
ในที่สุดชายวัยกลางคนก็เงยหน้าขึ้น มองลู่ฝานแล้วพูดว่า “นายมีเรื่องอะไรกันแน่ มีอะไรก็รีบๆ พูดมา”
ลู่ฝานพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ได้มีเรื่องเร่งด่วนอะไรหรอกครับ แต่ศิษย์พี่หานเฟิงสั่งผมว่า หลังจากมาถึงเมืองหลวง ต้องมาทักทายคุณลุงแทนเขาครับ”
ลู่ฝานพูดพลางโค้งตัวทำความเคารพ
เมื่อชายวัยกลางคนได้ยิน จู่ๆ เขากระทืบเท้าแล้วด่าว่า “ไอ้เด็กเวรนั่นให้นายมาเหรอ แล้วไอ้เลวนั่นไปไหน ยังไม่กลับมาอีก ต้องให้ฉันไปเชิญเขากลับมาใช่ไหม”
ลู่ฝานใบหน้ากระอักกระอ่วน ไม่รู้ควรจะพูดอะไร
ชายวัยกลางคนเดินมาข้างหน้าลู่ฝาน แล้วพูดว่า “นายคือศิษย์น้องของหานเฟิงเหรอ หมายความว่าเขาอยู่ในสถาบันสอนวิชาบู๊ ที่ตาเฒ่าเทียหยาจื่อเปิดจริงๆ เหรอ เขาใช้ชีวิตเป็นยังไงบ้าง โดนคนตีจนเกือบตายแล้วใช่ไหม เลยให้นายมาขอร้องฉัน หรือเขาตายอยู่ข้างนอกแล้ว เลยให้นายมาส่งข่าวให้ฉัน บอกมา!”
ลู่ฝานรู้สึกว่าหูตัวเองโดนสะเทือนจนจะหนวกแล้ว เสียงนี้พอๆ กับเคล็ดวิชาบู๊ระดับดินเลย
ลู่ฝานรีบพูดว่า “ศิษย์พี่หานเฟิงใช้ชีวิตอย่างดีเลยครับ ไม่ได้เป็นอะไรเลย แค่ให้ผมมาทักทายเท่านั้น เขาให้ผมเอาของขวัญมาให้ด้วย”
ลู่ฝานเอาหินออกมาก้อนหนึ่ง นี่เป็นของที่ศิษย์พี่หานเฟิงให้เขาเอากลับมาจริงๆ
แต่ลู่ฝานเข้าใจเป็นอย่างดี หินพังๆ ก้อนนี้ เป็นหินที่ศิษย์พี่หานเฟิงใช้ยาเม็ดคุณภาพแย่สองเม็ดแลกมา ที่ตลาดหม้อยา
ลู่ฝานถือหินไว้ จู่ๆ ก็ไม่กล้ายื่นให้ แต่ชายวัยกลางคนคว้าหินไปทันที
“ยังนับว่าเขามีความกตัญญู รู้จักซื้อของให้พ่อ นี่หินบ้าบออะไร เขาไม่ได้เก็บมาจากไหน แล้วให้นายเอามาให้ฉันใช่ไหม”
ลู่ฝานแอบพึมพำในใจ อันที่จริงก็ไม่ต่างจากการเก็บมาเท่าไร
แต่ภายนอกลู่ฝานกลับพูดเสียงดังว่า “จะเป็นของที่เก็บมาได้ยังไงล่ะครับ นี่เป็นของที่ศิษย์พี่หานเฟิงได้มาแบบเกือบเอาชีวิตไม่รอด”
ในที่สุดก็มีรอยยิ้มปรากฏบนหน้าชายวัยกลางคน เขาถือก้อนหินมองซ้ายมองขวา ยิ้มแล้วพูดว่า “นี่พอได้หน่อย แม้ดูไม่ออกว่าเป็นหินบ้าบออะไร แต่ในเมื่อเป็นของที่ลูกชายแสดงความกตัญญูต่อฉัน น่าจะเป็นของดี ฉันเก็บไว้แล้วกัน รอนายกลับไปเมื่อไร บอกให้เขารีบกลับมาด้วย ไปใช้ชีวิตอะไรข้างนอก รีบกลับมาสืบทอดธุรกิจตระกูล แต่งงานมีลูก ถ้าเขากลับมาเร็ว ฉันจะไม่ซัดเขา”
ลู่ฝานปาดเหงื่อบนหน้าผาก ยังดีที่ศิษย์พี่หานเฟิงพูดถูก พ่อของเขาดูไม่ออก ไม่งั้นเขาซวยแน่
ชายวัยกลางคนยัดหินเข้าไปในเข็มขัด หลังจากนั้นมองลู่ฝานแล้วพูดว่า “โอเค ตอนนี้นายแนะนำตัวเองหน่อยสิ นายชื่ออะไร”