เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 957
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 957
กระบวนท่าระดับนี้ ต่อให้เขาไปต่อสู้ ก็คงจะไม่เกินไปกว่านี้แล้ว
เทียนตู้เดินขึ้นมาข้างหน้าหนึ่งก้าว กวัดแกว่งกระบี่ในอากาศ ก่อเกิดคลื่นกระเพื่อม ด้านหลังของเขา ก็ปรากฏบอลกลมสีเหลืองลูกหนึ่ง ราวกับจิตวิญญาณของโลก และหัวใจที่กำลังเต้นแรง
ในอากาศ พลังที่แปลกประหลาดนั้นกำลังแพร่กระจายไปทั่ว
ดวงตาสองข้างของลู่ฝานได้กลายเป็นความมืดมิด กระบวนท่านี้ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นวิชากระบี่ที่ใช้สำหรับโจมตีวิญญาณ
ถ้าหากเขาไม่มีเพลงเต๋าหนึ่งเดียว และไม่ได้ฝึกฝนวิชาชิงวิญญาณแล้ว ในขณะนั้น เกรงว่าจะต้องถูกโจมตีเป็นแน่
ปลดปล่อยปราณชี่ ที่มีสีขาวเทาออกมา
ที่ด้านหน้าของทั้งสองคน ได้ปรากฏช่องรอยแยกของมิติขึ้น
เทียนตู้มีเลือดไหลออกมาที่มุมปาก เขาคิดไม่ถึงว่าลู่ฝานจะสามารถใช้พลังกระบี่นี้ย้อนโจมตีกลับมาได้
ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อย เทียนตู้ยังคงที่จะกัดฟันพยายามแสดงกระบวนท่าจนถึงขั้นสุดท้าย
นี่คือขั้นที่ห้า ซึ่งก็คือวิชากระบี่ที่ห้า!
เมื่อกระบี่ฟาดฟันลงมา พื้นดินก็ล่องลอยขึ้น ลำแสงปกคลุมทั้งสองคนเอาไว้ภายใน และก็มีพลังอันหนักหน่วงราวกับภูเขาและทะเลมาทับถมที่ร่างของลู่ฝาน
ก้อนหินเล็กใต้ฝ่าเท้า ก็ถูกกดทับจนแตกเป็นผุยผงในทันที
ผู้คนที่ชมอยู่รอบข้าง ก็ถูกพลังที่ประกายล้นออกมา จนต้องหมอบตัวลงไปที่พื้น
ลู่ฝานกลับไม่เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย เพียงแค่กระบี่หนักไร้คมที่อยู่ด้านหลังนั้นประกายแสงขึ้นบ้าง
เทียนตู้พูดคำรามใส่ว่า: “ไปตายซะเถอะ! ”
กระบี่พังทลาย ลำแสงดับสูญ โลกระเบิดสั่นสะเทือน!
ตูมม! ตูมม! ตูมม!
เสียงระเบิดที่ต่อเนื่องดังกึกก้องไปทั่วท้องฟ้า บริเวณหน้าประตูของสำนักบู๊องอาจ ก็สั่นสะเทือนไปหมด
ทันใดนั้น เทียนหยาจื่อและคนอื่น ๆ ก็ได้ลงมือแล้ว
อาจารย์เหลย อาจารย์ถิงยวน รวมไปถึงเทียนหยาจื่อและคนอื่น ๆ ก็ใช้สองมือกดลงไปด้านล่างโดยพร้อมกัน
คิดไม่ถึงว่าต้องให้หลายคนรวมพลังกันถึงจะสามารถปิดกั้นการระเบิดนี้เอาไว้ ไม่ให้ลุกลามไปทั่ว
ฝุ่นควันฟุ้งกระจาย ในขณะนั้นเอง แรงกระเพื่อม ก็เกิดขึ้นมาจากฝุ่นควัน!
“หมัดทลายใต้หล้า! ”
ทันใดนั้น ราวกับว่ามีเก้าลำแสง ส่องสว่างขึ้นมาจากฝุ่นควัน
จากนั้น พื้นดินที่สั่นสะเทือนก็หายสูญไปในทันที สิ่งที่มาทดแทนก็คือลำแสงสีขาวที่พุ่งทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้า ทะลุผ่านชั้นเมฆ ส่องสว่างไปทั่วท้องฟ้า
ไม่เพียงแต่คนของสำนักบู๊องอาจเท่านั้น ที่เห็นกันอย่างชัดเจน แม้แต่ด้านนอกของสำนักบู๊องอาจ ทั้งคนในเมืองหลวงและเมืองเป่ยจำนวนมาก ก็เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย
ฟุบบ!
เทียนตู้เหาะออกมาจากท่ามกลางฝุ่นควัน แล้วกระแทกลงไปที่พื้นอย่างหนักหน่วง
ทั้วทั้งร่างกาย เต็มไปด้วยเลือด สีหน้าท่าทางหวาดผวา ราวกับว่าพบเจอกับเหตุการณ์อะไรที่น่ากลัวอย่างที่สุด!
กรอกแกร็ก!
องค์ชายรองฉินฝานเดิมทีกำลังนั่งเล่นนิ้วมือของตนเองอยู่นั้น เมื่อเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ก็ถึงกับเล่นนิ้วของตนเองจนคดงอเลย!
ฉินฝานจึงต้องดัดนิ้วของตนเองให้กลับเข้าที่อย่างเจ็บปวด
แต่สายตาของเขาก็ยังคงจ้องมองไปที่ลู่ฝานอย่างชื่นชม
ผู้คนของสำนักบู๊องอาจถึงกับพูดอะไรไม่ออกแล้ว
พวกเขาไม่เห็นเลยว่าเมื่อครู่นั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง
“เคล็ดวิชาบู๊ระดับฟ้า! ”
อาจารย์เหลยพูดเสียงหลง
อาจารย์ถิงยวนเองก็แทบจะบีบที่วางแขนของเก้าอี้จนแตกละเอียดแล้ว!
บนท้องฟ้า เทียนหยาจื่อมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ผู้อาวุโสกี่คนที่อยู่ด้านข้างก็อุทานขึ้นว่า: “นี่คือ……ของเทพอักษรนั่น”
เทียนหยาจื่อยิ้มและพูดว่า: “ถูกต้อง พวกนายไม่ได้มองผิดไป! ”
คนที่มองเห็นอย่างเข้าใจ ต่างก็พากันตื่นตะลึงกันไปหมด
ส่วนคนที่มองไม่เข้าใจนั้น ก็แสดงสีหน้าที่งุนงง
แต่สิ่งเดียวที่พวกเขารับรู้นั้นก็คือ ลู่ฝานเป็นฝ่ายชนะแล้ว!
หานสงหัวเราะเสียงดัง พร้อมกับยกชูกระจกจำภาพ!
ผู้ตรวจการแปดมีใบหน้าที่มีสีสันสดใสร่าเริง ราวกับว่าเปิดร้านย้อมสีผ้าอย่างไรอย่างนั้น
ดูเหมือนว่า ลู่ฝานในวันนี้ จะโด่งดังมีชื่อเสียงไปทั่วเมืองหลวงแล้ว! มีชื่อติดลำดับรายชื่อยังไม่ถือว่าเท่าไร เรื่องที่สามารถประลองเอาชนะนักบู๊ในอันดับรายชื่อได้ต่างหาก ที่ทำให้เขามีชื่อเสียงอย่างแท้จริง อีกทั้งตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด ลู่ฝานยังไม่ได้นำกระบี่ออกมาใช้เลย!
ฝุ่นควันจางหายไปจนหมด แสงสว่างก็หุบดับลงมา
ลู่ฝานยังคงยืนอยู่ตรงนั้น พร้อมกับปัดฝุ่นละอองบนร่างของเขา โดยแสดงออกทุกท่วงท่าอย่างเฉยเมยและไม่สะทกสะท้าน