เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 110 มารดาของเจ้าก้อนมอมแมมเฉลียวฉลาดนัก
“ต้าซือมิ่ง?” หยางเทียนชื่อเรียกอย่างไม่มั่นใจ แต่แล้วก็ไม่มีผู้ใดตอบรับ เขาจึง… เขาจึงยอมแล้ว
ไม่เช่นนั้นจะทำอย่างไรได้อีกเล่า
…
เยี่ยนหงชวนรออยู่ข้างล่างนานแล้วก็ยังคงไม่เห็นหยางเทียนชื่อปรากฏตัว ทำเอาเขาอดขมวดคิ้วไม่ได้ “หยางเทียนชื่อ หลบๆ ซ่อนๆ เช่นนี้ เพื่อสิ่งใดกัน”
หยางเทียนชื่อที่ไม่กล้าขานตอบกลับอยากจะพ่นคำหยาบใส่ว่า “ข้าก็ไม่อยากหลบๆ ซ่อนๆ มารดามันเช่นนี้หรอก ปัญหาคือต้าซือมิ่งอยู่ใกล้ๆ ข้า…” ไม่กล้าขยับโว้ย!
แต่เยี่ยนหงชวนไม่รู้ เขาอดพูดไม่ได้ว่า “ประสาท”
หยางเทียนชื่อ “…”
เขา… เขาจึงเงียบต่อไป
นี่จึงทำให้เยี่ยนชิงที่ตามเยี่ยนหงชวนมาอดถามขึ้นไม่ได้ว่า “ท่านปู่ หรือว่าผู้มาเยือนเป็นเจ้าเต่าเฒ่า”
“เจ้า…” หยางเทียนชื่อเกือบจะด่าคน แต่เขาก็อดกลั้นไว้ได้
เยี่ยนหงชวนขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดว่า “อาจจะเพราะช่วงสิบปีนี้ เขาฝึกวิชามหานินจาเต่าเทพ ว่ากันว่าเป็นวิชาลับสืบทอดโดยตงอี๋”
“มีวิชาลับเช่นนี้ด้วยหรือ” เยี่ยนชิงพูดอย่างรู้สึกได้ความรู้เพิ่ม “เช่นนั้นตอนนี้เราควรทำอย่างไร”
“ปล่อยเขาไว้เช่นนี้ก่อน เจ้าไปตรวจสอบดูว่ามีสิ่งอื่นใดผิดปกติอีกหรือไม่” เยี่ยนหงชวนพูดจบ เขาก็สำรวจไปรอบทิศ เมื่อมั่นใจว่าหยางเทียนชื่อฝึกวิชาลับนินจาเต่าเทพแล้ว เขาก็เก็บแผนที่จะอัญเชิญวิญญาณลงเงียบๆ
…
ในขณะเดียวกัน ฟิ้ว เม่ยเอ๋อร์ปรากฏตัวขึ้น นางอยู่เหนือสำนักชางอู๋แล้วเช่นกัน และพบว่าเมืองชางอู๋ถูกปิดล้อมไว้แล้ว!
และการปรากฏตัวอย่างฉับพลันของเม่ยเอ๋อร์ ย่อมดึงดูดความสนใจของต้าซือมิ่งราชสำนักท่านนั้นที่อยู่ที่นี่ เขาเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ “มารดาของเจ้าก้อนมอมแมมนั่น เฉลียวฉลาดนัก”
แต่เดิมเขาคิดว่าตนต้องออกแรงเสียเล็กน้อย ในเมื่อ… อืม… ไม่ว่าอย่างไร ก่อนหน้านี้เขาเคยจับเจ้าก้อนมอมแมมนั่นลงโคลนจริงๆ
ทว่าการปรากฏตัวของเม่ยเอ๋อร์ก็เพียงพอที่จะบอกว่า ถึงแม้ต้าซือมิ่งราชสำนักท่านนี้ไม่ออกแรง แผนการของสำนักคุนอู๋อาจจะไม่สามารถสำเร็จได้ แต่ว่า…
คลื่นพลังอากาศที่ปิดล้อมสำนักชางอู๋ไว้ บัดนี้ทำให้เม่ยเอ๋อร์รู้สึกยุ่งยาก “ให้ตาย! เหตุใดข้ามาช้าไปก้าวหนึ่งอีกแล้ว”
เม่ยเอ๋อร์รับรู้ว่า ค่ายกลปิดกั้นอากาศนี้เพิ่งสร้างขึ้นไม่นาน อีกทั้ง…
เม่ยเอ๋อร์ที่ส่งจิตสัมผัสออกไปก็พบหยางเทียนชื่อที่ถูกตรึงไว้กลางอากาศ ฝ่ายหลังเองก็รับรู้ว่า กลิ่นอายที่หน่วงเหนี่ยวเขาของต้าซือมิ่งนั้นมลายหายไปแล้ว?
“ต้า…” ครั้นหยางเทียนชื่อกำลังจะพูดอะไร
เม่ยเอ๋อร์ก็ปรากฏตัว มองไปที่ตาแก่คนนั้น และพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “มอบศาสตราเวทอวกาศมาเสียดีๆ !”
“เจ้าคือผู้ใด” หยางเทียนชื่อหายใจแรงอย่างระแวดระวัง เขาเองก็คิดไม่ถึงว่า สตรีหน้าตาธรรมดาตรงหน้าคนนี้จู่ๆ จะมาปรากฏตรงหน้าเขาได้!
เม่ยเอ๋อร์หมดความอดทน นางไม่อยากพูดมากความจึงปล่อยฝ่ามือไปที่หยางเทียนชื่อทันที!
“เจ้า…”
หยางเทียนชื่อถอยหลังด้วยความตกใจจนหน้าถอดสี
เนื่องจากฝ่ามือที่เม่ยเอ๋อร์ปล่อยออกไปนั้น มีรังสีโหดเหี้ยมราวกับอสุรีอันน่าสะพรึงกลัว เกิดเสียงดังประหลาด แซ่ดๆ กลางอากาศ เกินความคาดหมายของหยางเทียนชื่อมาก
พลังโหดเหี้ยมที่เฉียดผ่านหน้าอกของหยางเทียนชื่อยังทำให้เสื้อของเขาขาดในทันที และยังมีกลิ่นอายความดุร้ายอันน่าสะพรึงหลงเหลือ ทะลวงเข้าไปในเกราะเทียนกังขั้นถอดจิตอันแข็งแกร่งของเขาทันที ก่อนจะแทงเข้าไปในหัวใจของเขา!
“อั่ก…”
หยางเทียนชื่อกระอักเลือด สีหน้าซีดเผือด ความเร็วในการหลบหลีกกลับไวมากขึ้น และมีเสียงคำรามกึกก้องดังขึ้นข้างหลังเขาราวกับเสียงมายา
แม้เสียงเช่นนี้จะเบามากเพียงใดก็เพียงพอให้เม่ยเอ๋อร์ระวังตัว นางรีบเปล่งรังสีอสุรีสีดำสนิทอันโหดเหี้ยมออกมาทันที ทันใดนั้น…
สัตว์ประหลาดสีเลือดที่มีปีกยาวสองปีกก็โผล่กลางอากาศ! มันพุ่งเข้าใส่เม่ยเอ๋อร์อย่างรวดเร็ว และยังพ่นไฟลุกโชนที่มีกลิ่นคาวออกจากปาก
เพลิงไฟอันน่าสะพรึงก็มอดไหม้เข้าไปในสนามพลังอสุรีของเม่ยเอ๋อร์ มันสามารถทะลวงเข้าไปในแนวป้องกันอสุรีได้ และพุ่งเข้าหาเม่ยเอ๋อร์! แต่ฝ่ายหลังกลับถือดาบเล่มใหญ่ออกมา
จากนั้น ในขณะที่หยางเทียนชื่อยังตั้งสติไม่ได้นั้น เม่ยเอ๋อร์ก็ระเบิดพลังอำมหิตออกมา นางถีบตัวขึ้น ฟันดาบลงไปที่สัตว์ประหลาดที่แหวกออกมาจากกลางอากาศตัวนั้น!
ฉึบ!
“โฮก…”
คลื่นต่อสู้สั่นสะเทือนอันน่าสะพรึงซัดสาด พื้นดินแตกร้าวแยกออกเป็นสองฝั่งทันที ทว่าทั้งหมดนี้ยังไม่นับเป็นอะไร สิ่งที่ทำให้หยางเทียนชื่อหายใจไม่ออกคือ…
เคร้ง! ดาบเล่มใหญ่ที่ฟันลงไปบนมงกุฎวิญญาณสัตว์ร้ายของเขานั้น กลับไม่มีร่องรอยเสียหายเหมือนเจ้าของดาบเลย
“เป็นไปได้อย่างไร” หยางเทียนชื่อตกใจ “มงกุฎของสัตว์ประหลาดโอวปาซือ สามารถกัดกร่อนของวิเศษทุกสิ่งได้! นี่มัน…”
อย่าว่าแต่หยางเทียนชื่อที่ตกใจเลย แม้แต่สัตว์ประหลาดที่เขาเรียกว่าโอวปาซือ ดวงตาสีแดงคู่นั้นของมันก็ปรากฏความตระหนกเช่นกัน ทว่ามันมีไหวพริบมากกว่าหยางเทียนชื่อ มันพุ่งกรงเล็บออกไปทางมนุษย์ที่ฟันมงกฏของมัน ด้วยความเร็วปานสายฟ้าแลบ
แต่แล้ว…
ฟั่บ!
ฟั่บๆ !… ท่าต่อสู้มากมายที่สัตว์ประหลาดโอวปาซือปล่อยออกไปอย่างต่อเนื่องนั้น ถูกเม่ยเอ๋อร์ใช้ดาบเล่มใหญ่ฟันขาดหมด อีกทั้งนี่ถือว่าไม่เท่าไร สิ่งที่ทำให้หยางเทียนชื่อหวาดหวั่นคือ พลังการต่อสู้ของเม่ยเอ๋อร์ทั้งกระบวนการนี้ พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง! นี่มัน… ให้ตาย… หน้าชาไปเลย…
“เกิดอะไรขึ้น” หยางเทียนชื่อผู้นิ่งสงบได้ทุกสถานการณ์มานานหลายปีแล้วก็ไม่อาจทำใจให้สงบได้อีก เม่ยเอ๋อร์ที่กำลังต่อสู้อยู่พลันแยกพลังส่วนหนึ่งออกเป็นแสงสีรุ้งพุ่งไปทางทิศตะวันตก
เมื่อเม่ยเอ๋อร์สัมผัสได้ว่าศัตรูที่มานี้ไม่ธรรมดาจึงคิดจะส่งข่าวไปให้เยี่ยนอวี๋ ทว่าสัตว์ประหลาดที่สู้กับนางก็เหวี่ยงหางออกไปทางแสงสีรุ้งที่พุ่งหายไปด้วยความไวแสง
แต่เม่ยเอ๋อร์ที่ระวังตัวไว้แต่แรกอยู่แล้ว นางพลันปรากฏตัวหน้าแสงสีรุ้งราวกับผีสาง พร้อมกับมือที่จับหางของสัตว์ประหลาดโอวปาซือไว้หมับ ขัดขวางการกวาดล้างของมันในทันที!
แต่แล้ว…
ฟิ้ว หยางเทียนชื่อที่แวบออกไป จับแสงสีรุ้งนั้นไว้
กรรร!
ในขณะเดียวกัน สัตว์ประหลาดโอวปาซือก็พ่นไฟไปทางเม่ยเอ๋อร์ราวกับหินหลอมเหลว!
คนหนึ่งคนปะทะกับสัตว์ประหลาดหนึ่งตนอย่างดุเดือด น่าเสียดาย…
“ถอยไปซะ!”
ดาบเล่มใหญ่ที่เหวี่ยงออกมาจากข้างหลังเม่ยเอ๋อร์พุ่งเข้าหาหยางเทียนชื่อในชั่วเวลาสั้นๆ สับลงไปทางมือสุนัขของหยางเทียนชื่อคู่นั้นทันที รวดเร็วและรุนแรงประหนึ่งผีสาง
ฉับ!
…