เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 127 นี่คือความแตกต่างที่แท้จริง
เนื่องจากตัวแปรนี้ เยี่ยนหงชวนจึงคิดว่ากองกำลังที่มาน่าจะเป็นกองกำลังพันธมิตร เนื่องจากเท่าที่เขารู้ จดหมายของเหลนสาวถูกส่งไปที่สำนักหมอหลวงตั้งแต่หลายวันก่อนแล้ว
แต่แล้ว เมื่อกองกำลังกลุ่มนี้เข้ามาใกล้ด้วยเวลาอันรวดเร็ว เยี่ยนหงชวนจึงจำเป็นต้องพูดขึ้นว่า “กองหนุนสองหมื่นนายของสำนักคุนอู๋มาแล้ว”
“ว่าไงนะ?” ประมุขหอสัตว์บรรพกาลชะงักงัน!
สีหน้าเยี่ยนชิงเคร่งขรึมทันที เขาคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าสำนักคุนอู๋ยังมีกองหนุนมาเสริมอีก!?
“กองกำลังใต้บังคับบัญชาหนึ่งหมื่นนาย สามยอดผู้แข็งแกร่งขั้นถอดจิต และอีกหนึ่งผู้อาวุโสที่เป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกัน สำนักคุนอู๋ยังจะส่งกองหนุนมาอีกหรือ” ประมุขหอโอสถไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีแล้ว
ประมุขหออัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ที่เงียบมาตลอดก็อดพูดขึ้นไม่ได้ว่า “มองพวกเราไว้สูงส่งเหลือเกิน”
“เป็นเกียรตินัก…” เหล่าชั้นผู้ใหญ่สำนักชางอู๋ต่างรู้สึกจุก
เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า เจ็ดสำนักใหญ่ของต้าซย่าอันได้แก่ สำนักคุนอู๋ สำนักเหยาไถเซียน สำนักชิงเหลียน สำนักเนี่ยถาน สำนักจวินจื่อ สำนักชางอู๋ และลัทธิเซิ่งเหลียน เหตุผลที่สำนักชางอู๋ไม่ได้อยู่รั้งท้าย เป็นเพราะมีลัทธิเซิ่งเหลียนที่ถูกกีดกัน ดังนั้นหากว่ากันตามความสามารถของสำนักแล้ว ความสามารถของสำนักชางอู๋จัดอยู่ในสำนักที่ด้อยที่สุด ส่วนสำนักคุนอู๋แข็งแกร่งที่สุด แม้แต่ลูกศิษย์นอกสำนักของสำนักคุนอู๋ยังแข็งแกร่งกว่ากองกำลังใต้บังคับบัญชาของสำนักชางอู๋เสียด้วยซ้ำ!
หากว่ากันตามกองกำลังพิทักษ์สำนักแล้ว ตามหลักแล้วผู้แข็งแกร่งขั้นถอดจิตสามคนและทหารใต้บังคับบัญชาหนึ่งหมื่นนายของสำนักคุนอู๋สามารถทำลายล้างสำนักชางอู๋ได้แล้ว
ในความเป็นจริงแล้ว หากหงส์เพลิงนั้นไม่ปรากฏตัว สำนักชางอู๋ในบัดนี้คงมีเพียงจุดจบเดียวคือสูญสิ้น สำนักชางอู๋คงมิอาจดำรงอยู่ในต้าซย่าได้อีกแล้ว
นี่คือความแตกต่างที่แท้จริงของสองสำนัก…
ทว่าเพราะความแตกต่างถึงเพียงนี้ สำนักคุนอู๋ยังส่งกำลังเสริมมาอีกสองหมื่นนาย! จะให้เหล่าชั้นผู้ใหญ่สำนักชางอู๋ไม่รู้สึกจุกได้อย่างไร แต่ไม่ว่าชั้นผู้ใหญ่สำนักชางอู๋จะตะลึงงันอย่างไร กองหนุนคุนอู๋สองหมื่นนายที่กรูกันเข้ามาก็ปรากฏตัวเหนือสำนักชางอู๋แล้ว
ฟิ้ว!
ฟิ้ว!
…
กองหนุนคุนอู๋ที่มาถึงทีละกลุ่มสองกลุ่ม ถึงแม้พวกเขามิได้เหินนภามาทีละคน แต่ก็เพียงพอที่จะสะเทือนสำนักชางอู๋ไปทั้งหมดแล้ว
เนื่องจากระดับชั้นฌานตบะของพวกเขายังอ่อนกว่ากองกำลังใต้บังคับบัญชาจึงต้องพึ่งค่ายกลเคลื่อนเวหาหรือก็คือค่ายกลเคลื่อนย้ายกำลังพลอันเป็นเอกลักษณ์ของสำนักคุนอู๋
“ผ่านไปหลายปี ในที่สุดสำนักคุนอู๋ก็สร้างค่ายกลที่สามารถเคลื่อยย้ายกองกำลังได้ ในครานั้นค่ายกลนี้เป็นเพียงจินตนาการของสำนักอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์สำนักคุนอู๋เท่านั้น” เยี่ยนหงชวนส่ายศีรษะพลางถอนหายใจ
ตั้งแต่กลับมาจากการเก็บตัว เยี่ยนหงชวนเคยคิดว่าเขามองสำนักคุนอู๋ไว้สูงส่งมากแล้ว แต่การมาถึงของกองหนุนสำนักคุนอู๋ก็ยิ่งตอกย้ำเขาว่าฝีมือของพวกเขาห่างไกลกันจนเกินไป สำนักคุนอู๋เป็นสำนักที่ยิ่งใหญ่และทรงพลังจริงๆ!
หลายปีมานี้ สำนักคุนอู๋ไม่เคยตกอยู่ใต้อำนาจใคร และยังเป็นผู้นำในทุกๆ ด้านมาโดยตลอด
เรื่องนี้ทำให้ประมุขหออันเชิญศักดิ์สิทธิ์ที่เคย ‘แลกเปลี่ยนฝีมือ’ กับคุนอู๋อดถอนหายใจและพูดขึ้นไม่ได้ว่า “ใช่แล้ว ถึงแม้ยังไม่ค่อยเสถียรนักและยังสูญเสียทรัพยากรจำนวนมาก แต่พวกเขาก็ทำสำเร็จแล้วจริงๆ”
ความรู้สึกเช่นนี้ของผู้เฒ่าสองคนทำให้เยี่ยนชิงรู้สึกแปลกประหลาดนัก “ไม่ใช่แล้ว… ท่านปู่ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาชื่นชมความแข็งแกร่งของศัตรูนะ”
“ส่งเสริมให้ผู้อื่นมีอำนาจ แต่กลับดูถูกความสามารถของตนเองสินะ” ประมุขหอสัตว์บรรพกาลพึมพำ และคิดไปเองว่าไม่มีใครได้ยิน
ทว่าเยี่ยนหงชวนได้ยินแล้ว “พวกเจ้าสองคนพูดมากจริงๆ”
ประมุขหอสัตว์บรรพกาลเงียบทันที
เยี่ยนชิงถูกตำหนิจนเคยชินแล้ว เขาพูดต่อไปว่า “ท่านปู่ ตอนนี้เราไม่สามารถส่งกองกำลังไปได้แล้ว แต่ให้อยู่เฉยๆ เช่นนี้ก็ไม่ถูกหรือไม่ หากคนเหล่านี้สร้างค่ายกลทะลวงอากาศธาตุสองลักษณ์อีกครั้ง สำนักของเราคงมิอาจต้านทานไหว”
เรื่องนี้ก็เป็นสิ่งที่เหล่าชั้นผู้ใหญ่สำนักชางอู๋กังวล พวกเขาก็อยากรู้เช่นกันว่าต่อจากนี้พวกเขาควรทำอย่างไร แล้วสำนักจะต้านทานการโจมตีระลอกใหม่ของสำนักคุนอู๋ได้หรือไม่
เยี่ยนหงชวนเงียบไปครู่หนึ่ง เมื่อครั้นกำลังจะตอบ… เม่ยเอ๋อร์ก็ชิงตอบว่า “แม้พวกเขาจะมาอีกสามหมื่นนายก็มิอาจทำลายเกราะคุ้มกันในตอนนี้ได้”
“จริงหรือ” ประมุขหอราชทัณฑ์ถามกลับทันที
เม่ยเอ๋อร์ไม่สนใจเขา เพราะนางรู้ว่าเจ้าหมอนี่เคยยุยงนายท่านให้คุณหนูใหญ่แต่งงานกับเจ้าเศษสวะกู้หยวนเหิงคนนั้น!
“เจ้ามั่นใจเช่นนี้เลยหรือ” เยี่ยนหงชวนกลับรู้สึกประหลาดใจ เพราะถึงแม้เขาจะสัมผัสได้ว่าเกราะคุ้มกันที่เพิ่งสร้างใหม่นั้นแข็งแรงมาก แต่ก็รู้ว่ากองกำลังของสำนักคุนอู๋สามารถรวมพลังค่ายกลทะลวงอากาศธาตุสองลักษณ์มากกว่าแปดเท่า
ในเมื่อค่ายกลทะลวงอากาศธาตุสองลักษณ์ไม่ใช่ค่ายกลที่เมื่อมีจำนวนคนเพิ่มขึ้นหนึ่งคน ความสามารถของมันก็จะเพิ่มขึ้นหนึ่งเท่า เท่าที่เยี่ยนหงชวนรู้ ค่ายกลนี้จำนวนคนมากเท่าไรก็ยิ่งน่ากลัว! เมื่อมีกองกำลังเพิ่มขึ้นเท่าตัว ความแข็งแกร่งของค่ายกลก็จะเพิ่มขึ้นสิบเท่า! เมื่อกำลังเพิ่มขึ้นสองเท่า ความแข็งแกร่งของค่ายกลย่อมเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสี่สิบเท่า! เมื่อคำนวณเช่นนี้… ค่ายกลนี้จึงเหมือนกับมีพลังไร้ขีดจำกัด
กองหนุนที่ตามมาในตอนนี้ ถึงแม้ไม่ใช่กองกำลังใต้บังคับบัญชา แต่ก็เป็นกองหนุนชั้นยอดที่ประกอบขึ้นโดยเครือทหารสายตรงและสายรองของสำนักคุนอู๋ ดังนั้น จากการประเมินของเยี่ยนหงชวน เมื่อตัดความสูญเสียก่อนหน้านี้ออกแล้ว สุดท้ายพวกเขายังคงสามารถเพิ่มกำลังถึงแปดเท่า
ทว่าถึงแม้เยี่ยนหงชวนจะประเมินสถานการณ์ให้เม่ยเอ๋อร์ฟังแล้ว ฝ่ายหลังยังคงพูดอย่างแน่วแน่ว่า “ทำลายมิได้ก็คือทำลายมิได้เจ้าค่ะ”
“แล้วหงส์เพลิงที่เสริมความแข็งแกร่งให้เกราะคุ้มกันของเรามาจากไหน แล้วไปไหนแล้ว มันจะกลับมาอีกหรือไม่” เยี่ยนชิงยิงคำถามสามคำถามในคราเดียว
เม่ยเอ๋อร์เชิดคางขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะพูดว่า “แน่นอนว่าคุณหนูใหญ่เป็นผู้อัญเชิญมา เพียงแค่คุณหนูใหญ่ต้องการ มันถูกเรียกมาได้ทุกเมื่อ”
“…ว่าไงนะ”
“อะไรนะ”
เหล่าชั้นผู้ใหญ่สำนักชางอู๋ตะลึงงัน
หวีด…
ทันใดนั้นเองเสียงร้องคล้ายเสียงหงส์ก็ดังขึ้น ก่อนจะปรากฏตัวเหนือบริเวณปรมาจารย์วิญญาณของสำนักชางอู๋อีกครั้ง