เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 133 แว้งกัดอีกครั้ง หอมหวานอีกครา ตอนที่ 134 ตีชิงตามไฟ
- Home
- เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน
- ตอนที่ 133 แว้งกัดอีกครั้ง หอมหวานอีกครา ตอนที่ 134 ตีชิงตามไฟ
ตอนที่ 133 แว้งกัดอีกครั้ง หอมหวานอีกครา!
มีควันน่าสงสัยลอยออกมาจากปลายหนวดของผีเสื้อราตรีแดนนรกไม่ขาดสาย ดูแล้วเหมือนกับว่าหนวดของมันกำลังถูกแผดเผาจนเกิดควัน
“นี่มัน…” อินหลิวเฟิงพูดอย่างเหลือเชื่อว่า “เกราะคุ้มกันชางอู๋โจมตีกลับแล้วหรือ”
“น่าจะใช่ เจ้าดูดีๆ สิ ปลายหนวดเหล่านั้นราวกับมีแสงยันต์ระยิบระยับ” กู้หยวนหมิงเป็นคนช่างสังเกต เขารู้และเข้าใจดีว่าทั้งหมดนี้เป็นผีมือของคุณหนูใหญ่
เริ่มแรกนางเสริมความแข็งแกร่งให้วิหคสุริยัน จากนั้นก็ใช้พลังของวิหคสุริยันแปลงอักษรยันต์ลึกลับนับพันหมื่นตัวออกมา เพื่อโจมตีกลับโดยใช้อักษรยันต์ทรงพลังและลี้ลับในค่ายกลอย่างไร้ร่องรอย เฉกเช่นเมื่อครั้งต่อสู้กับอสูรต้าฮวงเหล่านั้น เมื่อผู้ถูกโจมตีพบความผิดปกติก็พลาดท่าเสียแล้ว!
อสูรต้าฮวงในครานั้นเป็นอย่างไร ผีเสื้อราตรีแดนนรกในบัดนี้ก็เป็นเช่นนั้น!
“วี้ดๆ!”
ผีเสื้อราตรีแดนนรกที่เพิ่งตั้งสติได้ มันก็กระพือปีกทีหนึ่งทำท่าเตรียมจะหนีแล้ว ทว่าผีเสื้อราตรีแดนนรกที่พบว่าตนมิอาจชนะได้ก็ไม่สามารถหนีไปได้แล้ว เพราะว่าเกราะคุ้มกันเมืองชางอู๋ยึดจับหนวดของมันทั้งหมดไว้ราวกับเต็มไปด้วยแรงยึดเกาะอันทรงพลัง จนมันไม่สามารถบินขึ้นไปได้!
“ว่าแล้ว!” กู้หยวนหมิงเผยสีหน้า ‘ข้าว่าแล้วเชียว’ ทว่า…
ผีเสื้อราตรีแดนนรกก็ไม่รีรอ เมื่อมันพบว่าตนประสบปัญหาก็แผดเสียงแหลมและร้องโหยหวนยิ่งกว่าเดิมออกมา ส่วนหนวดของมันก็ถูก ‘สละทิ้ง’ ในชั่วขณะเดียวกัน
เมื่อหนวดทั้งหมดของมันหักคาอยู่บนเกราะคุ้มกันจนเกิดเสียงดัง ปัง! แล้ว ผีเสื้อราตรีแดนนรกก็บินหนีไปในทันที
เสียงกระพือปีกดัง ฟึ่บๆๆ อย่างรวดเร็วนั้น เรียกได้ว่า บินปร๋อ…
ผ่านไปเพียงไม่นาน ผีเสื้อราตรีแดนนรกตัวใหญ่ก็บินหายวับไปชานเมืองทางทิศเหนือ กลับไปที่พำนักของสำนักคุนอู๋ ทำเอากองทัพคุนอู๋ที่ยังไม่ลืมหายนะก่อนหน้าตื่นตระหนกกันไปหมด “มัน… เหตุใดมันจึงบินกลับมาเล่า”
“ตายแล้ว! ตายแล้ว…”
“หนีเร็ว! มันอาจจะแว้งกัดพวกเรา!”
ไม่มีผู้ใดลืมตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าลงได้ ไม่มีใครอยากถูกผีเสื้อราตรีแดนนรกตัวนี้กลืนกินกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อน แม้แต่หยางชีฮั่นเองก็รีบสั่งการว่า “รีบสร้างเกราะคุ้มกันเร็วเข้า!”
แม้หยางชีฮั่นไม่รู้ ‘อุบัติเหตุแว้งกัด’ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้อันที่จริงมิใช่อุบัติเหตุ แต่เขาเป็นแม่ทัพที่รับผิดชอบคนหนึ่ง ดังนั้นเขาจึงสร้างเกราะปกป้องทันที
ส่วนหยางเทียนชื่อ… เขาเพิ่งจะตั้งสติได้!
“เป็นไปได้อย่างไร” หยางเทียนชื่อที่ยังตกอยู่ในความตะลึงนั้น เขาก็สงสัยว่าสิ่งที่เขาเผชิญมาทั้งหมดในวันนี้เป็นเพียงฝันร้าย! เพราะว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้ไม่มีทางเป็นไปได้
ปู่เย่าเหลียนกลับมีสติมากกว่า เขาชูถ้วยจ่านเพลิงสีม่วงขึ้น ก่อนจะตะโกนขึ้นว่า “เหล่าวั่ว ช่วยข้าเปิดค่ายกลอัสนีเพลิงพสุธาเร็วเข้า!”
“ได้!” วั่วปู้เหลยรีบชูค้อนอัสนีขึ้นพร้อมกับพุ่งโจมตีเข้าไปที่ผีเสื้อราตรีแดนนรก เขาเองก็กลัวว่าไอ้ตัวน่ากลัวนี่จะกลืนกินพวกเขา!
ไม่มีผู้ใดรู้ดีกว่าเหล่าชั้นผู้ใหญ่คุนอู๋ว่าวิญญาณอสูรนั้นน่ากลัวเพียงใด เมื่อใดที่มันเสียสติ เมื่อนั้นคือหายนะ!
แต่แล้ว…
“อย่า!”
หยางเทียนชื่อที่เรียกสติกลับมาได้กลับตะโกนเสียงดัง “อย่าโจมตีมัน! ไม่เช่นนั้นมันจะเห็นพวกเราเป็นศัตรู และจะกลืนกินพวกเราทุกคนจนหมดแล้วจึงจากไป!”
คำเตือนนี้ทำให้เหล่าชั้นผู้น้อยใหญ่กองทัพชางอู๋ตระหนกตกใจ ทว่าน่าเสียดาย…
ปัง!
สายฟ้าที่ผ่ากลางอากาศและเพลิงไฟสีม่วงที่ระเบิดออกก็ทำให้ผีเสื้อราตรีแดนนรกที่บินกลับมาด้วยความหวาดกลัวนั้น ตัวของมันระเบิดจนเกิดควันโขมงไปทั่ว!
ในครานี้เอง… “ทำอย่างไรดี”
วั่วปู้เหลยและปู่เย่าเหลียนถามหยางเทียนชื่อด้วยอาการขนหัวลุก พวกเขาไม่รู้จริงๆ ว่าไม่ควรโจมตีผีเสื้อราตรีแดนนรก พวกเขารู้เพียงว่าเจ้าตัวนี้น่ากลัวมาก แล้วตอนนี้ควรจบอย่างไรดี
หยางเทียนชื่อเองก็ไม่รู้ ใบหน้าชราของเขาแสดงความหวาดกลัวมาก “หวังเพียงว่าการโจมตีของสำนักชางอู๋จะรุนแรงต่อมันมากพอจนมันไม่เหลือเรี่ยวแรงแล้ว”
“แล้วมันเป็นเช่นนั้นหรือไม่” ปู่เย่าเหลียนแทบจะสั่นสะท้านไปทั้งตัว เพราะอันที่จริงเขาสัมผัสได้ถึงความโมโหของผีเสื้อราตรีแดนนรกที่ควันลอยโขมงทั้งตัวแล้ว! ทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่าความหวังของประมุขสำนักสูงสุดอาจต้องสูญสิ้นลงแล้ว
และความจริงที่เกิดขึ้นคือ…
“วี้ด!”
ตอนที่ 134 ตีชิงตามไฟ
ผีเสื้อราตรีแดนนรกพลันแผดเสียงแหลมแสบแก้วหู หนวดของมันงอกขึ้นมาใหม่นับไม่ถ้วน มันจู่โจมเข้าไปยังกองทัพคุนอู๋อย่างรวดเร็ว!
ฟู่…
อสูรผีเสื้อราตรีใช้หนวดเสียบกองหนุนคุนอู๋ที่ยังไม่ทันได้ฟื้นตัวเป็นไม้ๆและกลืนกินพวกเขา สถานการณ์อลหม่านไปหมด
“ช่วยด้วย!”
“วิ่งเร็วเข้า!”
“หนีเร็ว…” ทหารคุนอู๋วุ่นวายไปหมด พวกเขาไม่สามารถรักษาระเบียบไว้ได้อีกแล้ว ถึงแม้หยางชีฮั่นพยายามจัดระเบียบอีกครั้ง แต่ก็มิอาจทำได้แล้ว
ในเมื่อกองทัพคุนอู๋ก็ยังไม่ฟื้นตัวดี และยังมีความหลังเลวร้ายกับผีเสื้อราตรีแดนนรก เมื่อทุกคนเห็นมันแว้งกัดต่างก็แตกตื่นโดยสัญชาติญาณ และก็ทำได้เพียงหนีเอาตัวรอดเท่านั้น
เมื่อเห็นกองกำลังสำนักคุนอู๋กำลังจะถูกผีเสื้อราตรีแดนนรกกลืนกินหมดแล้ว เหล่าชั้นผู้ใหญ่สำนักชางอู๋ที่อยู่ไกลออกไปต่างก็ปรบมือ “ทำได้ดี!”
“ฆ่าทหารคุนอู๋ให้สิ้นเสีย! คิดร้ายดีนัก กรรมตามสนอง! สมน้ำหน้า!” ประมุขหอสัตว์บรรพกาลรู้สึกดีใจจนลืมมองเยี่ยนอวี๋แล้ว
เยี่ยนชิงก็ตื้นตันใจนัก! ทว่า…
“ระเบิด!”
ท่ามกลางความวุ่นวายในหมู่กองทัพคุนอู๋ เสียงตะคอกอย่างเดือดดาลก็ดังขึ้นพร้อมค้อนขนาดมหึมาปรากฏกลางอากาศ ก่อนจะสะเทือนจนเกิดฟ้าแลบไปทั่ว
“บ้าเอ๊ย!” เยี่ยนชิงอดพูดคำหยาบไม่ได้ “พวกมันจะทำลายศาสตราเวทในตำนานหรือ!?” มีเงินมากเช่นนั้นเลยหรือ บทจะทำลายก็ทำลายเลยหรือ…
มองกลับมาที่สำนักชางอู๋ของพวกเขา แม้แต่ศาสตราเวทสักชิ้นก็ไม่ได้ ช่างน่าอายจริงๆ เยี่ยนชิงมองไปที่ทะเลอสนีบาตทางชานเมืองอย่างคนขี้อิจฉา
ปัง!
หลังจากที่ค้อนขนาดมหึมาทางฝั่งนั้นขยายตัวขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัด มันก็ระเบิดใส่ผีเสื่อราตรีแดนนรกที่คลุ้มคลั่งตัวนั้นทันที เสียงระเบิดดั่งสนั่นจนสะเทือนพื้นดินและท้องฟ้า ตามด้วยเสียงดัง ครืน
…
เสียงฟ้าร้องที่ดังครืนและเสียงฟ้าผ่าดังเปรี้ยงปกคลุมเมืองชางอู๋ไว้ ทำเอาเหล่าชั้นผู้น้อยใหญ่สำนักชางอู๋มองไม่เห็นสถานการณ์ข้างนอกแล้ว แต่คนของสำนักชางอู๋ต่างสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า เมืองที่พวกเขาอยู่กำลังสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง มันโคลงเคลงไปมาราวกับเรือใบที่กำลังพยายามทรงตัวอยู่บนยอดคลื่น หากไม่ใช่เพราะเกราะคุ้มกันที่ปกป้องไว้ เมืองชางอู๋คงถูกซัดกลายเป็นซากปรักหักพังแล้ว…
“นี่หรืออิทธิฤทธิ์ของศาสตราเวทในตำนาน?” ประมุขหอสัตว์บรรพกาลเงยหน้ามองแสงสายฟ้าที่ปกคลุมเมืองชางอู๋ด้วยสายตาอิจฉา ช่างน่าอิจฉาจริงๆ…
“ค้อนอัสนีมิใช่ศาสตราเวทธรรมดา ถึงแม้จะอยู่ในสำนักคุนอู๋ แต่ก็ถือว่าเป็นศาสตราเวทที่มีความแข็งแกร่งระดับปรมาจารย์แล้ว พวกเขายังยอมสละมันทิ้งได้” กู้หยวนหมิงพูดได้เพียงว่าผู้พิทักษ์สายฟ้าสำนักคุนอู๋เด็ดเดี่ยวจริงๆ!
วั่วปู้เหลยที่ถูก ‘ชมเชย’ นั้น หัวใจของเขาเลือดไหลซิบ ค้อนอัสนีเป็นศาสตราเวทที่สืบทอดมาจากสายเลือดธาตุสายฟ้า บัดนี้กลับถูกเขาทำลายทิ้งเสียแล้ว!
เขา… เขาเจ็บปวดจนแทบจะหายใจไม่ได้!
ทว่าการเสียสละของวั่วปู้เหลยเห็นผลอย่างชัดเจน! ผีเสื้อราตรีแดนนรกถูกระเบิดจนกลายเป็นกลุ่มควันดำ ดูเหมือนกับว่าจะสลายหายไปแล้ว
“ไม่สิ!” หยางเทียนชื่อกลับพูดอย่างตึงเครียดว่า “เหล่าปู่ รีบใช้ถ้วยจ่านเพลิงสีม่วงระงับหมอกดำนั่น อสูรผีเสื้อราตรียังไม่จากไปอย่างสิ้นเชิง!”
“อะไรนะ!” ปู่เย่าเหลียนสะดุ้งโหยง เขารีบนำถ้วยจ่านเพลิงสีม่วงออกมาและผนึกออกไป ทว่าก็สายไปเสียแล้ว ไอ้ผีบ้านั่นออกมาอีกแล้ว
ท้ายที่สุด… เมื่อถ้วยจ่านเพลิงสีม่วงระเบิดเป็นดอกไม้ไฟเจิดจรัสแผดเผาท่ามกลางหมอกดำ
“วี้ด!”
เสียงร้องโหยหวนอันน่าสะพรึงก็ดังออกมาจากกลุ่มหมอกดำ ทำเอาวั่วปู้เหลยที่เพิ่งจะรู้สึกโล่งอกไปก็แทบจะกระโดดขึ้นมา!
มารดามันเถอะ! จะจบได้หรือยัง!
ให้ตายเถอะ…
โชคดีที่พลังของถ้วยจ่านเพลิงสีม่วงทำให้ ‘เศษ’ กลุ่มหมอกที่ไม่ยอมจากไปนั่นก็ถูกแผดเผาจนค่อยๆสลายไปในที่สุด
“วี้ด!” ผีเสื้อราตรีแดนนรกกรีดร้องอย่างไม่ยินยอม มันส่งเสียงโหยหวนไปทางหยางเทียนชื่อราวกับมีความแค้นไม่สิ้นสุดก่อนที่หมอกดำจะสลายจากไป หยางเทียนชื่อและอีกสองคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์คับขันได้ยินดังนั้นก็รู้สึกขนหัวลุกชัน พวกเขาไม่ต้องคิดก็รู้ว่า ผีเสื้อราตรีแดนนรกตนนี้คิดแค้นผูกพยาบาทกับพวกเขาแล้ว
ทว่าไม่ว่าอย่างไร เจ้าผีบ้าตัวนี้ก็ถูกส่งกลับไปแล้ว ขอเพียงพวกเขาไม่อัญเชิญมันออกมาอีกในวันข้างหน้า มันก็ไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้!
เมื่อคิดได้เช่นนี้ หยางเทียนชื่อและคนอื่นๆ ก็ถอนหายใจโล่งอก ปู่เย่าเหลียนก็กำจัดหมอกดำที่เหลืออยู่น้อยนิดจนหมดสิ้น เขากลัวจริงๆ…
แซ่ดๆ เสียงเผาไหม้ก็ทำให้กองทัพคุนอู๋สงบลงมาก
การกวาดล้างของผีเสื้อราตรีแดนนรกเมื่อครู่นี้ทำให้ทหารเกือบครึ่งหนึ่งถูกกลืนกินไป สิ่งนี้ทำให้หยางชีฮั่นที่ยังไม่อาจสงบสติอารมณ์ได้รู้สึกเจ็บปวดนัก! เพราะแต่เดิมสามารถหลีกเลี่ยงการสูญเสียเช่นนี้ได้ ทว่า ความทรมานของกองทัพคุนอู๋ยังไม่จบเพียงเท่านี้
…
ฟิ้ว!
ยันต์ประกายสีม่วงดำที่จู่ๆ ปรากฏกลางอากาศเหนือถ้วยจ่านเพลิงสีม่วง ในชั่วขณะที่มันวาบหายก็พันถ้วยจ่านเพลิงสีม่วงไว้รอบแล้ว
นี่มัน…
“อะไรกัน!”
ปู่เย่าเหลียนตื่นตกใจ เขารีบสื่อพลังจิตเพื่อเก็บถ้วยจ่านเพลิงสีม่วงกลับมา!
แต่แล้ว…
หึ่งๆ ถ้วยจ่านเพลิงสีม่วงที่ขยับกลับไม่ได้ถูกปู่เย่าเหลียนเก็บกลับไป มันบินไปทางเมืองชางอู่ด้วยความรวดเร็วแล้ว…