เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 222 เจ้าดูสิว่าลูกเจ้าเหมือนใคร
กรรร…
เสียงคำรามโหดเหี้ยมราวกับราชาปีศาจดังขึ้นจากข้างใต้ ‘ครอบครัว’ เยี่ยนอวี๋ก่อนจะซัดเอาเกลียวคลื่นยักษ์สีเขียวเข้มขึ้นมาบริเวณตำแหน่งที่แต่เดิม ‘ครอบครัว’ เยี่ยนอวี๋อยู่ จนกลายเป็นกระแสน้ำวนปั่นป่วน
หากไม่ใช่เพราะเยี่ยนอวี๋และต้าซือมิ่งไหวตัวทัน เกรงว่าพวกเขาคงถูกกลืนหายไปแล้ว
แน่นอนว่าต้าซือมิ่งที่ไม่ทันได้โอบแม่ลูกไว้ก็ได้แต่หวังให้ปฐมราชินีเยี่ยนจะช้าลงกว่านี้ เปิดโอกาสให้เขาบ้าง
ทว่าปฐมราชินีเยี่ยนไม่ทราบสิ่งเหล่านี้เลย สายตาของนางเอาแต่จ้องมองกระแสน้ำวนที่ปั่นป่วน “ไม่ทันแล้วหรือ เอ่อ…” เยี่ยนอวี๋หันศีรษะไปมองต้าซือมิ่ง กำลังจะบอกว่าต้องเริ่มทำการชำระล้างเดี๋ยวนี้
ต้าซือมิ่งเดินเข้าใกล้พูดว่า “หรงอี้ ถ้าเป็นเจ้า เรียกชื่อข้าก็ได้”
“อืม” เยี่ยนอวี๋ไม่คุ้นชินกับการอยู่ใกล้ผู้คนมากนัก นางจึงก้าวถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว “ต้าซือมิ่งหรง เจ้าสามารถยั้งร่างมังกรของเสี่ยวอิงได้เมื่อใด”
“ตอนนี้” ต้าซือมิ่งหรงที่เดินเข้าใกล้อีกครั้ง เขายื่นมือไปข้างหน้า “ส่งเสี่ยวเป่าให้ข้า ข้าช่วยดูแลให้ได้”
“มิต้อง!” เยี่ยนอวี๋ปฏิเสธทันควัน นางกอดเจ้าตัวน้อยไว้แน่นกว่าเดิม!
ต้าซือมิ่งทำได้เพียงเก็บมือกลับไปเงียบๆ “เช่นนั้นเจ้าขึ้นไปรอข้างบนเถิด เมื่อข้าเสร็จแล้วเจ้าค่อยลงมา”
“ได้” ครั้งนี้เยี่ยนอวี๋มิได้ปฏิเสธ นางหายวับขึ้นไปทันที
เหลือเพียงต้าซือมิ่งคนเดียว เขากุมขมับอยู่ที่เดิม “เฮ้อ” เขาไปขัดใจนางตั้งแต่เมื่อใดกัน ทำเอาเขาต้องรู้สึกประหม่าตลอดเวลาเช่นนี้… เขาไม่เคยรังแกนางเสียหน่อยนี่
กรรร…
ขณะที่ต้าซือมิ่งกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ‘ปีศาจเถาวัลย์’ นั่นก็พุ่งมาจะกลืนกินเขา
“ไสหัวไปซะ”
ต้าซือมิ่งที่หมดความอดทนซัดฝ่ามือไปที่กระแสน้ำวนก่อนจะหายวับไปหา ‘ปะการัง’ นั่น
ในขณะเดียวกัน เยี่ยนอวี๋ก็โผล่ออกมาเหนือน้ำ ‘เถาวัลย์’ ยักษ์นับไม่ถ้วนยังตามหลังนางมา มันต้องการดึงนางกลับไปใต้น้ำ จนเกิดเป็นคลื่นลูกใหญ่
กระบี่ไท่ชางฟันเถาวัลย์เหล่านั้นทิ้ง มันปกป้องเจ้านายโดยที่ไม่ต้องรอให้เจ้านายสั่ง หากไม่ใช่เพราะเยี่ยนอวี๋บอกให้มันยั้งมือ มันคงสังหารไปถึงศูนย์รวมของปีศาจตัวนี้แล้ว
“ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวอิง จึงถูกทรมานถึงเพียงนี้” เยี่ยนอวี๋ลูบศีรษะโล้นน้อยๆ ของเด็กน้อยพลางมองเถาวัลย์เหล่านั้นที่เลื้อยพันกันบนแม่น้ำเย่ว์หมิง
ภายใต้แม่น้ำที่ไหลหลาก เถาวัลย์ที่แหวกว่ายในน้ำราวกับปีศาจแม่น้ำยักษ์ มันส่งกลิ่นเหม็นคาวและชั่วร้าย ทว่านอกจากเยี่ยนอวี๋แล้วก็ไม่มีผู้ใดรู้ว่าแท้จริงแล้วรยางค์เหล่านี้ก็คือมังกรที่แท้จริงหรืออิงหลงโบราณบนสวรรค์เก้าชั้นฟ้า เริ่มแรกมันถูกตัดปีกไป จากนั้นถูกแยกพลังวิญญาณและร่างออกจากัน ก่อนจะถูกทำให้กลายเป็นปีศาจ สร้างหายนะแก่ต้าซย่า เจ้าคนที่อยู่เบื้องหลังนี้…
“ตกนรกสิบแปดขุม ทุกข์ทรมานด้วยกรรมที่ตนกระทำ มิอาจหลุดพ้นตลอดกาล!” เยี่ยนอวี๋จ้องไปในน้ำอย่างเยือกเย็น รอบตัวนางแผ่ซ่านพลังศักดิ์สิทธิ์ไปทั่ว
แม้ว่านางจะตายไปแล้ว แม้ว่านางจะยังไม่ฟื้นตัวดี ทว่าเยี่ยนอวี๋ในฐานะที่เป็นปฐมราชินีผู้สร้างโลกย่อมมีรังสีผู้สูงส่งอันเป็นเอกลักษณ์ทั้งบนโลกและสวรรค์ ทำให้เถาวัลย์ที่เลื้อยพันกันใต้น้ำชะงักงันอย่างเห็นได้ชัด!
“อืม?” ต้าซือมิ่งหรงที่อยู่ใต้น้ำมองขึ้นมาทันที เขาเห็นมารดาของเด็กน้อยผ่านแม่น้ำที่หยุดนิ่งกะทันหัน นางช่างงามจรัสดั่งแสงตะวัน มิอาจคลาดสายตาได้
ในฐานะที่เป็นปฐมราชินี นางเหมือนดวงตะวันที่นำพาทวยเทพสวรรค์เก้าชั้นฟ้า สรรสร้างดินแดนสงบสุข ในฐานะที่เป็นสตรี นางเป็นยอดผู้สร้างมนุษย์ที่เกิดจากแก่นแท้ของสวรรค์และโลก ทั้งงดงามและวิจิตร
สตรีเช่นนี้…
“มิน่าล่ะ ข้าจึงหลงนางจนจำอะไรไม่ได้เลย” ต้าซือมิ่งกุมขมับอย่างพ่ายแพ้ เขาถูกเถาวัลย์ที่ตั้งสติกลับมาได้จู่โจมใส่ราวกับความจริงที่กำลังตบหน้าเขาฉาดใหญ่…
“ไสหัวไปซะ!” ต้าซือมิ่งหรงตวาดอย่างฉุนเฉียวจนสะเทือนถึงเถาวัลย์เหล่านั้น
จากนั้นเขาก็กระโดดออกจากที่เดิม ทำท่ามือดันพื้นเหมือนอินทรีกลางเวหา แยกแม่น้ำที่อยู่ข้างหลังเขาออกเป็นสองฝั่ง และกำจัดเถาวัลย์ที่แหวกว่ายไปมานับไม่ถ้วนในแม่น้ำ
ในขณะเดียวกัน แสงสีม่วงเจิดจ้าก็ปรากฏรอบ ‘ปะการัง’ ไม่หยุดและเพิ่มขนาดใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง
กรรร…
ฟิ้ว! ฟิ้วๆ…
ร่างของปะการังดิ้นรนอย่างตื่นตระหนก มันคงไม่รู้ว่าตนเองถูก ‘สายริ้ว’ เหล่านี้รัดตัวตั้งแต่เมื่อใด แต่ไม่ว่ามันจะรู้หรือไม่ ถึงอย่างไรมันก็หลุดรอดไปไม่ได้ ต้าซือมิ่งาชสำนักที่กระโดดถอยหลังไปเรื่อยๆ เขาก็ฉายแสงสีม่วงลงไปยังส่วนลึกของแม่น้ำ
ไม่เพียงเท่านี้…
“ขึ้น”
ต้าซือมิ่งราชสำนักสะบัดแขนเสื้อ ดวงดาวนับพันปรากฏในสายตาของเขา พลังของเขา ‘ตัด’ น้ำในแม่น้ำเย่ว์หมิงออกจากรอบ ‘ปะการัง’ ทันที
กระแสน้ำในแม่น้ำเย่ว์หมิงทั้งสองฝั่งและแม่น้ำลั่วสุ่ยก็ไหลกลับทันที ราวกับกระแสน้ำขนาดใหญ่ สม่ำเสมอและไม่ก่อให้เกิดน้ำท่วมขัง
เยี่ยนอวี๋ที่อุ้มเด็กน้อยมองจากข้างบนก็ได้รู้จักพลังของต้าซือมิ่งท่านนี้แล้ว นางรู้จักเขามากขึ้น เขาสามารถทะลวงภูเขาและแม่น้ำด้วยพลังของตนเอง…
“อ้ะเนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ไม่รู้ว่าตื่นตั้งแต่เมื่อใด เขาก็โบกมืออวบอ้วนของตนไปทางด้านล่าง เขายังไม่ลืมที่จะมองท่านแม่ข้างๆ เขาพร้อมส่งเสียง “อ้ะเนะเนะ! อ้ะเนะเนะ!” ท่านพ่อรูปงามของข้าน่ะ เก่งจังเลย!
“เจ้าคนซื่อบื้อ!” เยี่ยนอวี๋หยิกแก้มของเด็กน้อยอย่างไม่สบอารมณ์นัก “คนอื่นแค่พูดดีกับเจ้าเล็กน้อย เจ้าก็เรียกเขาว่าพ่อเสียแล้ว แม่ดีกับเจ้าเช่นนี้ ทำไมไม่เรียก ‘แม่’ ล่ะ”
เยี่ยนเสี่ยวเป่า “?”
“แม่ยุ่งเสร็จแล้วจะมาคิดบัญชีกับเจ้า” เยี่ยนอวี๋จิ้มหน้าผากเด็กน้อยเบาๆ
เยี่ยนเสี่ยวเป่าทำหน้ามุ่ย ก่อนจะเท้าคางมองท่านพ่อต่อไป! รอให้ท่านแม่ทำธุระเสร็จแล้วค่อยบอกท่านแม่ว่าเสี่ยวเป่าไม่ใช่คนซื่อบื้อ! คนนั้นคือท่านพ่อจริงๆ! ท่านพ่อรูปงามของเสี่ยวเป่า! ชิเชอะ…
“ไม่พอใจหรือ” เยี่ยนอวี๋ลูบศีรษะโล้นน้อยๆ ของเด็กน้อย แม้ฟ้าจะมืดแล้ว แต่นางก็ยังมองเห็นสีหน้าของเด็กน้อย ทว่านางไม่มีเวลาแล้วจริงๆ นางจึงเหินไปพลางพูดว่า “จิตใจมนุษย์นั้นเหี้ยมเกรียม ประเดี๋ยวแม่จะบอกเจ้า”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ไม่รู้ว่าได้ยินชัดเจนหรือไม่ เขากำลังโบกมือแรงๆ ให้ท่านพ่อรูปงามที่อยู่ไม่ไกล “อ้ะเนะ! อ้ะเนะเนะ…” ท่านพ่อรูปงาม! ข้าเอง เสี่ยวเป่า…
“ได้ยินแล้ว” เสียงขานตอบชัดแจ๋วของต้าซือมิ่งทำให้เยี่ยนเสี่ยวเป่ายิ้มร่าอย่างมีความสุขจนน้ำลายจะไหลออกมาแล้ว…
เยี่ยนอวี๋ “…”
ทันใดนั้นนางก็เหยียบลงบน ‘ปะการัง’ คลื่นน้ำสะเทือนเป็นวงแสงสีม่วง ทำให้ต้าซือมิ่งพลันรู้สึกเหมือนถูกเหยียบย่ำหัวใจอย่างไรอย่างนั้น อืม…
ต้าซือมิ่งที่คิดว่าคลื่นสะเทือนที่ตรึงใจนั้นเป็นความรู้สึกที่คิดไปเอง ทว่าเขาก็รู้ทันทีว่าเขาไม่ได้คิดไปเอง แต่เป็นคำเตือนของปฐมราชินีเยี่ยนที่กำลังบอกว่า อย่ามายุ่งกับลูกข้า
ต้าซือมิ่งที่เข้าใจเยี่ยนอวี๋แล้วก็ยิ้มเล็กน้อย เขายังคงได้ยินเสียงหัวเราะร่าของเด็กน้อย ถึงแม้ห่างกันไกลมาก แต่โสตประสาทของเขาดีมาก จึงได้ยินชัดเจน
สมแล้วที่เด็กน้อยคนนี้เป็นลูกแท้ๆ ของข้า
…
ในขณะที่ต้าซือมิ่งกำลังรับรู้ถึงอารมณ์ที่แตกต่างกันสิ้นเชิงของแม่ลูกคู่นี้ เยี่ยนอวี๋ก็เริ่มลงมือทำธุระของนางแล้ว นางนั่งขัดสมาธิเหนือ ‘ปะการัง’ และร่ายมนต์ออกมา
“ปฐมกาลมีความว่างเปล่า ไร้รูปไร้นาม เจ้าได้ก่อเกิด คิดหลงระเริง เจ้าดำรงอยู่ ฟ้าดินไม่อนุญาต มาจากที่ใดก็จงกลับไปที่นั่น” เยี่ยนอวี๋ที่เรียกพลังปฐมกาลออกมาชำระล้างความชั่วร้ายให้บริสุทธิ์ รอบตัวของนางก็กำลังปลดปล่อยพลังวิญญาณแห่งศักราชหยวนชูอันลึกลับ
นั่นเป็นพลังที่มีเพียงนางคนเดียวที่ใช้ได้ เป็นพลังดั้งเดิมก่อนกำเนิดโลกทั้งปวง และเป็นพลังจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ดั้งเดิมที่สามารถดับวิญญาณชั่วร้ายทั้งหมดได้
ถึงแม้เยี่ยนอวี๋ในบัดนี้สามารถใช้พลังปฐมกาลได้เพียงน้อยนิด แต่มันก็เพียงพอที่จะชำระล้าง ‘ปะการัง’ ให้บริสุทธิ์ได้แล้ว…
“ว้าว!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าเบิกตามองเนินเขาที่อยู่ข้างล่าง มันมีของอัปลักษณ์หลุดออกราวกับหนังลอก เผยให้เห็นแสงประกายสีทองระยิบระยับ?
ซี้ด ต้าซือมิ่งเองก็มองภาพข้างหน้าอย่างตะลึง เขารู้ว่าในเมื่อเยี่ยนอวี๋พูดแล้วก็ย่อมมั่นใจว่าจะสำเร็จ แต่ความเร็วเช่นนี้เป็นสิ่งที่เขาคิดไม่ถึง
ด้วยความเร็วเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาหนึ่งชั่วยามด้วยซ้ำ อาจจะแค่ครึ่งชั่วยามก็จัดการอยู่หมัดแล้ว
ความจริงเป็นดั่งที่เขาคิด เยี่ยนอวี๋ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยามก็ชำระล้าง ‘ปะการัง’ ให้บริสุทธิ์ได้แล้ว ทำให้ร่างของอิงหลงโบราณ ‘เห็นเดือนเห็นตะวัน’ อีกครั้ง
“ว้าว!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าเท้าคางมองหนอนสวยๆ ที่อยู่ข้างล่าง “อ้ะเนะเนะ!” แสงสวยเหมือนท่านลุงเสี่ยวอิงเลย! เสี่ยวเป่าชอบจังเลย!
“ตายแล้วหรือ” ต้าซือมิ่งหายวับกลับมาข้างกายสองแม่ลูกแล้ว
เมื่อเยี่ยนเสี่ยวเป่าเห็น เขาก็ยื่นมืออวบอ้วนของตนเองไปทางท่านพ่อทันที “อ้ะเนะเนะ!” ท่านพ่ออุ้มเสี่ยวเป่าหน่อย…
ต้าซือมิ่งย่อมไม่ปฏิเสธ เขาก็ยื่นมือออกไปทำท่าจะรับเขาไว้ ทว่าเยี่ยนอวี๋ตบมือเขาดัง เพี๊ยะ!
เยี่ยนเสี่ยวเป่า “…”
ต้าซือมิ่ง “เฮ้อ…”
“อย่ามาแตะต้องลูกของข้า” เยี่ยนอวี๋เตือน ก่อนจะอุ้มเสี่ยวเป่าลงไปดูร่างมังกรที่เป็นลูกน้องเก่าของนาง ทว่าต้าซือมิ่งขวางนางไว้!
ไม่เพียงเท่านี้… เขายัง ‘แย่ง’ เจ้าตัวน้อยมาจากนาง
เยี่ยนอวี๋ที่อ่อนแอมากอยู่แล้ว สีหน้าของนางพลันเปลี่ยน นางแทบจะระเบิดอารมณ์ใส่!
ทว่าก่อนที่นางจะระเบิดลง ต้าซือมิ่งก็ยกเด็กน้อยขึ้นเล็กน้อยเพื่อเปรียบเทียบกับใบหน้าของตนเอง เขาพูดขึ้นว่า “เยี่ยนอวี๋ ปฐมราชินีเยี่ยน เจ้าไม่รู้สึกเลยหรือว่าลูกของเจ้าเหมือนข้ามาก?”