เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 237 ตกไก่ได้แล้ว
ปีศาจระกามั่นใจว่าภาพไท่จี๋ที่มันสัมผัสได้เป็นภาพที่เพิ่งสร้าง ก่อนหน้านี้ไม่มี! สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือภาพไท่จี๋ศักราชหยวนชูคือเคล็ดวิชาลับที่หายสาบสูญของปฐมราชินีหยวนชู
“!”
ความตะลึงของปีศาจระกาเก้าเศียรในบัดนี้มิอาจใช้บรรยายเป็นคำพูดได้ ทำเอามันเผลอปล่อยกลิ่นอายออกมาอย่างมิอาจควบคุมไว้ได้
เยี่ยนอวี๋จึงยิ่งมั่นใจว่าปีศาจระกาเก้าเศียรตัวนี้เคยบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้มันจึงอ่อนแอมาก อีกทั้งอาการสาหัสเช่นนี้เป็นการเจ็บป่วยที่ไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้
อาจจะบาดเจ็บตอนที่สู้กับเสี่ยวอิง เยี่ยนอวี๋คาดเดาในใจ แต่ยังคงไม่สามารถด่วนสรุปได้ เพราะนางยังคงสงสัยว่า ‘การวางกับดัก’ อาณาเขตโยวตูอาจจะไม่ใช่การกระทำของปีศาจระกาเก้าเศียรเพียงผู้เดียว
ถึงแม้ว่าปีศาจระกาเก้าเศียรน่าสงสัยมากที่สุด แต่มันก็ด้อยความสามารถ มิอาจวางแผนทำการใหญ่เช่นนี้ได้ ต้องมีผู้สมรู้ร่วมคิดหรือไม่ก็มีผู้บงการเบื้องหลังแน่นอน
หลังจากที่เยี่ยนอวี๋ตรวจสอบและรู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของปีศาจระกาเก้าเศียรมีความสามารถด้อยกว่าที่นางคิดไว้ นางก็ยิ่งมั่นใจว่าเรื่องนี้คงมิได้ง่ายดายเช่นนี้ บางที… “หรือว่าสำนักเหยาไถเซียนก็มีส่วนข้องเกี่ยวด้วย”
เมื่อคิดได้ดังนี้ เยี่ยนอวี๋ก็พูดขึ้นว่า “บริเวณที่เรายืนอยู่ในตอนนี้คือที่ที่ปฐมราชินีหยวนชูสร้างค่ายกลไว้ ทุกท่านจงเดินตามข้าอย่างระมัดระวัง อย่าเหยียบผิดที่”
“ปฐมราชินีหยวนชู!” จวินอั้นหยวนรู้สึกสะเทือนอารมณ์นัก “ครั้นสำนักข้าได้พืชตะไคร่น้ำมา แม้จะคาดเดาไว้แต่แรกแล้ว แต่ก็มิอาจยืนยันได้ มิทราบว่าในค่ายกลแห่งนี้ผนึกอะไรไว้หรือ”
“คงเป็นอสูรโบราณ มิเช่นนั้นคงไม่ต้องให้ถึงมือปฐมราชินีหยวนชู” จวินฮวนผู้สงบปากสงบคำมาตลอดก็อดเอ่ยขึ้นไม่ได้ “หรือว่าเป็นเทียแมท หนึ่งในสิบสองเทพมาร”
เทียแมทเป็นอสูรเทพที่ถูกขนานนามเป็นเทพแห่งวารีในสิบสองเทพมาร มันมีพลังวิเศษธาตุน้ำดั้งเดิม แข็งแกร่งกว่าอสูรเทพธาตุน้ำเช่นอิงหลงโบราณมาก
โยวตูประสบอุทกภัยทุกปี แม่น้ำเย่ว์หมิงไม่เคยสงบนิ่งได้ ย่อมเป็นเรื่องปกติที่จวินฮวนจะมีความคิดเช่นนี้
อินหลิวเฟิงก็คิดเช่นนี้ “กูไหน่ไน หรือว่าจะเป็นเทียแมทจริงๆ ผนึกนี้ไม่สามารถผนึกเทียแมทไว้ได้ หรือไม่ก็เป็นเพราะเวลาผ่านไปนาน ผนึกเริ่มเสื่อมคลาย มันจึงเริ่มออกอาละวาด?”
“…มิใช่หรอก” เยี่ยนอวี๋ปฏิเสธ “เทียแมทสูญเสียดวงจิตไปนานแล้ว มันไม่ได้ถูกผนึก สิ่งที่ถูกผนึกไว้ในนี้ ข้า… ยังไม่ทราบ”
มีเพียงเยี่ยนอวี๋และผู้ใต้บังคับบัญชาชั้นยอดไม่กี่นายเท่านั้นที่รู้ตำแหน่งผนึกของแดนมืดวิญญาณอสูร เนื่องจากมันกินพื้นที่กว้างขวางนัก เยี่ยนอวี๋จึงมิได้อธิบาย
“เช่นนั้นมหาสงครามวันสิ้นโลก ศึกสังหารสิบสองมารเทพของปฐมราชินีหยวนชูมิใช่เรื่องเล่าขาน แต่เป็นเรื่องจริงหรือนี่!” อินหลิวเฟิงดวงตาเป็นประกาย เห็นได้ชัดว่าเขาถูกตำนานเล่าขานวางยาตั้งแต่เด็ก
เยี่ยนอวี๋เหลือบมองเขาอย่างเย็นชา “ไม่เกี่ยวกับเรื่องตอนนี้”
“ขอรับ” อินหลิวเฟิงจึงสงบอารมณ์ลง ก่อนจะถามอย่างจริงจังว่า “แล้วสถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร”
“อิงหลง” สายตาของจวินอั้นหยวนดีมาก เขาเห็นปีกขนาดยักษ์ของอิงหลงที่อยู่ไกลออกไปแล้ว แต่เขาก็ไม่เข้าใจ “อิงหลงเป็นเทพบรรพบุรุษของทวยเทพตำหนักไท่ชาง เหตุใด…”
“ถูกทำให้ชั่วร้าย” เยี่ยนอวี๋ต้องช่วยชี้แจงให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเก่า “ที่แห่งนี้มีกลิ่นอายความชั่วร้ายที่เข้มข้นมาก พวกมันใช้ค่ายกลของปฐมราชินีหยวนชูควบคุมบรรพบุรุษอิงหลงไว้ ทำให้มันกลายเป็นหุ่นเชิด”
“อะไรนะ!”
จวินอั้วหยวนและคนอื่นๆ ต่างตะลึง “บรรพบุรุษอิงหลง? หุ่นเชิด!?”
เยี่ยนอวี๋พยักหน้า “ใช่แล้ว โชคดีที่ได้รับความช่วยเหลือจากต้าซือมิ่ง พลังที่ทำให้บรรพบุรุษอิงหลงชั่วร้ายจึงถูกชำระล้างแล้ว ทว่ายังมิอาจกำจัดตาค่ายกลได้ ข้ากลัวว่าจะสะเทือนจิตใจของบรรพบุรุษอิงหลงอีก ดังนั้นพวกเจ้าต้องควบคุมมันไว้หลังจากที่ข้าเข้าไปในหัวใจค่ายกลแล้ว”
“ข้ามีคำถาม!” จู่ๆ กู้หยวนซูก็แทรกขึ้น “ต้าซือมิ่งชำระล้างพลังชั่วร้ายอย่างไร ข้าพบว่าที่นี่มีพลังที่เก่าแก่มากกลุ่มหนึ่ง มันกำลังยับยั้งความชั่วร้ายที่เจ้าพูดถึงตลอดเวลา”
ปีศาจระกาเก้าเศียรอยากรู้มากจริงๆ ว่าต้าซือมิ่งท่านนั้นมีเคล็ดวิชาลับที่หายสาบสูญของปฐมราชินีหยวนชูได้อย่างไร นั่นเป็นเคล็ดวิชาลับที่หายไปแล้วสามหมื่นปีเชียวนะ!
ปฐมราชินีหยวนชูสิ้นชีพไปนานเพียงใด เคล็ดวิชาลับนี้ก็สาบสูญไปนานเท่านั้น! เพราะว่านอกจากปฐมราชินีหยวนชูแล้วก็ไม่มีผู้ใดใช้พลังวิเศษไท่ชูได้ และไม่มีผู้ใดสามารถสร้างภาพไท่จี๋ได้
หรือว่า… เป็นเพราะกระบี่ไท่ชาง!?
“ข้าไม่รู้”
เยี่ยนอวี๋ไม่บอกไก่อัปลักษณ์ตัวนี้หรอก
กู้หยวนซูกลับเซ้าซี้ไม่เลิก “ตอนนั้นเจ้าก็อยู่ด้วยมิใช่รึ!”
“อยู่ด้วยก็ต้องรู้รึไง” เม่ยเอ๋อร์ไม่พอใจ “สำรวมกิริยาของเจ้าไว้ อย่าทำให้ข้าต้องลงมือกับเจ้า!”
“เจ้า…” กู้หยวนซูจะโมโหตายเพราะสาวใช้ป่าเถื่อนคนนี้อยู่แล้ว! แต่นางก็ทำอะไรเม่ยเอ๋อร์มิได้ ทำได้เพียงกล้ำกลืนความโมโหลงไปและอดทนไว้!
จวินอั้นหยวนกลับเปลี่ยนเรื่องพูดว่า “ไม่ทราบว่าพวกข้าต้องทำอย่างไรจึงจะควบคุมบรรพบุรุษอิงหลงไว้ได้”
“ใช่แล้ว” อินหลิวเฟิงกังวลเรื่องนี้มาก “อย่างอื่นขอไม่กล่าว เพียงแค่พลังของมัน เกรงว่าก็มิใช่คู่ต่อสู้ของพวกข้าแล้ว แม้จะจู่โจมพร้อมกันร้อยนายก็คงไม่น่าจะทำอะไรมันได้?”
“ตามข้ามา” เยี่ยนอวี๋มิได้อธิบาย นางพาทุกคนมาที่ข้างหน้าปีกขนาดยักษ์ของอิงหลง
หลังจากที่เยี่ยนอวี๋สื่อสารกับอิงหลงโบราณแล้ว มันก็มิได้กล่าวอะไร ราวกับเป็นร่างที่หมดสติ ไร้ความรู้สึก แต่ถูกชำระล้างจนบริสุทธิ์แล้ว
“ถูกชำระล้างแล้วจริงๆ ด้วย! ไม่หลงเหลือความชั่วร้ายเลย” ปีศาจระกาเก้าเศียรเริ่มลุกลี้ลุกลน
กู้หยวนซูถือโอกาสยุยง “ดูสิ สตรีนางนี้มีอิทธิฤทธิ์มากนัก นางคงมีประโยชน์กับต้าซือมิ่งอย่างมาก ต้าซือมิ่งจึงส่งนางลงมา หากพวกเราฆ่านางได้ ก็ถือว่ากำจัดผู้ช่วยของต้าซือมิ่งไปได้”
“รอดูก่อน” ปีศาจระกาเก้าเศียรเริ่มหวั่นไหว โดยเฉพาะเมื่อมัน ‘เห็น’ เยี่ยนอวี๋พาคนเดินเข้าไปในค่ายกลที่ปิดกั้นไว้ในปีกขนาดใหญ่ของอิงหลง มันก็ยิ่งหวั่นไหว!
“ร่างของนางมีพลังจิตที่ไม่ปกติ สามารถทำให้พลังของบรรพบุรุษอิงหลงหลบเลี่ยงเปิดทางเองได้! เกรงว่านี่คงเป็นเหตุผลที่ต้าซือมิ่งท่านนั้นให้ความสำคัญกับนางนัก!”
ปีศาจระกาเก้าเศียรคิดไม่ถึงเลยว่าเยี่ยนอวี๋มีพลังเช่นนี้ได้อย่างไร! แต่มันก็คาดเดาไว้ว่าอาจจะเป็นพรสวรรค์ในตัวนางตั้งแต่เล็กที่ครานั้นยังไม่ถูกปลุก!
หากเป็นเช่นนั้น มันอดที่จะคิดต่อไปไม่ได้ว่า บางทีมันอาจจะลอบดูดกลืนพลังของสตรีนางนี้มาที่ร่างของตนได้ หากสำเร็จ…
ปีศาจระกาแค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว!
“ท่านปราชญ์?”
กู้หยวนซูที่รู้สึกได้ก็ส่งกระแสจิต “ท่านมีแผนการดีๆ หรือไม่”
ปีศาจระกาเก้าเศียรเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจบอกว่า “ใช่แล้ว เราทิ้งนางไว้ในตาค่ายกลที่นี่ได้ เด็ดปีกข้างหนึ่งของต้าซือมิ่งเสีย”
“ใช่แล้ว!” กู้หยวนซูดีใจเก็บอาการไม่อยู่ ถึงแม้นางไม่อยากยอมรับว่านังคนชั่วนั่นแข็งแกร่ง แต่หากสามารถกำจัดนังคนชั่วได้ นางก็ยินยอมที่จะยอมรับผลเช่นนั้น
ขอเพียงนังคนชั่วตายได้! ไม่สิ อันที่จริงนางอยากเห็นอีกฝ่ายตายทั้งเป็นมากกว่า ทำให้นางเป็นได้เพียงของเล่นที่ถูกผู้คนกลั่นแกล้งเย้าแหย่ การตายถือว่ายังน้อยไปสำหรับนังคนชั่วคนนี้!
ขณะที่กู้หยวนซูคิดแผนการชั่วร้าย เยี่ยนอวี๋ก็กำลังแจกยันต์ให้ทุกคน ยันต์ใบหนึ่งยื่นไปข้างหน้านาง นางสะดุ้งเล็กน้อย “นี่คืออะไร”
“ยันต์ที่ทำให้เจ้าซื่อสัตย์น่ะ” เยี่ยนอวี๋ตอบราบเรียบ “ไม่ว่าเจ้ามีความคิดอย่างไร สถานที่แห่งนี้คือถิ่นของข้า อย่าคิดมิซื่อ”
“ฮะๆ” กู้หยวนซูหัวเราะอย่างเสแสร้งสองสามที นางรับยันต์นั่นไว้
ปีศาจระกาเก้าเศียรกลับตะลึงกับยันต์ตรงหน้านี้ “ยันต์ปราบมารตำหนักไท่ชาง!”
ครานี้เอง…
กู้หยวนซูเดาได้ว่า “ตำหนักไท่ชางอีกแล้วหรือ หรือว่าต้าซือมิ่งได้รับมรดกจากปฐมราชินีหยวนชู” นางคิดไปเองว่าต้าซือมิ่งเป็นผู้เขียนยันต์เหล่านี้
“ข้าไม่รู้ แต่ยันต์เหล่านี้คือยันต์ปราบมารของตำหนักไท่ชางแน่นอน! มิน่านังหนูคนนี้จึงโอหังนัก ที่แท้ก็เพราะมียันต์เหล่านี้นี่เอง” ปีศาจระกาเก้าเศียรกล่าวด้วยความหวาดกลัวเล็กน้อย
จะให้ไม่หวาดกลัวได้อย่างไร ยันต์ปราบมารของตำหนักไท่ชางคือยันต์ที่แข็งแกร่งที่สุดในสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ปีศาจที่ถูกสร้างขึ้นด้วยพลังต้องห้ามเช่นมัน ย่อมเกรงกลัวยันต์ประเภทนี้มากที่สุด!
หากไม่ใช่เพราะบัดนี้มันซ่อนอยู่ในอนุสติของกู้หยวนซู มันคงมิอาจเผชิญหน้ากับยันต์โดยตรงได้ เพราะลูกแก้วชั่วร้ายไม่อยู่กับมัน มันมิอาจต้านทานพลังทำลายล้างของยันต์ระดับนี้ได้
ในขณะที่ปีศาจระกาเก้าเศียรตื่นตระหนกอยู่นั้น เยี่ยนอวี๋ก็จัดวางตำแหน่งให้ทุกคนเรียบร้อยแล้ว “ตำแหน่งที่พวกเจ้ายืน เป็นตำแหน่งช่องว่างของผนึก ช่องว่างเหล่านี้เป็นจุดเชื่อมต่อที่สามารถควบคุมไม่ให้บรรพบุรุษอิงหลงกลายเป็นสิ่งชั่วร้ายได้ ฉะนั้นพวกเจ้าต้องอดทนไว้ จนกว่าข้าจะออกมา”
“ขอรับ ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยน!”
“ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนโปรดวางใจ”
คนสำนักจวินจื่อที่ถูกกำชับต่างขานตอบ ทุกคนถือยันต์ไว้ในมือและยื่นไปข้างหน้าราวกับบูชาเทพเจ้า
จากนั้นเยี่ยนอวี๋ก็กำชับผู้แข็งแกร่งขั้นถอดจิตสำนักจวินจื่อนายหนึ่ง “ตำแหน่งของเจ้าสำคัญที่สุด เป็นค่ายกลลวงตาของค่ายกลทั้งหมด หลังจากที่ข้าสัมผัสค่ายกลในตาค่ายกลแล้ว พลังของค่ายกลย่อมระส่ำระส่าย เจ้าจะได้รับผลกระทบเป็นคนแรก แต่เจ้าต้องควบคุมมันไว้ให้อยู่ ห้ามถอยเด็ดขาด!”
เมื่อจวินอั้นหยวนได้ยินน้ำเสียงหนักแน่นของเยี่ยนอวี๋ เขาก็ให้สัญญาทันทีว่า “ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนโปรดวางใจ คนสำนักจวินจื่อของข้าจะสู้จนตัวตาย!”
“ใช่แล้ว!” ผู้แข็งแกร่งสำนักจวินจื่อก็กล่าวอย่างจริงจัง
เยี่ยนอวี๋พยักหน้า นางต้องการกำลังชั้นยอดสำนักจวินจื่อร้อยนายนี้ควบคุมตาค่ายกลไว้ให้ถึงที่สุด มิเช่นนั้นจะเกิดปัญหาใหญ่ตามมาได้
ส่วนกู้หยวนซู… นางก็เอ่ยถามโดยไม่รอเยี่ยนอวี๋เอ่ย “แล้วข้าล่ะ ข้ายืนตรงไหน! เจ้าคงไม่ได้ให้ข้าลงมาดูเฉยๆ หรอกนะ แล้วเจ้า…”
“เจ้าไปกับข้า” เยี่ยนอวี๋ตอบ