เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 243 นิสัยแต่กำเนิดของต้าซือมิ่ง
ต้าซือมิ่งจากไปด้วยความว่องไว เขาปรากฏตัวที่ใต้น้ำทันที กู้หยวนซูเห็นดังนั้นก็ชะงัก…
“จิ๊ด!”
จังหวะที่ต้าซือมิ่งมาถึง เสียงร้อนรนของลูกหนูน้อยก็ดังขึ้นจากช่องว่างเล็กๆในตาค่ายกล “จิ๊ด! จิ๊ดๆๆ!”
ที่แท้ขณะที่ตาค่ายกลกำลังจะปิดลงนั้น เจ้าหนูน้อยตัวนี้ก็ติดอยู่ในร่องพอดี ช่องว่างตาค่ายกลจึงยังไม่ปิดลงโดยสมบูรณ์ เพราะลูกหนูน้อยติด ‘ทั้งเป็น’ อยู่ในนั้น
“อ้ะเนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าตะโกนและชี้ไปที่ช่องว่าง
“ต้าซือมิ่ง! ท่านมาแล้วหรือ เกิดเรื่องแล้วเจ้าค่ะ…” เมื่อกู้หยวนซูตั้งสติได้นางก็รีบรายงาน ‘เรื่องที่เกิดขึ้น’ แก่เขา ถึงอย่างไรนางก็เป็นเพียงหนึ่งเดียวที่รอดออกมาได้
ทว่าต้าซือมิ่งเหินผ่านตัวนางไป เขาสอดนิ้วเข้าไปในช่องว่าง พยายามแยกมันออก!
“จิ๊ดๆ!” ลูกหนูน้อยที่ติดอยู่ในนั้นอย่างทรมานก็ร้องไม่หยุด คงจะกำลังพูดว่า ‘ท่านมาเสียที ถ้าไม่มาอีก ข้าคงต้องตายแน่ๆ‘
ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นตาค่ายกลที่เยี่ยนอวี๋เป็นผู้สร้างขึ้นสมัยที่นางยังรุ่งโรจน์ หากไม่มีพลังของนาง การเปิดประตูค่ายกลก็เป็นเรื่องยากประหนึ่งปีนขึ้นสวรรค์! แม้แต่หรงอี้เอง เขาก็มิอาจเปิดมันได้
“ให้ตายเถอะ!” นัยน์ตาต้าซือมิ่งแปรเปลี่ยนเล็กน้อย ครั้นกำลังจะเรียกกระบี่ไท่ชาง เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็ยื่นมือออกไปแยกช่องว่างนั้น “อ้ะเนะ! อ้ะเนะเนะ!” เปิดเร็วเข้าสิ! เสี่ยวเป่าจะไปหาท่านแม่!
กู้หยวนซูที่ดูอยู่ข้างๆ กลับห้ามปรามขึ้นว่า “ต้าซือมิ่ง อย่าลำบากเลย ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนและคนอื่นๆ จากไปแล้ว แม้ท่านจะเข้าไปได้ก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว”
“จิ๊ด!” ลูกหนูน้อยโมโห พูดจาเหลวไหลจริงๆ!
เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็โมโห เขาออกแรงแยกช่องแคบนั่นออกอย่างสุดกำลัง! ช่องแคบนั่นกลับถูกเขาแยกออกได้ซะอย่างนั้น
ทันใดนั้นช่องแคบนั่นก็ส่งเสียง หึ่ง แม้จะมีช่องว่างเพิ่มขึ้นมาเพียงเล็กน้อย แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ต้าซือมิ่งรู้ว่าช่องแคบนี้มิอาจใช้กำลังฝืนเปิดได้ เขาจึงยัดเด็กน้อยเข้าไป
“อ้ะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่จู่ๆ ถูกยัดเข้าไปงุนงงไปหมด
ทว่าความจริงแล้ว ต้าซือมิ่งทำเช่นนี้ถูกแล้ว ช่องว่างเล็กๆ นั้นแยกออกเท่าขนาดตัวของเด็กน้อย
“จิ๊ด!” ลูกหนูน้อยจึงได้รับการปลดปล่อย มันกระโดดเข้าไปหาเยี่ยนเสี่ยวเป่าทันที
ต้าซือมิ่งยัดเด็กน้อยเข้าไปพลางมุดเข้าไปช่องแคบ
“ต้าซือมิ่ง!” กู้หยวนซูตะโกนเรียกอย่างร้อนรน “ต้าซือมิ่ง ท่านเข้าไปมิได้! ข้างในอันตราย!”
ทว่าต้าซือมิ่งจะไปสนใจนางได้อย่างไร…
ครั้นกู้หยวนซูคิดจะตามเข้าไปเพื่อห้ามต้าซือมิ่งไว้ แต่น่าเสียดายที่เมื่อนางเพิ่งเข้าใกล้ช่องแคบ มันก็ปิดดัง ปัง ใบหน้าของนางบูดเบี้ยวไปหมด
“ซี๊ดด…” กู้หยวนซูเจ็บจนร้องซี๊ด ตาค่ายกลที่ปิดลงอย่างแน่นหนา ไม่มีช่องว่างอีก นางไม่มีทางเข้าไปได้อีกแล้ว นางโมโหจนได้แต่เดินถอยหลัง เอาเข้าจริงนางมิกล้าโจมตีตาค่ายกล ถึงแม้กลิ่นอายของค่ายกลแห่งนี้จะกลับเป็นปกติแล้ว นางก็ไม่กล้า…
กู้หยวนซูรู้ความแข็งแกร่งของค่ายกลนี้ดี! มิหนำซ้ำลมปราณของนางในยามนี้ก็อ่อนแอมากนัก การตายของปีศาจระกาเก้าเศียรทำให้นางบาดเจ็บไม่น้อย
ในขณะเดียวกัน สองพ่อลูกที่เข้าไปในตาค่ายกลแล้วก็เห็นจวินอั้นหยวนที่นอนสลบอยู่ “อ้ะเนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าจำเขาได้จึงส่งเสียงเรียกขึ้นมา
“จิ๊ด?” ลูกหนูน้อยรู้สึกตะลึงกว่าเขา เพราะถึงอย่างไรมันก็เป็นผู้เห็นเหตุการณ์ มันรู้ว่านอกจากผู้ร้ายกู้หยวนซูที่หนีไปได้ ทุกคนที่เหลือก็ถูกดูดเข้าไปหมดแล้ว
หรงอี้จึงเดินเข้าไปใกล้และปลุกจวินอั้นหยวน
“แค่ก!”
จวินอั้นอยวนฟื้นขึ้นมาพร้อมสำลักอย่างหนัก เขามีสีหน้าแย่มาก และยังหอบหายใจถี่ ทว่าเมื่อเขาเห็นต้าซือมิ่งก็รีบกล่าวขึ้นว่า “ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนพวกเขา… แค่ก! แค่ก…”
“จิ๊ด!” ลูกหนูน้อยรีบชี้ไปที่ยอดของห้องโถง
จวินอั้นหยวนที่สำลักเสร็จแล้วรีบพูดต่อว่า “พวกเขาถูกดูดเข้าไปแล้ว ข้า แค่ก… ข้าถูกปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนผลักออกมา แค่ก! พวกเขา… ต้าซือมิ่ง…”
อันที่จริงมิต้องให้จวินอั้นหยวนและลูกหนูน้อยอธิบายใดๆ สองพ่อลูกหรงอี้ก็สัมผัสถึงกลิ่นอายของเยี่ยนอวี๋ที่หายสาบสูญไปในรูบนยอดอาคารนั่นได้
เพียงแต่เสี่ยวเป่ามองแล้วมองอีกก็ไม่เห็นท่านแม่ของเขา เขาจึงกระวนกระวายขึ้น “อ้ะเนะ!” ไปหาท่านแม่กัน!
“อืม” ต้าซือมิ่งที่ฟังเด็กน้อยรู้เรื่องก็ลุกยืนขึ้น
จวินอั้นหยวนกลับดึงรั้งพวกเขาไว้ พูดว่า “แค่ก! ต้าซือมิ่ง ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนยังฝากให้ข้ามาบอกท่าน”
“ว่า?” หรงอี้เลิกคิ้ว เขาไม่คิดว่ามารดาเด็กน้อยจะทิ้งข้อความไว้ให้เขา
จวินอั้นหยวนจึงพูดต่อว่า “ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนบอกให้ท่านดูแลอาณาจักรโยวตู ดูแลเสี่ยวเป่าให้ดี แค่ก…”
“นางพูดเช่นนี้รึ” หรงอี้ขมวดคิ้ว เจ้าตัวน้อยกลับร้องโวยวาย “อ้ะเนะเนะ! อ้ะ!” เสี่ยวเป่าไม่ยอมอยู่โยวตู! เสี่ยวเป่าจะไปหาท่านแม่!
ทว่าจวินอั้นหยวนกลับพยักหน้า “ใช่แล้ว ในสถานการณ์คับขัน ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนยังผลักข้าน้อยออกมาก็เพื่อวานให้ข้าน้อยบอกท่าน”
จวินอั้นหยวนที่สงบลงแล้วเพิ่งนึกถึงฉากเมื่อครู่นี้ สีหน้าของเขายังคงดูไม่ดีนัก “เราถูกพลังคลุ้มคลั่งดูดเข้าไปในความมืดมิดอย่างฉับพลัน ครานั้นข้าน้อยถือยันต์ไว้เตรียมจะเรียกวิญญาณอสูรมังกรขาวออกมาอีกครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จ ในนั้นชั่วร้ายมากนัก! โชคดีที่พลังธาตุน้ำที่แผ่ออกมาจากยันต์ทำให้ข้าถูกดูดเข้าไปช้าลง ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนจึงถือโอกาสผลักข้าออกมา แต่นางกลับ…”
คำพูดที่เหลือจวินอั้นหยวนมิจำเป็นต้องพูด พ่อลูกหรงอี้ย่อมรู้ดี ทว่ายิ่งรู้ดี เด็กน้อยก็ยิ่งร้อนรน “อ้ะเนะ! อ้ะเนะเนะ!”
ต้าซือมิ่งที่ถูกจวินอั้นหยวนคว้าชายเสื้อไว้ เขาก็สะบัดมือของจวินอั้นหยวนก่อนจะเหินไปที่ตรงกลางของโถง ทำเอาจวินอั้นหยวนร้อนรนจนรีบย้ำเตือนว่า “ข้างในชั่วร้ายมากจริงๆ! ต้าซือมิ่งอย่าเสี่ยงอันตรายเลย ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนให้ท่านอยู่ดูแลลูกรอนางกลับมา!”
“อ้ะเนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าส่งเสียงหน่อมแน้มให้จวินอั้นหยวน บอกทำนองว่า ไม่เอาด้วยหรอก!
จวินอั้นหยวนไม่สามารถสื่อสารกับเยี่ยนเสี่ยวเป่าได้ เขาทำได้เพียงเกลี้ยกล่อมไม่หยุดปาก “ต้าซือมิ่ง ท่านอย่าทรยศความหวังดีของปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนเลย ที่นางพยายามผลักข้าออกมาก็เพื่อมิให้ท่านเข้าไปเสี่ยงอันตราย มิหนำซ้ำยังมีเด็กน้อย นั่นเป็นแก้วตาดวงใจของปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนเชียวนะ”
“อ้ะเนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่ารีบโต้ตอบทันที “อ้ะเนะเนะ!…”
“เฮ้อ” จวินอั้นหยวนฟังไม่รู้เรื่อง แต่เขาก็เห็นว่าต้าซือมิ่งยื่นมือข้างหนึ่งเข้าไปในรูสีดำนั่นแล้ว ไม่ยอมฟังเขาเลยแม้แต่น้อย ทว่าต้าซือมิ่งก็ต้องขมวดคิ้ว “เหตุใดไม่ดูดข้าเล่า?”
“อ้ะเนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าเบี่ยงเบนความสนใจ เขามองไปที่รูนั่นพร้อมกับท่านพ่อของเขา ทำทีจะยื่นมือน้อยๆ ออกไปลูบ แต่ท่านพ่อของเขาจับมืออวบอ้วนของเขาไว้แล้ว “เสี่ยวเป่ายังเด็กเกินไป ทำไม่ได้”
“อ้ะเนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่ากลับโต้ตอบอย่างไม่พอใจ “อ้ะเนะเนะ!” เมื่อครู่นี้เสี่ยวเป่ายังทำได้เลย!
“ไม่เหมือนกัน” ต่างคนต่างคุยคนละภาษา แต่ต้าซือมิ่งบังเอิญตอบตรงคำถาม เขาสำรวจรูพลางอธิบายว่า “ช่องแคบเมื่อครู่นี้ท่านแม่ของเจ้าเป็นคนสร้าง ไม่มีอันตราย แต่รูนี่คนเลวเป็นคนสร้าง มีอันตราย”
“อ้ะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าเข้าใจแล้ว แต่เขายังคงร้อนรนอยู่ดี “อ้ะเนะเนะ!” เช่นนั้นท่านพ่อพาเสี่ยวเป่าไปหาท่านแม่สิ
“อืม” ต้าซือมิ่งพยักหน้า เขายื่นมือเข้าไปในรูสีดำอีกครั้ง รูนี่ก็พิสดารนัก ดูออกจะเล็ก แต่กลับสอดมือเข้าไปข้างในได้ แต่เมื่ออยากจะเอาตัวเข้าไป กลับเข้าไปมิได้?
“ต้าซือมิ่ง…” จวินอั้นหยวนกระวนกระวายใจจะตายอยู่แล้ว “ท่านไม่คิดถึงตนเองก็คิดถึงเด็กน้อยบ้างเถิด ท่านจะพาเขาเข้าไปเสี่ยงภัยด้วยหรือ”
“อ้ะเนะ!”
“เหตุใดจึงไม่ได้”
สองพ่อลูกเห็นพ้องกัน
จวินอั้นหยวนกระวนกระวาย “คำสั่งเสียของปราชญ์มหาสำนักเยี่ยน ท่านก็ไม่ฟังหรือ นาง…”
“หากนางอยู่ต่อหน้าข้า ข้าก็คงฟัง แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่านางอยู่ที่ไหน ยังจะสนใจข้าอีกหรือ?” เมื่อต้าซือมิ่งพูดถึงตรงนี้ เขาก็รวบรวมสมาธิ พยายามบุกเข้าไป
ครืน!
รูสีดำนั่นเหมือนจะรังเกียจต้าซือมิ่งท่านนี้นัก มันปล่อยหมอกดำอันน่าสะพรึงออกมาราวกับต่อต้านการเข้าไปของเขามาก ซึ่งแตกต่างจากการดูดกลืนจวินอั้นหยวนและคนอื่นๆ ก่อนหน้า ทำให้จวินอั้นหยวนที่รับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงนี้ต้องชะงัก…
ทว่าต้าซือมิ่งไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เช่นนั้น เขาปลดปล่อยแสงสีม่วงเจิดจ้าออกมาและหายวับเข้าไปในรูด้วยความรวดเร็ว! จวินอั้นหยวนที่มองไม่เห็นเขาแล้วก็ตกใจจนตะโกนเรียกไม่หยุด “ต้าซือมิ่ง! ต้าซือมิ่ง ท่าน…”
ต้าซือมิ่งที่จู่ๆ ก็หายตัวไป หลงเหลือเพียงแสงจางๆ ตอบรับจวินอั้นหยวน ต้าซือมิ่งเบียดเข้าไปในรูสีดำนั่นพร้อมเด็กน้อยและลูกหนูน้อยแล้ว
จวินอั้นหยวน “…”
ที่เขาถูกผลักออกมาด้วยความยากลำบากนั้น ไม่มีประโยชน์อันใดเลยหรือ
ไม่! จวินอั้นหยวนที่คิดบางอย่างขึ้นได้ก็กำลังจะลุกขึ้นยืน
หวีด!
เสียงหวีดร้องแหลมสูงดังออกมาจากในรู และยังมีแสงสีม่วงเจิดจ้าจางๆ ไหลออกมาด้วย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ความเป็นจริงแล้ว นี่คือควันหลงที่แผ่ซ่านออกมาจากต้าซือมิ่งที่ต่อต้านแรงต้านของมัน…
พลังชั่วร้ายไหลทะลักออกมาจากทั่วสารทิศ เห็นได้ชัดว่ามันต่อต้านต้าซือมิ่งมาก มันพยายามบีบเขาเพื่อจับมัดตัวเขาไว้ ทำเอาเจ้าตัวน้อยร้อนใจจะตายอยู่แล้ว “อ้ะ…”
“ใจเย็นๆ” ต้าซือมิ่งลูบศีรษะโล้นน้อยๆ ของเขา รอบตัวเขาประกายแสงสีม่วงรัศมีหมื่นจั้ง ตัวของเขาก็ได้รับการปลดปล่อยจากพลังที่ผูกมัดเขาไว้
จากนั้น…
“อ้ะเนะ!” ท่านแม่!
เยี่ยนเสี่ยวเป่าได้กลิ่นอายของท่านแม่ก็ส่งเสียงดังขึ้น