เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 252 ทักษะพลังจิตใหม่ของปฐมราชินี
ในอนุสติของนาง…
ไม่!
ราวกับว่ามีกลิ่นอายที่แข็งแกร่งมากอยู่ในร่างกายของนาง?
“หรือว่าเป็นกลิ่นอายของปราชญ์” กู้หยวนซูพิจารณาต่อไปด้วยความประหลาดใจสัมผัสได้ว่า กลิ่นอายที่อยู่ในร่างกายของนางนั้นเป็นกินอายที่ ‘ปราชญ์’ ผู้นั้นทิ้งไว้จริง
กู้หยวนซูลองสื่อสาร “ท่านปราชญ์? ใช่ท่านหรือไม่…ท่านยังอยู่หรือไม่”
“…”
มีเพียงความเงียบเท่านั้นที่ตอบกลับกู้หยวนซู
ปีศาจระกาเก้าเศียรที่ถูกเยี่ยนอวี๋กำจัดโดยกระบี่ไท่ชาง วิญญาณของมันหายไปตั้งนานแล้ว ไม่มีหลงเหลือในสามภพดังนั้นจึงเหมือนถูกกำหนดไว้แล้วว่ากู้หยวนซูจะไม่ได้รับการตอบกลับใดๆ
แต่ทว่าในร่างกายและอนุสติของกู้หยวนซูมีพลังของปีศาจระกาเก้าเศียรหลงเหลืออยู่จริง
นี่เป็นเพราะก่อนหน้านี้ปีศาจระกาเก้าเศียรเคยดึงดูดพลังวิญญาณของกู้หยวนซู หลังจากนั้นเพื่อไม่ทำลายรากฐานของกู้หยวนซูจึงได้ตั้งใจ ‘ตอบแทน’ นาง
แน่นอนว่านี่เป็นแผนการที่ปีศาจระกาเก้าเศียรวางไว้เพื่อที่จะควบคุมกู้หยวนซูอย่างสมบูรณ์ แต่ทว่า…
กู้หยวนซูที่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่พยายามหลอมรวมกับร่างกายของตนนั้น คิดได้ทันที “เกรงว่านี่จะเป็นหนทางสุดท้ายที่ท่านปราชญ์เหลือไว้ให้กับข้า”
จนถึงบัดนี้กู้หยวนซูถึงได้รู้ว่าเหตุใดนางถึงสามารถกระตุ้นกลิ่นอายชั่วร้ายที่อยู่ในเกราะได้ “ที่แท้แล้วก็เพราะท่านปราชญ์คอยช่วยเหลือข้าอยู่นี่เอง น่าเสียดาย…”
กู้หยวนซูที่นึกถึงปีศาจระกาเก้าเศียรที่ตายอย่างอนาถ ดวงตาของนางเปลี่ยนไป “เยี่ยนจื่ออวี๋! นังสารเลว! ซ่อนตัวเก่งนักนะ! ไม่สิ น่าจะเป็นต้าซือมิ่ง ต้าซือมิ่งซ่อนตัวดีนัก เกรงว่าเขาคงสัมผัสได้ถึงตัวตนของท่านปราชญ์แล้ว ส่วนข้า…”
กู้หยวนซูที่นึกถึงแต่ก่อนที่ไม่ว่า ‘ท่านปราชญ์’ จะว่าอย่างไร นางก็ยังรู้สึกดีต่อต้าซือมิ่ง จนทำให้ ‘ท่านปราชญ์’ ต้องตายอย่างอนาถนั้น นางรู้สึกเสียใจเหลือเกิน
แต่ความเสียใจนี้ ไม่นานก็ถูกพลังที่ผสานเข้ากับร่างกายของนางอย่างรวดเร็วนี้ทำให้จางลง นางสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าร่างกายของนางกำลังค่อยๆ ฟื้นฟูอยู่ ขณะที่ผสานเข้ากับร่างกายนางนั้นพลังงานแหล่านี้ยังเสริมความแข็งแกร่งให้กับนางด้วย
ดังนั้นขณะที่เซี่ยเย่าและคนอื่นๆ ตามมาถึง กู้หยวนซูก็รีบสั่งให้พวกเขาช่วยพิทักษ์นาง เพราะนางเตรียมตัวจะบรรลุขั้นวิญญาณปฐมภูมิด้วยพลังกาย! ทั้งยังรู้สึกว่านางสามารถใช้โอกาสนี้บรรลุพลังจิตขั้นถอดจิต กลายเป็นผู้อัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ในตำนานครึ่งหนึ่งได้อีกด้วย!
“ศิษย์พี่หญิง…โอกาสมาถึงแล้วหรือ!” เซี่ยเย่าตื่นเต้น สายตาเต็มไปด้วยความชื่นชม
“อืม” กู้หยวนซูพยักหน้าตอบ
เซี่ยเย่าสัญญาทันที “ศิษย์พี่หญิงวางใจได้ พวกข้าย่อมช่วยท่านอย่างสุดกำลังอย่างแน่นอน!”
“ศิษย์พี่หญิงวางใจได้!” คนสำนักเหยาไถเซียนต่างก็สัญญา พวกเขาเองก็ตื่นเต้นมาก เพราะพวกเขารู้ว่าเมื่อใดที่กู้หยวนซูเลื่อนขั้นสำเร็จ เมื่อนั้นนางก็จะเป็นคนแรกที่อายุน้อยกว่าหนึ่งรุ่นในต้าซย่าที่บรรลุขั้นวิญญาณปฐมภูมิด้วยพลังกาย!
ในเวลานั้น จะเป็นปราชญ์มหาสำนักหมอหลวงก็ไม่เท่าไหร่!
นักปรุงยาในตำนานไม่อาจเทียบกับผู้อัญเชิญวิญญาณในตำนานเลยแม้แต่นิด! ฝ่ายหลังไม่เพียงแต่สามารถปรุงยาระดับตำนานได้เท่านั้น แต่ยังสามารถอัญเชิญแก่นวิญญาณอสูรในตำนานออกมาได้อีกด้วย ดูแล้วไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้เลย…
คนสำนักเหยาไถเซียนคิดถึงตรงนี้ก็ยิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่! ยิ่งไปกว่านั้นตามความหมายของกู้หยวนซูที่พลังกายของนางสามารถบรรลุได้แล้ว นี่มันแข็งแกร่งกว่าผู้อัญเชิญวิญญาณครึ่งหนึ่งแล้ว!
และในขณะที่เซี่ยเย่าและคนอื่นตื่นเต้นจนถึงขีดสุดนั้น กู้หยวนซูถึงได้ก้มลงกล่าวขอบคุณ “เช่นนั้นก็รบกวนพวกเจ้าแล้ว หวังว่าข้าจะสามารถบรรลุได้ในคราวเดียว ไม่ทำให้พวกเจ้าผิดหวัง”
“ศิษย์พี่หญิงไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ขอรับ!”
“ศิษย์พี่หญิงรีบลุกขึ้นเถิดขอรับ!”
“ศิษย์พี่หญิงรีบไปเถิดขอรับ อย่าปล่อยโอกาสหลุดไปได้…” เซี่ยเย่าและคนอื่นๆ ทั้งตื่นเต้นและซาบซึ้งใจ จึงได้สัญญาอยู่ในใจว่าต้องพิทักษ์ศิษย์พี่หญิงให้ดี!
กู้หยวนซูถึงได้ถอยกลับไปยังถ้ำที่เพิ่งเปิด และเริ่มตั้งสมาธิ ส่วนเรื่องช่วยเหลือน้ำท่วมนั้น แท้จริงแล้วนางรู้ดีอยู่แก่ใจว่าหยวนคังฮ่องเต้มีแผนการของพระองค์อยู่แล้ว
ในความเป็นจริง หลังจากที่ม่านพลังแห่งเทพของต้าซือมิ่งบางคนหายไปนั้น ลิ่นจ่างเอินที่เหลือไว้เฝ้าตำหนักซือมิ่งนั้นอยู่ที่แท่นดูดาว และฟื้นฟูการเฝ้าสังเกตเมืองโยวตู
รวมกับข่าวสารบางอย่างที่หยวนคังฮ่องเต้เพิ่งจะได้ทราบว่า ต้าซือมิ่งบางคนได้ลงไปในแม่น้ำเพื่อตามหาปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนที่หายไปเพราะช่วยเหลืออุทกภัย และมีโอกาสสูงที่ฝ่ายหลังจะสิ้นชีวิตไปแล้ว!
“นางไม่มีทางสิ้นชีพอย่างแน่นอน” หยวนคังฮ่องเต้ที่ได้รับสาส์นเชื่อว่าเทพธิดาที่เขาฝันถึงนั้นมาจากสวรรค์จริงๆ และก่อนที่จะพบกับเขานั้น นางไม่มีทางที่จะดับสิ้นอย่างแน่นอน
แต่ทว่า…หยวนคังฮ่องเต้คิดว่า “ถึงแม้นางจะไม่อยู่ข้างกายข้า แต่กลับช่วยแก้ปัญหาใหญ่แก่ข้าแล้ว”
“ความหมายของท่านคือ…” เฉาหมิงเฉิงแอบคาดเดา
“ไม่ว่าต้าซือมิ่งจะเป็นหรือจะตาย สิ่งที่ข้าต้องการคือเวลา! หากเขาสามารถไม่ก่อเรื่องได้ก็เป็นพอสำหรับข้าแล้ว สมแล้วที่คุณหนูใหญ่เยี่ยนจะเป็นเทพธิดาที่ถูกกำหนดไว้แล้วของข้า เจ้าต้องหานางให้พบ” หยวนคังฮ่องเต้มุ่งมั่น
“กระหม่อมทราบแล้วพ่ะย่ะค่ะ!” เฉาหมิงเฉิงคุกเข่าคารวะ
“นอกจากนี้ เจ้าถ่ายทอดคำสั่งลงไปให้กับเฉิงคั่วที” หยวนคังฮ่องเต้ยังมีคำสั่งให้เขาใช้เวลานี้ควบคุมเมืองโยวตูไว้ในมือให้ได้ ส่วนโยวตูอ๋องที่ไม่เชื่อฟังนั้น…
หยวนคังฮ่องเต้วางแผนการอย่างละเอียด
…
ณ เมืองโยวตู
ในผนึกแม่น้ำเย่ว์หมิง
อิงหลงอาวุโสที่ติดต่อกับเยี่ยนอวี๋อย่างลับๆ แล้ว ในที่สุดมันก็หยุด ‘เคลื่อนไหว’ เสียที และเงียบลงไปอีกครั้ง ทำให้คนสำนักจวินจื่อที่มีมากกว่าร้อยคนโล่งใจไปเฮือกหนึ่ง
ถึงแม้อิงหลงอาวุโสจะไม่บ้าคลั่ง แต่มันก็แข็งแกร่งเกินไปจริงๆ! เมื่อกระตุ้นพลังออกมาเมื่อใดก็จะทำให้คนรู้สึกตระหนกขึ้นมาทันที มันสามารถเงียบลงได้ในขณะนี้ ทั้งยังแสดงออกถึงเจตนาดี ทำให้ผู้แข็งแกร่งจากสำนักจวินจื่ออดไม่ที่จะถาม “ในเมื่อผู้อาวุโสไม่มีเรื่องอันใดแล้ว เช่นนั้นอุทกภัยคงจะไม่เกิดขึ้นอีกสินะ?”
“แน่นอน” อิงหลงอาวุโสสัญญา! หากมีปัญหาอีก มันจะกำจัดตัวเองก่อน ไม่ให้ใครหน้าไหนมาหลอกใช้มันเพื่อต่อกรกับปฐมราชินีแน่
คนสำนักจวินจื่อรับรู้ถึงความจริงใจและหนักแน่นจากคำพูดของอิงหลงอาวุโส ถึงได้โล่งใจ ผู้แข็งแกร่งนั่นยังคงวางแผน “เช่นนั้นพวกข้าจะส่งคนกลุ่มหนึ่งไปส่งสาส์น เพื่อไม่ให้เซ่าซือมิ่งกู้นั่นพูดจาเหลวไหลรบกวนจิตใจของเหล่าทหาร”
ก่อนหน้านั้น ใช่ว่าพวกเขาไม่คิดจะส่งคนไปชี้แจง แต่หนึ่งคือพวกเขาไม่กล้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต สองคือไม่สามารถมั่นใจได้ว่าสถานการณ์จะแย่ลงอีกหรือไม่ แล้วการช่วยเหลือน้ำท่วมจะล้มเหลวหรือไม่
แต่บัดนี้มีอิงหลงอาวุโสยืนยันแล้ว พวกเขาจึงได้มีความมั่นใจ ดังนั้น…
อิงหลงอาวุโสอดกล่าวไม่ได้ว่า “หลังจากซ่อมแซมค่ายกลจากในสู่นอกแล้ว พื้นที่ค่ายกลนี้ก็ไม่มีจุดรั่วไหลอีก รูรั่วที่ว่ากันก่อนหน้านี้ก็ถูกซ่อมแซมกลับคืนแล้ว เว้นเสียแต่ว่าปฐม…เอ่อ….ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนของพวกเจ้าจะกลับมา มิเช่นนั้นไม่ว่าใครก็ไม่สามารถออกมาได้”
ผู้แข็งแกร่งสำนักจวินจื่อตะลึง “ท่านเองก็ไม่อาจช่วยได้อย่างนั้นหรือ”
“ไม่ได้” อิงหลิงอาวุโสตอบเฉียบขาด
“นี่มัน…”
คนสำนักจวินจื่อตะลึงไปชั่วขณะ ถึงได้ทำใจยอมรับความจริงนี้ได้ พวกเขาไม่กังวลเรื่องอื่นใด เพียงแค่กลัวว่าเซ่าซือมิ่งกู้นั่นจะไปพูดไร้สาระเท่านั้น!
แต่ทว่าพวกเขาที่ไม่สามารถออกไปได้จึงทำได้เพียงปลอบใจตัวเอง “มีท่านประมุขสำนักและท่านอ๋องอยู่ ทุกอย่างน่าจะราบรื่น”
อิงหลงอาวุโสก็ปลอบใจพวกเขาเช่นเดียวกัน ให้พวกเขารักษาตัวอย่างดี อย่างน้อยก็ไม่มีภัยน้ำท่วมเกิดขึ้นอีกแล้ว
ผู้คนมากน้อยในสำนักจวินจื่อที่ตกใจเพราะได้รับความเอ็นดูต่างพยักหน้า ก็ทำได้เพียงรักษาแผลอย่างสงบจิตสงบใจเท่านั้นแล้ว
แต่ทว่าไม่นานพวกเขาก็พบว่าขณะเดียวกันกับที่พวกเขารักษาแผลอยู่นั้น การฝึกฌานดูเหมือนมีการพัฒนาขึ้นบ้างเล็กน้อย แต่พวกเขาเองก็ไม่ได้คิดมากอะไร เพียงแค่มองว่าที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ของเหล่าอัจฉริยะเท่านั้น
แต่ทว่าด้านในตาค่ายกลนั้น
ในพื้นที่สึกกร่อนก่อนหน้านั้น…
“…”
นอกจากห้าธาตุศักดิ์สิทธิ์ เยี่ยนอวี๋ที่ยังหลงเหลือพลังเวทย์และกำลังดูดซับพลังสวรรค์และปฐพีอยู่นั้น กลิ่นอายของนางค่อยๆ เพิ่มขึ้น และ ‘ลูกแก้วชั่วร้าย’ ที่อยู่ตรงหน้านางเม็ดนั้นได้ค่อยๆ หายไป
วิ้งงง!
วิ้งงง! วิ้งงง…
ลูกแก้วชั่วร้ายที่รู้ว่าจะหลุดพ้นแล้วราวกับมีปัญญาวิญญาณ กำลังสั่นสะท้านอย่างรุนแรง! ราวกับว่าอยากจะหนีออกจากเครื่องพันธนาการและจุดจบของการถูกหลอมละลายนี้เสีย
แต่ทว่าเยี่ยนอวี๋ได้ควบคุมพื้นที่แห่งนี้ไว้แล้ว มันไม่สามารถหนีออกไปได้ ทำได้เพียงหลอมละลายต่อไป จนมันกรีดร้องอย่างทรมาน
“อ้ะเนะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ตื่นมาสักครู่แล้วประหลาดใจ และชี้ไปยังลูกแก้วชั่วร้ายเป็นเชิงถามท่านพ่อคนงามที่กำลังทำอาหารอยู่ “อ้ะเนะเนะ?”
“ไม่ต้องสนใจมัน มันหนีไม่พ้นหรอก” ต้าซือมิ่งที่กำลังชงนมอยู่ขยับลูกน้อยในอ้อมกอดเล็กน้อย รู้สึกเจ็บบริเวณหน้าอก นั่นคือผลกระทบที่ถูกแม่ของลูกตีไปเมื่อครู่
ซึ่งนี่ทำให้ต้าซือมิ่งที่กำลังอุ้มลูกน้อยอยู่รู้สึกหมดหนทาง ทั้งถอนใจเบาๆ “หากว่าแม่ของเจ้าเชื่อฟังเช่นเจ้าจะดีแค่ไหนเชียว” เขาก็คงมีทั้งภรรยาและลูกแล้ว
“อ้ะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าฟังไม่ชัด
ต้าซือมิ่งยกมือขึ้นลูบๆ ลูกน้อย แล้วเงยหน้ามองแม่ของลูกที่อยู่ห่างออกไป และนางได้หลอมละลาย ‘ลูกแก้วชั่วร้าย’ ไปจนหมดแล้ว พร้อมทั้งดูดซับพลังเวทย์มนต์บริสุทธิ์ที่หลอมละลายจาก ‘ลูกแก้วชั่วร้าย’ นี้เข้าสู่ร่างกาย
แต่เมื่อพลังกลุ่มนี้เข้าสู่ร่างกาย…
วิ้งงง!
เส้นผมสีดำที่ฟื้นฟูกลับมาตั้งนานแล้วของเยี่ยนอวี๋กลับกลายเป็นสีม่วงอีกครั้ง!
โอ้โห!
เยี่ยนเสี่ยวเป่ารู้สึกงดงามจนจับมือท่านพ่อของเขา!
และสีม่วงครั้งนี้ต่างจากสีม่วงเมื่อครั้งที่นางกระตุ้นพลัง แสงระยิบระยับสีม่วงเปล่งประกายรอบๆ ตัวนางราวกับจักรวาลแห่งดาราโคจรล้อมรอบตัวนางอยู่
“…”
กลิ่นอายหนึ่งที่ดูไม่มีอะไร แต่กลับมีกฎแห่งสวรรค์อยู่ค่อยๆ ล้นออกจากอนุสติของเยี่ยนอวี๋สู่อวกาศครอบคลุมทั้งผนึกนี้ และกระตุ้นแดนมืดวิญญาณอสูร! รวมถึงโลกมนุษย์ด้วย
ดังนั้น…
ปังงง!
บริเวณเหนือเมืองโยวตู!
เปล่งประกายสีสันสวยงามออกมาแล้ว!
และพลังสร้างโลกที่มันเปล่งประกายออกมาก็ค่อยๆ แผ่ซ่านไปทั่ว ค่อยๆ มีผลกระทบต่อทั้งต้าซย่า! รวมทั้งสวรรค์เก้าชั้นฟ้า
เพราะ…
เยี่ยนอวี๋ที่กำลังฟื้นฟูพลังจิตสักสองส่วนอยู่นั้น ได้เปิดทักษะใหม่ขึ้นมา