เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 280 โจรขโมยธูปท้องดำง่าย
จวนอ๋องอินในตอนนี้ตั้งอยู่บนถนนวิหคในเมืองที่พลุกพล่าน เทียบกับจวนอ๋องอื่นๆ ที่ตั้งอยู่บนถนนทางตอนเหนือถือเป็นตำแหน่งที่แย่ที่สุด และมีขนาดเล็กที่สุดด้วย
ด้วยเหตุนี้จะเห็นได้ว่าโยวตูอ๋องไม่ค่อยได้รับการต้อนรับจากหยวนคังฮ่องเต้นัก แต่ทว่าพื้นที่แห่งนี้กลับสะดวกต่อ ‘การทำงาน’ ของพ่อบ้านจวนอ๋องอย่างมาก เพราะทำให้เขารู้เรื่องราวชาวบ้านมากยิ่งขึ้นไปอีก!
“นายน้อยถามถึงเรื่องนี้หรือ ขอข้าน้อยคิดครู่หนึ่ง” พ่อบ้านอาวุโสที่พอจะนึกออกได้ครุ่นคิด และคิดออกจริงๆ ด้วย “ข้ารู้! มารดาของปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนดูเหมือนจะเป็นบุตรสาวของผู้มีอำนาจในสำนักคุนอู๋”
“มีความสัมพันธ์กันจริงด้วย?” อินหลิวเฟิงตะลึง
เยี่ยนจื่อเสายิ่งมึนเข้าไปใหญ่ “เหตุใดข้าจึงไม่รู้”
“ลุงเฮ่อ ท่านคิดดีๆ อีกทีสิ” เอ้อร์เหมารีบถาม “ท่านมีแหล่งข่าวของตนเองจริงๆ หรือว่าแค่ได้ยินจากปากคนอื่นมากัน”
“ต้องเป็นข่าวลืออย่างแน่นอน!” พ่อบ้านอาวุโสเฮ่อตอบอย่างมั่นใจ
อินหลิวเฟิงจำต้องถาม “แล้วเราไม่มีสายข่าวของเราเลยหรือ”
“เพราะสำนักคุนอู๋จัดการเรื่องนี้ดีมากและลึกลับมาก ตอนนั้นข้าน้อยเพิ่งมาถึงเมืองหลวง เมื่อข้าน้อยพัฒนาลูกศิษย์เสร็จสิ้นแล้วก็ไม่สามารถสืบหาถึงต้นตอของเรื่องได้อีกเลย” พ่อบ้านอาวุโสเฮ่อกางมือออกอย่างไร้หนทาง
“เป็นเรื่องเมื่อปีก่อนแล้วอย่างนั้นหรือ”
“ประมาณยี่สิบหกปีก่อนได้กระมัง”
“เช่นนั้นก็เป็นปีที่พี่ใหญ่ของข้ากำเนิดน่ะสิ” เยี่ยนจื่อเสาเกาหน้าผากครุ่นคิดอยู่ “หรือว่าท่านแม่ของเราจะเกี่ยวข้องกับสำนักคุนอู๋จริงๆ แต่ว่าแล้วก็ข้าไม่เคยพบหน้าฝั่งลุงตั้งแต่เด็กเลย”
“อ้ะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าเบิกตากว้างมองท่านลุงรองของเขา
เยี่ยนจื่อเสาจึงจับหลานตัวน้อยเบาๆ “ใช่แล้ว ไม่เหมือนเจ้าที่มีท่านลุงที่ดีเช่นข้าตั้งแต่เล็ก”
“เนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าจับมือท่านลุงรองด้วยความดีใจราวกับว่ากำลังปลอบโยนท่านลุงรองและดูเหมือนกำลังโอ้อวดอีกด้วย
ท่าทางฉลาดเช่นนี้ ทำให้พ่อบ้านอาวุโสเฮ่ออดไม่ได้ที่จะถามขึ้น “นายน้อย ท่านเองก็อัธยาศัยดีถึงเพียงนี้ แต่เหตุใดคุณชายน้อยผู้นี้ถึงไม่นายน้อยรุ่นต่อไปของเรากันนะ”
อินหลิวเฟิงเหงื่อตก! เขาอยากรู้จริงๆ ว่าบิดาของเขาเลือกคนใช้อย่างไร เหตุใดจึงมีแต่คนใช้ที่ไม่กลัวนายเลยสักคน!
เอ้อร์เหมาเห็นด้วย “ดังนั้นแล้ว นายน้อยเป็นคุณชายเสเพลจอมปลอมผู้หนึ่ง ข้าสงสัยว่าเขาอาจจะใช้การไม่ได้ด้วย”
“หากเป็นเช่นนั้น คืนนี้ข้าน้อยจะเตรียมสมุนไพรบำรุงไตให้ท่าน!” พ่อบ้านอาวุโสเฮ่อดูเหมือนจะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง
อินหลิวเฟิงสีหน้าเขียวช้ำ “พอเลย! พวกเจ้าช่างกล้าดีนัก กล้าจู้จี้เรื่องเจ้านายอย่างนั้นหรือ”
“เจ้าให้ท้ายเองกระมัง” เยี่ยนจื่อเสาพูดแทงใจ
อินหลิวเฟิงรีบตบโต๊ะ “ข้าจะบอกพวกเจ้าให้ อย่าคิดว่าข้าโกรธไม่เป็นนะ! ที่ข้าให้ท้ายพวกเจ้านั่นก็เพราะ…”
“ท่านเอ็นดูในตัวข้าน้อยและคนอื่นๆ ข้าน้อยรู้ดี เพราะเช่นนั้นแล้วที่ท่านต้องดื่มสมุนไพรบำรุงไต ข้าน้อยจะไม่แพร่งพรายออกไปแน่นอน!” พ่อบ้านอาวุโสเฮ่อแสดงความจริงจัง “ส่วนเรื่องปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนนั้นให้เป็นหน้าที่ของข้าน้อยเอง ข้าน้อยจะรีบไปสืบหาอย่างละเอียด!”
“ไม่ใช่ว่าหาต้นตอไม่พบหรือ”
“เพื่อนายน้อยแล้ว ข้าน้อยต้องหาให้พบจนได้! ทุกท่านรอก่อน ข้าน้อยจะลงมือด้วยตนเอง พวกท่านตามอัธยาศัยเลย” พ่อบ้านอาวุโสเฮ่อกล่าวจบก็รีบออกจากจวนทันที ไม่รู้ว่ารีบไปสืบเรื่องหรือรีบไปซื้อสมุนไพรบำรุงไตกันแน่
เยี่ยนจื่อเสารู้สึกว่าน่าจะเพราะรีบไปซื้อสมุนไพรบำรุงไต…
ส่วนอินหลิวเฟิงที่กังวลว่าต้าซือมิ่งจะปล่อยพลังงานเยือกเย็นให้กับตนนั้น รีบกล่าวขึ้น “ข้าไปดูจวนอ๋องก่อน แล้วก็เตรียมตัวไปดูท่านพ่อของข้าและพี่ใหญ่เยี่ยนในวันพรุ่งนี้ด้วยทีเดียวเลย”
กล่าวจบไม่รอให้เยี่ยนอวี๋ตอบกลับ อินหลิวเฟิงก็หายตัวไปทันที
เอ้อร์เหมาเองก็ถอนหายใจแล้วตามไป รู้สึกว่านายของตนขี้ขลาดเสียจริง เป็นเช่นนี้จะต้องไม่มีภรรยาแน่นอน เฮ้อ! ช่างน่าเป็นห่วงเสียจริง
เยี่ยนจื่อเสาเห็นดังนั้นก็กลั้นขำไม่อยู่ “นายบ่าวสองคนนี้”
“ซื่อบื้อ” เม่ยเอ๋อร์ตอบเสียงชัด
“อ้ะเนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าเห็นด้วย
ทำให้เยี่ยนจื่อเสายิ่งกลั้นขำไม่อยู่ แต่ทว่าสิ่งที่เขาสนใจคือ “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ เจ้าว่าข่าวลือเป็นเรื่องจริงหรือไม่”
“เป็นไปได้” เยี่ยนอวี๋ไม่ค่อยสนใจนัก
แต่ก็มีคนของจวนอ๋องเข้ามารายงาน “เรียนต้าซือมิ่ง นอกจวนมีบุคคลที่อ้างว่าเป็นลูกน้องของท่านมาขอพบ ท่านจะยอมให้เข้าพบหรือไม่ขอรับ”
“ให้เข้ามา” ต้าซือมิ่งพูดพร้อมกับมองไปทางเยี่ยนอวี๋ “ประเดี๋ยวเจ้าก็จะได้พบคนที่ถือว่าเป็นลูกน้องของข้าจริงๆ แล้ว”
“ข้าไม่ได้อยากพบ”
“ปากไม่ตรงกับใจ”
เยี่ยนอวี๋ “…”
นางปากไม่ตรงกับใจอย่างไรกัน นาง…
เยี่ยนอวี๋ที่กำลังจะบอกว่านางไม่ได้สนใจกลับมองไปบริเวณที่ห่างออกไป ชายหนุ่มวัยกลางคนในร่างชุดดำที่มีกลิ่นอายคล้ายกับเม่ยเอ๋อร์ได้เดินเข้ามา
“!” ดวงตาของเม่ยเอ๋อร์เปล่งประกาย
แต่คนคนนั้นกลับไม่แม้แต่สบตา แต่ไปคุกเข่าต่อหน้าต้าซือมิ่งหรงโดนตรง “ต้าซือมิ่ง ข้าน้อยมาช้าไป”
“ลุกขึ้นเถิด” ระหว่างที่หรงอี้ตอบก็ลูบลูกน้อยเบาๆ พร้อมกับกล่าวประกาศ “นี่เป็นบุตรชายของข้า ข้างๆ นี้เป็นภรรยาที่ยังไม่ได้แต่งงานกันของข้า”
“เจ้า…” เยี่ยนอวี๋กำลังจะคัดค้าน
“ข้าน้อยขอคารวะนายหญิง และคุณชายน้อยขอรับ” คนใช้ในร่างชุดดำที่คุกเข่าลงไปได้ยอมรับนายคนใหม่ทั้งสองคนแล้ว แล้วรายงานต่อไปว่า “ที่ข้าน้อยมาก็เพื่อจะรายงานเรื่องเกี่ยวกับนายหญิงขอรับ”
“ว่ามา”
“ตามข้อมูลที่ได้รับมา มารดาของนายหญิงเป็นบุตรสาวของจางเจิ้นหวาแห่งสำนักคุนอู๋จริง ทั้งยังเป็นบุตรสาวที่ให้กำเนิดจากนักร้องในหอกุ้ยชุนฟางแห่งเมืองหลวงอีกด้วย และเดิมนางมีฐานะเป็นทาสตามมารดา
แต่ภายหลังน่าจะเป็นเพราะความสัมพันธ์กับเจ้าสำนักคุนอู๋จึงได้เปลี่ยนฐานะ บ้างก็ว่าเป็นเพราะมารดาของนายหญิงสวรรค์มาโปรด ได้ปลุกพรสวรรค์การเป็นผู้อัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ได้กะทันหัน จึงได้เปลี่ยนฐานะของตนให้เป็นผู้สูงส่ง แต่เรื่องนี้ไม่สามารถสืบต่อไปได้ แต่ข้าน้อยได้ส่งคนให้สืบต่อไปแล้วขอรับ” คนใช้วัยกลางคนกลาวสั้นๆ ได้ใจความ
“เช่นนี้ก็แสดงว่าท่านแม่ของเรามีความเกี่ยวข้องกับสำนักคุนอู๋จริงๆ อย่างนั้นหรือ!” เยี่ยนจื่อเสาไม่อยากจะเชื่อ ที่สำคัญคือเพราะว่าท่านพ่อของเขาไม่ได้พูดอะไรเลยน่ะสิ!
“ใช่แล้วขอรับ” คนใช้วัยกลางคนตอบอย่างมั่นใจ
ต้าซือมิ่งบางคนถึงได้แนะนำคนใช้ของตน “เขามีนามว่าหลานชัง มีเชื้อสายของเทพอสูรและจัดการงานภายตำหนักซือมิ่งแทนข้า”
“เป็นเช่นนี้เอง” เยี่ยนอวี๋สัมผัสได้ว่าคนตรงหน้านี้มีเชื้อสายเทพอสูรอยู่จริง และมีลำดับของการปลุกตื่นสูงมาก แต่ลมปราณซับซ้อน ไม่ใช่ลมปราณรุ่นหลังของผู้ใต้บัญชาของนางตนใดเลย
หลานชังที่ได้รับการแนะนำจากต้าซือมิ่งตื่นเต้น “เป็นบุญของหลานชังที่ได้ช่วยเหลือต้าซือมิ่ง หากนายหญิงมีเรื่องให้ข้าน้อยรับใช้ก็บอกมาได้เลยขอรับ”
“อย่าเรียกข้าว่านายหญิง” เยี่ยนอวี๋อยากจะแก้ไข
“ขอรับ นายหญิง!”
เยี่ยนอวี๋ “…”
นี่ต้องเป็นเจตนาลับของต้าซือมิ่งบางคนแน่นอน!
ต้าซือมิ่งผู้ไม่รู้เรื่องใดๆ เลยกำลังจะอธิบาย เจ้าตัวน้อยก็ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง “ฮ่า!”
“คุณชายน้อยมีอะไรให้รับใช้ขอรับ” หลานชังถามขึ้น
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่เพียงแค่อยากถอนหายใจเท่านั้นกะพริบตา “เนะ?” ถามข้าหรือ
ต้าซือมิ่งที่จับตัวลูกน้อยอยู่รู้ว่าลูกน้อยอยากไปเล่นอย่างอื่นแล้ว “มีอะไรอีกหรือไม่”
“ยังมีอีกเรื่องหนึ่งขอรับ ก่อนที่ฮองเฮากู้ที่ถูกปลดตำแหน่งแล้วจะเข้าวัง ได้ฝากให้ข้าน้อยนำจดหมายมาให้ท่านหนึ่งฉบับ ข้าน้อยรู้ดีว่าท่านไม่สนใจแน่นอนจึงเผาทิ้งไปแล้ว ตอนนี้…”
“ดีมาก” ต้าซือมิ่งที่มองเยี่ยนอวี๋แวบหนึ่งพูดขึ้น “ไม่มีเรื่องอันใดแล้วก็กลับไปเถอะ ส่วน…”
“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ เรื่องตอนนั้นเจ้าอยากสืบต่อไปหรือไม่” ต้าซือมิ่งหันไปถามภรรยา
เยี่ยนอวี๋ส่ายศีรษะตามคาด “ไม่จำเป็น ท่านพ่อของข้าไม่อยากให้เรารู้จึงไม่พูด ข้าเองก็ไม่จำเป็นต้องรู้อะไรจากปากคนอื่น”
“เช่นนั้น ข้าน้อยขอตัวก่อน” หลานชังทูลลาทันที
แต่เม่ยเอ๋อร์รับรู้ได้ว่าคนคนนี้ไม่ได้จากไปไหนไกล เขายังอยู่นอกจวน เห็นได้ชัดว่าเตรียมตัวรับใช้ตลอดเวลา
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่เห็นว่าบิดาไม่เป็นอะไรแล้ว เขาจึงได้ขอ ‘รางวัล’ “พ่อ…กิน…กิน…”
“เด็กตะกละ” เยี่ยนอวี๋อดไม่ได้ที่จับบีบมืออ้วนป้อมของลูกน้อย
“ไม่…ไม่…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าบอก “อ้ะเนะเนะ!” เพื่อให้โตไวๆ ต่างหาก
เยี่ยนอวี๋ยังไม่เข้าใจในความหมายของลูกน้อย แต่ต้าซือมิ่งบางคนได้พยักหน้าแล้ว “อืม เสี่ยวเป่ากินเยอะๆ โตไวๆ จะได้ปกป้องท่านแม่ของเจ้าได้”
“เนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าพยักหน้าอย่างภาคภูมิใจ!
เยี่ยนอวี๋ยิ้มเบาๆ รับลูกน้อยมาในอ้อมกอด “เจ้าไปทำอาหารให้เสี่ยวเป่าเถิด”
“รับทราบ” ต้าซือมิ่งที่ยกมุมปากเล็กน้อยลอยตัวจากไป
“พ่อ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าตะโกนเรียกพ่อ เห็นได้ชัดว่าอยากตามบิดาของเขาไป ห่างไม่ได้แม้วินาทีเดียวจริงๆ
เยี่ยนอวี๋จะทำอย่างไรได้ นางทำได้เพียงตามไปแต่โดยดี
เยี่ยนจื่อเสามองสามพ่อแม่ลูกจากไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ยิ่งรู้สึกว่าหากครอบครัวนี้สามารถอยู่ด้วยกันต่อไปตลอดเช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน
จากนั้นก็เงียบตลอดทางกระทั่งมืดค่ำ
เยี่ยนอวี๋ที่เพิ่งกล่อมลูกน้อยที่ถึงคราวที่ต้องนอนกับนางแล้วหลับไปก็ได้ยินเสียงดังมาจากบริเวณหน้าต่าง กลิ่นอายจางๆ ลอยมาทีละนิดๆ
เป็นเขา?
เยี่ยนอวี๋สามารถแยกออกได้ว่ากลิ่นหอมที่สง่างามราวกับพระพรหม สดชื่นราวกับกลิ่นหิมะนี้เป็นกลิ่นอายเฉพาะตัวของต้าซือมิ่ง แต่กลับคาดไม่ถึงเลยว่า! เขาจะเข้ามาทางหน้าต่างตอนมืดค่ำ เขาคิดจะทำอะไรกัน
และต้าซือมิ่งที่ปีนหน้าต่างเข้ามาจริงๆ ได้ปรากฏตัวอยู่หน้าเตียงแล้ว ทั้งยังเปิดม่านคลุมเบาๆ พร้อมกับอุ้มลูกน้อยที่กำลังจะตื่นจากที่นอนเพราะสัมผัสได้ถึงการมาของเขาขึ้นมาวางไว้บนแสงระยิบระยับ
เยี่ยนอวี๋ “…”
นางจะคอยดู! ว่าเขาจะทำอะไร!
ส่วนต้าซือมิ่งบางคน เดิมเขาคิดว่าการเคลื่อนไหวเล็กๆ น้อยๆ ของเขาจะทำให้คนข้างๆ ตื่น แต่คาดไม่ถึงว่านางไม่ ‘ตื่น’?
ต้าซือมิ่งที่ยกมุมปากขึ้นท่ามกลางความมืดมิดในยามราตรี เขาได้ค่อยๆ โน้มตัวลงไปเงียบๆ ซ่อนกลิ่นอายของตนไว้ทั้งหมด จากนั้น…
เยี่ยนอวี๋รู้เพียงว่าบริเวณริมฝีปากนั้น…เย็นเล็กน้อย!?