เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 292 เสือดาวป่าต้าซือมิ่ง
ตอนที่ 292 เสือดาวป่าต้าซือมิ่ง!
“แหมๆ! ไม่น่าแปลกที่ลุงเยี่ยนจะส่งจดหมายมาวันละสามฉบับ ลูกสะใภ้ที่สวยงามเช่นนี้ก็ต้องรีบแต่งเข้าเรือนสิ” สหายคนสนิทของเยี่ยนจื่อเยี่ยสองคน คู่ควรกับคำว่าสหายทรยศที่ดีมากจริงๆ
พวกเขาเพิ่งได้ยินว่าเยี่ยนจื่อเยี่ยกำลังมีปัญหาจึงตามมาช่วย แต่ไม่คาดคิดเลยว่าจะช่วยอะไรไม่ได้ กลับกันยังถูก ‘โชว์หวาน’ ใส่อีก!
ดังนั้นต้าซือมิ่งบางคนก็ยิ่งหึงเข้าไปใหญ่!
เยี่ยนจื่อเยี่ยดุสหายทั้งสองทันที “อย่าพูดไร้สาระ! นี่คือน้องสาวของข้า…เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์”
“หา?” ทั้งสองคนที่เดินเข้ามาใกล้ถึงกับตะลึง “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์?”
“ใช่แล้ว” เยี่ยนจื่อเยี่ยจับมือน้องสาวของเขาและแนะนำ “นี่คือสหายของพี่ นี่คือโหยวฮู่ปั๋วและเฟิงจื่ออวิ๋น”
เมื่อได้ยินดังนั้น ลูกศิษย์ในชุดสีน้ำเงินทั้งสองก็โค้งคำนับทันที “สวัสดีน้องสาว!”
“ที่แท้น้องสาวงามเพียงนี้เชียวหรือ ไม่เหมือนเจ้าสองคนเลย! เจ้าสองคนโตมาผิดปกติหรือนี่” เฟิงจื่ออวิ๋นที่ร่าเริงกว่าหัวเราะทันทีหลังจากทักทายเสร็จ
โหยวฮู่ปั๋วยิ่งกว่า เขาถามอย่างลับๆ ว่า “ข้าไม่ได้ว่าอะไรนะ แต่จื่อเยี่ยเจ้าเป็นสหายที่แย่มากจริงๆ เหตุใตจึงไม่แนะนำน้องสาวที่งามเช่นนี้ให้กับสหายของเจ้ามาก่อนเลย”
ดังนั้นต้าซือมิ่งบางคนที่ปรากฏตัวอย่างเงียบๆ ข้างเยี่ยนอวี๋แล้วกล่าวว่า “พี่ใหญ่ สหายของท่านต้องการที่จะฝึกด้วยหรือไม่”
“…นี่ใครกัน” โหยวฮู่ปั๋วเงยหน้า มีลักษณะหญิงสาวเล็กน้อยอยู่ระหว่างคิ้วของเขา แสดงให้เห็นถึงรูปลักษณ์ที่มีเสน่ห์
ดวงตาของเฟิงจื่ออวิ๋นเฉียบคม มองออกถึงความสัมพันธ์แนบชิดสนิทสนมระหว่างต้าซือมิ่งบางคนกับเยี่ยนอวี๋ และเขาก็หัวเราะ “ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่มีโอกาสแล้วล่ะโหยวฮู่ปั๋ว จื่อเยี่ยเขามีน้องเขยแล้ว”
เยี่ยนจื่อเยี่ยไม่ได้ปฏิเสธ แต่เขาไม่ได้แนะนำโดยตรง เขาโบกมืออีกครั้งเพื่อบอก “ไม่พูดด้วยแล้ว ลานสำนักศึกษาอยู่ตรงหน้านี้แล้ว ตามข้ามา”
“เชิญพี่ใหญ่” ต้าซือมิ่งยกมือขึ้นเชิญพร้อมกัน
เจ้าตัวน้อยที่อยู่อีกด้านหนึ่งร้อง ‘โอ้ๆ’ ขึ้นมาแล้ว เพราะท่านพ่อท่านแม่ของเขาอยู่ไกลจากเขา เจ้าตัวน้อยบางคนจึงไม่พอใจนัก ลู่หมิงก็แทบจะอุ้มเขาไม่ไหวแล้ว
ดังนั้นเยี่ยนอวี๋จึงเงยหน้า และเห็นว่าลูกน้อยกำลังจะล้มลงกับพื้นอีกครั้ง นางจึงต้องรีบเข้าไปอุ้มลูกน้อยไว้ แต่จู่ๆ ต้าซือมิ่งบางคนก็ดึงนางเข้าไปในอ้อมกอดของเขาก่อนที่จะตามพี่ใหญ่ทัน! เขาต้องกอดนางก่อน แล้วจึงปล่อยไป
เยี่ยนอวี๋ “…”
นางไม่ทันได้สติ!
เพราะนางสงสัยว่านางเพิ่งได้ยินเสียง ‘หึ’ ดังอยู่ข้างหู?
“อ้ะ! พ่อ!”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่พบว่าท่านพ่อของเขาไม่แม้แต่จะมองมาที่เขา และกำลังจะจากไปก็กรีดร้องอย่างเร่งรีบ!
ต้าซือมิ่งบางคนทำได้เพียงหันไปมองลูก ก็เห็นว่าลูกน้อยกำลังเอื้อมมือมาหาเขาจึงได้ก้าวไปข้างหน้าและกอดลูกน้อย “จะรีบร้อนอะไรไป ท่านพ่อไม่หนีไปไหนหรอก”
“อ้ะเนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าคว้าพ่อของเขาไว้แน่นแล้วงอแง บอกว่าเกือบจะหนีแล้ว!
หรงอี้ที่สัมผัสได้ถึงความเข้มแข็งของลูกน้อยยิ้มเบาๆ “เช่นนั้นท่านพ่อจะพาเจ้าไป”
“อ้ะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าพอใจ
ต้าซือมิ่งบางคนใช้ประโยชน์จากขาเรียวยาวของเขา และก้าว ‘ทัน’ พี่ใหญ่ที่อยู่ข้างหน้าไม่กี่ก้าว เยี่ยนอวี๋ทำได้เพียงบอกลาสหายร่วมชั้นสองคนของพี่ใหญ่ แล้วตามสองพ่อลูกไป
“จุ๊!” เฟิงจื่ออวิ๋นตบไหล่โหยวฮู่ปั๋วเบาๆ “ดูสิ มีลูกแล้วด้วย”
โหยวฮู่ปั๋วถอนหายใจลึกราวกับว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ แล้วกล่าวว่า “น่าเสียดาย ข้าที่ดูดีเช่นนี้มาช้าไป สหายจื่อเยี่ยเป็นสหายที่แย่มากจริงๆ”
“เพราะเป็นสหายนั่นแหละถึงรู้ว่าเจ้าเป็นคนเจ้าชู้แค่ไหน! ตัดใจเสียเถอะ เจ้ายังมีคู่หมั้นลูกพี่ลูกน้องรออยู่ที่บ้านอีก” หลังจากที่เฟิงจื่ออวิ๋นตัดความหวังของสหายร่วมชั้นอย่างแล้งน้ำใจแล้ว เขาก็ตามไปทันที
ด้วยสายตาของเฟิงจื่ออวิ๋นแล้วสามารถมองออกได้ว่าน้องเขยของเยี่ยนจื่อเยี่ยคนนี้ไม่ธรรมดา! การดวลครั้งนี้น่าสนใจอย่างยิ่ง และก็เป็นไปตามที่คาดไว้จริงๆ
…
บนลานของสำนักศึกษา
หรงอี้และเยี่ยนจื่อเยี่ยที่เปลี่ยนเสื้อคลุมและสวมชุดรัดรูปแล้วก็เพียงพอที่จะดึงดูดความสนใจของลูกศิษย์วัยรุ่นจำนวนมากขณะที่พวกเขาลงไปในลานประลอง!
“นั่นศิษย์พี่จื่อเยี่ยจากเทียนเหมินมิใช่หรือ หล่อมาก!”
“แล้วก็! แล้วก็อีกคนที่ลงสนามพร้อมกับศิษย์พี่จื่อเยี่ยเป็นใครกัน! ดูเหมือนเทพเซียนมาก! และดุร้ายมาก! ยอดเยี่ยมจริงๆ!” ลูกศิษย์หญิงที่ไม่มีเจตนาอันใดเลยชื่นชมใบหน้าและรูปร่างที่สวยงามของเขา
เยี่ยนอวี๋ที่เห็นต้าซือมิ่งสวมชุดรัดรูปเป็นครั้งแรกหรี่ตาลง แม้ว่านางจะรู้ตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วว่าคนคนนี้ขายาว แต่นางไม่รู้ว่าเขามีเอวที่แคบ ไหล่กว้าง และสัดส่วนที่สมบูรณ์แบบมาก
หากบอกว่าต้าซือมิ่งที่สวมชุดคลุมสีดำเป็นที่ต้องห้ามและน่าดึงดูด เช่นนั้นก็แสดงว่าเขามีแต่ความเย้ายวนเท่านั้นในขณะที่สวมชุดรัดรูปสีดำ! เย้ายวนอย่างหาที่สุดไม่ได้
แน่นอนว่าพี่ใหญ่เยี่ยนก็ยอดเยี่ยมมากเช่นกัน เขาสวมชุดรัดรูปสีเขียวอ่อน แสดงออกถึงความต้นสนได้อย่างสมบูรณ์
“เชิญ”
หลังจากที่ทั้งสองคนที่มีรูปร่างต่างออกไปทำความเคารพต่อกันแล้ว ก็ได้ผนึกฌานตบะของตนเอง เพื่อให้ลูกศิษย์ที่ค่อยๆ มามุงดูรับรู้ว่าทั้งสองกำลังแข่งขันทางกายภาพ
ในสำนักศึกษาผู้อัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ การแข่งขันทางกายภาพแบบนี้หายากมาก เพราะวิชาเอกของผู้อัญเชิญศักดิ์สิทธิ์คือการฝึกพลังจิตใจ ดังนั้นการมุงดูของลูกศิษย์จึงมากขึ้นกว่าเดิม
ในขณะเดียวกัน
ฟิ้ววว!
เยี่ยนจื่อเยี่ยโจมตีก่อน หมัดของเขา! เป็นเหมือนกับตัวเขา เย็นชา และดับความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ โจมตีเข้าที่หว่างคิ้วของต้าซือมิ่งบางคนโดยตรง
“อ้ะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าตะโกน เขาประหม่ามาก! เมื่อนั้นเขาถึงจะรู้ว่าลุงรองของเขาโกหก! ท่านลุงใหญ่จะตีท่านพ่อต่างหาก! โกรธมาก!
เยี่ยนอวี๋ลูบลูกน้อยทันที แต่ดวงตาของนางถูกดึงดูดโดยต้าซือมิ่งที่อยู่บนลานประลอง เพราะแม้ว่าพี่ใหญ่ของนางจะโจมตีรวดเร็วมาก! รูปแบบหมัดก็รุนแรง แต่หัวหน้าต้าซือมิ่งบางคนนั้นมีความสามารถมากกว่า เขาหลีกเลี่ยงหมัดไปด้านข้างได้อย่างแม่นยำ และจับข้อมือของพี่ใหญ่ไว้ได้ เห็นได้ชัดว่าตั้งใจจะตอบโต้
แต่เยี่ยนจื่อเยี่ยผู้ซึ่อคาดการณ์ไว้แล้วจู่โจมอีกครั้ง! ด้วยมืออีกข้างหนึ่ง เขาตีเข้าที่เอวและหน้าท้องของต้าซือมิ่งบางคนอย่างรวดเร็ว หมัดหนึ่งเร็วกว่าอีกหมัดหนึ่ง
ฟิ้ววว!
หรงอี้ที่โค้งคำนับอย่างสง่างาม หลีกเลี่ยงการโจมตีของเยี่ยนจื่อเยี่ยได้อีกครั้ง มีแสงที่แหลมคมควบแน่นอยู่ใต้ดวงตาของเขา ทำให้กลิ่นอายของเขาค่อยๆ เปลี่ยนไป ราวกับเสือดาวตัวผู้ที่จ้องมองเหยื่อของมัน!
ทำให้เยี่ยนจื่อเยี่ยที่สัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของเขารีบเปลี่ยนหมัดของเขาเป็นกรงเล็บทันที ท่าทางของเขาราวกับงู! โจมตีเหมือนนกอินทรี ที่ยิ่งโหด! ยิ่งเร็ว! ยิ่งแม่นยำและร้ายแรงยิ่งขึ้น
และครั้งนี้…
ปังงง!
ต้าซือมิ่งที่เลือกที่จะต่อสู้ซึ่งๆ หน้า เขารับทุกการโจมตีจากเยี่ยนจื่อเยี่ยได้อย่างแม่นยำ! ในลานประลอง ทั้งสองคนต่อสู้ด้วยร่างกายของพวกเขา สู้กันจนเกิดความรู้สึกราวกับสายฟ้าประกายไฟ
“ร่างกายแข็งแกร่งอะไรเช่นนี้!”
“เร็วมาก!”
“ดีๆ!”
ทั้งลานประลองต่างส่งเสียงดีๆ แต่ละคนดูกันอย่างใจจดใจจ่อ
แม้แต่เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ตอนแรกยังโกรธอยู่ นัยน์ตากลมโตของเขาเป็นประกาย ทันใดนั้นเขาก็เห็นว่าท่านลุงของเขากำลังจะตีท่านพ่อของเขา และเห็นว่าท่านพ่อของเขาตีกลับไปเช่นกัน ทำให้เขาประหม่ามาก!
ที่ดีที่สุดคือ…
โครมมม!
เมื่อต้าซือมิ่งบางคนเปล่งเสียงคำรามของเสือดาวออกมา เขาเหมือนกับเสือดาวจริงๆ! ฝ่ามือกดทับไว้ที่คอของพี่ใหญ่ ทั้งมือและเท้าก็ขวางไว้ได้หมด พี่ใหญ่กดทับกล่องเสียงของเขาฉีกหัวใจของเขา! และโจมตีที่เอวของเขาด้วยมือทั้งสองกับเท้าหนึ่งข้าง
แคว่ก!
ใครก็ตามที่เข้าใจเข้าใจดีว่าเยี่ยนจื่อเยี่ยถูกคู่ต่อสู้ขวางการโจมตีได้อย่างสมบูรณ์ และเขาจะถูกตอบโต้โดยคู่ต่อสู้อย่างรวดเร็ว! จากนั้น…
ฟิ้ววว!
ทันใดนั้น เยี่ยนจื่อเยี่ยที่หลบการถูกบีบคอจน ‘ถึงตาย’ อย่างรวดเร็ว! เขาแกว่งไกวเหมือนต้นสนสีเขียวและการโจมตีทั้งหมดของเขาเปลี่ยนไป
เดิมทีจะโจมตีที่กล่องเสียงของหรงอี้! หัวใจ! มือ เท้าและหน้าท้อง ราวกับว่าสำเร็จ ‘การเปลี่ยนแปลง’ เกือบจะพร้อมๆ กัน โดยจับขากรรไกรล่างซี่โครงสองซี่และเป้าของหรงอี้
ดูแล้วเหมือนตำแหน่งจะอยู่ไม่ไกล! แต่ถึงแม้จะเป็นการประลองทางกายภาพสำหรับผู้แข็งแกร่งแล้วก็เหมือนห่างกันเป็นพันลี้ ยิ่งกว่านั้นคือเยี่ยนจื่อเยี่ยเร็วเกินไป
“อ้ะ! พ่อ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าตะโกนราวกับว่าเข้าใจ แม้แต่เยี่ยนอวี๋เองก็บีบลูกน้อยแน่นเช่นกัน
อินหลิวเฟิงและคนอื่นๆ อ้าปากค้างพร้อมกัน เพียงรู้สึกว่าเยี่ยนจื่อเยี่ยดูเหมือนต้นสน แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นเหมือนเสือโคร่งเหมือนหมาป่า! ความสามารถในการต่อสู้ทางกายภาพนี้รุนแรงกว่าการต่อสู้ทั่วไป
แต่ขณะที่ต้าซือมิ่งถูกเยี่ยนจื่อเยี่ยโจมตีมานั้นก็โต้กลับไปได้อีกครั้ง เห็นเพียงมือและเท้าของเขามีความยืดหยุ่นราวกับไร้กระดูก และโจมตีโดยยึดกับการเปลี่ยนแปลงการโจมตีของเยี่ยนจื่อเยี่ย และสกัดการโจมตีของอีกฝ่ายได้อีกครั้ง
นี่ยังไม่นับ…
ฟิ้ววว!
ต้าซือมิ่งที่ดูเหมือนว่ายึดติดกับมือและเท้าของเยี่ยนจื่อเยี่ยได้สำเร็จป้องกัน ท่าทางดูบางเบาเรากับห่านป่า แต่กลับมีพลังแปลกประหลาดซ่อนอยู่
วินาทีเดียวกันนั้น!
โครมมม!
ต้าซือมิ่งที่เปลี่ยนจากห่านป่าเป็นเสือร้ายได้พุ่งเข้าไปหาเยี่ยนจื่อเยี่ยจนล้มลงกับพื้นอย่างรวดเร็วและ ‘โจมตี’ ได้สำเร็จ
“!”
ลานประลองเงียบกริบ
การประลองนี้สามารถอธิบายได้ว่าเป็นการพลิกผันขึ้นๆ ลงๆ!
ในตอนแรกพวกเขาสูสีกัน และเมื่อทุกคนคิดว่าต้าซือมิ่งกำลังจะชนะ เยี่ยนจื่อเยี่ยก็เปลี่ยนวิธีการของเขาทันที แต่เมื่อทุกคนคิดว่าเยี่ยนจื่อเยี่ยจะชนะ ต้าซือมิ่งก็เปลี่ยนวิธีการของเขาทันทีเช่นกัน
แปะๆ!
แปะๆ! แปะๆ…
หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งลานประลองก็ปรบมือขึ้นอย่างดุเดือด
ต้าซือมิ่งบางคนดึงพี่ใหญ่ขึ้นด้วยมือข้างหนึ่ง สายตาเฉียมคมของทั้งสองคนจึงค่อยๆ จางหายไป แต่ทั้งคู่เข้าใจดีว่าอีกฝ่ายอ่อนข้อให้แล้ว
เพราะนี่ไม่ใช่การแข่งขันเพื่อเอาชีวิต เป็นเพียงการทดสอบที่พี่ใหญ่ทดสอบน้องเขยเท่านั้น และเยี่ยนจื่อเยี่ยก็รู้ถึงความแข็งแกร่งของ ‘น้องเขย’ คนนี้แล้ว
“พระราชโองการมาถึง…”
เหอซงที่รีบมาจากราชสำนัก เวลาเดียวกันกับที่เยี่ยนจื่อเยี่ยยอมรับในความแข็งแกร่งของน้องเขยหรงนั้น เขาก็พูดแทรกขึ้นทันทีว่า “ตามพระบัญชาของสวรรค์ ฝ่าบาทได้เรียกข้ามาให้เชิญจื่ออวี๋แห่งตระกูลเยี่ยน พาลูกชายของนางไปเข้าเฝ้าที่ราชสำนัก เพื่อจัดงานเฉลิมฉลองในราชสำนักยามค่ำคืนนี้ รับราชโองการ”