เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 327 เล่นงานคนชั่ว สะใจจริงๆ
ตอนที่ 327 เล่นงานคนชั่ว! สะใจจริงๆ!
ติ้งซีอ๋องทำท่าจะพูดอะไร แต่ต้าซือมิ่งก็เอ่ยขึ้นว่า “เริ่มได้” เขารู้ว่าภรรยารอจนจะหมดความอดทนแล้ว
เมื่อสิ้นเสียงพูดของเขา กู้หยวนซูก็ดีอกดีใจ เพราะนางคิดว่าต้าซือมิ่งคงอยากเห็นความสามารถของนาง หากนางเก่งกว่าเยี่ยนจื่ออวี๋นังสารเลวคนนี้ เขาอาจจะเปลี่ยนความคิดก็ได้ ถึงครานั้นแม้นางจะแต่งเข้าราชสำนักแล้วก็ช่างปะไร ด้วยความสามารถของต้าซือมิ่ง หยวนคังฮ่องเต้ย่อมทำอะไรเขาไม่ได้ นางยังถือโอกาสบอกความลับเรื่องโลงศพนั่นให้ต้าซือมิ่งรู้ได้ ต้าซือมิ่งจะต้องรู้สึกดีใจที่ท้ายที่สุดเขาเลือกนาง ไม่ใช่นังสารเลวไร้ประโยชน์เยี่ยนจื่ออวี๋คนนั้น!
เมื่อคิดได้เช่นนี้… กู้หยวนซูก็โค้งคำนับอย่างอ่อนช้อย มารยาทงามงดอย่างยิ่ง “เชิญ”
เสียงวิพากวิจารณ์ดังเซ็งแซ่ในทันที “กู้กุ้ยเฟยเอาจริงหรือนี่!”
“ไม่รู้ว่าตั้งโต๊ะพนันในนี้ได้หรือไม่ ข้าจะเป็นเจ้ามือเอง ใครเดิมพันว่ากู้กุ้ยเฟยชนะ ข้าขอรับไว้หมด!”
“เจ้าโง่หรือไง ใครจะไปเดิมพันว่ากู้กุ้ยเฟยชนะ! แค่การประลองเมื่อครู่นี้ของปราชญ์มหาสำนักเยี่ยน ข้าจะต้องเดิมพันให้ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนชนะแน่นอน เจ้ารับหรือไม่”
“ไม่เอาด้วยหรอก! เช่นนั้นคงเสียเงินหมดตัว แพ้หมดตูดแน่ๆ…”
ด้วยการต่อสู้ของเยี่ยนอวี๋และชิงเหอเซิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจเมื่อครู่ ผู้ชมจึงมั่นใจในตัวนางมากขึ้น หลายๆ คนคิดว่าตนคิดถูกแล้วที่ก่อนหน้านี้เดิมพันไว้ว่าสำนักชางอู๋ต้องชนะ!
เยี่ยนอวี๋ที่เป็นจุดสนใจของทุกคน นางเองก็ยื่นมือข้างขวาออกมาเงียบๆ เป็นเชิงบอกให้กู้หยวนซูเริ่ม ‘การแสดง’ ได้ ท่าทีของนางราบเรียบเฉกเช่นเมื่อครั้นสู้กับชิงเหอเซิ่ง
กู้หยวนซูยิ้มเย็นชา “ฮึ เจ้านี่มันโอหังจริงๆ”
“ข้าสวยไง” เยี่ยนอวี๋กล่าว
การตอบไม่ตรงคำถามเช่นนี้ยิ่งทำให้กู้หยวนซูโมโห เพราะว่านางริษยา นางอิจฉาความงามไร้ที่ติของเยี่ยนอวี๋ตั้งแต่แรกแล้ว อีกทั้งกู้หยวนซูยังเชื่อว่าที่ต้าซือมิ่งชอบพอนังสารเลวเยี่ยนจื่ออวี๋คนนี้ในเวลาอันรวดเร็วได้ก็เป็นเพราะหน้าตาของนาง กู้หยวนซูอารมณ์คุกรุ่น รู้สึกราวกับจะพ่นไฟออกมาอยู่แล้ว
“อัญเชิญ!” กู้หยวนซูเปิดเริ่มพิธีอัญเชิญของนักอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ทันที นางต้องการฉีกหน้าคนตรงหน้าให้รู้แล้วรู้รอด! ทำให้นังสารเลวคนนี้ไม่กล้าทำตัวโอหังเช่นนี้อีก
กู้หยวนซูใช้โลหิตจากหัวใจอัญเชิญค่ายกลพันธสัญญาออกมาอย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นถึงความสามารถอันเยี่ยมยอดของนาง นางสามารถอัญเชิญวิญญาณออกมาได้เร็วกว่าผู้ใด
แต่แล้ว… หลังจากที่กู้หยวนซูทำพิธีเรียกวิญญาณเสร็จแล้ว บนแท่นเวทีก็เงียบสงัด
“…”
ไม่มีเสียงคำรามของอสูร
“…”
ไม่มีกลิ่นอายของอสูรวิญญาณในตำนาน
“…”
ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ
ทำเอาผู้ชมที่หยุดวิจารณ์เพียงเพราะพิธีอัญเชิญอันน่าตื่นตาเมื่อครู่ของกู้หยวนซูต่างส่งเสียงไม่พอใจ พวกเขารู้สึกเหมือนถูกหลอกลวง
เจ้าตัวน้อยยังดึงดันปรบมือขึ้นมา แปะๆๆ “โง่!”
“พรวด!” ครานี้เองอินสวินอี้กลั้นขำไว้ไม่อยู่
“ฮ่าๆๆ…” ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเอ้อร์เหมา เขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ไม่ใช่เพราะเขาเส้นตื้น แต่ท่าทางของกู้หยวนซูตลกมากจริงๆ
ใครจะไปจินตนาการได้ถึงความอับอายของคนๆ หนึ่งที่แสดงสีหน้าจริงจัง ท่าทีน่าเกรงขาม เสียเวลาทำพิธีมาครึ่งค่อนวัน แต่กลับไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ได้เล่า แต่เดิมเอ้อร์เหมาก็จินตนาการไม่ถึง แต่ตอนนี้เขาเห็นภาพแล้วล่ะ!
ครั้งนี้อย่าว่าแต่คนรอบข้างหัวเราะเลย แม้แต่กู้ปิ่งคุนบิดาแท้ๆ ของนางก็รู้สึกอับอายมาก เขาปิดตาของตนไว้ จู่ๆ ก็รู้สึกเสียใจที่เมื่อครู่นี้พูดออกไปด้วยความวู่วาม
ติ้งซีอ๋องเองก็หน้าดำคร่ำเครียด “กุ้ยเฟยเหนียงเหนียงลงมาเถิด” เขาถึงกับไม่อยากเรียกว่าน้องสะใภ้แล้ว เพราะว่ามันน่าอับอายเหลือเกิน!
“ข้า…” กู้หยวนซูเองก็อยากจะกระอักเลือดเช่นกัน แต่นางยังคงไม่เข้าใจว่าเหตุใดนางจึงอัญเชิญวิญญาณไม่สำเร็จ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็อัญเชิญมาสำเร็จทุกครั้ง! ถึงแม้ว่าหลังจากที่อัญเชิญสำเร็จในครั้งแรก นางจะใช้วิธีสื่อจิตสัมผัสกับซีหวังหมู่มาตลอด ไม่ได้อัญเชิญให้มันออกมาปรากฏในโลกอีกครั้ง แต่ในเมื่อเรียกสำเร็จในครั้งแรกแล้ว หลังจากนั้นก็ยังเชื่อมสัมผัสกันตลอด หรือว่าเพียงเท่านี้ยังไม่พอ เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทาง! นี่มัน…
ในขณะที่กู้หยวนซูหน้าเปลี่ยน สถานการณ์บนแท่นประลองก็มีความเคลื่อนไหว
วี้ด!
เสียงคำรามของอสูรที่ดังขึ้นล่าช้าไปเล็กน้อย
ครืนนน…
กลิ่นอายอสูรในตำนานก็แผ่ซ่านออกมาอย่างล่าช้า
เปรี้ยงปร้าง!
เสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าดังสนั่นหวั่นไหว ไม่เพียงเท่านี้…
วิ้ง!
ครืนนน!
ลานสนามราชสำนักสั่นไหวราวกับเป็นเพราะพิธีอัญเชิญของกู้หยวนซู แม้แต่ราชสำนักและเมืองหลวงเกินกว่าครึ่งก็สั่นไหวเช่นกัน
วี้ด!
วี้ดดด
เสียงคำรามของอสูรทะลุเมฆหมอกใกล้เข้ามาเรื่อยๆ! เสียงยังแหลมเสียดหูมากขึ้น! มันกำลังสถิตลงมา
กลิ่นอายลงทัณฑ์อันน่าสะพรึงเกาะกลุ่มรวมตัวในสนามประลอง กลิ่นคาวเลือดและความอำมหิตโหดเหี้ยมแผ่ซ่านไปทั่วทั้งลานสนามอย่างรวดเร็ว ทำเอาทุกคนตกตะลึง
“จิ๊ด! จิ๊ดๆๆ!…” ลูกหนูน้อยตื่นเต้นดีใจ ดวงตาสีแดงฉานของมันถึงกับประกายความสุขล้นเหลือ ราวกับจะกระโจนเข้าไปหาต้นกำเนิดของเสียงนั้น ทว่าบัดนี้ไม่มีใครสังเกตเห็นความเคลื่อนไหวของลูกหนูตัวน้อย แม้แต่เยี่ยนเสี่ยวเป่าเองก็เบิกตามองท้องฟ้า เขากำลังมองแสงสีขาวทองเจิดจ้าที่จับตัวกันเป็นกลุ่มก้อน และอสูรดุร้ายขนาดใหญ่ค่อยๆ ปรากฏออกมาจากกลุ่มก้อนแสงสีขาวทองนั้น!
ครานี้เอง…
“ซีหวังหมู่บรรพกาล!”
อีอิ่นในสำนักศึกษาที่อยู่ห่างไปไกลเบิกตามองอย่างตะลึงงัน เขาเหาะเหินมาที่ลานสนามโดยที่ยังไม่ฟื้นตัวดีนัก เพียงเพราะเขาสัมผัสได้ว่าซีหวังหมู่ที่สถิตลงมานั้นมิใช่ซีหวังหมู่ปกติ แต่เป็นสิ่งมีชีวิตชั้นยอด เป็นหนึ่งในแปดผู้รับใช้ของปฐมราชินีหยวนชู ซึ่งก็คือซีหวังหมู่บรรพกาลนั่นเอง
ซีหวังหมู่องค์นี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่ควบคุมพลังลงทัณฑ์ดั้งเดิมทั้งมวลไว้ เป็นตัวแทนของการสังหารและโรคภัยอันน่าสยดสยอง หากไม่ใช่เพราะปฐมราชินีเยี่ยนกำราบมันได้ สามภพคงไม่มีวันสงบสุข
บัดนี้…
วี้ด!
ซีหวังหมู่บรรพกาลสถิตลงมาแล้ว ถึงแม้จะเป็นการสถิตอันเลือนราง แต่ทุกคนในเหตุการณ์ก็หวาดหวั่น แทบจะไม่มีผู้ใดกล้าขยับตัว
จนถึงบัดนี้ ทุกคนก็เพิ่งรู้ว่ากู้หยวนซูสามารถอัญเชิญอสูรดุร้ายเช่นนี้ออกมาได้! ทำให้เยี่ยนชิงที่เพิ่งตั้งสติได้ทำท่าจะพุ่งตัวขึ้นไปบนเวทีอีกครั้ง “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์!”
แต่แล้วต้าซือมิ่งก็จับพ่อตาเอาไว้ทันก่อนจะรับเจ้าตัวน้อยที่เกือบถูกเขาโยนออกไปเข้ามาในอ้อมอก ฝ่ายหลังกอดท่านพ่อของเขาไว้แน่น และมองไปที่ร่างสถิตซีหวังหมู่ด้วยดวงตาเป็นประกาย “งาม!”
สำหรับเขาแล้ว ซีหวังหมู่บรรพกาลที่สวมมงกุฎหยกหลากสี มีหางเสือดาว และมีฟันแหลมคมดุจเสือนั้น สอดคล้องกับ ‘ความงาม’ ของเขาอย่างสมบูรณ์ ช่างงดงามจริงๆ!
“ฮึ”
ในที่สุดกู้หยวนซูก็พ่นหัวเราะออกมาได้ นางจ้องเยี่ยนอวี๋ที่ชะงักงันเหมือนคนอื่นๆ พูดขึ้นว่า “นังสารเลว! วันนี้คือวันตายของเจ้า!”
ถึงแม้ซีหวังหมู่ที่ถูกอัญเชิญมาอีกครั้งจะต่างจากสิ่งที่กู้หยวนซูเข้าใจในตอนแรก แต่ว่าหลังจากนางพลิกอ่านตำราโบราณมากมายอย่างรวดเร็วนั้นก็รู้ว่า อสูรองค์นี้คงจะเป็นซีหวังหมู่บรรพกาล! เป็นวิญญาณอสูรซีหวังหมู่ที่แข็งแกร่งที่สุด
กู้หยวนซูจึงกล้าพูดจายั่วยุ ถึงอย่างไรการปรากฏตัวของซีหวังหมู่ก็ทำให้ทุกคนสะเทือนขวัญและตะลึงงันไปหมดแล้ว! ทหารราชสำนักมากมายก็ตื่นตัว
แต่แล้ว…
เยี่ยนอวี๋ที่เพิ่งตั้งสติได้ นางก็เดินเข้าใกล้ซีหวังหมู่ที่โหดเหี้ยมองค์นั้น “ซีซี?”
ที่เยี่ยนอวี๋ชะงักเพราะได้เจอผู้ใต้บังคับบัญชาเก่าอีกครั้งและเพราะนางไม่รู้เลยว่าครั้งที่แล้วที่นางเจอลูกน้องเก่า ก็เป็นเพราะกู้หยวนซู ‘อัญเชิญ’ มา
ทว่าฝูงชนไม่รู้ความสัมพันธ์ของเยี่ยนอวี๋และซีหวังหมู่ และทุกคนก็ไม่ได้ยินเสียงขานเรียก ‘ซีซี’ ของนาง เพราะคลื่นเสียงคำรามอันบ้าคลั่งยังคงสะท้อนอยู่ในลานสนาม พวกเขาเห็นเพียงนางที่กำลังเดินเข้าใกล้ซีหวังหมู่
อีอิ่นที่ตามมาอดร้องเตือนไม่ได้ “ระวัง!”
“ตาย!” กู้หยวนซูคำรามอย่างเหี้ยมเกรียม “ซีหวังหมู่ ฆ่านางซะ!”
น่าเสียดาย… ซีหวังหมู่ไม่ได้ฟังนางเลย หรือบางทีซีหวังหมู่อาจจะไม่ได้ยินว่านางพูดอะไร อีกทั้งสิ่งที่ทำให้ทุกคนในเหตุการณ์ตกใจยิ่งกว่าคือ…
วี้ด!
เงาร่างอสูรที่ปรากฏตัวลงมาอยู่ข้างหน้าเยี่ยนอวี๋หมอบกราบลงไปแล้ว!
“บ้าเอ๊ย!”
“มารดามันเถอะ!”
“สวรรค์! ให้ตายเถอะ!”
เหล่าฝูงชนอุทานอย่างไร้ซึ่งสมองไปแล้ว พวกเขาไม่เข้าใจเลยว่าเหตุการณ์ตรงหน้านี้คืออะไรกันแน่ ถึงอย่างไรซีหวังหมู่ก็เป็นอสูรที่กู้หยวนซูอัญเชิญออกมา แต่บัดนี้มันกลับยอมจำนนต่อเยี่ยนอวี๋
นี่มัน… นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!
ทั้งหมดนี้ได้ทำลายความเข้าใจในเรื่องวิถีการฝึกตนของเหล่านักอัญเชิญจนหมดสิ้น พวกเขาอยากรู้จริงๆ ว่าหากวันหนึ่งอสูรที่ตนเรียกมาเกิดเปลี่ยนฝักเปลี่ยนฝ่ายกระทันหันเช่นนี้เช่นกัน พวกเขาจะทำอย่างไร ให้ตายเถอะ! สามทัศนะพังทลายหมดแล้ว!