เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 340 หรงอี้ลวนลามหน้าด้านๆ
ตอนที่ 340 หรงอี้ลวนลามหน้าด้านๆ!
บริเวณที่พวกเขาอยู่สะเทือนครู่หนึ่ง ก่อนจะเกิดรอยแตกร้าวตามมา!
“!”
เยี่ยนอวี่มองพลางกอดเด็กน้อยไว้แน่น นางคิดว่าพวกเขาถูกจับได้เสียแล้ว
“อ้ะ!”
เด็กน้อยเองก็กอดท่านแม่ของเขาไว้อย่างหวาดเสียว หากไม่ใช่เพราะเขาถูกปิดปากไว้ เสียงก็คงดังออกมาแล้ว
แต่แล้ว… นอกวังใต้ดินเงียบสงัด แม้แต่ในวังใต้ดินก็สงบมากเช่นกัน!?
เยี่ยนอวี๋มองรอยแตกร้าวและพื้นที่รอบข้างที่ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ อย่างงุนงง นางไม่รู้เลยว่าต้าซือมิ่งคนนี้ทำได้อย่างไร!
“อ้ะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็งุนงง แต่เดิมเขาเองคิดว่าต้องเกิดเสียงระเบิดเหมือนที่ท่านแม่คิด เขาจึงใช้มืออวบอ้วนของตนปิดใบหูน้อยๆ ของตนเองไว้แล้ว
ท่าทางน่าเอ็นดูของแม่ลูกคู่นี้ทำให้ต้าซือมิ่งที่เสร็จภารกิจแล้วอดกอดแม่ลูกคู่นี้เข้ามาในอ้อมอกไม่ได้ “ไม่เป็นไรแล้ว”
เยี่ยนอวี๋ “…”
เมื่อนางคิดย้อนกลับไปก็เพิ่งรู้ว่าเมื่อครู่นี้ต้าซือมิ่งดูดพื้นที่สั่นไหวทั้งหมดเข้าไปในร่างกาย! ทุกอย่างจึงเสมือน ‘คลื่นสงัดลมสงบ’
ครั้นนางทำท่าจะพูดอะไร กลับเห็นสีหน้าต้าซือมิ่งไม่ค่อยดีนัก นางจึงถามขึ้นเบาๆ ว่า “เป็นอะไรหรือ”
“เขาไม่อยู่” คิ้วโก่งยาวของหรงอี้ขมวดกันแน่น “หนีไปแล้ว”
“หนีไปแล้วหรือ” เยี่ยนอวี๋ชะงัก คิดว่าเป็นเพราะนางใช้เวลาควบคุมร่างวิญญาณมารนานเกินไปจึงปล่อยให้เขาหนีไปได้
ทว่าหรงอี้กลับพูดขึ้นว่า “หนีไปตั้งแต่สามวันที่แล้ว น่าจะช่วงหลังจากที่เรามากันครั้งที่แล้ว”
“งั้นหรือ” เยี่ยนอวี๋สื่อพลังจิตเพื่อสัมผัสบางอย่าง แต่นางก็ไม่สามารถสัมผัสถึงสิ่งที่เกี่ยวข้องกับกลิ่นอายของ ‘ต้าซือมิ่ง’ ผมสีแดงท่านนั้นได้เลย
ทว่าต้าซือมิ่งสัมผัสได้ หลังจากที่เขาใช้ลายอักษรศักดิ์สิทธิ์ไขกลิ่นอายลายอักษรลึกลับได้แล้ว เขาก็รับรู้ถึงกลิ่นอายของ ‘ต้าซือมิ่งผมแดง’ อย่างแจ่มชัด และเขายังรู้ด้วยว่า ‘เขา’ หนีไปนานเพียงใดแล้ว
แต่เยี่ยนอวี๋ไม่เข้าใจ “เจ้าบอกว่าเขาถูกขังไว้มิใช่หรือ”
“ใช่” หรงอี้พยักหน้า “โลงศพนั่นมีพลังผนึก ‘เขา’ จึงหนีไปพร้อมกับโลงศพ”
เยี่ยนอวี๋ “…”
หนีไปแบบนี้ก็ได้ด้วยหรือ!
หรงอี้กลับไม่รู้สึกประหลาด เพราะเขารู้ตั้งแต่แรกว่า ‘เขา’ อีกคนหนึ่งไม่ซื่อสัตย์ เขาจึงไม่เคยกังวลเรื่องที่หยวนคังฮ่องเต้จะสามารถควบคุม ‘เขา’ คนนั้นได้ เพียงแต่ว่าจนถึงบัดนี้เขายังไม่เข้าใจว่า ‘เขา’ คนนี้ปรากฏขึ้นได้อย่างไร ไม่รู้ว่ามาจากร่างพลังหรือว่ามาจากความเป็นไปได้อื่น จนเมื่อเขาได้ ‘เห็น’ โลงศพนั่น จึงจับต้นชนปลายถูก ไม่คิดเลยว่าฝ่ายตรงข้ามจะหนีไปได้ด้วย ทำให้เขารู้สึกไขว้เขว ทว่าดูจากเรื่องนี้แล้ว ก็รู้ได้ว่า ‘เขา’ คนนั้นจงใจแอบตน
หรงอี้จึงสรุปว่า “ ’ข้า’ คนนี้คงเป็นร่างที่รวมตัวจากพลังของข้า ที่ ‘เขา’ คนนั้นแอบข้าก็คงเพราะกลัวว่าจะถูกข้าหลอมรวม ตอนนี้เขายังหนีไปได้อีก นั่นก็หมายความว่า ‘เขา’ อาจจะมีความนึกคิดเป็นของตนเองแล้ว และยังคอยยุยงให้หยวนคังฮ่องเต้เป็นศัตรูกับข้า”
“หมายความว่า ‘เจ้า’ คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังหรือ” เยี่ยนอวี๋ประหลาดใจ
“อาจจะเป็นไปได้” หรงอี้พูดได้เพียงเท่านี้
เยี่ยนอวี๋ก็ตกใจยิ่งกว่าเดิม “พลังที่ไหลออกจากร่างของเจ้ากลายมาเป็นศัตรูของพวกเรารึ”
“เท่าที่ดูถึงบัดนี้ก็เป็นเช่นนั้น” หรงต้าซือมิ่งอุ้มเด็กน้อยเข้ามายังพูดต่อ “หากเจ้าไม่ได้ลบความทรงจำของข้า เช่นนั้นข้าสงสัยว่าความทรงจำส่วนนั้นของข้าคงอยู่ในร่างพลังส่วนนี้”
เยี่ยนอวี๋เข้าใจทันทีว่าสิ่งที่ต้าซือมิ่งคนนี้กล่าวหมายถึงอะไร นางแสร้งมองไปทางอื่นอย่างเก้กัง “แล้วเหตุใดก่อนหน้านี้เขาไม่หนี แต่ดันมาหนีตอนที่เราจากไปครั้งล่าสุดเล่า”
“เพราะเจ้า” หรงอี้ยิ้มมุมปาก เขายกมือขึ้นประคองคอหงส์อันเนียนขาวของนาง ทำให้นางจำเป็นต้องสบตาเขา เขามองนางที่ใบหูเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเงียบๆ
เยี่ยนอวี๋อยากจะปัดมือของเขาออก เพราะนางรู้สึกแปลกๆ แต่ต้าซือมิ่งกลับโน้มตัวเข้ามาใกล้และกระซิบว่า “เพราะว่าครั้งที่แล้วเจ้าใส่ยันต์ที่เจ้าเขียนเองกับมือลงไปในค่ายกลที่กู้หยวนซูสร้าง ‘เขา’ รู้ตัวแล้ว”
เยี่ยนอวี๋ชะงัก “… ก็เลย… หนี?”
“อืม” หรงต้าซือมิ่งพยักหน้าอย่างจริงจัง “เพราะเจ้าทำให้เขาตกใจ”
เยี่ยนอวี๋ “???”
นางมักจะรู้สึกว่าต้าซือมิ่งคนนี้ชอบพูดเล่น แต่นางก็ไม่มีหลักฐาน
ต้าซือมิ่งยังดึงดันพูดต่อด้วยท่าทีจริงจังว่า “ดังนั้นคืนนั้นเจ้าต้องทำอะไรข้าไปแน่ๆ มิเช่นนั้น ‘เขา’ จะตกใจเพราะเจ้าได้อย่างไร”
เยี่ยนอวี๋ “???”
ครั้งนี้นางรู้สึกได้ว่าตั้งแต่ที่เขามั่นใจว่านางเองก็จำอะไรไม่ได้ ต้าซือมิ่งคนนี้ก็ชอบพูดจาเลอะเทอะ! นางเห็นแววตาขบขันของเขาแล้ว
เยี่ยนอวี๋กำหมัดทุบไหล่ของคนตรงหน้าเบาๆ “เจ้าแกล้งข้า!”
“อ้ะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าส่งเสียงร้องขึ้น
ในขณะนั้นเอง…
“เสียงอะไร!”
“รีบไปรายงานฝ่าบาท!”
“เข้าไปดู!”
สุดท้ายเหล่านักบวชกลุ่มใหญ่ที่อยู่นอกตำหนักก็พบความผิดปกติ ต้าซือมิ่งกลับอุ้มภรรยาและลูกหายวับไปก่อนที่พวกเขาจะเข้ามาแล้ว
ที่น่าโมโหคือ… เยี่ยนอวี๋ได้ยินเสียงกลั้วหัวเราะของต้าซือมิ่งอย่างชัดเจนจึงมั่นใจว่าเขากำลังแกล้งนางจริงๆ! ในขณะที่นางเป็นกังวลแทบตายนั้น เขากลับแกล้งนาง!
เยี่ยนอวี๋โมโหจนทันทีที่กลับถึงตำหนักซือมิ่ง นางก็ปล่อยหมัดใส่ท้องน้อยของต้าซือมิ่งจริงๆ! ทว่าต้าซือมิ่งก็คว้ามือนางไว้อย่างรู้ทัน
ไม่เพียงเท่านี้…
อุ๊บ
ต้าซือมิ่งยังโน้มตัวไปลงไปจูบปากสีระเรื่อของนาง ส่วนเด็กน้อยก็ถูกเบียดอยู่ระหว่างอ้อมอกของทั้งสองคนจนขยับตัวไม่ได้ ได้แต่แนบตัวติดแผ่นอกของท่านพ่อ เงยหน้าก็ไม่ได้… แต่ก็ไม่ถึงกับทับเขาจนแบน
“!”
เยี่ยนอวี๋ถูกจูบจนงงงันตัวแข็งทื่อ! นาง… นางไม่คิดเลยว่าเขาจะจูบกะทันหันเช่นนี้ และยัง… ไม่ใช่แค่จูบธรรมดา เขายัง… ยัง….
เยี่ยนอวี๋สัมผัสได้ว่าต้าซือมิ่งกำลังดูดปากนาง นางก็… ก็แทบจะระเบิดอยู่แล้ว! สมองของนางพลันว่างเปล่า ครั้นนางพอจะตั้งสติได้ ต้าซือมิ่งก็สอดแทรกลิ้นของเขาเข้าไปแล้ว จ๊วบ!
ทว่าในขณะเดียวกัน…
“อ้ะเนะ?”
เด็กน้อยที่ถูกลืมและถูกทับจนรู้สึกอึดอัดก็เริ่มดิ้น “พ่อ? แม!” พวกท่านจะทับเสี่ยวเป่าแบนแล้ว เสี่ยวเป่าอยากดิ้นๆ!
อุ๊บ!
เยี่ยนอวี๋ที่เรียกสติกลับคืนได้ก็ยกมือขึ้นพยายามขัดขืนชายตรงหน้าและทำท่าจะผลักเขาออก
แต่ต้าซือมิ่งไม่ยอมปล่อยนาง เขากลับประคองท้ายทอยขาวเนียนของนางไว้แน่นกว่าเดิม เขายังอยากจะลิ้มลองรสสัมผัสนั้นอีกครั้ง แต่แล้ว…
ตุบ!