เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 349 ต้าซือมิ่งลงมือ แผนร้ายทั้งหมดพังทลาย!
เยี่ยนอวี๋ปรากฏตัวขึ้นที่ข้างกายพี่รองของนางพลางโอบเยี่ยนจื่อเสาที่ล้มลงกับพื้นไว้ในอ้อมแขน พี่รอง!
แค่ก…
เยี่ยนจื่อเสาที่กระอักเลือดสดๆ ออกมากุมมือน้องสาวตนเอาไว้ ไม่เป็นไร
พี่รอง เยี่ยนอวี๋กอดพี่รองแน่นขึ้น แววตาตวัดมองศาตราเวทชิงเหลียนที่ตกอยู่บนพื้น ด้านในยังคงมีเสียงยโสของชือปี้เหลียนดังลอยออกมา ฮ่าๆๆ! เยี่ยนจื่อวี๋! ความเจ็บปวดที่สูญเสียญาติใกล้ชิดเป็นอย่างไรบ้างเล่า?
เจ้าฝันหวานไปแล้ว ใบหน้าของเยี่ยนจื่อเยี่ยมืดครึ้มขณะมองบาดแผลของน้องรอง พอจะมองออกว่า บาดแผลของน้องรองเขานั้นแม้จะดูสาหัสแต่ไม่มีอันตรายถึงชีวิต นั่นทำให้เขาตกตะลึงเป็นอย่างมากแต่ไม่ว่าอย่างไรไม่มีอันตรายถึงชีวิตก็พอแล้ว!
นี่มัน… เยี่ยนชิงเองก็มองบาดแผลของลูกชาย ชีพจรหัวใจของจื่อเสา…
เยี่ยนจื่อเสาที่แสนอ่อนแอกุมมือน้องสาวเอาไว้แน่นเอ่ยอย่างรู้แจ้งว่า ข้าเป็นผู้แข็งแกร่งระดับวิญญาณปฐมภูมิที่แท้จริงแล้ว ชีพจรหัวใจนั้นแม้จะสำคัญกับข้าก็จริงแต่ไม่ถึงกับถึงแก่ชีวิต
เจ้า เข้าขั้นรวมปราณแล้ว! เยี่ยนชิงอึ้งงันจนถึงที่สุด เหมือนที่ในตำราบันทึกไว้ว่าตันเถียนหลอมรวมมีขนาดเท่าทารก กำเนิดชีพจรชีวิตที่สองน่ะหรือ!?
ใช่แล้ว เยี่ยนอวี๋ตอบแทนเยี่ยนจื่อเสา ร่างกายของพี่รองได้ผ่านการปรับเปลี่ยนมาแล้ว ประกอบกับที่ฝึกฝนคือวิชาสืบทอดของตำหนักไท่ชาง ตอนที่เขาเลื่อนเข้าขั้นวิญญาณปฐมภูมินั้นตันเถียนก็ได้เปลี่ยนแปลงไปมีขนาดเท่าทารกแล้ว
ยังมีอีกสิ่งที่เยี่ยนอวี๋ไม่ได้พูดแต่อินหลิวเฟิงเข้าใจเป็นอย่างดีเพราะตอนที่เขาเลื่อนขั้นสู่ระดับวิญญาณปฐมภูมิด้วยกันนั้น ถึงแม้ตันเถียนของเขาจะไม่ถึงขั้นมีขนาดเท่าทารกแต่แหล่งกำเนิดพลังห้าธาตุในโลกผนึกนั้นตันเถียนก็สามารถแปรเปลี่ยนได้แล้ว
ผู้ฝึกบำเพ็ญที่ต้องการเข้าสู่ขั้นวิญญาณปฐมภูมิล้วนต้องอาศัยฟ้าดินพลังและความสามารถ เพราะว่ามีเพียงพลังของฟ้าดินเท่านั้นจึงจะสามารถเปลี่ยนตันเถียนของผู้บำเพ็ญให้กลายเป็นขั้นวิญญาณปฐมภูมิที่สามารถรับรู้ได้ถึงแก่นพลังฟ้าดิน มีจิตวิญญาณที่เป็นหนึ่งเดียวกับฟ้าดิน
ในสมัยที่ยังสามารถบินขึ้นสวรรค์กลายเป็นเทพได้นั้นขั้นนี้ถือว่าเป็นก้าวสำคัญในการกลายเป็นเทพ สามารถแปรพลังสำเร็จหรือไม่นั่นหมายถึงว่าสามารถตระหนักรู้ถึงฟ้าดินและแก่นพลังได้หรือไม่ เป็นขั้นตอนที่จะดูว่าสามารถควบคุมพลังเทพได้หรือเปล่า
บัดนี้…
โชคดี! อินหลิวเฟิงจำต้องเอ่ยออกมา โชคดีที่เจ้ารองเลื่อนชั้นในโลกผนึกนั้นอีกทั้งยังแปรก้อนพลังจนมีขนาดใหญ่ขึ้น ไม่เช่นนั้นเมื่อครู่คงตายแน่! แต่ว่า…
ชีพจรหัวใจถูกทำลายไปแล้ว รากฐานของกายเนื้อไม่ได้รับบาดเจ็บใช่ไหม อินหลิวเฟิงกังวล หรือว่าต้องละทิ้งพลังแล้วเริ่มบำเพ็ญใหม่?
ไม่จำเป็น ตอนนี้เยี่ยนจื่อเยี่ยมองดูจนเข้าใจกระจ่างแล้ว ชีพจรหัวใจของจื่อเสาไม่ได้ถูกทำลายจนหมด จิ้งจอกสวรรค์เก้าหางหลอมรวมเข้าไปในร่างของเขาได้ทันเวลา
หา? อินหลิวเฟิงยังไม่เข้าใจอยู่ดี
ต้าซือมิ่งที่ปลอบโยนลูกน้อยอยู่นั้นแววตาไม่ได้แปรเปลี่ยนไปเลยสักนิด เขาเพียงมองก็เข้าใจแล้วว่าตอนที่เยี่ยนจื่อเสาถูกโจมตีนั้น จิ้งจอกสวรรค์เก้าหางได้หลอมร่างเข้าไปในร่างของเขารับการโจมตีแทนเขาไปแล้วถึงเก้าส่วน
อ้ะเนะ? เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ขยี้ตาไปมายังคงงุนงง ขยี้ตาอยู่ในอ้อมกอดของท่านพ่อไม่หยุดเห็นชัดว่ายังไม่ตื่นดีแต่ก็ไม่อยากนอนต่อ เพราะอย่างไรเจ้าตัวน้อยก็รู้สึกได้ถึงสถานการณ์ตึงเครียดตอนนี้เลยตกใจไม่น้อย
ต้าซือมิ่งบางคนลูบหลังนุ่มของเจ้าตัวน้อยอยู่ตลอดกล่อมให้เขานอนต่อ ดวงตากวาดมองไปทางศาตราเวทชิงเหลียนที่เม่ยเอ๋อร์หยิบขึ้นมา แววตาดูครุ่นคิด
หึ! เม่ยเอ๋อร์ที่อัดรังสีอำมหิตใส่ศาตราเวทชิงเหลียนไม่หยุดทำให้ชือปี้เหลียนตกใจไม่น้อย แต่ ‘ความน่ากลัว’ ของเม่ยเอ๋อร์นั้นสำหรับชือปี้เหลียนแล้วไม่นับว่าเท่าไหร่
สิ่งที่ทำให้ชือปี้เหลียนรับไม่ได้มากที่สุดคือเยี่ยนจื่อเสายังไม่ตาย ไม่มีทาง ทำไมเจ้ายังไม่ตาย? แม้จะเป็นผู้แข็งแกร่งขั้นวิญญาณปฐมภูมิโดนนางโจมตีไปเมื่อครู่นี้อย่างไรก็ต้องตายแน่
ตอนนี้เป็นเจ้าต่างหากที่ต้องตาย! เม่ยเอ๋อร์ที่ระเบิดสนามรบอสุรีออกมาหันไปทางศาตราเวทชิงเหลียน ใบหน้าดุร้ายน่ากลัวพลังชั่วร้ายของภูติผีนับไม่ถ้วนพุ่งเข้ากัดกินชือปี้เหลียนที่อยู่ด้านในทันที
กรี๊ด! ไม่… เสียงกรีดร้องของชือปี้เหลียนค่อยๆ เบาลงเรื่อยๆ แต่นางยังไม่ตายเพราะเม่ยเอ๋อร์รู้ดีว่าตัวอัปลักษณ์ผู้นี้ยังมีประโยชน์ต่อคุณหนูใหญ่ของนาง
จากนั้นต้าซือมิ่งบางคนจึงยกมือขึ้นดูดเอาศาตราเวทชิงเหลียนไป แสงสีม่วงงดงามชั้นหนึ่งกดทับเข้าไปในศาตราเวทชิงเหลียน ขณะเดียวกันนั้นเอง…
ปัง!
พลังทำลายล้างน่ากลัวสายหนึ่งเอ่อล้นออกมาจากดอกบัวอย่างรวดเร็วเร่งให้ศาตราเวทชิงเหลียนระเบิดไวขึ้นและชือปี้เหลียนที่อยู่ด้านในย่อมหนีไม่พ้นโดนระเบิดตามไปด้วย
เม่ยเอ๋อร์ …
หัวคนของนาง หมดกัน
และผู้ที่แย่งหัวคนในครั้งนี้เม่ยเอ๋อร์เองก็คิดไม่ถึงเช่นกัน
ค้นพบอะไรบ้างไหม? เยี่ยนอวี๋ถามขึ้นจากด้านข้าง นางรู้ดีว่าต้าซือมิ่งผู้นี้ไม่ลงมืออย่างไม่มีสาเหตุแน่นอน
ในร่างของชือปี้เหลียนมีพลังของแดนมืดวิญญาณอสูรอยู่ และพลังนี้แหละที่ช่วยให้นางดิ้นหลุดจากผนึกของศาตราเวท ดวงตาของหรงอี้ขรึมลงพลันเหลือบไปมองหยวนคังฮ่องเต้
แต่ยามนี้หยวนคังฮ่องเต้ถูกทหารปกป้องเอาไว้ ติ้งซีอ๋องเองก็ปกป้องอยู่ที่ด้านหน้าของหยวนคังฮ่องเต้ เห็นได้ชัดว่าพลังที่ชือปี้เหลียนระเบิดออกมาเมื่อครู่นั้นน่าหวาดกลัวมากจริงๆ
เยี่ยนอวี๋ไม่ถามมากป้อนยาอีกเม็ดให้พี่รอง ยานี้จะช่วยให้เขาฟื้นฟูเร็วขึ้นหน่อย เกือบลืมไปแล้วว่ามียานี้อยู่กับตัวด้วย
ลุง? เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ในที่สุดก็ตื่นเต็มตามองท่านลุงรองที่ร่างเต็มไปด้วยเลือดตาค้าง รู้สึกว่าท่านลุงรองช่างน่าอนาถนัก บาดเจ็บเป็นประจำเลย
เยี่ยนจื่อเสาไม่รู้ว่าหลานชายตัวน้อยคิดอะไรอยู่คงจะคิดว่าสภาพเขาน่าอนาถมากกระมังแต่เขาก็ยังคิดว่าหลายชายจะเป็นห่วงตนจึงยิ้มออกมา ลุงรองไม่เป็นไร เสี่ยวเป่าไม่ต้องกังวลนะ
รักษาแผลไปดีๆ เถอะไป! เยี่ยนจื่อเยี่ยรับน้องรองมาจากมือของน้องสาว พูดได้แค่ว่าน้องรองเจ้าทึ่มนี่ดวงแข็งอยู่ถึงได้เอาชีวิตรอดมาได้ตั้งหลายครั้งหลายครา
แต่เยี่ยนจื่อเยี่ยเพิ่งรับคนมาในสนามก็เกิดเสียงอึกทึกดังขึ้น เพราะศิษย์ทุกคนของลัทธิเซิ่งเหลียนล้วนแตกร่างกันหมด!
ทำตามแผน! ความจริงศิษย์ลัทธิเซิ่งเหลียนอยากจะกระอักเลือดนัก พยายามร้องตะโกนให้กำลังใจซึ่งกันและกัน สวรรค์รู้ดีว่าแผนของพวกเขามันไม่ใช่แบบนี้
แต่ความพ่ายแพ้ของชือปี้เหลียนทำให้พวกเขาทำได้เพียงระเบิดพลังต่อไป มิเช่นนั้นทัพใหญ่ของราชวงศ์และผู้แข็งแกร่งทั้งหลายต้องไม่ยอมปล่อยพวกเขาไปแน่
สำนักเนี่ยผานที่อยู่ใกล้กับลัทธิเซิ่งเหลียนมากที่สุดเป็นสำนักแรกที่โดนโจมตีหนักที่สุด ศิษย์จำนวนไม่น้อยถูกจับตัวเอาไว้ในพริบตา ตี๋อูหวนที่ไม่ทันได้ป้องกันด่าออกมา สมควรตาย!
ฟังให้ดี ถ้าไม่อยากตายก็รีบเปิดทางให้พวกข้าเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้น… เขายังไม่ทันได้เอ่ยคำพูดเหี้ยมโหดออกมาจนจบก็กล่าวต่อไปไม่ได้แล้ว
เพราะต้าซือมิ่งบางคนได้บดขยี้ศิษย์ของลัทธิเซิ่งเหลียนอย่างไร้อารมณ์แล้ว เขาไม่ได้อยากมาเสียเวลากับคนเหล่านี้หรอกนะ
หากก่อนหน้านี้ชือปี้เหลียนไม่ได้ประลองกับเยี่ยนจื่อเสาแล้วเยี่ยนจื่อเสาสู้นางได้แล้วล่ะก็ นางก็คงกลายเป็นเหมือนศิษย์เซิ่งเหลียนเหล่านี้ สลายหายไปราวกับไม่เคยมีตัวตนมาก่อน
และแต่เดิมนี่ก็เป็นแผนของลัทธิเซิ่งเหลียน ภารกิจเดิมของชือปี้เหลียนคือใช้เยี่ยนจื่อเสามาข่มขู่ต้าซือมิ่งให้พวกเขาลังเล ไม่อาจก่อเรื่องอะไรได้
แต่ชือปี้เหลียนพ่ายแพ้ไปแล้ว ดังนั้นในขณะที่ศิษย์ที่เหลือแตกร่างก็ได้คิดถึงจุดจบเอาไว้แล้ว แต่พวกเขาก็ไม่มีทางเลือก วันนี้ จิ่วหลีจะกลับมาโชติช่วงอีกครั้ง!
เหล่าศิษย์ลัทธิเซิ่งเหลียนระเบิดเสียงสิ้นหวังสุดท้ายออกมาดังก้อง พวกเขาหวังพียงว่าศิษย์คนอื่นของลัทธิเซิ่งเหลียนจะสามารถดำเนินแผนอื่นให้ลุล่วงไปด้วยดี สามารถฟื้นฟูเผ่าจิ่วหลีทั้งหมดได้สำเร็จ
พวกมารร้ายจิ่วหลีคิดจะกบฏจริงๆ ด้วย! หยวนคังฮ่องเต้ตะโกนออกมาอย่างควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ พวกเจ้าใครมันกล้า?
สีหน้าของติ้งซีอ๋องมืดครึ้ม เกรงว่าคงเพราะสามารถควบคุมสุสานจิ่วหลีได้ พลังของธิดาศักดิ์สิทธิ์ผู้นั้นก็คือหลักฐาน
น่าตายนัก! สีพระพักตร์ของหยวนคังฮ่องเต้เขียวคล้ำ เฉิงคั่ว เราขอสั่งให้เจ้ารวบรวมทัพใหญ่เดินทางไปปราบกบฏที่ชายแดนจิ่วหลี! เหยียบจิ่วหลีให้ราบ อย่าให้เหลือรอดแม้แต่คนเดียว!
กระหม่อมรับพระบัญชา! เฉิงคั่วที่รับคำสั่งสีหน้าไม่ค่อยดีนักเพราะเขามองออกว่าที่ลัทธิเซิ่งเหลียนคิดก่อกบฏนั้นเพราะมีที่พึ่งและที่ทำให้เขาหวาดกลัวมากที่สุดคือจะเป็นสำนักคุนอู๋
แม้ว่าสำนักคุนอู๋จะล่มสลายไปแล้ว แต่ว่า…
เฉิงคั่วกลัวว่าพวกที่เหลือรอดของสำนักคุนอู๋จะร่วมมือกับลัทธิเซิ่งเหลียน แต่ไม่ว่าอย่างไรเฉิงคั่วในฐานะแม่ทัพใหญ่ก็จำต้องรีบไปรวมรวมคนและม้าเตรียมไปทำลายลัทธิเซิ่งเหลียนให้ราบ
ไม่อยากจะเชื่อเลย เผ่าจิ่วหลีก่อกบฏจริงงั้นหรือ
เป็นเพราะได้พลังของของสุสานจิ่วหลีน่ะนะ!?
…
แต่ละฝ่ายพากันวิจารณ์อย่างตื่นตระหนก รู้สึกว่าที่ลัทธิเซิ่งเหลียนก่อกบฏนั้นกะทันหันมากจริงๆ ก่อนหน้านี้พวกเขายังระมัดระวังอยู่เลยเหตุใดตอนนี้ถึงจะก่ออบฏได้?
ไม่ว่าอย่างไรการประลองสนามนี้สำนักชางอู๋ก็ได้รับชัยชนะไปอีกครั้ง ได้รับไปสองคะแนน ลัทธิเซิ่งเหลียน เฮอะ! ต่อไปในต้าซย่าไม่มีลัทธิเซิ่งเหลียนอีกต่อไปแล้ว ติ้งซีอ๋องประกาศเสียงเข้ม
แต่นั่นกลับทำให้ขุมอำนาจแต่ละฝ่ายค่อยๆ สงบใจลงได้ ทุกคนล้วนอยากจะใช้อำนาจของราชสำนักกวาดล้างลัทธิดาษๆ อย่างเซิ่งเหลียนทิ้งไปเสีย คงไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่…
การแข่งขันครั้งต่อไปเห็นได้ชัดว่าทุกคนล้วนไม่มีอารมณ์จะสนใจอีกแล้ว หลังจากเยี่ยนอวี๋กลับไปยังที่นั่งก็เอนกายกระซิบข้างหูต้าซือมิ่ง เกี่ยวข้องอย่างไรกับพลังของ ‘เจ้า’? หรือพูดอีกอย่างคือต้าซือมิ่ง ‘อีกคน’ ปรากฏตัวแล้วหรือ?
ในฐานะของผู้ที่สร้างศาตราเวทชิงเหลียนขึ้นมาใหม่กับมือนั้น เยี่ยนอวี๋รู้ดียิ่งกว่าใครว่าพลังธรรมดาไม่อาจทำลายสิ่งที่นางสร้างขึ้นมาได้ นอกเสียจาก…