เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 363 ปฐมราชินีผู้ไร้เทียมทาน! เปิดประตูสวรรค์ชั้นเก้า!
- Home
- เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน
- ตอนที่ 363 ปฐมราชินีผู้ไร้เทียมทาน! เปิดประตูสวรรค์ชั้นเก้า!
เทพธิดา!? ฮ่องเต้หยวนคังเงยหน้ามองด้วยความประหลาดใจ และเขาก็ได้เห็นเยี่ยนอวี๋ที่มีต้าซือมิ่งพามาจริงๆ เยี่ยนอวี๋เองก็คว้ามือไปทางลูกแก้วสีม่วงหม่นที่เขาชูขึ้นมา
ลูกแก้วตกลงไปในมือของนางอย่างไร้การต่อต้านใดๆ ภาพม้วนขุนเขาและท้องทะเลบนท้องฟ้าทับลงมาทันที มันบดขยี้ไปทางฮ่องเต้หยวนคังอีกครั้งด้วยพลังที่แข็งแกร่งกว่าเดิม
ฮ่องเต้หยวนคังสีหน้าพลันเปลี่ยน แต่ก็หลบไม่ทันแล้ว!
วิ้ง!
พลังขุนเขาและท้องทะเลแทรกเข้าไปในร่างกายของเขาและทำลายตัวเขาในทันที!
เทพธิดา! เจ้าช่างใจร้ายนัก!
ฮ่องเต้หยวนคังที่กำลังจะหายไปมองเยี่ยนอวี๋ที่เหินนภามาด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ ราวกับว่าเยี่ยนอวี๋เป็นคนไร้หัวใจที่ทรยศต่อความจริงใจของเขา
ไปซะ ต้าซือมิ่งสะบัดแขนเสื้ออย่างไม่อยากจะทนดูต่อไป แม้แต่เสียงก็ไม่อยากได้ยิน
แต่แล้ว
เอื้อก!
อันที่จริงร่างจริงของฮ่องเต้หยวนคังมิได้ก้าวออกนอกวัง เขายังไม่ตาย แต่ก็อาเจียนเป็นเลือดก่อนจะสลบอยู่ในห้องบรรทม ไม่มีใครมาดูเขา เพราะผู้รับใช้ถูกเขากำจัดทิ้งหมดแล้ว
เรื่องนี้ทำให้เยี่ยนอวี๋ที่พอจะสัมผัสได้ก็ขมวดคิ้ว ยังไม่ตายอีกรึ!
ขุนเขาและท้องทะเล ไป!
เยี่ยนอวี๋บังคับภาพม้วนขุนเขาและท้องทะเลอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่านางอยากจะปลิดชีวิตเขาทิ้ง! นางไม่อยากเก็บหายนะเช่นฮ่องเต้หยวนคังไว้อีกแล้ว ส่วนเทพสวรรค์เก้าชั้นฟ้าที่อยู่เบื้องหลังเขา นางรู้ว่าจะต้องล่อออกมาอย่างไรแล้ว!
เพียงแต่ว่า…
วิ้ง!
พลังภาพม้วนขุนเขาและท้องทะเลกลับไม่สามารถสังหารฮ่องเต้หยวนคังที่ถูกปกป้องอยู่ในราชสำนักผ่านชั้นระหว่างมิติได้
ให้ตายเถอะ! เยี่ยนอวี๋สีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย นางรู้สึกหงุดหงิดนัก! ถึงอย่างไรนางก็ไม่สามารถทำลายชั้นมิติทั้งหมดของเมืองหลวงได้เหมือนกับที่นางทำลายชั้นมิติในแดนลับของสำนักคุนอู๋ เพราะในนั้นยังมีประชาชนผู้บริสุทธิ์อยู่นับพันหมื่น
ช่างเถอะ พลังชั้นระหว่างมิติปกป้องร่างเดิมของเขาไว้ก็ไม่เป็นไร จะตายช้าตายเร็ว ยังไงก็ตายอยู่ดี หรงอี้ได้แต่ปลอบภรรยาเช่นนี้
ถึงอย่างไรก็เป็นสิ่งที่เทพบนสวรรค์เก้าชั้นฟ้ากลั่นหลอมออกมา กฎเกณฑ์และความศักดิ์สิทธิ์ย่อมต้องมี อีกทั้งยังยืมใช้พลังแดนมืดวิญญาณอสูร หากมิใช่เช่นนี้ แม้ฮ่องเต้หยวนคังจะอยู่ไกลสุดขอบฟ้าก็ถูกพลังขุนเขาและท้องทะเลที่เยี่ยนอวี๋ใช้ทับตายอยู่ดี
แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ เยี่ยนอวี๋ยังคงไม่พอใจ และนางยังรู้สึกว่า ‘อ่อนแอเกินไป’ ฟื้นตัวช้าเกินไปแล้ว!
อย่าฝืนร่างกายของเจ้ามากเกินไปเลย อีกอย่างด้วยอาการบาดเจ็บของเขาคงสร้างปัญหาอะไรอีกไม่ได้ในช่วงระยะสั้นๆ นี้แน่นอน หรงอี้พูดพลางโอบเอวของภรรยาหายวับเข้ามาในสำนักศึกษา เทียบกับฮ่องเต้หยวนคังที่ตายมิตายแหล่แล้ว ร่างพลังจิตของเขามีปัญหาหนักหน่วงยิ่งกว่า
เก่ง! เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่คอยยกยอก็กำลังปรบมือให้ท่านแม่ของเขา แม! เก่ง! ว้าว… สลาย ว้าว… เก่ง!
ภาษา ‘ทารก’ ฉบับใหม่ด้วยการย่อ ‘ประโยค’ ให้สั้นลงดังออกมาจากปากเด็กน้อยไม่หยุด เห็นได้ชัดว่าครั้งนี้เยี่ยนอวี๋ก็ไม่เข้าใจ ทว่าก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการสื่อสารระหว่างนางและเด็กน้อย นางรับเด็กน้อยเข้ามาและลูบขนอ่อนบนศีรษะของเขา เสี่ยวเป่าเก่งที่สุด
ฮี่ๆ… เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่กอดท่านแม่ไว้ก็ยิ้มร่า ทำเอาอินสวินอี้และคนอื่นๆ ที่เห็นรอยยิ้มของเขาต่างผ่อนคลายลงอย่างสมบูรณ์และยิ้มออก เสี่ยวเป่ายังน่ารักและฉลาดเหมือนเดิมเลย
เก่ง! เยี่ยนเสี่ยวเป่ายิ้มตาหยีให้ทุกคน ไม่รู้ว่ากำลังชมตัวเองหรือชมทุกคนที่ปกป้องได้ดี แต่น่าจะกำลัมชมตนเองมากกว่า
ทว่าไม่ว่าเด็กน้อยชมใคร อินสวินอี้ก็ยิ้มตอบว่า เสี่ยวเป่าเก่งที่สุด คำตอบเช่นนี้ไม่ผิดแน่นอน
เด็กน้อยขยับร่างกายอย่างดีอกดีใจก่อนจะหันศีรษะไปหาท่านแม่และมุดเข้าไปในซอกคอด้วยความดีใจปนเขิน
ต้าซือมิ่ง ร่างพลังจิตของท่านเหมือนจะไม่ค่อยดีแล้ว ซ่งเฉินฟางเป็นคนแรกที่พูดถึงปัญหา
หรงอี้พยักหน้าพลางจับหรงอี้ตัวน้อยคนนั้นมา ทันใดนั้นก็เรียกเสียงกรี๊ดเบาๆ จากเด็กน้อย อ้ะ! พ่อตัวน้อยๆ! อ้ะ! เสี่ยวเป่าชอบ!
! เยี่ยนอวี๋ตาลุกวาว!
น่าเสียดาย… ต้าซือมิ่งผสานรวมร่างพลังจิตตัวน้อยเข้าไปในระหว่างคิ้วแล้ว ไม่ปล่อยให้สองแม่ลูกได้เชยชมเลย ทำเอาพวกเขาทั้งสองมองด้วยสายตา ‘ประณาม’
อ้ะ! พ่อ! เล็ก! พ่อตัวน้อย! ชอบ! เป่าชอบ! เยี่ยนเสี่ยวเป่ายังพูดอย่างไม่คล่องแคล่วว่า เสี่ยวเป่าอยากได้พ่อตัวน้อย พ่อตัวน้อยๆ นั่น เสี่ยวเป่าชอบ!
อีกทั้งเขาไม่เพียงพูด เขายังยื่นมืออวบอ้วนไปทางท่านพ่อของเขา ต้องการให้ท่านพ่อเขาอุ้ม! ต้องการให้ท่านพ่อเอาตัวพ่อตัวน้อยนั่นให้เขา จนเยี่ยนอวี๋แทบจะอุ้มเขาไว้ไม่อยู่แล้ว
แต่ต้าซือมิ่งไม่สนใจเด็กน้อย เยี่ยนอวี๋จึงอุ้มเขาไว้ไม่อยู่จริงๆ แล้ว เด็กน้อย ‘หนีไป’ ในอ้อมอกของท่านพ่อแล้ว อ้ะ! พ่อ! พ่อ!
ต้าซือมิ่งทำได้เพียงรับตัวเด็กน้อยไว้และลูบศีรษะเขา ต้าซือมิ่งทำเป็นไม่ได้ยินและเขาก็สัมผัสได้ว่าการเปลี่ยนแปลงของร่างพลังจิตองค์น้อยของเขามีกลิ่นอายของ ‘เขา’ อีกคนหนึ่งในร่างพลังจิต
เห็นได้ว่า ‘เขา’ คนนั้นเคยคิดจะควบคุมร่างพลังจิตองค์นี้ของเขา แต่สุดท้ายก็ล้มเหลว อีกทั้งยังทิ้งร่องรอยไว้ ดีมาก นี่คือสิ่งที่ต้าซือมิ่งต้องการ
ไม่มีใครรู้ว่าที่ต้าซือมิ่งใจดำคนนี้ทิ้งร่างพลังจิตตัวน้อยไว้ในสำนักศึกษา ไม่เพียงเพราะเอาไว้ปกป้องสำนัก แต่ยังเอาไว้ ‘ตก’ เขาอีกคนด้วย
ทว่าในขณะที่เขาครุ่นคิดอยู่นั้น เด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมอกของเขาก็ปีนขึ้นไปบนไหล่ของเขาแล้ว และยังยื่นมืออวบอ้วนไปแตะระหว่างคิ้วของเขา พ่อ น้อย! มา!
หรงอี้ …
เขาดึงเด็กน้อยลงมาทันที ไม่มา
อ้ะ!
เยี่ยนเสี่ยวเป่างอแง มา! มา! รัก!
เยี่ยนอวี๋เม้มปากยิ้ม นางอยากรู้เหลือเกินว่าต้าซือมิ่งคนนี้จะกล่อมเด็กน้อยอย่างไร อย่าเห็นว่าเด็กน้อยน่ารักน่าชัง พูดด้วยเหตุผลรู้เรื่อง แต่หากเป็นสิ่งของที่เขาชอบ เขาก็ไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ ถึงอย่างไรนางก็ไม่เคยต้านไว้ได้ ส่วนต้าซือมิ่งคนนี้…
พ่อว่างเมื่อไหร่ค่อยปั้นให้เจ้านะ หรงอี้หลอกล่อเด็กน้อยอย่างตรงไปตรงมา
เยี่ยนอวี๋ …
นางมองตาปริบพลางคิดว่า ยอมแพ้ง่ายๆ เช่นนี้เลยหรือ จะปั้นร่างพลังจิตให้เด็กน้อยเล่นจริงๆ หรือ เช่นนั้นนางขอมาเล่นสักตัวดีหรือไม่!
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เยี่ยนอวี๋ก็เอ่ยขึ้นทันทีว่า ข้าขอด้วย!
เอ่อ… ทุกคนที่ฟังถึงตรงนี้ก็รู้สึกว่าแปลกๆ อย่างไรไม่รู้
เยี่ยนอวี๋กลับไม่ได้คิดมากเช่นนั้น เจ้าให้เสี่ยวเป่า ก็ต้องให้ข้าด้วย
ใช่! ให้ ให้แม ให้ เป่า! เยี่ยนเสี่ยวเป่าบอกว่าตนเองมีใจเอื้อเฟื้อ ให้แม่ด้วย
เยี่ยนอวี๋จูบเด็กน้อยเบาๆ ไม่เสียข้าวสุก ยังรู้จักช่วยแม่พูดด้วย
ทว่าต้าซือมิ่งก็ตอบว่า ได้
เยี่ยนอวี๋มองชายตรงหน้าอย่างตะลึง ดวงตาของนางสบตาสีม่วงที่กำลังอมยิ้มคู่นั้น ทำให้นางรู้สึกประหลาดอย่างไรไม่รู้
อ้ะ! เก่ง! เยี่ยนเสี่ยวเป่าไม่รู้ เขาจูบท่านพ่ออย่างดีอกดีใจแล้ว
หรงอี้ลูบเด็กน้อยเบาๆ ก่อนจะรวบตัวเขากลับเข้ามาในอ้อมอก
เสียงของอีอิ่นก็แทรกขึ้น ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยน ข้ามีเรื่องขอความช่วยเหลือ
อีจี้จิ่วโปรดพูด เยี่ยนอวี๋ไม่ได้ถามว่าเหตุใดอาจารย์จึงกลายเป็นร่างวิญญาณและผสานรวมเป็นร่างเดียวกับสำนักศึกษา เพราะนางเดาได้ว่าเป็นเพราะอะไร
อีอิ่นจึงนำกล่องไม้สีเพลิงออกมาไว้ข้างหน้าเยี่ยนอวี๋ด้วยพลังความคิด เจ้าสำนักแห่งสำนักเนี่ยผานสละชีวิตเพื่อปกป้องทุกคนไว้ ข้าทำได้เพียงผนึกร่างของเขาไว้ ไม่สามารถช่วยเขากลับมาได้ ไม่ทราบว่าปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนมีวิธีหรือไม่
ข้าขอดูก่อน เยี่ยนอวี๋ยกมือขึ้นยกกล่องที่ทำจากไม้อู๋ถงที่อยู่ตรงหน้านี้ไว้บนฝ่ามือ นางสัมผัสได้ว่าข้างในยังมีลมปราณของสิ่งมีชีวิต แต่ก็อ่อนแรงมาก
คนสำนักเนี่ยผานมองเยี่ยนอวี๋ตาปริบๆ แต่พวกเขาก็ไม่พูดอะไรเพราะรู้ว่าเป็นเรื่องยาก พวกเขาไม่อยากทำให้นางลำบากใจเกินไป
เพียงแต่ว่า…
มีวิธี
เยี่ยนอวี๋ตอบอย่างหนักแน่น ทำเอาเหล่าผู้คนสำนักเนี่ยผานน้ำตาไหล จริงหรือขอรับ เจ้าสำนักของเรากลับมาได้จริงหรือ
ได้ ยังมีชีวิตอยู่ แต่ต้องรีบช่วยไว้ก่อนที่เขาจะเข้าสู่สังสารวัฏ เยี่ยนอวี๋พูดพลางนั่งขัดสมาธิ นางกำลังจะเริ่มลงมือแล้ว
เช่นนั้นต้องการให้พวกข้า… ผู้อาวุโสสำนักเนี่ยผานทำท่าจะถามอะไร เยี่ยนอวี๋กลับเปิดกล่องไม้ ร่างเสมือนของตี๋อูหวนลอยออกมา แต่เป็นร่างที่เลือนรางมาก อีกเพียงไม่นานก็จะสลายหายไปแล้ว! ทำเอาสำนักเนี่ยผานตกใจจนไม่กล้าพูดอะไร
แสงสีรุ้งจางที่เปล่งออกมาจากเยี่ยนอวี๋ก็คลุมตี๋อูหวนไว้ เยี่ยนอวี๋อัดพลังฟื้นคืนชีพเข้าไปในร่างเสมือนของตี๋อูหวน พลังนั้นรวบรวมลมปราณและเลือดเนื้อที่หลั่งไหลและสลายไปไม่หยุดเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว
ทำให้ทุกคนได้เห็นร่างของตี๋อูหวนเป็นรูปเป็นร่างขึ้นอย่างแจ่มชัด! เพียงพอที่จะทำให้เหล่าสำนักเนี่ยผานที่แต่เดิมไม่ตั้งความหวังไว้ดีใจจนอึ้งไปหมด
แต่แล้ว… ในขณะเดียวกัน!
วิ้ง!
วิ้ง!
แสงสีทองอร่ามสองดวงกลับปรากฏขึ้นจากท้องฟ้าเหนือเมืองโยวตู ทำให้อีอิ่นที่คอยสังเกตการณ์ข้างนอกอุทานขึ้น เทพสวรรค์เก้าชั้นฟ้า พวกเขา… มาแล้ว!?
ผู้ใดบังอาจแตะต้องผนึกขุนเขาและท้องทะเลโดยพลการ จงออกมารับโทษเสีย! เทพสวรรค์เก้าชั้นฟ้าสององค์เปิดประตูสวรรค์ ในขณะที่พวกเขาสถิตลงมายังตวาดด้วยน้ำเสียงดุดัน