เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 373 ต้าซือมิ่งล่วงละเมิด ถูกจับได้คาหนังคาเขา!
ทันใดนั้น กลิ่นอายโหดเหี้ยมพร้อมจะกวาดล้างสวรรค์เก้าชั้นฟ้าอย่างยิ่งยวดก็หลั่งไหลออกมา! ทำเอาเจ้าของเสียงนั้นตกใจจนไม่กล้าพูดอะไร และยังรีบผนึกแดนลับไว้จนแน่นหนาทวีคูณทันที ในขณะเดียวกัน…
ต้าซือมิ่งที่อยู่ต้าซย่ากลับหยุดลงและมองไปบนท้องฟ้า ชั่วขณะเมื่อครู่นี้เขาสัมผัสได้ว่าบนสวรรค์เก้าชั้นฟ้าก็มีกลิ่นอายของเขา พูดให้ถูกต้องคือ กลิ่นอายของ ‘เขา’ คนนั้น
อ้ะเนะ? เยี่ยนเสี่ยวเป่ากลับไม่รู้สึกอะไร ทว่าเขาเองก็มองขึ้นไปบนฟ้า ท่าทีกำลังถามว่าท่านพ่อกำลังดูอะไร
หรงอี้มิได้บอกเขา เพียงแค่กล่าวว่า จะลงไปแล้วนะ จับแน่นๆ ล่ะ
ได้! เยี่ยนเสี่ยวเป่ากอดคอของท่านพ่อไว้แน่น จากนั้นทั้งสามคนก็ปรากฏตัวต่อหน้าเยี่ยนชิงและคนอื่นๆ
ผ่านไปครู่หนึ่ง อินหลิวเฟิงที่ตั้งสติได้ก่อนผู้ใดก้พูดขึ้นว่า ต้าซือมิ่ง! กูไหน่ไนเป็นอะไรไปหรือ
นั่นน่ะสิ เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์เป็นอะไรไปรึ เยี่ยนชิงและบุตรชายทั้งสองของเขาถามไถ่อย่างร้อนรน ทว่าไม่ว่าจะเป็นอินหลิวเฟิงหรือว่าบุตรชายตระกูลเยี่ยนทั้งสอง พวกเขาต่างก็ตั้งใจลดเสียงเบาลง ถึงแม้พวกเขาจะโพล่งถามออกไปอย่างร้อนรนก็ตาม แต่ก็รู้ว่าไม่ควรรบกวนเยี่ยนอวี๋ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ต้าซือมิ่งพอใจอย่างยิ่ง เขาอธิบายเสียงเบาว่า นางไม่เป็นอะไร แค่ใช้พลังมากไปเล็กน้อย คงต้องนอนพักผ่อนสักระยะเวลาหนึ่ง
กี่วัน เยี่ยนชิงรีบถาม
น่าจะสองสามวันขอรับ หรงอี้ประเมิน
เยี่ยนเสี่ยวเป่ารีบบอกว่า นอน… กับ… แม!
อื้ม ปกป้องท่านแม่ของเจ้าให้ดี หรงอี้เองก็ตอบตกลง เพราะเขาเองก็ไม่วางใจ เพียงแต่ว่า…
ต้าซือมิ่งที่ชะงักครู่หนึ่งก็พูดต่อว่า พ่อนอนกับเจ้า
สีหน้าเยี่ยนชิงพลันเปลี่ยน เช่นนั้นก็นอนด้วยกันทั้งหมด! ข้า จื่อเยี่ย จื่อเสาด้วย
หรงอี้ยังไม่ทันพูดอะไร เด็กน้อยก็ส่งเสียงเล็กเสียงน้อยคัดค้านขึ้นแล้ว ไม่! วุ่นวาย!
เยี่ยนชิงหยิกเด็กน้อยทันที เจ้าคนทรยศ
แค่ก เยี่ยนจื่อเยี่ยกระแอมเบาๆ ยังไม่แต่งงาน ย่อมนอนด้วยกันไม่ได้… แต่เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์เป็นเช่นนี้ เจ้าย่อมต้องเฝ้านาง นอนเฝ้าห้องข้างนอกแล้วกัน
พี่ใหญ่พูดถูก หรงอี้ตกลงตามนั้น
เยี่ยนเสี่ยวเป่ายังไม่เข้าใจ แต่เขาก็ถูกเบี่ยงเบนความสนใจไปแล้ว!
อุแว้!
เมื่อจิ่วอิงรู้ว่าหรงอี้ทั้งครอบครัวกลับมาแล้ว มันก็รีบมาที่นี่ทันที!
เจ้าหมอนี่วิ่งแจ้นมาพร้อมประกายไฟตลอดทาง สีแดงทองระยิบระยับ แน่นอนว่าย่อมดึงดูดเด็กน้อยที่ชอบประกายวิบวับเป็นที่สุด อ้ะเนะ! อ้ะ?
นางยักษ์สุดสวย! จิ่วอิงที่วิ่งมาด้วยความไวแสงรีบถามขึ้นว่า ข้ากินคนได้หรือไม่! เชลยศึกที่บุกรุกสำนักชางอู๋เหล่านนั้นน่ะ สวะทั้งนั้น!
เสียงทั้งดังทั้งดุดันของเขาทำเอาต้าซือมิ่งไม่พอใจ ทว่าฝ่ายหลังก็รีบกางม่านกั้นเสียงจิ่วอิงไว้แล้วจึงมิได้ทำให้ภรรยาตื่น
จากนั้นไม่ว่าจิ่วอิงพูดอะไร เยี่ยนอวี๋จึงไม่ได้ยิน นางยังคงหลับต่อไป
อ้ะเนะ!
เยี่ยนเสี่ยวเป่ากระโจนออกไปแล้ว! ทำเอาเยี่ยนจื่อเสาตกใจจนเกือบจะล้มตะครุบบนพื้น!
ลู่หมิงเองก็รีบเข้าห้าม แต่จะทำอย่างไรได้ เด็กน้อยเคลื่อนไหวรวดเร็วเกินไป เขาเกาะบนศีรษะข้างหนึ่งของจิ่วอิงไว้แล้ว!
!
!
แม้แต่เยี่ยนชิงและเยี่ยนจื่อเยี่ยที่ทำเป็นสงบนิ่ง ตอนนี้ก็อยู่นิ่งไม่ไหวแล้ว!
อินหลิวเฟิงกลับไม่สะทกสะท้าน เอ้อร์เหมาก็เช่นกัน เขายังคงยืนกอดอกมองเด็กน้อยราวกับกำลังดูละคร
อ้ะเนะ!
อุแว้!
เสียงเล็กเสียงน้อยใสแจ๋วดังขึ้น
เสียงร้องประหลาดของทารกดังขึ้น
ทั้งสองเสียงกลับสอดประสานเข้ากันได้เป็นอย่างดี…
จากนั้นเยี่ยนเสี่ยวเป่าก็หันไปหยุดอยู่ตรงหน้าจิ่วอิงด้วยดวงตากลมโตประกายระยิบระยับ เขากำลังสำรวจมันพลางชม ว้าว เก่ง! งาม! ไม่หยุดปาก
หลังจากนั้น จิ่วอิงยังคงตั้งสติไม่ได้
จุ๊บ!
เด็กน้อยก็ขึ้นไปบนศีรษะของเขาและกอดศีรษะสีแดงประกายนั่นไว้ ก่อนจะจูบลงไปทีหนึ่ง!
โอ้แม่เจ้า! เสี่ยวเป่าของข้า! หัวใจของลู่หมิงจะระเบิดอยู่แล้ว!
เยี่ยนชิงและคนอื่นๆ ก็ทนไม่ไหวแล้ว
เอ้อร์เหมามองเด็กน้อยด้วยท่าทีเลื่อมใสว่า สมแล้วที่เป็นบุตรของคุณหนูใหญ่ นี่มันแข็งแกร่งเกินไปแล้ว! ทัศนคติด้านความงามก็พิเศษจริงๆ! ความงามคือต้องดุร้ายงั้นรึ!
นั่นน่ะสิ… อินหลิวเฟิงเองก็รู้สึกชื่นชม
เอ้อร์เหมาจึงพูดต่อว่า โชคดีที่นายน้อยมิได้เป็นพ่อเลี้ยงให้เสี่ยวเป่า มิเช่นนั้นท่านต้องกลายเป็นทาสแน่ๆ
… อินหลิวเฟิงมิได้แย้งกลับ เขาไม่กล้าบอกเอ้อร์เหมาด้วยซ้ำว่าอันที่จริงเขากลายเป็นทาสไปแล้ว เขาเป็นสมุนรับใช้ของพ่อคุณทูนหัวท่านนี้เชียวนะ ถูกจับร่วมสาบานกันเรียบร้อยแล้วด้วย
เอ้อร์เหมาจึงไม่รู้เลยว่านายน้อยของเขามีประวัติเสื่อมเสียเกียรติเช่นนี้ด้วย มิเช่นนั้น… อินหลิวเฟิงคิดว่าศักดิ์ศรีของเขาคงตกต่ำกว่านี้ และในขณะเดียวกัน…
อุแว้!
จิ่วอิงที่ในที่สุดก็ตั้งสติได้ มันก็รีบก้มศีรษะที่ถูกเด็กน้อยกอดไว้ลงมา ส่วนศีรษะทั้งแปดที่เหลือก็ล้อมเข้าหาเขา ดวงตาทั้งสิบหกดวงมองเด็กน้อยตาไม่กะพริบ
ฮ่า… เยี่ยนเสี่ยวเป่าสนุกสนาน เขาทำท่าจะควักลูกตาสีแดงดุร้ายของจิ่วอิงออกมา สำหรับเขาแล้วดวงตาดวงนั้นคงไม่ต่างจากอัญมณีวาววับ
จิ่วอิงรีบหลับตาลง เด็กน้อยจึงควักดวงตาคู่อื่นแทน มันก็หลับตาอีก เด็กน้อยหัวเราะคิกคักสนุกสนาน
เยี่ยนชิงก็ค่อยๆ พูดขึ้นว่า อาจารย์ลู่ ท่านเห็นหรือยัง คุมไม่อยู่จริงๆ!
ลู่หมิงเองก็หมดคำพูด บอกได้เพียงว่าเด็กน้อยคนนี้เป็นเด็กอัจฉริยะจริงแท้! เขาไม่เกรงกลัวความชั่วร้ายอันน่าสะพรึงเช่นนี้เลย ราวกับว่ามันเห็นความดุร้ายเป็นความงามจริงๆ
อุแว้! เสี่ยวเป่าน้อย เจ้าช้าลงหน่อย หากถูกเจ้าควักออกมาจริงๆ ปู่จิ่วของเจ้าตาจะบอดเอานะ! จิ่วอิงเล่นเป็นเพื่อนพลางห้ามปรามให้เขาเพลามือลง
หรงอี้อุ้มภรรยาเข้าไปในห้องโดยไม่สนใจเด็กน้อย ในจังหวะนั้นก็ไม่มีผู้ใด ‘สนใจ’ เขา หลังจากที่เขาวางคนในอ้อมอกลงเสร็จแล้ว เขาก็ไม่ได้ลุกขึ้นทันที สายตาของเขามองภรรยาที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม
เขามองผิวสีขาวนวลดั่งหยก มองหน้าตาอันวิจิตรไร้ที่ติ มองจมูกน้อยงดงามใบนั้น มองริมฝีปากที่ยังไม่กลับมาเป็นสีแดง แต่กลับมีสีชมพูดุจกลีบลูกท้อ…
…เขาค่อยๆ ประชิดหน้าเข้าใกล้ ดวงตาสีม่วงค่อยๆ หลับลง…
…
ราวกับว่าเยี่ยนอวี๋จะสัมผัสได้ เมื่อปลายจมูกอุณหภูมิต่ำของหรงอี้สัมผัสถูกหน้าของนาง ขนตานางก็ขยับเล็กน้อยก่อนจะลืมตาขึ้น ทำให้ชายที่กำลังจะประกบริมฝีปากนางชะงัก!
…
หรงอี้ที่ถูกจับได้ก็รู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมากลางอกต่อหน้าภรรยาที่สบตาเขาด้วยดวงตาสุกใส เขารู้สึกทั้งเขินและอาย เพียงแต่ว่าปฐมราชินีก็ยกมือขึ้นคล้องคอเรียวของหรงอี้ไว้ นางค่อยๆ ยกศีรษะขึ้นก่อนจะจรดริมฝีปากลงบนปากที่ค่อนข้างเย็นและนุ่มตรงหน้า ครานี้เอง… หรงอี้ที่ประคองท้ายทอยของนางไว้ก็บรรจงจูบตอบ ลิ้นที่สอดแทรกเข้ามาในปากทำให้เขารู้สึกภรรยาช่างเย้ายวน ทำให้การจูบดูดดื่มขึ้นกว่าเดิม!
แต่แล้ว…
อุ๊บ
เยี่ยนอวี๋เริ่มเรียนรู้ที่จะดูดริมฝีปากของต้าซือมิ่งเบาๆ แล้ว
ครานี้เอง…