เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 404 ฝ่าบาท ท่านคิดจะแต่งเข้าแดนเทพ?
คิเมียราที่มีความคิดแจ่มชัดเช่นนี้ทำให้ปีศาจแฝงฝันตะลึงทว่าเมื่อพิกซีลองคิดตามก็รู้สึกว่าเป็นความคิดที่ไม่เลว แต่ไม่ว่าอสูร ‘อัจฉริยะ’ จะคิดอย่างไร ดวงตาราชสีห์สุกใสคู่นั้นของคิเมียราก็มองต้าซือมิ่งตาปริบ
แต่แล้วต้าซือมิ่งถามเพียงคำถามสามข้อ หนึ่ง “เจ้าอยากไปไหน”
“?” คิเมียราที่ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้ก็ทำท่าครุ่นคิดก่อนจะตอบว่า “ออกไปท่องโลก”
“ไม่ต้องฝึกฝนวิชารึ” ต้าซือมิ่งถามเช่นอาจารย์แนะแนว
คิเมียรากะพริบตา “ก็ถูก ข้างนอกนั่นดูเหมือนกับว่าจะไม่ค่อยเหมาะกับการฝึกฝนของมารเท่าไร ซ้ำร้ายพลังอาจจะตกขั้นด้วย นอกเสียจากว่าจะหลอมดินแดนอื่นๆ ให้กลายเป็นแดนมืด!”
“เจ้าจะให้เราและภรรยาแย่งดินแดนกันหรือ” ต้าซือมิ่งถามต่อ
คิเมียราเกาศีรษะด้วยกีบของมัน “ไม่มีคุณธรรมเลย”
ใครจะไปรู้ว่ามหาอสูรตนหนึ่งจะคิดถึงเรื่องคุณธรรมได้
แต่หลังจากที่ต้าซือมิ่งถามกลับแล้ว คิเมียราก็รู้สึกได้โดยสัญชาติญาณว่า หากแย่งดินแดนกันเองจริงๆ คงไม่ค่อยมีคุณธรรมเท่าไรนัก อีกทั้งยังนิสัยเสียมาก
เมื่อปีศาจแฝงฝันได้ยินดังนั้นก็คิดว่าคิเมียรา ‘พ่ายแพ้’ แล้ว นางจึงกำลังจะเอ่ยบางอย่างขึ้น แต่พิกซีกลับชิงพูดก่อนว่า “อันที่จริงปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในตอนนี้คือแม้ฝ่าบาทจะหลอมดินแดนภายนอกแล้ว พวกเราก็ไม่สามารถรักษามันไว้ได้ ดังนั้นหลังจากที่สิบสองเทพมารของเราจากไป อาณาเขตของแดนมืดจึงเล็กลง”
“แต่กระนั้น สิบสองเทพมารของเราก็ถูกปฐมราชินีหยวนชูเข่นฆ่า นางคือศัตรูอันดับหนึ่งของเผ่ามารของเรา!” ปีศาจแฝงฝันอดพูดไม่ได้ นางคิดว่านี่คือประเด็นที่สำคัญที่สุด
ครั้นเยี่ยนอวี๋กำลังจะตอบ คิเมียราก็เอ่ยขึ้นอย่างเห็นต่างว่า “แหม จะบอกว่าเป็นศัตรูก็ไม่ถูก หากจะคิดเช่นนี้ สิบสองเทพมารของเราก็ฆ่าล้างเผ่ามนุษย์ไปเช่นกัน ทวยเทพเช่นยักษ์ผานกู่ เทพบิดรฝูซี เจ้าแม่หนี่ว์วาก็ถูกสิบสองเทพมารของเราฆ่าทิ้งมิใช่หรือ”
ปีศาจแฝงฝัน “…”
การมีเพื่อนโง่เขลาในกลุ่มเป็นอย่างไร นางตระหนักรู้ดีแล้ว
แต่ก็ไม่มีใครค้านได้ว่าคิเมียราพูดผิด ถึงอย่างไรการที่ปฐมราชินีหยวนชูลงมือฆ่าล้างก็เป็นเพราะเผ่ามารทำเกินไป พิกซีจึงอดพูดไม่ได้ว่า “เรื่องใครผิดใครถูกในอดีตไม่สามารถสรุปได้จริงๆ”
“แต่…” ปีศาจแฝงฝันอยากจะพูดอะไรอีก
ต้าซือมิ่งกลับเปิดเผยเรื่องน่าตกใจว่า “อีกอย่างนะ ใครบอกพวกเจ้าว่าเราเป็นเพียงจักรพรรดิอสูร”
“อะไรนะ?”
“อะไรนะ?”
“ฝ่าบาทท่านหมายความว่าอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ”
มหาอสูรผู้แข็งแกร่งทั้งสามอ้ำอึ้ง
คิเมียราในบรรดาทั้งสามตกใจที่สุด “ฝ่าบาท หรือว่าท่านคิดจะแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงพ่ะย่ะค่ะ”
เยี่ยนอวี๋กะพริบตาสองสามที หากพูดถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของต้าซือมิ่ง นางยังพอเดาออก แต่เรื่องนี้นางเดาไม่ออกจริงๆ ไม่อยู่ในความคาดหมายของนางเลยแม้แต่น้อย
ทว่าต้าซือมิ่งก็พูดขึ้นว่า “เราไม่เคยเห็นว่าพลังของเราเป็นเพียงพลังมาร พลังใดๆ ก็สามารถกลายเป็นพลังของเราได้”
นี่มัน…!
มหาอสุรกายทั้งสามงงงันสิ้นเชิง!
แต่แล้วต้าซือมิ่งยังอธิบายต่อไปอย่างสบายใจว่า “หากพวกเจ้าอยากจะต่อต้านเพราะเรื่องนี้ก็ย่อมได้ พันปีก่อนเราจัดการพวกเจ้าได้ พันปีให้หลังก็เช่นกัน”
“ไม่ๆๆ พ่ะย่ะค่ะ…” คิเมียรารีบสั่นศีรษะสิงโตของตน “ฝ่าบาทท่านอย่าทำอะไรข้าน้อยเลย หากถูกท่านจัดการอีกครั้ง ข้าน้อยคงไม่มีชีวิตอยู่ต่อไปอีก”
พิกซีเองก็พูดอย่างซื่อสัตย์ว่า “ท่านกลืนกินมหาอสูรซิมบาไปแล้ว ปีศาจตัวน้อยๆ เช่นพวกข้ายังไม่เพียงพอเป็นเศษเนื้อติดร่องฟันของท่านได้เลย”
“ใช่แล้ว พวกข้ามิได้หมายความเช่นนั้นนะเพคะ!” ปีศาจแฝงฝันรีบแก้ตัว นางเปิดโปงตัวตนที่แท้จริงของ ‘จักรพรรดินี’ ก็ไม่ได้มีจุดประสงค์เช่นนี้เสียหน่อย! นางก็แค่ ก็แค่…
ปีศาจแฝงฝันยังไม่ทันคิดได้ ในที่สุดเยี่ยนอวี๋ก็ได้โอกาสพูด ‘แทรก’ ขึ้นว่า “เรื่องปลดผนึก รอให้ข้ากลับไปบนสวรรค์เก้าชั้นฟ้าจะพิจารณาใหม่ แต่ทุกๆ เผ่าอยู่ร่วมกันอย่างสันติคือสิ่งที่ข้าในฐานะที่เป็นปฐมราชินีผู้สร้างโลกจะต้องรักษาไว้ให้ได้”
“จะปลดผนึกได้จริงหรือพ่ะย่ะค่ะ” คิเมียรามองเยี่ยนอวี๋ “แต่ตามที่ฝ่าบาทกล่าวมา ดูเหมือนว่าปลดผนึกไปก็ไม่มีอะไร ยังต้องคอยดูแลด้วย เหมือนแทะซี่โครงไก่ ทำไปไม่คุ้ม แต่จะไม่ทำก็เสียดาย”
“ลำบากเจ้าแล้วที่ยังรู้ว่าซี่โครงไก่หมายถึงอะไร” ขณะที่พิกซีเอ่ย มันก็สรุปว่า “ในเมื่อพวกข้ากลับมาอยู่เคียงข้างฝ่าบาทแล้ว ย่อมปฏิบัติตามคำสั่งของท่าน เรื่องตัวตนขององค์จักรพรรดินีที่ปีศาจแฝงฝันกล่าวถึง นางก็แค่ห่วงใยว่าท่านอาจจะถูกหลอกลวง”
“ใช่เพคะ ข้าน้อยไม่มีเจตนาอื่นแต่อย่างใดนะเพคะ!” ปีศาจแฝงฝันโขกศีรษะลงทันที “บัดนี้ข้าน้อยคงคิดมากไปเอง และยังต้องโทษข้อหาแทรกแซงเรื่องส่วนตัวของท่าน ข้าน้อยจะลดขั้นพลังห้าส่วนและกลับไปฝึกฝนใหม่ในแดนมืดอีกครั้งเพคะ!”
เมื่อพูดจบ ปีศาจแฝงฝันก็ทำลายพลังห้าส่วนของตนเองทิ้ง เขาคู่หนึ่งที่อยู่บนศีรษะของนางพลันหายไป ซึ่งนั่นเป็นตัวแทนของพลังของนาง!
เมื่อต้าซือมิ่งเห็นดังนั้นก็พูดขึ้นว่า “ในเมื่อเจ้าสำนึกผิด เราจะให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย หากยังกระทำผิดอีกครา โทษประหารชีวิต”
“เพคะ! ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ไว้ชีวิตและองค์จักรพรรดินีที่ไม่ถือสา” ปีศาจแฝงฝันรู้ว่าหากไม่ใช่เพราะปฐมราชินีหยวนชูไม่ได้ต้องการประหารชีวิตนาง ฝ่าบาทก็คงไม่ปล่อยให้นางกำหนดบทลงโทษตนเองเช่นนี้
เยี่ยนอวี๋เองก็ไม่ได้ต้องการฆ่าปีศาจแฝงฝัน ยิ่งไม่อยากให้ชายข้างกายคนนี้ลำบากใจ พวกเขาเป็นลูกน้องของเขาทั้งนั้น หากฆ่าปีศาจแฝงฝันเพียงเพราะนาง พิกซีและคิเมียราก็คงรู้สึกขุ่นเคือง โดยเฉพาะพิกซีน้อยตัวนี้
นี่ไม่ใช่สิ่งที่เยี่ยนอวี๋อยากเห็น ถึงอย่างไรชายคนนี้ก็ ‘หลอกใช้’ ลูกน้องเพื่อนางจนหากพวกเขาถูกหลอกขายไปก็คงไม่รู้ตัว เมื่อครู่นี้เขาใช้อำนาจจักรพรรดิอสูร สร้างอิทธิพลต่อความคิดของคิเมียราโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว ทำให้พวกมันถูกเขา ‘พาหลง’ ไปหมดแล้ว
ดังนั้น เยี่ยนอวี๋ในบัดนี้ก็ตอบว่า “ข้าไม่อาจปล่อยให้ผู้อื่นกล่าวว่าเป็นเพราะข้าอิจฉาความงามของเจ้า พอมาถึงที่นี่เลยให้องค์จักรพรรดิอสูรของพวกเจ้าฆ่าเจ้าได้หรอก ลุกขึ้นเถอะ”
ปีศาจแฝงฝันรับรู้ถึงความเมตตาในน้ำเสียงของเยี่ยนอวี๋ กำลังจะกล่าวขอบคุณ คิเมียรากลับพูดเสียงทุ้มต่ำว่า “แต่ข้าคิดว่าองค์จักรพรรดินีงามกว่าปีศาจแฝงฝันมากนัก มิเช่นนั้นฝ่าบาทก็คงไม่แย่งปฐมราชินีมาเป็นภรรยาหรอก!”
“ใช่เพคะ” ปีศาจแฝงฝันยอมรับเรื่องนี้ แต่นางหวังว่าต่อไปหากคิเมียราจะพูดความจริงก็ขอให้อ้อมค้อมกว่านี้สักเล็กน้อยได้หรือไม่…
แต่แล้วครั้งนี้พิกซีซื่อตรงกว่าคิเมียรา “เรื่องความงามนี่ ปีศาจแฝงฝันยังห่างไกลจากองค์จักรพรรดินีมากโข ส่วนเรื่องอื่นน่ะยิ่งไม่ต้องพูดถึง”
ปีศาจแฝงฝันอดพูดไม่ได้ว่า “ทั้งสองท่านหยุดสร้างความร้าวฉานได้หรือไม่ ปีศาจแฝงฝันเช่นข้าจะไปเทียบกับปฐมราชินีได้อย่างไร” หากปล่อยให้พวกเจ้าพูดต่อไป ฝ่าบาทคงประหารชีวิตข้าเป็นแน่
แต่แล้ว…
จ๊อก!