เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 438 จำปฐมราชินีได้แล้ว! เพียงค้อนเดียวทุบหน้าแหก!
- Home
- เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน
- ตอนที่ 438 จำปฐมราชินีได้แล้ว! เพียงค้อนเดียวทุบหน้าแหก!
ซีเหอคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่า นางจะเห็นภาพเช่นนี้ในตำหนักหยวนสื่อเทียนจุนผ่านกระจกวิเศษเฮ่าเทียน บุตรสาวที่นางประคบประหงมตั้งแต่เล็กจนโต แม้แต่แตะยังไม่กล้า กลับถูกผู้อื่นตบหน้าเช่นนี้!?
“เซินเซิน!” ซีเหอยื่นมือออกไปจับบุตรสาวในภาพ นางอยากจะเห็นว่าใครกันที่บังอาจดูแคลนบุตรสาวผู้สูงศักดิ์ของนางเช่นนี้
เสียดายที่ซีเหอเพิ่งคิดได้เช่นนี้ กำลังจะดูให้ชัดว่าบุคคลที่สวมชุดแดงคนนั้นคือใคร กระจกวิเศษเฮ่าเทียนก็ค่อยๆ มืดดับลง ไม่เห็นอะไรแล้ว
“เกิดอะไรขึ้น!” ซีเหอไม่เข้าใจ “ทำไมไม่เห็นอะไรแล้วล่ะ!”
เห็นได้ชัดว่ายุวเทพข้างกายที่คอยรับใช้ซีเหอก็ไม่สามารถตอบได้ว่าเพราะเหตุใดเช่นกัน แต่เขาก็พูดขึ้นว่า “กระหม่อมไปถามเทียนจุนสักครู่พ่ะย่ะค่ะ”
“รีบไป!” ซีเหอเร่งเร้า
ทว่าท่านเทพอาวุโสท่านหนึ่งที่เพิ่งเดินเข้ามาก็กล่าวว่า “เทียนโฮ่วเหนียงเหนียง เทียนจุนกล่าวว่า กระจกวิเศษเฮ่าเทียนดับหาย ชะตากรรมก็เป็นเช่นนี้ มิอาจดูได้อีก”
“เจ้าพาข้าไปพบเขา!” ซีเหอไม่ยอมอย่างเห็นได้ชัด
ท่านเทพอาวุโสกลับพูดว่า “แม้เหนียงเหนียงเห็นชัดแล้วจะทำอะไรได้”
“ข้า…” ซีเหอสงบอารมณ์ลง นางรู้ว่าจุดประสงค์หลักที่นางมาคือเพื่อให้แน่ใจว่าบุตรสาวของนางปลอดภัยดี หากบุตรสาวมีอันตรายชีวิต เช่นนั้นไม่ว่าอย่างไรนางก็จะต้องให้หยวนสื่อเทียนจุนยื่นมือเข้าช่วย!
แต่ดูจากเมื่อครู่นี้ แม้บุตรสาวจะถูกดูหมิ่นกลับไม่มีอันตรายถึงแก่ชีวิต นางจะร้อนรนหรืออย่างไร ด้วยนิสัยของหยวนสื่อเทียนจุนก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้
เมื่อซีเหอคิดได้ดังนี้ นางก็ตัดใจกล่าวว่า “ช่างเถอะ ในเมื่อเทียนจุนไม่ยอมช่วย ข้าก็ไม่ลำบากเขา ลาก่อน”
“อำลาเหนียงเหนียง” ท่านเทพอาวุโสกล่าวลา
แม้ซีเหอจะไม่พอใจ แต่ก็ทำได้เพียงเดินออกมา แต่สิ่งที่นางไม่รู้คือในห้องจำศีลของตำหนักหยวนสื่อเทียนจุน ผู้อาวุโสผมขาวใบหน้าสง่าที่แต่เดิมหลับตาตลอดเวลา บัดนี้ลืมตาขึ้นแล้ว “ปฐมราชินี…”
ซีเหอมองไม่เห็นเงาร่างนั้น แต่หยวนสื่อเทียนจุนเห็นแล้ว ทว่าในสายตาของเขา เขารู้สึกไม่มั่นใจเล็กน้อย เพราะว่าเขาก็ไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของเยี่ยนอวี๋ผ่านกระจกวิเศษเฮ่าเทียนได้ชัดเจนเช่นกัน
นอกจากเป็นเพราะอยู่ห่างกันหลายชั้นสวรรค์ ยังเป็นเพราะกระจกวิเศษเฮ่าเทียนเองที่ไม่มีสิทธิ์แอบมองเยี่ยนอวี๋ แต่ในฐานะที่เป็นเทพรุ่นแรก หยวนสื่อเทียนจุนคุ้นเคยกับกลิ่นอายและเงาร่างของเยี่ยนอวี๋เป็นอย่างดี อีกทั้งในสวรรค์เก้าชั้นฟ้าเมื่อเร็วๆ นี้มี ‘ปฏิกิริยาสะท้อน’ ของปฐมราชินีค่อนข้างมาก หยวนสื่อเทียนจุนคาดเดาว่า เงาร่างที่เขาเห็นเกรงว่าจะเป็นปฐมริชนีเยี่ยน!?
แต่ว่า…
“สามหมื่นปีมานี้ สวรรค์เก้าชั้นฟ้ามีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หากเป็นปฐมราชินีจริงๆ เกรงว่าสวรรค์เก้าชั้นฟ้าต้องถูกชำระล้างและจัดระเบียบใหม่” หยวนสื่อเทียนจุนพึมพำอย่างสงบ จากนั้นก็หลับตานั่งสมาธิต่อไป
เขาไม่มีความรู้สึกใดๆ ต่อเรื่องราวทางโลกแล้ว แม้จะเป็นเรื่องปฐมราชินีเกิดใหม่ก็เช่นกัน เพราะว่าตัวเขาเองก็แก่หง่อมจนเป็นเพียงกระดูกที่พร้อมจะกลับคืนสู่ความว่างเปล่าแล้ว เห็นเรื่องความเป็นความตายเป็นเรื่องธรรมดา ทุกอย่างล้วนเป็นเหตุและผล
หากเยี่ยนอวี๋อยู่ที่นี่ อันที่จริงก็ดูออกว่าสภาพของหยวนสื่อเทียนจุนในบัดนี้เหมือนกับสภาพสุดท้ายของเยี่ยนอวี๋ก่อนที่นางจะจากไป นางในครานั้นก็คือหยวนสื่อเทียนจุนในยามนี้
พวกเขามีชีวิตอยู่มายาวนานเกินไปแล้ว เยี่ยนอวี๋ยาวนานยิ่งกว่า นานจนไร้ซึ่งสิ่งใดสามารถกระตุ้นแรงกระเพื่อมของหัวใจพวกเขาได้ การกลับคืนสู่ความว่างเปล่าเป็นเพียงประสบการณ์สุดท้ายที่ต้องพบเจอ
…
ในขณะเดียวกัน ค่ายกลย้ายมิติสวรรค์ชั้นเก้ากลับคืนสู่สภาพปกติ
ซู่!
ซื่อฝานเทียนอ๋องพุ่งเข้าไปในค่ายกลเคลื่อนย้ายมิติอย่างไม่รอช้า เขาไม่อยากคุยกับมหาเทพเบิกฟ้าอีกแม้แต่น้อยแล้ว
ค่ายกลย้ายมิติสวรรค์ชั้นเก้าที่ฟื้นคืนกลับมา ความเร็วนั้นรวดเร็วอย่างมิอาจปฏิเสธได้! เพียงชั่วพริบตา ซื่อฝานเทียนอ๋องก็ถูกส่งมาสวรรค์ชั้นหนึ่งหรือดินแดนของเขาแล้ว!
ในขณะเดียวกัน…
“ท่านพี่!”
ท่านเทพอี้หยางที่ถูกเหวี่ยงจนย้ายมิติอย่างรวดเร็วเช่นกัน นางมีความอดทนไม่น้อย ขณะที่อาเจียนจนหน้ามืดตาลายก็ยังจำกลิ่นอายของพี่ชายแท้ๆ ได้
ในขณะนี้กลุ่มคนเยี่ยนอวี๋อยู่ข้างหน้าค่ายกลย้ายมิติสวรรค์ชั้นหนึ่งแล้ว พวกเขาก็ได้พบกับซื่อฝานเทียนอ๋องที่เร่งเดินทางกลับมาแล้ว!
การพบกันครานี้…
“อี้หยาง?”
“องค์หญิงเจ็ด!?”
“พวกเจ้า…”
ซื่อฝานเทียนอ๋องอุทานอย่างตกตะลึงแทนคำทักทาย
เขาคิดไม่ถึงเลยว่า เมื่อเขามาถึง สิ่งที่เห็นจะเป็นภาพที่น้องสาวเสื้อผ้าหลุดลุ่ยสภาพทุลักทุเลถูกผูกไว้กับกองทัพสวรรค์ที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยและสภาพทุลักทุเลเช่นกันเช่นนี้…
เขายิ่งคิดไม่ถึงว่า องค์หญิงเจ็ดผู้สูงศักดิ์นอกจากจะถูกหิ้วมาราวกับลูกไก่แล้ว ยังถูกตบตีจนหน้าบวม หากไม่ใช่เพราะกลิ่นอายที่ง่ายต่อการจำแนกนั่น เขาคงจำนางไม่ได้แล้ว!
“เทียนอ๋อง?”
ส่วนเยี่ยนอวี๋ นางก็เลิกคิ้วมองไปที่ซื่อฝานเทียนอ๋อง เห็นได้ว่าตบะของเทียนอ๋องท่านนี้อยู่เหนือมหาเทพทั่วไป และยังสามารถสะท้อนกฎและระเบียบของสวรรค์ชั้นหนึ่งได้
เห็นได้ว่านี่คือเทียนอ๋องสวรรค์ชั้นหนึ่งจริงๆ แต่บนตัวของเขาไม่มีร่องรอยที่นางผนึกทิ้งไว้ ดังนั้นเขาไม่ใช่เทพตกสวรรค์องค์นั้น เยี่ยนอวี๋จึงกำลังจะบอกให้เขาหลีกทางไปเล่นที่อื่น ทว่า…
“ท่านพี่! ฆ่าพวกสารเลวเหล่านี้เร็วเข้า!” ท่านเทพอี้หยางที่ถูกกลั่นแกล้งจนบ้าไปแล้วก็แผดเสียงร้องสุดเสียง “ไม่ ไม่ถูก ฆ่าลูกของนางก่อน! นางฆ่าชื่อเฟิงของข้าอย่างทารุณ ข้าจะต้องให้นางได้ลิ้มลองความเจ็บปวดที่ต้องเสียลูกไป! ควักลูกตาของเด็กนั่นก่อนค่อยฆ่านาง! ไม่สิ! จะฆ่านางเลยไม่ได้ ต้องทำให้นางเสียโฉมก่อน ค่อยให้นางเกิดใหม่เป็นหญิงโสเภณี ร่างกายเน่าเฟะจนตายไป!”
ท่านเทพอี้หยางที่สาปแช่งอย่างชั่วร้ายเป็นชุด พูดรัวจนจบภายในลมหายใจเดียว คงกลัวว่าจะไม่มีชีวิตได้พูดอีก ถึงอย่างไรหลังจากที่นางแผดเสียงร้องเสร็จ จิ่วอิงก็ยกนางขึ้นมาคนเดียวแล้ว ไม่เพียงเท่านี้…
“อ้ะเนะ!”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่เดือดดาลก็ทุบลงไปด้วยค้อนของเขา!
“โอ๊ย!”
ท่านเทพอี้หยางที่คำรามเสร็จก็ถูกค้อนทุบจนหน้าเละก่อนทันที
“หยุด!”
เพราะซื่อฝานเทียนอ๋องตกตะลึงเกินไป เขาที่มาช่วยเหลือเพิ่งตั้งสติได้ในบัดนี้ก็รีบระดมกฎสวรรค์ชั้นหนึ่งเพื่อช่วยท่านเทพอี้หยาง พร้อมกับช่วยองค์หญิงเจ็ด
ตี้เซินที่เห็นถึงตรงนี้ ริมฝีปากสีแดงของนางก็ยกขึ้น ราวกับได้เห็นภาพกลุ่มคนเยี่ยนอวี๋ถูกทรมานจนตาย ทว่า…
“ตาย”