เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 55 เสี่ยวเป่ารู้จักท่านพ่อแล้ว
พูดตามตรง เยี่ยนเสี่ยวเป่าในตอนนี้ไม่ได้สกปรกธรรมดา อย่าว่าแต่ใบหน้าเล็กๆ ที่สกปรกมอมแมมเลย แม้แต่ชุดเล็กที่สะอาดก็ดำขมุกขมอม ทั้งยังมีรอยยับยู่ยี่เหมือนผักดองแห้งอีกด้วย ทำให้เขาดูเหมือนขอทานตัวน้อย
ต้าซือมิ่งบางคนต้องใช้ความอดทนอย่างสูงเพื่อห้ามตัวเองไม่ให้อุ้มเจ้าก้อนมอมแมมขึ้นมา แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมลดตัวคุกเข่าลงไปอุ้ม ‘ก้อนมอมแมม’ นี้ขึ้นมาหรอกนะ
ครั้นแล้วเขาจึงจ้องมองก้อนเล็กๆ นี้อย่างเงียบๆ นานหลายอึดใจถึงมั่นใจได้ว่าเป็นเด็ก เป็นเด็กมอมแมมที่ตัวเล็กเทียบเท่าสามคืบของฝ่ามือเขา
“อ้ะเนะเนะ!…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าตื่นเต้นดีใจที่สุด! เขามั่นใจมากว่านี่แหละคือพ่อของเขา! ต้องใช่แน่ๆ เขาจะให้ท่านพ่อคนนี้แต่งงานกับท่านแม่! ไม่เอาคนเลวนั่น!
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่มีเรื่องจะพูดมากมาย เขาพูดได้แค่ ‘อ้ะเนะเนะ’ ซ้ำไปซ้ำมา และพยายามที่จะปีนขึ้นไป! ปีนเข้าไปในอ้อมอกของท่านพ่อ เพื่อให้อีกฝ่ายกอดเขา
“…” ต้าซือมิ่งบางคนขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจ และมั่นใจว่าเด็กน้อยตื่นเต้นและชอบเขามาก
“อ้ะเนะเนะ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าพยายามปีนขึ้นไปอย่างสุดความสามารถ แน่นอนว่าเขาไม่สามารถปีนขึ้นไปได้ แม้ว่าแขนและขาเล็กๆ ของเขาจะมีพลังมาก แต่การที่กลิ้งมาตลอดทาง ทำให้ใช้พลังทั้งหมดของเขาไปหมดแล้ว เขารู้สึกแค่ว่าร่างกายกำลังอ่อนระทวยเท่านั้น
ดังนั้น เจ้าตัวน้อยที่ไม่สามารถปีนขึ้นไปได้และรู้สึกไม่สบาย เขากังวลมากจนเหงื่อไหลท่วมกาย! และยังตะโกนใส่คนตัวใหญ่อย่างไม่หยุด อ้ะๆ กระตุ้นให้ท่านพ่ออุ้มเขาเหมือนลูกไก่ที่รอคอยอาหาร
เห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มรูปงามปฏิเสธในใจ คิ้วของเขาย่น แต่ร่างกายของเขากลับไม่ซื่อตรง และนั่งลงโดยสัญชาตญาณ
“อ้ะเนะเนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ตื่นเต้นพุ่งเข้าใส่พ่อของเขาทันที!
ต้าซือมิ่ง “…”
เขารู้สึกขนลุก! สกปรกจริงๆ
“อ้ะเนะเนะ…” เจ้าตัวน้อยกลับไม่รู้สึกถึงความรังเกียจในใจของบิดา และเขายังพยายามซุกเข้าไปในอ้อมอกของบิดา รู้สึกมีความสุขอย่างไม่อาจมีสิ่งใดเทียบได้
คนที่ดูเหมือนจะไม่คุ้นเคยคนนี้ เยี่ยนเสี่ยวเป่ากลับรู้สึกอย่างชัดเจน! นั่นคือกลิ่นอายที่เขาชื่นชอบมากๆ ซึ่งมันเป็นกลิ่นอายแบบเดียวกันกับท่านแม่คนงามของเขา
ดังนั้น! นี่ต้องเป็นท่านพ่อแน่นอน! ต้องใช่แน่ๆ
ท่านแม่บอกว่า ท่านพ่อเหมือนกับท่านแม่ ที่มีสายเลือดที่ใกล้เคียงที่สุดกับเสี่ยวเป่า!
ดังนั้น! นี่ต้องเป็นท่านพ่อแน่นอน! ใช่แน่ๆ
ส่วนเรื่อง…
ตอนนั้นเยี่ยนอวี๋ยังกล่าวอีกว่า ท่านแม่ใกล้ชิดที่สุด รองลงมาถึงจะเป็นท่านพ่อ
เห็นได้ชัดว่าเวลานี้เจ้าตัวน้อยนั้น ‘ลืม’ ไปแล้ว
“อ้ะเนะเนะ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าอยากจะเรียกท่านพ่อ! แต่น่าเสียดายที่เขายังพูดไม่ได้ เสียงที่เขาเปล่งออกมาจึงทั้งเบาและเสียงเด็กๆ อย่างเช่น ‘อา’ ‘เนะ’ ‘ยา’ ทั้งยังเป็นเพราะตื่นเต้นเกินไป จึงทำให้พูดจน ‘พ่น’ น้ำลายออกมาด้วย
แต่คราวนี้เยี่ยนเสี่ยวเป่าไม่มีเวลาสนใจเรื่องภาพลักษณ์ และไม่มีกะจิตกะใจที่ต้องอายหรือโกรธแล้ว เขาอยากจะกอดท่านพ่อเอาไว้แน่นๆ! รอให้ท่านแม่คนงามกลับมา!
และเยี่ยนอวี๋ที่ดูเหมือนจะได้ยิน ‘เสียงเรียก’ ของลูก นางจึงเดินไปที่เขตหวงห้าม แต่นางยังคงอธิบายกับ ‘บิดาเจ้าน้ำตา’ ของนาง ดังนั้นนางจึงไม่ได้เดินเร็วนัก
“ดังนั้น เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ตอนที่เจ้าอยู่ที่เมืองเต๋อหยาง ก็เคยพบกับสูเจิ้งแล้วอย่างนั้นหรือ” เยี่ยนชิงยังไม่อยากจะเชื่อ ถึงอย่างไรเมืองเต๋อหยางก็ไม่ใช่สถานที่ใหญ่โตอะไร
“เจ้าค่ะ” เยี่ยนอวี๋ไม่ได้บอกว่าสูเจิ้งแห่งสํานักหมอหลวงเดินทางจากราชสำนักเมืองตี้ชิวมายังเมืองเต๋อหยางเพื่อมาพบนางโดยเฉพาะ นางกลัวว่าจะยิ่งอธิบายไม่ชัดเจน
โชคดีที่เยี่ยนชิงไม่ได้ถามต่อ “เรื่องนี้พูดกับพ่อที่นี่ก็พอ อย่าไปพูดข้างนอกอีก นอกจากสูเจิ้งจะเป็นคนพูดเอง”
“เจ้าค่ะ” เยี่ยนอวี๋ก็ไม่คิดจะพูดเช่นกัน
“แล้วตอนนั้นเขาอยากรับเจ้าเป็นศิษย์หรือ” เยี่ยนชิงถามอีกครั้ง
“…อาจจะใช่” เยี่ยนอวี๋ไม่ได้บอกว่าอันที่จริงเขาอยากจะขอให้นางเป็นอาจารย์ นางเกรงว่าบิดาจะตกใจ
ถึงอย่างไรสูเจิ้งก็เป็นศิษย์สายตรงของสำนักหมอหลวง ถ้าเป็นอาจารย์ของเขา ก็นับว่ามีความสัมพันธ์โดยตรงกับสำนักหมอหลวง ดังนั้นจึงเรียกได้ว่าเป็นศิษย์สายตรงของสำนักหมอหลวง
“คาดไม่ถึงจริงๆ” เยี่ยนชิงทอดถอนหายใจ เขานึกไม่ถึงว่าบุตรสาวสุดที่รัก ที่กลับไปคลอดบุตรที่ถิ่นกำเนิด จะมีโอกาสที่ไม่ธรรมดาเช่นนี้ แต่เขาไม่ต้องการโอกาสจากการคลอดบุตรอย่างลำบากเช่นนี้
เฮ้อ…
เยี่ยนชิงคิดแค่ว่า เป็นเช่นนี้ก็ยังดีกว่าลำบากแล้วไร้วาสนาอีก
แต่เมื่อคิดเช่นนี้ เยี่ยนชิงก็ยังถอนหายใจ ‘เฮ้อ’ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“มีอะไรหรือเจ้าคะ” เยี่ยนอวี๋ไม่เข้าใจ
เยี่ยนชิงพูดอย่างโง่เขลา “แม้ว่ามีโอกาสจะเป็นเรื่องที่ดี แต่พ่อหวังว่าเจ้าจะไม่เป็นอะไร และแน่นอนว่าเสี่ยวเป่าเป็นเด็กน่ารัก พ่อไม่ได้ไม่ชอบเขา พ่อแค่ไม่ชอบพ่อของเสี่ยวเป่า”
“แต่ถ้าไม่มีคนผู้นั้น ก็จะไม่มีเสี่ยวเป่า” เยี่ยนอวี๋เข้าใจวิถีแห่งโลก นางตบไหล่ของบิดาและให้ความมั่นใจว่า “ทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว เราไปรับเสี่ยวเป่ากันเถิดเจ้าค่ะ”
“ดีเลย!” เยี่ยนชิงปิดตาไว้
จนเยี่ยนอวี๋หรี่ตามอง รู้สึกว่าน้ำตากำลังจะท่วมอีกแล้ว
แต่เยี่ยนชิงไม่ได้ร้องไห้ เขาเพียงแค่รู้สึกว่าอารมณ์ไม่แน่นอน จึงปรับอารมณ์ของตนเองอยู่เท่านั้น
อย่างไรก็ตามเยี่ยนอวี๋ไม่กล้าพูดอะไรอีก นางขมวดคิ้วมองไปที่เขตหวงห้าม “มีลมปราณจากที่อื่น เหมือนหลบหลีกจากท่านอาจารย์ได้แล้วลักลอบเข้าไปในเขตหวงห้าม”
“…อะไรนะ” เยี่ยนชิงชะงักไปชั่วขณะ จากนั้นก็นึกถึงหลานชายทันที “แย่แล้ว! เสี่ยวเป่า!”
เยี่ยนชิงยังพูดไม่ทันขาดคำ เม่ยเอ๋อร์ก็พาเยี่ยนอวี๋ทะยานไปหยุดอยู่ตรงหน้าเขตหวงห้ามแล้ว หากหอคอยโบราญของเขตหวงห้ามไม่มีค่ายกลป้องกัน นางคงจะพาเยี่ยนอวี๋เข้าไปในหอคอยโบราณแล้ว
แต่อย่างไรก็ตามเยี่ยนอวี๋มิจำเป็นต้องให้เม่ยเอ๋อร์พาไปแล้ว นางได้เข้าไปในเขตหวงห้ามและเร่งเดินมุ่งหน้าไปยังหอคอยโบราณทันที! แต่นางก็สัมผัสได้ว่าเสี่ยวเป่าของนางไม่ได้อยู่ในหอคอยโบราณแล้ว!