เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 56 ต้าซือมิ่งอุ้มเสี่ยวเป่าแล้ว
เยี่ยนเสี่ยวเป่าไม่ได้อยู่ในหอคอยโบราณแล้วจริงๆ และเขาก็ไม่ได้อยู่ตรงด้านหน้าหอคอยโบราณด้วย ในที่สุดเขาก็ได้ในสิ่งที่เขาต้องการ! ต้าซือมิ่งอุ้มเขาไปแล้ว
“อ้ะเนะเนะ…” ในเวลานั้นเยี่ยนเสี่ยวเป่าแก้มแดงปลั่งด้วยความตื่นเต้น แต่ตัวเขาสกปรกมอมแมม จึงแทบมองไม่เห็นสีแดงเลย
ต้าซือมิ่งขมวดคิ้วเงียบๆ ตั้งใจจะพาเจ้าก้อนนี้ไปอาบน้ำ สกปรกเหลือเกิน สกปรกจนเขาหมดปัญญาจริงๆ หากไม่พาเจ้าก้อนนี้ไปอาบน้ำ เขาก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะทำหล่นหายหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขาจะพาเจ้าตัวน้อยไปอาบน้ำ อินหลิวเฟิงที่กำลังหลบสายตาของหยางชีซานและผู้เฒ่าคนอื่นๆ อยู่ ก็ได้เข้ามาถึงเขตหวงห้ามแล้ว แน่นอนว่าเขาไม่สามารถสัมผัสถึงลมปราณของต้าซือมิ่งได้ ดังนั้นเขาจึงมุ่งหน้าไปยังหอคอยโบราณตามสัญชาตญาณ
ความคิดของอินหลิวเฟิงนั้นชัดเจน เขาสังเกตเห็นว่าศูนย์กลางของเขตหวงห้ามมีหอคอยโบราณเพียงแห่งเดียว เขาจึงเร้นกายตรงไปยังเป้าหมายทันที
ทว่าเขาที่มาถึงหอคอยโบราณก่อน ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงต้าซือมิ่งแห่งราชสํานัก “เป็นไปได้อย่างไร…หรือว่าคนผู้นั้นจะไม่อยู่ในเขตหวงห้าม? หรือข้าต้องสืบหาทีละชั้นกัน?”
อินหลิวเฟิงเริ่มรู้สึกลําบาก แม้ว่าเขาจะสามารถแอบเข้าไปในเขตหวงห้ามของสำนักชางอู๋ได้โดยไม่ทําให้ผู้อื่นตกใจ แต่เขาไม่แน่ใจว่าเขาจะสามารถเข้าไปในหอคอยโบราณโดยไม่ถูกพบเห็นได้
แต่เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะกลับไปมือเปล่าเช่นนี้ ดังนั้นเขาจึงใช้สมบัติลับของเมืองโยวตู สร้างกําแพงป้องกันในบริเวณใกล้เคียงอย่างรวดเร็ว และขอร้องอย่างจริงจังต่อหอคอยโบราณว่า “ข้าน้อยอินหลิวเฟิงแห่งเมืองโยวตู ขอพบต้าซือมิ่ง”
“…”
คำตอบที่มอบให้กับอินหลิวเฟิงย่อมเป็นความเงียบเป็นธรรมดา
อย่างไรก็ตาม ต้าซือมิ่งแห่งราชสำนักกลับได้ยิน เพียงแต่เวลานี้เขากําลังพาเจ้าตัวน้อยไปยังแอ่งน้ำเล็กๆ เพียงแห่งเดียวของเขตหวงห้าม เตรียมที่จะอาบน้ำชำระร่างกายให้กับเจ้าตัวน้อย ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ใส่ใจอินหลิวเฟิง
“อ้ะเนะเนะ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าไม่รู้ว่าบิดากำลังจะทําอะไร แต่เขาค่อนข้างตื่นเต้นที่บิดาพยายามถอดเสื้อผ้าเล็กๆ ของเขาออก อีกทั้งยังชูมือร่าอย่างนึกสนุก
“…” ต้าซือมิ่งผู้ไร้ประสบการณ์ เขาไม่รู้วิธีถอดเสื้อผ้าเด็กที่ดีไปกว่านี้ และเขาก็ไม่มีเสื้อผ้าที่เล็กขนาดนี้ด้วย มิเช่นนั้น เขาคงเผาชุดเล็กๆ อันสกปรกนี้ทิ้งไปแล้ว
เพราะเช่นนั้น…
“เงียบ” ต้าซือมิ่งแห่งราชสำนักได้แต่ออกคำสั่ง
“อ้ะ?” เจ้าตัวน้อยมองบิดาด้วยดวงตาแป๋ว พลางนึกว่าเสียงของท่านพ่อช่างน่าฟังยิ่งนัก แต่ไม่ไพเราะเหมือนน้ำเสียงของท่านแม่คนงามหรอก! ด้วยเหตุนี้เขาจึงแสดงอาการเหมือน ‘ตกใจ’ แล้วจับมือใหญ่ของบิดาไว้แน่น ร่างกายเล็กๆ เกร็งแน่นไม่หมด
ต้าซือมิ่ง “…”
เขาไม่สามารถถอดเสื้อผ้าของเด็กคนนี้ได้เลย
ตัวเล็กเพียงนี้…
แต่พละกำลังกลับล้นเหลือ
พูดแค่คำเดียวก็ตกใจแล้ว?
ต้าซือมิ่งคิ้วยาวขมวดเป็นปม เขากําลังคิดว่า เหตุใดเขาต้องอาบน้ำให้เจ้าเด็กคนนี้ด้วย อ้อ เขารังเกียจความสกปรกนี่เอง
แต่เขาจะไม่อุ้มเจ้าก้อนนี้ก็ได้
แต่ทว่า…
เหตุใดเขาจึงอุ้ม ‘เจ้าก้อน’ สกปรกนี่ได้ล่ะ
“…” ต้าซือมิ่งแห่งราชสำนักพิจารณาอยู่เงียบๆ คนตรงหน้าให้ความรู้สึกอันคุ้นเคย ดวงตาแป๋วดำขลับทำให้สัญชาตญาณในตัวเขา ‘รู้สึกตื่นเต้น’
จากนั้นเขาก็แตะเจ้าตัวน้อยที่สกปรก “เด็กดี ข้าจะอาบน้ำให้เจ้านะ ไม่ได้จะดุเจ้าเลย”
หากมีคนอื่นอยู่ด้วยในขณะนี้ ยามที่ได้ยินต้าซือมิ่งผู้สูงศักดิ์แห่งราชสํานัก ผู้ที่คนทั่วไปมิอาจใกล้ชิดได้! กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอย่างจนปัญญาเช่นนี้ คนที่ได้ยินคงจะรู้สึกถึงความมีเสน่ห์ที่น่าหลงใหลเป็นแน่
แม่เจ้า…
อ้ะ! เจ้าตัวน้อยจ้องท่านพ่อด้วยดวงตาใสแจ๋ว! ไพเราะจริง! น้ำเสียงของท่านพ่อช่างไพเราะน่าฟังเหลือเกิน เสี่ยวเป่าจะฟังอีก! จะฟังตลอดเลย!
เมื่อนั้น…
อินหลิวเฟิงจึง ‘พบ’ ว่าต้าซือมิ่งที่เขากําลังตามหาไม่น่าจะอยู่ในหอคอยโบราณ เขาจึงมาที่แอ่งน้ำเล็กๆ แห่งนี้ด้วย
แม้ว่าเขาจะไม่ทราบว่าต้าซือมิ่งที่เขากําลังตามหานั้น แท้จริงแล้วจะอยู่ที่แอ่งน้ำแห่งนี้เช่นกัน แต่เขาสามารถรับรู้ได้ว่านอกจากหอคอยโบราณแล้ว ข้างๆ แอ่งน้ำเล็กๆ นี้ก็มีแก่นพลังวิญญาณเข้มข้นที่สุด ดังนั้นเขาจึงลองเสี่ยงดู
แน่นอน อันที่จริงในใจของอินหลิวเฟิงพอจะรู้อยู่แล้วว่าต้าซือมิ่งแห่งราชสํานักน่าจะไม่อยากพบเขา มิเช่นนั้น ทันทีที่เขาเข้ามาก็ควรจะถูกเรียกพบแล้ว
แต่อินหลิวเฟิงไม่ยอม! กว่าเขาจะเข้ามาได้นั้นยากเย็นแสนเข็ญยิ่งนัก ดังนั้นเขาจึงอยากลองดูเสียก่อน หากยังหาไม่พบคนผู้นั้นในเขตหวงห้าม เช่นนั้นเขา…
ก็ต้องเข้าไปในหอคอยแล้วล่ะ! อินหลิวเฟิงคิดอย่างช่วยไม่ได้
ทว่าเพิ่งจะคิดเช่นนี้ไปไม่นาน เขาก็รู้สึกว่าเยี่ยนอวี๋กลับมาแล้ว?
“เร็วเพียงนี้เชียงหรือ” อินหลิวเฟิงเป็นกังวล ถึงอย่างไรเขาก็แน่ใจแล้วว่าคุณหนูใหญ่เยี่ยนผู้นี้ไม่ธรรมดา เขากลัวว่าตนจะไม่ตกอยู่ในกำมือของเหล่าผู้เฒ่าของสำนักชางอู๋ แต่กลับตกอยู่ในกำมือของแม่นางคนนั้นแทน
ครั้นเมื่อคิดดังนี้ อินหลิวเฟิงจึงตัดสินใจอย่างระแวดระวัง ดูท่าแล้ว ถอยกลับไปก่อนจะดีกว่า คราวหน้าค่อยหาโอกาสเข้ามาใหม่ อย่างไรเสียเยี่ยนหงชวนก็ออกจากการฝึกฌานแล้ว คงไม่อยู่ในเขตหวงห้ามได้ตลอด!
เมื่อนึกถึงจุดนี้ อินหลิวเฟิงก็ได้ตัดสินใจที่จะถอยแล้ว!
ทว่า…
อุแว้! เสียงเล็กๆ อันไร้เดียงสาดังขึ้น! ซึ่งเป็นเสียงร้องไห้อย่างแน่นอน แต่เสียงที่ได้ยินนั้นอยู่ไม่ไกลจากอินหลิวเฟิงนัก ทั้งยังรู้สึกคุ้นเคยด้วย?
นี่มัน…
“เหมือนจะเป็นเสียงของลูกคุณหนูใหญ่เยี่ยน?” อินหลิวเฟิงไม่แน่ใจนัก เพราะเสียงร้องไห้นี้ดังมาก รู้สึกเหมือนไม่ใช่เสียงของเด็กทารกอายุครบเดือนเลย
ดังนั้นอินหลิวเฟิงจึงมุ่งหน้าไปยังต้นเสียงร้องไห้ จากนั้น…
เยี่ยนอวี๋ผู้ซึ่งถูกดึงดูดด้วยเสียงร้องไห้ของลูกเช่นเดียวกัน! นางก้าวออกจากหอคอยโบราณ และเกือบจะชนเข้ากับอินหลิวเฟิง
ซี๊ด! อินหลิวเฟิงตกใจเยี่ยนอวี๋ที่มาอย่างกะทันหัน เขาชะงักและหยุดลงโดยไม่รู้ตัว หมายจะหลบโดยไม่ให้ถูกพบเข้า ถึงอย่างไรเขาก็เป็นแขกที่มิได้รับเชิญอยู่แล้ว
เยี่ยนอวี๋เห็นเขาแล้ว เพียงแต่ตอนนี้เยี่ยนอวี๋ไม่มีเวลาสนใจคนอื่นนัก นางรีบไปอยู่ข้างกายลูก ด้วยกลัวว่าลูกน้อยตัวนุ่มนิ่มของนางจะได้รับบาดเจ็บ