เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 58 ของแลกเปลี่ยนอันน่าเวทนาที่สุด
เยี่ยนอวี๋สั่งเม่ยเอ๋อร์อย่างไม่ปรานี บงการให้พาอินหลิวเฟิงที่ทำหน้าตาปั้นยากออกไป เขามิอาจขัดขืน เพราะกลัวว่ายิ่งขัดขืนก็จะยิ่งอธิบายไม่ได้
เมื่อนั้นก็จะกลายเป็นว่า เขาที่เป็นถึงนายน้อยแห่งเมืองโยวตู กลับรังแกเด็กทารกที่อายุไม่ถึงสามเดือน จะอับอายขายหน้าเพียงใด
ต้าซือมิ่งทำให้เขาน่าสังเวชถึงเพียงนี้!
…
“เกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวเป่าอย่างนั้นหรือ” เยี่ยนชิงผู้ที่มาถึงช้าสุด เขารู้สึกทุกข์ใจที่เห็นหลานชายตัวน้อยร้องไห้จนตาบวม ผิวแดงทั่วทั้งตัว เขาปวดใจยิ่งนัก
เยี่ยนเสี่ยวเป่าหลั่งน้ำตามองท่านตาด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ เยี่ยนชิงเห็นแล้วก็รู้สึกเหมือนหัวใจถูกบิด อดไม่ได้ที่จะจ้องมองอินหลิวเฟิงที่ถูกคุมตัวอย่างโกรธแค้น “นายน้อยอิน สำนักชางอู๋เรามีความแค้นอะไรกับเจ้าก็มาลงกับข้า! เจ้าลงมือกับเด็กทารกอายุไม่ครบเดือนเช่นนี้ ไม่รู้สึกละอายใจบ้างหรือ”
อินหลิวเฟิง “…”
เขารู้อยู่แล้ว! ต้องมีคนพูดเช่นนั้นกับเขาแน่! ดูสิ เยี่ยนชิงคนนี้กลับบอกว่าทารกที่อายุสองสามเดือนแล้วแท้ๆ เป็นเด็กทารกอายุไม่ครบเดือน! น่าไม่อายจริงๆ!
เยี่ยนเสี่ยวเป่าเห็นด้วยอย่างยิ่ง ชูมือให้ท่านตาของตน ตะโกน อ้า ขึ้นบ่งบอกว่าเขาเห็นด้วยอย่างยิ่ง เขาเสียใจที่คนไม่ดีรังแกเขา! ทําให้ท่านพ่อของเขากลัวจนหนีไปแล้ว
“โอ๋ๆ เสี่ยวเป่าไม่ร้องนะ มาให้ตาๆ อุ้มมา” หัวใจของเยี่ยนชิงแตกสลาย ขยับเข้าไปหาหลานชาย
เยี่ยนเสี่ยวเป่ากลับชักมือกลับไม่ให้เขาอุ้ม หันไปกอดท่านแม่คนงามน้ำตาคลอเบ้า
เยี่ยนชิง “…”
“เสี่ยวเป่าไม่ร้องไห้แล้วดีหรือไม่ ร้องไห้อีกจะเจ็บตานะลูก” เยี่ยนอวี๋จุมพิตที่ดวงตาอันปูดบวมของลูกด้วยความปวดใจ น้ำเสียงอ่อนโยนเหลือประมาณ
เยี่ยนเสี่ยวเป่าสะอื้นอย่างเสียใจ แสดงชัดว่าควบคุมอารมณ์ยังไม่ได้
เยี่ยนจื่ออวี๋ลูบศีรษะที่ยังไม่มีเส้นผมของลูก และจูบปลอบโยนตลอดเวลา “หากเสี่ยวเป่าร้องไห้อีก แม่จะเสียใจยิ่งกว่านะ เสี่ยวเป่าไม่ร้องแล้วดีหรือไม่ แม่เห็นแล้วก็เสียใจเหลือเกิน”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่สะอึกสะอื้น ซุกศีรษะเข้าไปแนบหัวใจอันแตกสลายของเยี่ยนอวี๋ น้ำเสียงแหบแห้งไปมาก “เสี่ยวเป่าเด็กดี”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าพยายามอีกครั้ง ในที่สุดก็ไม่สะอื้นแล้ว ลมหายใจสม่ำเสมอขึ้น ทว่าเขายังกอดท่านแม่คนงามแน่น เขาทำให้ท่านพ่อหายไป ไม่อยากให้ท่านแม่คนงามต้องไปจากเขาอีกคน
“เสี่ยวเป่าเด็กดี” เยี่ยนอวี๋ยังลูบศีรษะกลมของลูกเบาๆ ปลอบโยนลูกที่หวาดกลัวตลอดเวลา “แม่จะอยู่เคียงข้างเสี่ยวเป่าเสมอ ต่อไปก็จะไม่ทิ้งเสี่ยวเป่าอีก”
นางเสียใจที่เอาลูกไปไว้ในเขตหวงห้าม นางคิดว่ามันเป็นที่ที่ปลอดภัย แต่นางไม่นึกเลยว่า…
อย่างไรก็ตามเยี่ยนอวี๋ก็ละเอียดละออพอ จนสังเกตเห็นว่าลูกน้อยของนางดูเหมือนจะมีพละกําลังมากขึ้น แต่ก่อนเขากอดคอนางไม่ได้แน่นเหมือนกับตอนนี้ ตอนนี้เขาทําได้แล้ว ร่างกายก็ดูปกติดี ดูเหมือนว่าเขาเพียงแค่กลัวเท่านั้น ไม่ได้บาดเจ็บจากสิ่งอื่นใด
และเยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ร้องไห้จนเหนื่อย ประกอบกับเสียงปลอบโยนและการลูบเบาๆ ทำให้เขาเริ่มทรงตัวไม่ได้ จึงค่อยๆ หลับตาที่ร้องไห้จนบวมลง
“เด็กดี…” เยี่ยนอวี๋ลูบศีรษะลูก พร้อมทั้งปลอบโยนลูกที่ง่วงงุนจนใกล้จะหลับ
อินหลิวเฟิงไม่กล้าปริปาก ไม่กล้าต่อต้าน และไม่กล้าทําอะไรทั้งสิ้น ทำได้แค่มองเยี่ยนอวี๋กล่อมลูกนอน มองดูแล้วก็เคลิบเคลิ้มน่าดู
เยี่ยนอวี๋ที่กล่อมลูกไม่เพียงแค่อ่อนโยนเท่านั้น แต่ยังอดทนเป็นพิเศษ ร่างกายเรืองรองสาดแสงที่เต็มไปด้วยความเป็นแม่ สะกดความงามอันสูงส่งราวกับเทพธิดาของนางไว้ ทำให้นางเป็นดั่งเทพธิดาที่ถูกลงโทษให้มาจุติยังมนุษย์โลก เต็มไปด้วยเสน่หาอันทำให้คนมึนเมาจนไม่รู้ทางกลับ
ยกตัวอย่างเช่นอินหลิวเฟิง เขามึนเมาเสียแล้ว…
ชั่วขณะหนึ่งเขาที่รู้สึกว่า ต่อให้ถูกใส่ร้ายเช่นนี้ก็ไม่เป็นไร ขอแค่ได้เห็นภาพที่อยู่ตรงหน้านี้ก็เพียงพอแล้ว
น่าเสียดายที่เขาคิดในแง่ดีเกินไป ความจริงนั้นน่าเวทนากว่านี้นัก
“ว่ามา จุดประสงค์ที่มาลักพาตัวเสี่ยวเป่าของข้า” เยี่ยนอวี๋ที่กล่อมลูกชายจนหลับ หันมาตัดสินโทษของอินหลิวเฟิงทันที และแน่นอนว่าจะไม่ให้โอกาสเขาอธิบายด้วย
อินหลิวเฟิงพูดอย่างยอมพ่ายแพ้ใน ‘การสู้คดี’ ว่า “บอกความจริงไปพวกท่านก็ไม่เชื่อ เช่นนั้น ข้าจะบอกว่าที่ข้าลักพาตัวเสี่ยวเป่าไปก็เพื่อข่มขู่ให้ท่านแต่งงานกับข้าได้หรือไม่เล่า”
“ชั่วร้าย!”
“ไร้ยางอาย!”
“ต่ำช้า!”
เยี่ยนชิง เม่ยเอ๋อร์ และหยางชีซานพร้อมใจกันก่นด่าเขา และเชื่อใน ‘คําสารภาพผิด’ ของอินหลิวเฟิง ชั่วร้ายไม่ต่างจากกู้หยวนเหิงจริงๆ
อินหลิวเฟิง “…”
“เจ้าจะชดใช้อย่างไร” เยี่ยนอวี๋ถาม
“ท่านจะให้ทำอย่างไรก็ทำอย่างนั้น” อินหลิวเฟิงยอมแพ้การต่อสู้จริงๆ ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถฆ่าเขาได้ อย่างน้อยเขาก็พอมีหน้ามีตาอยู่บ้าง
แต่ท่าทางอันเหมือนปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรมที่เขาแสดงออกมา ทําให้เยี่ยนชิงโกรธจัด โกรธจนแทบอยากจะฆ่าคน! แต่เยี่ยนอวี๋พูดอย่างใจเย็นว่า “เชื่อมชะตาชีวิตกับเสี่ยวเป่าของข้า หากเกิดเรื่องขึ้นกับเขา เจ้าต้องตายสถานเดียว”
“อะไรนะ” อินหลิวเฟิงตกตะลึง! สุดท้ายแล้วคำพูดนี้ฟังดูเหมือนจะอนาถใจยิ่งกว่าตายเสียอีก ไร้ซึ่งเกียรติยศ ทำให้เขากลายเป็นทาสของเด็กน้อยคนนี้หรืออะไรสักอย่าง!
“…” เยี่ยนชิงเงียบขรึม เขาคาดไม่ถึงว่าเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ของเขาจะดุร้ายถึงเพียงนี้! อย่างไรก็ตามเขารู้สึกว่าความคิดนี้ก็ดีเช่นกัน แต่การเชื่อมชะตาชีวิตนี่มันอะไร เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน
หยางชีซานถามอย่างไม่แน่ใจว่า “ทำสัญญาหรือ ข้าได้ยินมาว่าขุนนางบางคนในเมืองหลวงจะทำสัญญากับแก่นวิญญาณอสูร และแก่นวิญญาณอสูรจะมาปกป้องพวกเขาทันทีที่ถูกเรียก หากไม่มา จะได้รับโทษทัณฑ์อย่างหนัก หรือถึงขั้นตกระดับขั้นเลยก็ว่าได้”
“ในทํานองเดียวกัน หากเกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวเป่า นายน้อยอินจะต้องชดใช้ด้วยชีวิต” เยี่ยนอวี๋อธิบายช้าๆ ชัดๆ
อินหลิวเฟิงมีสีหน้าปั้นยาก เขามองไปที่เยี่ยนอวี๋ด้วยสายตาที่ซับซ้อน “เจ้าจริงจังหรือ”
“ใช่” เยี่ยนอวี๋จะไม่ให้อภัยต่อการรังแกใดๆ กับชีวิตลูกของนาง “เจ้ามีเพียงทางเลือกนี้เท่านั้น”
“ตายก็ไม่ได้หรือ” อินหลิวเฟิงมองไปที่เยี่ยนอวี๋ “ข้าสามารถชดใช้ด้วยอย่างอื่น เช่นบรรณาการอื่นๆ ในเมืองโยวตู อะไรก็ได้ทั้งนั้น”
“ไม่ได้” เยี่ยนอวี๋มองอินหลิวเฟิงอย่างเย็นชา
เป็นครั้งแรกที่อินหลิวเฟิงรู้สึกถึงแรงกดดันอย่างมากจากเยี่ยนอวี๋ นางเป็นเสมือนเทพเจ้าผู้สูงส่งที่กำลังตัดสินเขาอย่างเย็นชา ไม่อนุญาตให้เขาต่อต้านเลยแม้แต่น้อย ยิ่งไม่ยอมให้เขาเอ่ยคำคัดค้านเด็ดขาด!
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเพียงแม่นางน้อยอายุสิบแปดปีที่อายุน้อยกว่าเขา แต่กลับทำให้เขารู้สึกเหมือนเผชิญหน้ากับเทพเจ้าแห่งเมืองโยวตู ราวกับว่าเขาทำได้แค่คลานเข้าไปสักการะนางเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม อินหลิวเฟิงได้กล่าวอย่างไม่ย่อท้อว่า “ท่านน่าจะรู้ว่าข้ามีสายเลือดโบราณอยู่ในตัว เมื่อใดที่เจ้าแตะต้องข้า เมืองโยวตูก็จะทราบทันที และเมืองโยวตูของข้า มีหนี้ต้องชดใช้ มีแค้นต้องชำระ สำนักชางอู๋แบกรับไม่ไหวหรอก”
ทว่า…