เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 62 เจ้าก้อน ‘สกปรก’ อีกแล้ว
องครักษ์เมืองโยวตูในชุดดำ แท้จริงแล้วมีพลังที่ถูกปิดผนึกในร่างกายของเขา และพลังนั้นก็เป็นรากเหง้าในการปกป้องผู้สืบทอดของเมืองโยวตูอย่างแท้จริง
หากมิใช่เพราะเช่นนี้ เยี่ยนหงชวนคงไม่วางใจที่จะปล่อยให้เหลนสาวพาเจ้าตัวน้อย และเหลนชายที่บาดเจ็บสาหัสออกไปยังต้าฮวงที่อันตรายเพียงนั้นหรอก
อย่างไรก็ตามเยี่ยนหงชวนกลับไม่ทราบว่าเป้าหมายแรกของเยี่ยนอวี๋นั้นไม่ใช่ต้าฮวง แต่เป็นสถานที่ลับที่หลอมโอสถแปรผันเป็นมนุษย์วานรหวาไหว
สัญชาตญาณอันเฉียบแหลม ทําให้เยี่ยนอวี๋ตัดสินว่านี่คือ ‘จุดเริ่มต้น’ ของทุกสิ่ง นางจำเป็นต้องไปดูให้แน่ชัดเดี่ยวกับเบื้องหลังของกองกำลังทั้งหมดนี้ รวมถึงจุดประสงค์ของฝ่ายตรงข้ามด้วย
นอกจากนี้ นางยังต้องการส่วนประกอบของโอสถแปรผัน เพื่อตรวจสอบว่าการตัดสินใจของนางนั้นถูกต้องแน่นอน แม้ว่านางจะมั่นใจในความสามารถของตัวเอง แต่นางก็ยังต้องการมั่นใจอีกครั้ง เพราะจะให้เกิดความผิดพลาดกับพี่รองของนางไม่ได้อีกเด็ดขาด
ในความเป็นจริง…
สัญชาตญาณของเยี่ยนอวี๋แม่นยํามาก!
เวลานี้ที่เขตแดนของต้าฮวง นั่นคือบริเวณชายแดนฝั่งตะวันตกของชางอู๋กับต้าฮวง มีสตรีผู้งดงามกลุ่มหนึ่งลอยตัวไปดุจเกลียวคลื่น สวมเสื้อผ้าพลิ้วไสว ปรากฏออกมา
หลังจากนั้นไม่นาน สตรีกลุ่มนั้นก็แฝงกายเข้าไปในต้าฮวงทางภูเขาสูงตระหง่านของฝั่งตะวันออก มีปราสาทสีเหลืองเข้มตั้งตระหง่าน ซึ่งเกือบจะรวมเข้ากับต้าฮวง และปราสาทหลังที่ใหญ่มโหฬารที่สุดในนั้น มีชายหนุ่มผู้สวมชุดคลุมขนจิ้งจอก ริมฝีปากแดงระเรื่อ ดวงตาวาว คิ้วหนาเข้ม และมีใบหน้าที่งดงามรออยู่
ในเวลานี้สตรีงามกลุ่มนั้น ต่างก็คุกเข่าต่อหน้าชายหนุ่มคนนี้ และคำนับด้วยความเคารพ “ข้าน้อยขอคารวะท่านชุนซิ่นจวินเจ้าค่ะ”
การมาถึงของบรรดาหญิงสาวพามาซึ่งสายลมอันเย็นยะเยือก เมื่อปะทะกับชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงนั้นแล้ว บรรยากาศรอบกายเขาก็กลายเป็นไอหมอกอุ่นๆ ทำให้เขาดูละมุนละไมมากยิ่งขึ้น ดั่งฝนตกปรอยๆ ในช่วงวสันตฤดูที่ทำให้สิ่งของค่อยๆ เปียกชื้น
และเขาคือ…กู้หยวนหมิงผู้เป็นพี่ชายของกู้หยวนเหิงแห่งสำนักเหยาไท่เซียน ผู้ซึ่งเป็นสี่สุภาพบุรุษเช่นเดียวกับต้าซือมิ่งแห่งราชสำนัก นายน้อยอินแห่งเมืองโยวตู และหยางเซ่าเหิงแห่งสำนักคุนอู๋!
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะรูปลักษณ์หรือท่วงท่าของกู้หยวนหมิง เห็นได้ชัดว่าเหนือกว่ากู้หยวนเหิงผู้เป็นน้องชายมาก ผู้ที่อ่อนวัยกว่าอย่างกู้หยวนเหิงยังมิอาจเทียบเทียมเขาได้
“คนของคุนอู๋ทําลายโอสถแปรผันพวกนั้นหมดแล้วจริงๆ อย่างนั้นหรือ” กู้หยวนหมิงผู้มีน้ำเสียงราวกับหยาดฝนอันชุ่มฉ่ำ ถามขึ้นด้วยความสนใจเพียงแค่ปัญหานี้
เหล่าบรรดาลูกศิษย์หญิงที่ได้ยินน้ำเสียงอันรื่นหู กลับรายงานอย่างเคร่งขรึม ไม่กล้าเคลิบเคลิ้มไปกับน้ำเสียงว่า “มิได้ทำลายหมดเจ้าค่ะ เหลือไว้เพียงเล็กน้อย แต่ถูกคนของสำนักชางอู๋นำไป ส่วนคนของสำนักชางอู๋ที่ตามไปทีหลังอีกพวกหนึ่ง ได้ทำลายทุกสิ่งจนสิ้นซากเสียแล้วเจ้าค่ะ”
“คนของสำนักคุนอู๋ ถอยทัพไปในต้าฮวงอย่างนั้นรึ” กู้หยวนหมิงถามอีกครั้ง
“เป็นไปตามที่ท่านคาดไว้เจ้าค่ะ พวกเขาได้ถอยทัพเข้าไปในต้าฮวง”
“ดูท่าหลิงหยางจวินก็มาแล้วสินะ” กู้หยวนหมิงทุบโต๊ะข้างๆ “รวมทั้งซวงเสวียนจวิน ยกเว้นต้าซือมิ่ง พวกเราทุกคนล้วนอยู่ที่นี่กันหมดแล้ว”
“เกรงว่าต้าซือมิ่งท่านนั้นก็มาแล้วเช่นกันเจ้าค่ะ” สตรีหนึ่งในนั้นได้รายงานอีกว่า “เมื่อไม่นานมานี้ คุณชายเจ็ดในเมืองชางอู๋ได้ส่งสาส์นมาว่า ดูเหมือนซวงเสวียนจวินจะสงสัยว่าต้าซือมิ่งแห่งราชสำนักก็มาที่สำนักชางอู๋เช่นกันเจ้าค่ะ”
“…มาด้วยอย่างนั้นหรือ” กู้หยวนหมิงขมวดคิ้วคู่งาม ใบหน้าที่ขาวดุจหิมะแสดงออกว่าไม่เข้าใจ “คนผู้นั้นมาได้อย่างไรกัน หรือว่าเขาสนใจมังกรทอแสงในต้าฮวงเช่นเดียวกันด้วย เป็นไปไม่ได้”
กู้หยวนหมิงเชื่อว่าต้าซือมิ่งผู้มีกำลังเหนือกว่าจักรพรรดิหยวนหมิงแล้ว ไม่สนใจมังกรทอแสงในต้าฮวงอย่างแน่นอน พลังของท่านผู้นั้น เกรงว่าจะเหนือกว่ามังกรทอแสงในต้าฮวงเสียอีก จะมาสนใจแก่นวิญญาณมังกรทอแสงได้อย่างไรกัน
ดังนั้น กู้หยวนหมิงกําลังจะสั่งให้ไปสืบสวนอีกครั้ง ก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านนอกปราสาท “รายงาน…”
“เข้ามา”
“รายงานชุนซิ่นจวิน ข่าวล่าสุด! สมัยที่ผนึกแก่นวิญญาณมังกรทอแสงในต้าฮวงในตอนนั้น ดูเหมือนจะมีสัญลักษณ์ของปฐมราชินีตำหนักไท่ชางดั่งในตำนานจริงขอรับ!”
“อะไรนะ!” กู้หยวนหมิงตบโต๊ะอย่างเสียอาการ แววตาเต็มไปด้วยความน่าทึ่ง “แน่ใจแล้วหรือไม่”
“ขอรับ! มีรายงานมาว่าทางราชสำนักเหมือนจะได้ทราบเรื่องแล้วเช่นกัน เกรงว่าคนสำคัญของราชสำนักจะมาก่อนแล้วขอรับ”
“…เป็นเช่นนี้นี่เอง!” กู้หยวนหมิงก็เข้าใจถึงเหตุผลที่ต้าซือมิ่งแห่งราชสำนักก็มายังเมืองชางอู๋ด้วยแล้ว! เขาคาดไม่ถึงเลยว่าที่แห่งนี่จะปรากฏสัญลักษณ์ของปฐมราชินีผู้ให้กำเนิดโลกที่เป็นของในตำนานได้!
เพียงเรื่องนี้ ก็เพียงพอที่จะสะเทือนทั้งต้าซย่าแล้ว!
“ส่งสาส์นไปยังสำนัก ให้สำนักส่งผู้พิทักษ์มาให้มากกว่าสองนาย” กู้หยวนหมิงออกคําสั่งอย่างเด็ดขาด เขาจำเป็นต้องมั่นใจว่า สำนักเหยาไท่เซียนจะได้เปรียบในปฏิบัติการนี้ได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามบรรดาลูกศิษย์แห่งสำนักเหยาไท่เซียนได้รายงานว่า “ข้าน้อยกําลังจะรายงานเรื่องนี้พอดีขอรับ ทั้งต้าฮวงไปจนถึงฝั่งตะวันตกของเมืองชางอู๋ไม่สามารถส่งสาส์นออกไปได้แล้วขอรับ และผู้ที่เข้ามาในนี้แล้วก็จักมิสามารถออกไปได้เช่นเดียวกันขอรับ”
“…บัดซบ!” กู้หยวนหมิงโกรธจนหน้าเขียว แต่เขากลับแน่ใจได้ด้วยเหตุนี้! สิ่งที่เรียกว่าสัญลักษณ์ของปฐมราชินีตำหนักไท่ชางนั้นมีโอกาสที่จะปรากฏขึ้นเป็นอย่างมาก
แม้ว่าสิ่งที่ปรากฏจะไม่ใช่สิ่งล้ำค่าที่สุด! แต่ต้องเป็นสิ่งที่ไม่ปรากฏขึ้นทั่วไปอย่างแน่นอน มิเช่นนั้นคงไม่เกิดปรากฏการณ์ ‘กุญแจผนึก’ เช่นนี้ได้
ตำราโบราณมีจารึกไว้ เมื่อใดที่ปรากฏของล้ำค่าโบราณ จะเกิดปรากฏการณ์ ‘กุญแจผนึก’ ปิดล้อมไว้ นั่นเป็นเพราะสิ่งล้ำค่านี้ได้ถูกเปิดออกแล้ว และที่พวกมันปรากฏขึ้นก็มิใช่เพื่อให้คนนำมา ‘ใช้’ แต่เป็นเพราะเหตุผลพิเศษ และไม่นานนักก็จะสาบสูญไปอีก
ดังนั้น ปรากฏการณ์กุญแจผนึกปิดล้อมจึงเป็นปรากฏการณ์ที่สิ่งของล้ำค่าเหล่านี้ใช้เพื่อป้องกันตนเองเท่านั้น และสิ่งของล้ำค่าที่สามารถทำให้เกิดปรากฏการณ์กุญแจผนึกปิดล้อมเช่นนี้ได้นั้น ต้องมิใช่ของธรรมดาอย่างแน่นอน!
เพราะเช่นนี้แล้ว เมื่อเยี่ยนอวี๋ออกจากสำนักชางอู๋ ต้าซือมิ่งแห่งราชสำนักก็ปรากฏตัวเหนือสำนักชางอู๋ และมุ่งหน้าไปฝั่งตะวันตกของต้าฮวง
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ยกมือขึ้นนวดคลึงตรงกลางคิ้ว สิ่งเล็กๆ สิ่งหนึ่งอันเสมือนเขาทุกประการได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา เขายื่นมือออกไป จากนั้นคนเล็กๆ ตัวเท่าไข่ไก่นั้น ก็ตกลงสู่อุ้งมือของเขา และกระแทกเสียงดัง
ปัก!
จากนั้นก็มีแสงเรืองรองแล่นเข้าไปในอนุสติของต้าซือมิ่งทันที กลายเป็นภาพหญิงงามกำลังอุ้มเด็กทารก และเขายังรู้จักเด็กทารกคนนั้น คงมิใช่เจ้าก้อนที่เขาเคยรังแกหรอกนะ?
ในขณะเดียวกัน…
“อุแว้!”