เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 74 ต้าซือมิ่ง ภรรยาท่านเห็นท่านแล้ว
ม่านวงแหวนทั้งวงคลับคล้ายคลับคลาเหมือนจะสั่นอยู่รำไร ผู้ที่อยู่ภายนอกไม่สามารถสัมผัสได้ แต่เยี่ยนอวี๋ที่อยู่ในวงแหวนสัมผัสได้ ด้วยเหตุนี้นางจึงเปิดม่านรถ พลางแหงนมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
“โอ้โห!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าชูศีรษะโล้นมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ทั้งยังยกมืออันอ้วนป้อมขึ้นอย่างยากลำบาก พยายามชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า “อ้ะเนะเนะ?” คล้ายกลิ่นอายของท่านพ่อรูปงามเลย?
“เจ้าก็สัมผัสได้เหมือนกันหรือ” เยี่ยนอวี๋ลูบศีรษะของลูก ในใจเกิดความระแวดระวังขึ้นหลายส่วน ดูเหมือนว่าจะมีพลังที่แข็งแกร่งกำลังพุ่งความสนใจที่แห่งนี้
“สัมผัสได้ถึงอะไรหรือ” อินหลิวเฟิงผู้ที่สับสนมาตั้งแต่ต้น เขายังคงเป็นเด็กดีที่ตั้งคำถามทันทีที่ไม่เข้าใจ จะเลอะเลือนเช่นนี้ไม่ได้อีก
เยี่ยนอวี๋กลับไม่ได้ปิดบัง “มีขุมพลังพุ่งความสนใจมาที่มังกรทอแสงกับตำหนักไท่ชาง”
“เป็นต้าซื่อมิ่ง?” อินหลิวเฟิงเอ่ยทันควัน คราวนี้เขากลับมีปฏิกริยารวดเร็ว ทั้งยังพูดตรงประเด็นความเป็นจริง
“ต้าซือมิ่ง?” เยี่ยนอวี๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย “หรงซือมิ่งผู้ชอบยุให้รำตำให้รั่ว ใช้อำนาจบาตรใหญ่อยู่ที่ตี้ชิวน่ะหรือ”
“ท่านรู้จักเขาด้วย!” อินหลิวเฟิงคิดไม่ถึงว่าคุณหนูใหญ่เยี่ยนผู้นี้จะสนใจท่านผู้นั้น ดูท่าคงจะมิใช่ไม่ขลาดเขลาและหวาดกลัวจริงๆ
แน่นอน อินหลิวเฟิงไม่กล้าพูดประโยคสุดท้ายที่อยู่ในใจออกมา เขาพูดต่อไปว่า “เป็นเขาจริงๆ อีกอย่างข้าคิดว่าเขาเคยอยู่ในเขตหวงห้ามของสำนักชางอู๋ของพวกท่านมาก่อน”
“เป็นไปไม่ได้” เม่ยเอ๋อร์ที่อยู่ข้างนอกกล่าวปฏิเสธ “ภายในเขตหวงห้ามของในสำนักชางอู๋ นอกจากผู้เฒ่าเหล่านั้นแล้ว ก็ไม่มีลมปราณของผู้เยาว์คนอื่นอีก ซือมิ่งท่านนั้นก็อายุแค่ยี่สิบปีเท่านั้น”
“…เอาเถอะ บางทีข้าอาจเข้าใจผิดเอง” อินหลิวเฟิงคิดว่าถ้าเขาพูดอะไรอีก อาจถูกเข้าใจว่าวางแผนสารภาพผิดก่อนที่จะถูกพิพากษา นั่นอาจทำให้มีความผิดเพิ่มขึ้นอีกกระทง
แต่เยี่ยนอวี๋กลับไม่พูดอะไร นางเชื่อคำพูดของอินหลิวเฟิงครึ่งต่อครึ่ง เพราะเสียงการเคลื่อนไหวเมื่อครู่นั้น ทำให้สัญชาตญาณของนางรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งมาก!
ยิ่งไปกว่านั้น หากนางเดาไม่ผิด ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายเพียงพอที่จะทำให้ม่านวงแหวนตื่นตัว! ถึงขั้นที่ยอมให้ข่าวสารรั่วไหล ก็ไม่ยอมให้ฝ่ายตรงข้ามเข้ามาได้
ต้องรู้เสียก่อนว่า ที่ผ่านมาจุดประสงค์ในการเปิดม่านวงแหวนก็เพื่อป้องกันตัว เพื่อไม่ให้ถูกเพ่งเล็งจากขุมพลังที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า แต่ผู้ที่มานี้กลับทำให้มันละทิ้งจุดประสงค์ดั้งเดิมไปได้โดยสิ้นเชิง
ครั้นแล้วเยี่ยนอวี๋จึงจุมพิตลูกอีกครั้งพลางกล่าวชมเชย “เสี่ยวเป่าเก่งจริงๆ” แต่ก่อนถึงนางจะสัมผัสถึงอีกฝ่ายไม่ได้ แต่ลูกก็สัมผัสได้
“อ้ะ!” แน่นอนว่าเยี่ยนเสี่ยวเป่ามีความสุขมากเมื่อได้รับคำชม เขายิ้มตาหยีร้องขึ้นว่า “อ้ะเนะเนะ! อ้ะเนะเนะ…” ถ้าเสี่ยวเป่าพาท่านพ่อรูปงามกลับมาได้! จะยิ่งเก่งกว่านี้!
“เด็กดี” เยี่ยนอวี๋ให้คำชมเชย สายตาแลจับไปยังผิวมังกรทอแสงที่อยู่ตรงหน้าเหมือนสัมผัสได้อยู่รำไร บางทีนางอาจจะพบศัสตราวุธที่นางคุ้นเคยที่สุดก็เป็นได้
…
“ศิษย์พี่หลิน ไม่มีลมปราณของชุนซิ่นจวินแล้ว ทำเช่นไรดี” เหล่าบรรดาศิษย์ของสำนักเหยาไถเซียนที่ตามสืบสาวราวเรื่องให้ถึงที่สุด แต่กลับพลัดหลงกับร่องรอยผู้นำของพวกเขา
“ติดตามเสียงความเคลื่อนไหวของมังกรทอแสงไป!” เหยาหลินกล่าวเฉียบขาด ซึ่งนี่ก็เป็นวิธีที่ดี ถึงอย่างไรเสียงความทรมานของมังกรทอแสง แม้ว่าจะอยู่ห่างออกไปหนึ่งหรือสองพันลี้ก็ย่อมได้ยิน
ทว่ามังกรทอแสงนั้นเร็วเกินไป! สำนักเหยาไถเซียนทุกคนที่ไล่ตามมาระยะหนึ่ง เห็นว่าร่องรอยของมังกรทอแสงที่กำลังจะหายไป พวกเขาต่างก็กระวนกระวายใจจนเหงื่อตก
ในที่สุดบรรดาลูกศิษย์ของสำนักเหยาไถเซียนจำต้องพูดด้วยความท้อใจ “มังกรทอแสงก็หายไปแล้วเช่นกันเจ้าค่ะ!”
“ถ้าเช่นนั้นก็มุ่งหน้าติดตามไปทางด้านนี้!” เหยาหลินมั่นใจมาก
และหลังจากที่พวกเขาไล่ตามเป็นเวลากว่าหนึ่งเค่อแล้ว กลับพบว่าพวกเขาดูเหมือนจะตกอยู่ในห้วงแห่งความสับสนกากีสีหม่น แทบไม่สามารถระบุทิศทางได้เลย!?
“ศิษย์พี่หลิน เกรง…เกรงว่านี่จะเป็นหมอกต้าฮวง! พวกเราถูกปิดล้อมเอาไว้แล้ว!” เหล่าลูกศิษย์ของเหยาไถเซียนเริ่มรู้สึกตื่นตระหนกเล็กๆ เพราะโดยแก่นแท้แล้วหมอกต้าฮวงเป็นหนึ่งในสิ่งอันตรายของต้าฮวง
ตามข้อความที่บันทึกไว้ ผู้ฝึกฝนที่ติดอยู่ในหมอกต้าฮวง ตายเก้ารอดหนึ่ง!
ดังนั้นแม้ว่าก่อนหน้านี้เหยาหลินจะมั่นใจมาก แต่คราวนี้นางเริ่มตื่นตระหนกขึ้นมาแล้ว ทว่านางรู้ว่านางไม่สามารถแสดงความรู้สึกนั้นออกมาได้ นางจึงยังพูดอย่างหนักแน่น “อย่าตกใจไป สมบัติลับตำหนักไท่ชางอาจจะอยู่ใกล้แถวนี้ก็เป็นได้ ถึงได้ปรากฏหมอกหนาเช่นนี้ ว่ากันว่า หมอกต้าฮวงจะไม่ปรากฏที่…อ้ากกก”
พูดได้ครึ่งเดียว จู่ๆ เท้าของเหยาหลินก็เหยียบอากาศ! แล้วล้มลงในชั่วพริบตา
“ศิษย์พี่หลิน!” สานุศิษย์ของสำนักเหยาไถเซียนตกใจกลัว!
แต่หลังจากที่เหยาหลินวิงเวียนศีรษะไปชั่วขณะ กลับได้เห็น…โครงรถม้าของขบวนเยี่ยนอวี๋ นั่นทำให้นางที่พรวดพราดล้มลงไปเกิดความรู้สึกแน่ใจ จากนั้น…
“ถึงแล้ว” เสียงของเยี่ยนอวี๋ พอดีกับที่โครงรถที่อยู่ด้านหน้าหมุนกลับมา และเนื่องจากเสียงของนาง ทำให้รถม้าหยุดลงอย่างกะทันหัน
เหยาหลินถอนหายใจด้วยความโล่งอกโดยไม่รู้ตัว ทว่าไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ นางต้องการนิ่งเงียบรอดูสถานการณ์ หากแต่เยี่ยนอวี๋สังเกตเห็นนางแล้ว “ออกมา”
เม่ยเอ๋อร์ลงมือทันที! นางหิ้วเหยาหลินมาที่ตรงหน้าของเยี่ยนอวี๋ โดยที่อีกฝ่ายไม่มีโอกาสได้ตอบโต้
“เจ้านั่นเอง” เยี่ยนอวี๋จำสตรีที่อยู่ตรงหน้าได้ นางคือศิษย์น้องของกู้หยวนหมิง
เหยาหลินประณามด้วยใบหน้าเย็นชาโดยสัญชาตญาณ “ถูกต้อง ข้าเอง! สาวใช้ของเจ้าช่างป่าเถื่อนจริงๆ!”
“โยนออกไป” เยี่ยนอวี๋พูดอย่างเฉยเมย แล้วอุ้มลูกเดินตรงไปข้างหน้า บริเวณด้านหน้าของนาง มีวิมานเทวาสถิตแห่งหนึ่งที่สร้างบนเนินดินปรากฏขึ้นในฉับพลัน มันดูอัปลักษณ์ คล้ายวิมานดึกดำบรรพ์มากกว่า
แต่ก่อนที่เยี่ยนอวี๋จะก้าวเท้าไป เหยาหลินก็กรีดร้องว่า “นังสารเลวเจ้ากล้าหรือ! ข้าคือว่าที่ภรรยาที่กำหนดเป็นการภายในของชุนซิ่นจวิน! เจ้ากล้าหยาบคายกับข้า! ข้าจะทำให้เจ้ากับลูกชายนอกคอกของเจ้าไม่ได้ตายดีแน่! ยิ่งไม่ต้องหวังว่าเจ้าจะได้แต่งงานกับสกุลกู้!”
เพียะ!