เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 9 ลูกพี่ตัวจริงไม่กลัวไฟ
ผู้อาวุโสรองโยนความผิดที่เยี่ยนอู้ปรักปรำเยี่ยนชิงไว้ก่อนหน้านี้ให้กับเยี่ยนอวี๋ราวกับกลัวว่าเยี่ยนอวี๋จะปฏิเสธอย่างไรอย่างนั้น เขาพูดหยั่งเชิงว่า “พอเจ้าตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ เจ้าก็ควรชี้แจงเสียเล็กน้อย”
ผู้อาวุโสเก้าและเยี่ยนอู้ประหลาดใจ ต่างรู้สึกว่าคำพูดของผู้อาวุโสรองผิดปกติดูเหมือนกำลังอธิบายบางอย่าง!?
ประมุขแห่งหอสัตว์บรรพกาลก็สัมผัสถึงท่าทีผิดปกติของผู้อาวุโสรองที่ผันเปลี่ยนได้อย่างชัดเจน แต่ก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ทว่าเขาก็ไม่รีรอที่จะพูดสำทับว่า “ใช่แล้ว! ในเมื่อพวกเขาไม่เชื่อ นังหนูอวี๋ลองแสดงต่อหน้าพวกเขาสิ!”
“ข้าขอคัดค้าน!” เยี่ยนอู้รู้สึกพิกลนัก เมื่อครู่นี้ผู้อาวุโสรองยังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟอยู่เลย! เหตุใดจู่ๆ ถึงเปลี่ยนไปเช่นนี้เล่า
ผู้อาวุโสเก้าก็คัดค้านสุดกำลังเช่นกัน “พี่รอง นี่ไม่ใช่รังแต่จะสร้างปัญหาหรือ”
ผู้อาวุโสรองไม่เห็นคนรอบตัวอยู่ในสายตา ดวงตาเฉี่ยวดั่งเหยี่ยวคู่นั้นของเขาเอาแต่จ้องเยี่ยนอวี๋ มือที่อยู่ใต้แขนเสื้อคู่นั้นก็กำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูด…เจ้าพวกโง่!
“ได้” เยี่ยนอวี๋ยินยอม
ผู้อาวุโสรองคลายหมัดในทันใด ประมุขแห่งหอสัตว์บรรพกาลโล่งอก “ฮ่าๆๆ เช่นนั้นก็ตามนี้ เมื่อถึงยามนั้นจงทำให้คนที่ไม่เชื่อเจ้าร้องไห้ไปเลย!”
“เหลวไหล! เหลวไหลสิ้นดี!” ผู้อาวุโสเก้าโมโหจนตาถลนราวกับกบตาโตตัวหนึ่ง “พี่รอง! ท่านจัดการเช่นนี้ได้อย่างไร นี่มันเรื่องเหลวไหลชัดๆ!”
“ข้าตัดสินใจแล้ว แม้นังหนูอวี๋อายุยังน้อย ตามหลักแล้วเป็นไปไม่ได้ที่จะสามารถปรุงยาพยัคฆ์แสนวิเศษเช่นนี้ได้ แต่ในโลกของนักปรุงยาไม่มีสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้ แม้แต่อัจฉริยะก็มิสามารถให้เหตุผลได้ ทุกสิ่งย่อมกระจ่างเมื่อเห็นผล” ผู้อาวุโสรองกล่าวสรุป
แม้เยี่ยนอู้ไม่รู้ว่าเหตุใดจู่ๆ ผู้อาวุโสรองจึงผันเปลี่ยนไป แต่ก็รีบตั้งสติแล้วพูดว่า “ผู้อาวุโสรองพูดมีเหตุผล ข้าเองที่ตื้นเขินเกินไป เรื่องใหญ่โตเช่นนี้ย่อมมิชอบมาพากล เช่นนั้นให้ประมุขแห่งหอโอสถเตรียมสมุนไพรแล้วให้จื่ออวี๋ปรุงยาต่อหน้าทุกคน”
“ใช่แล้ว!” บรรดาผู้อาวุโสของเยี่ยนอู้ต่างสำทับ
ประมุขแห่งหอโอสถพูดขึ้นว่า “แม้สมุนไพรที่ใช้ปรุงยาพยัคฆ์จะค่อนข้างน้อยและหายาก แต่หอโอสถของข้าก็พอที่จะหาได้สักสิบชุด ไม่ทราบว่าเพียงพอหรือไม่”
“จะพอได้อย่างไร ยาระดับนี้ กว่าจะปรุงได้อาจจะล้มเหลวเป็นร้อยครั้ง!” ประมุขแห่งหอสัตว์บรรพกาลรีบพูดขึ้น ถือเป็นการช่วยเยี่ยนอวี๋เผื่อผิดพลั้ง กันไว้ดีกว่าแก้
“จ่านเลี่ยงซาน! เจ้าคงเป็นพวกเดียวกับเยี่ยนชิงสินะ!” ผู้อาวุโสเก้าโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยง
ประมุขแห่งหอสัตว์บรรพกาลไม่พอใจ “เหตุใดผู้อาวุโสเก้าถึงพูดเช่นนี้ ข้าเพียงแค่ให้นางได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ อีกอย่างท่านเจ้าสำนักมีความผิดจริงหรือไม่ก็ยังไม่แน่ชัด ท่านใช้คำว่า ‘พวกเดียวกัน’ จะไม่มากไปหน่อยหรือ”
“มีหลักฐานอยู่ทนโท่ จะมากไปได้อย่างไรกัน” เยี่ยนอู้โต้กลับและยังคงสู้ด้วยเหตุผล
ผู้อาวุโสรองพูดแทรกขึ้นว่า “พอแล้ว เสี่ยวเย่าเจ้ารีบไปเตรียมของซะ อีกประเดี๋ยวย่อมได้รู้แล้วว่านังหนูอวี๋เป็นนักปรุงยาจริงหรือไม่และเยี่ยนชิงยักยอกสมบัติหาผลประโยชน์ใส่ตัวและทำลายชื่อเสียงสำนักจริงหรือไม่”
“ข้าจะไปเดี๋ยวนี้” ประมุขแห่งหอโอสถรับคำสั่งแล้วจากไป
สีหน้าเยี่ยนอู้แปรเปลี่ยนเล็กน้อย ถึงแม้เขายังคงเชื่อว่าเยี่ยนจื่ออวี๋จะไม่สามารถปรุงยาพยัคฆ์ได้ แต่เขาก็ฟังน้ำเสียงประหลาดของผู้อาวุโสรองออก
แต่เยี่ยนอู้คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจ เหตุใดผู้อาวุโสรองจู่ๆ ถึงเปลี่ยนฝั่ง ทั้งที่ก่อนจะมาหอเจ้าสำนัก ตาเฒ่าคนนี้ยังสงสัยเยี่ยนชิงอยู่เลยมิใช่หรือ เมื่อครู่นี้ตาเฒ่าคนนี้ยังโมโหอยู่เลยมิใช่หรือ
เยี่ยนอู้คิดไม่ตดจริงๆ กู้หยวนเหิงที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ข้างๆ กลับเห็นรถม้าคันนั้นที่ผู้อาวุโสรองของสำนักชางอู๋เหลือบมองเมื่อครู่นี้
“นังหนู ไม่เชิญพวกข้าเข้าไปนั่งหน่อยหรือ” ผู้อาวุโสรองพูดหยั่งเชิงอีกครั้ง
เยี่ยนอู้เก็บงำความสงสัยไว้เสนอขึ้นว่า “ผู้อาวุโสรอง ในเมื่อจะให้จื่ออวี๋ปรุงยา ถ้าหากปรุงที่นี่คงจะไม่เหมาะ ไปที่หอโอสถดีหรือไม่ ทั้งหม้อปรุงยา ไฟและค่ายกลล้วนมีพร้อมจะได้ให้หลานสาวคนนี้ของข้าแสดงฝีมือได้อย่างเต็มที่!”
เยี่ยนอู้จงใจเน้นเสียงหนักลงคำพูดประโยคหลัง แววตาผู้อาวุโสเก้าวูบไหวเล็กน้อยแล้วพูดเห็นด้วยว่า “ใช่แล้ว ทั้งหม้อปรุงยา ไฟและค่ายกลล้วนเป็นหัวใจสำคัญของการปรุงยา เมื่อก่อนไม่เคยได้ยินว่านังหนูอวี๋คนนี้สามารถปรุงยาได้ คาดว่าในหอเจ้าสำนักเองก็คงไม่มีสิ่งของเหล่านี้”
ทั้งสองพูดเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ต้องการบอกเป็นนัยว่า หากเยี่ยนจื่ออวี๋ปรุงยาเป็นจริงๆ เหตุใดจึงไม่มีข่าวลือจากหอเจ้าสำนัก ทั้งหม้อปรุงยา ไฟและค่ายกลนั้นย่อมไม่สามารถสร้างเองได้!
เมื่อเป็นเช่นนี้ หากเยี่ยนอวี๋บอกว่าในหอเจ้าสำนักมี แสดงว่าเยี่ยนชิงในฐานะเจ้าสำนักลอบสร้างเครื่องมือเพื่อฝึกฝนปรุงยาย่อมถือว่ากระทำผิดกฎ! หากเยี่ยนอวี๋บอกว่าไม่มี เช่นนั้นแล้วนางปรุงยาเป็นได้อย่างไร
ประมุขแห่งหอสัตว์บรรพกาลได้ยินดังนั้นก็รู้ว่าเป็นกับดัก จึงร้อนรนขึ้นทันที แต่เยี่ยนอวี๋กลับพูดขึ้นว่า “รอข้าสักครู่”