เซียนหมากข้ามมิติ - ตอนที่ 106 สุราเรือนเล็กเมาข้ามคืน
ตอนที่ 106 สุราเรือนเล็กเมาข้ามคืน
ผ่านไปอีกครู่หนึ่ง มีบัณฑิตอาวุโสผมสีดอกเลาคนหนึ่งสวมชุดนักพรตเคาะประตูสองสามครั้ง
อิ๋นจ้าวเซียนเห็นแล้วม้วนตำราประสานมือ ทั้งผายมือเชิญอีกฝ่ายเข้าห้องเรียน
“อาจารย์โจว! เชิญเข้ามาก่อน!”
“อาจารย์อิ๋น!”
อาจารย์โจวประสานมือคารวะตอบ จากนั้นค่อยเข้ามายืนข้างกายอิ๋นจ้าวเซียน มองศิษย์หกเจ็ดสิบคนภายในห้องเรียน ถือว่าจำนวนเยอะน่าดูชม
“ท่านนี้คืออาจารย์โจวซึ่งอยู่ในอำเภอ เมื่อข้าคนแซ่อิ๋นจากไป วันหน้าจะรับตำแหน่งอาจารย์สำนักศึกษาประจำอำเภอชั่วคราว มา ทุกคนคารวะอาจารย์โจว”
บรรดาศิษย์ภายในห้องเรียนได้ยินแล้วพากันลุกขึ้น คารวะอาจารย์โจวพร้อมกัน ปากประสานเสียงทักทายอย่างจริงใจ
“คารวะอาจารย์โจว!”
อาจารย์โจวลูบเคราพยักหน้า มีภาพจำแรกพบซึ่งไม่เลวต่อศิษย์เหล่านี้
เวลาล่วงมาถึงยามสำนักศึกษาเลิกเรียน บรรดาศิษย์ทยอยกลับ อิ๋นจ้าวเซียนยืนตรงลานสำนักศึกษา มอบจดหมายถึงมือพวกเขาทีละคนด้วยตัวเอง ทั้งเจาะจงกำชับอย่างใส่ใจเป็นการส่วนตัว
อาจารย์โจวเห็นมิตรภาพระหว่างศิษย์อาจารย์แล้วทอดถอนใจในใจ เขาทำการสอนส่วนตัวมาหลายปี ศิษย์ซึ่งผูกพันกับตนอย่างแน่นแฟ้นมีสักกี่คนหนอ
เวลาเกือบพลบค่ำ สองพ่อลูกอิ๋นจ้าวเซียนและอิ๋นชิงกลับบ้านพร้อมกัน อิ๋นชิงไม่เอ่ยวาจามาตลอด กระทั่งเดินบนทางเล็กของตรอกเทียนหนิว เมื่อมองเห็นเรือนสันติแต่ไกล อิ๋นชิงเอ่ยปากประโยคหนึ่ง
“ท่านพ่อ ผลพุทราสุกงอมแล้ว!”
เมื่อเงยหน้ามองออกไป พุทรากลางลานเรือนสันติดกเต็มกิ่งก้านแล้ว ส่วนใหญ่ล้วนสุกงอม
“ใช่ ปีนี้มีผลสุกงอมแล้ว!”
อิ๋นจ้าวเซียนยิ้มเล็กน้อย
“พูดแล้วก็แปลก ตั้งแต่ท่านจี้จากไป ต้นพุทรานี้ไม่ออกดอกหรือผลมาสองปี แต่ปีนี้กลับออกผลอีกครั้ง”
อิ๋นชิงหัวเราะแฮะๆ
“บางทีอาจรู้ว่าท่านพ่อเตรียมไปสอบ ปีนี้จึงออกผลเป็นพิเศษ! ถึงอย่างไรพวกเราก็มีลาภปากแล้ว!”
“เจ้าเด็กคนนี้!”
สองพ่อลูกหัวเราะกล่าวพลางเดินไปข้างหน้า ผ่านเรือนสันติแล้วมองผลพุทราติดกิ่งน่าเย้ายวนนั่น ท่ามกลางความรางเลือนมีกลิ่นหอมลอยออกมา
อาจเป็นเพราะคำพูดของอิ๋นชิงเตือนอิ๋นจ้าวเซียน หรืออาจเป็นเพราะสองพ่อลูกนึกสนุก
หลังจากกลับบ้านรีบกินอาหารเย็นซึ่งมารดาตระกูลอิ๋นเตรียมไว้เสร็จ สองพ่อลูกหยิบกุญแจเรือนสันติ เตรียมตัวไปเก็บผลพุทรากิน
แสงแดงยามเย็นพาดผ่านขอบฟ้า ตรงหน้าประตูเรือนเล็ก อิ๋นจ้าวเซียนใช้กุญแจไขกลอนทองแดงออก เปิดประตูเรือนช้าๆ
แอ๊ด…
เสียงเพลาประตูขยับดังขึ้น สองพ่อลูกยังไม่เข้าประตูก็อึ้งงัน ด้วยกลางลานถึงกับมีคนอยู่!
แน่นอนว่าคนผู้นี้ไม่ใช่จี้หยวน แต่เป็นผู้อาวุโสชุดยาวคอกลม เสื้อนอกสาบตรงเงยหน้ามองต้นพุทรา เมื่อเห็นประตูเรือนเปิดออก เขาหันกลับมามองพ่อลูกตระกูลอิ๋น
“ผู้อาวุโสเป็นใคร เหตุใดมาอยู่กลางลานเรือนสันติ”
อิ๋นจ้าวเซียนขมวดคิ้วเอ่ยถาม มองกำแพงเรือนเล็กตามจิตใต้สำนึก ความสูงขนาดนี้ไม่ใช่สิ่งที่ชายชราคนหนึ่งปีนเข้ามาได้กระมัง หรือว่าเป็นจอมยุทธ์
ชายชราเห็นพ่อลูกตระกูลอิ๋นแล้วใคร่ครวญเล็กน้อยก่อนคลี่ยิ้ม
“คิดว่าท่านคงเป็นสหายสนิทภายในอำเภอที่ท่านจี้กล่าวถึงกระมัง ขอถามชื่อแซ่ของพวกท่านพ่อลูก”
“ท่านรู้จักท่านจี้หรือ”
อิ๋นชิงถามอย่างแปลกใจก่อนบิดาก้าวหนึ่ง อิ๋นจ้าวเซียนได้ยินว่าอีกฝ่ายรู้จักท่านจี้แล้วไม่กล้าละเลย ประสานมือคารวะกล่าวตอบ
“ข้าน้อยอิ๋นจ้าวเซียน นี่คือบุตรชายอิ๋นชิง ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสมีชื่อแซ่ว่ากระไร ทั้งไม่ทราบว่าท่านเคยเจอท่านจี้ที่ไหน”
ชายชรามองอิ๋นจ้าวเซียนโดยละเอียดครู่หนึ่ง ประสานมือคารวะตอบเขาเช่นกัน
“ข้าผู้ชราแซ่อิงชื่อหง เคยบังเอิญเจอท่านจี้กลางสายฝนตรงอำเภอใกล้เคียง ถือเป็นสหายของท่านจี้!”
เห็นชายชราคนนี้ท่าทางนิ่งสงบ ภายนอกยิ่งไม่เหมือนโจรขโมย ทั้งอีกฝ่ายบอกว่าตนเป็นสหายท่านจี้ พ่อลูกตระกูลอิ๋นก้าวเข้าสวนอย่างตื่นเต้นอยู่บ้าง
“ที่แท้ก็เป็นสหายของท่านจี้ น่าเสียดายว่าท่านจี้จากบ้านไปไกลนานแล้ว มาครานี้คงไม่ได้เจอเขา”
อิ๋นจ้าวเซียนยิ้มพลางอธิบาย
“อืม ข้าผู้ชราทราบ…”
ยามยิ้มกล่าวชายชรามองต้นพุทราต่อ
“สองปีมานี้ข้ามาดูตลอด ต้นพุทราไม่เคยออกผล ในที่สุดปีนี้ก็ออกผลแล้ว! ตอนนั้นท่านจี้มอบพุทราให้ข้าแค่สองผล ไม่พอกินจริงๆ!”
“หา?”
อิ๋นจ้าวเซียนมึนงงอยู่บ้าง สองปีนี้เขาเคยมาหรือ ไม่มีภาพจำสักนิด หรือทุกครั้งแอบเข้ามาเองเช่นนี้ เมื่อเห็นว่าไม่ออกผลค่อยจากไป
แต่ได้ยินว่าชายชราอยากกินพุทราสดแล้วเข้าใจยิ่ง ใครกินผลพุทรานี้แล้วไม่คิดถึงคะนึงหาบ้าง
ดังนั้นอิ๋นจ้าวเซียนจึงยิ้มกล่าว
“คิดว่าสาเหตุเป็นเพราะผลพุทราซึ่งท่านจี้พกออกไปข้างนอกมีไม่มาก คราวนี้ผู้อาวุโสมาได้เวลาพอดี ผลพุทรากลางลานท่านกินจนอิ่มได้เลย!”
ผลพุทรานี้เดิมจี้หยวนฝากอิ๋นจ้าวเซียนแบ่งสรร มีสหายมาจากแดนไกล อยากกินมากหน่อยไม่เป็นไร
ผู้อาวุโสซึ่งมองต้นพุทราตรงหน้าได้ยินแล้วดวงตาวาววาบ เวลานี้ต้นพุทรากลางลานถึงกับส่ายสั่น คล้ายมีลมแผ่วเบาระลอกหนึ่งพัดผ่านพอดี
“หึๆๆๆ… อาจารย์อิ๋นล้อเล่นแล้ว กินไม่อิ่มหรอก ทั้งไม่สะดวกกินเต็มที่! เอาอย่างนี้ ข้ากินแค่คำเดียว ไม่ทราบว่าอาจารย์อิ๋นเห็นชอบหรือไม่”
“คำเดียว?”
อิ๋นจ้าวเซียนประหลาดใจ ขณะเดียวกันในใจยังพึมพำอย่างสงสัยอยู่บ้าง หรือว่าสหายคนนี้ของท่านจี้ไม่ใช่คนธรรมดาเช่นกัน
“ไม่ผิด แค่คำเดียว! อาจารย์อิ๋นเห็นชอบหรือไม่”
ชายชราลูบเคราพยักหน้า ท่าทางเหมือนลองหยั่งเชิง
“หึๆ มีอะไรไม่เห็นชอบเล่า ข้าคนแซ่อิ๋นแค่ดูแลผลพุทราแทนท่านจี้เท่านั้น ทั้งเป็นสหายของท่านจี้ด้วย ผู้อาวุโสอยากกินเท่าไหร่เชิญกินเท่านั้น! ชิงเอ๋อร์ พวกเราช่วยผู้อาวุโสเก็บพุทรา”
“ได้เลย เก็บพุทรากัน!”
อิ๋นชิงอดรนทนไม่ไหวนานแล้ว ในที่สุดยามนี้ก็ได้ยินว่าเก็บผลพุทราได้ เพียงแต่ไม่รอให้เขาเคลื่อนไหว ผู้อาวุโสคนนั้นกลับกล่าวต่อ
“ไม่ต้องๆ ไม่จำเป็นต้องยุ่งยาก!”
ชายชราพูดถึงตรงนี้แล้วเงยหน้าอีกครั้ง มุมปากยกโค้งขึ้น เลียนแบบน้ำเสียงของอิ๋นชิง
“ฮ่าๆๆๆๆ… กินพุทรากัน… โฮก…”
ฮูม… ฮูม…
ท่ามกลางเสียงมังกรคำรามแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน ในลานสายลมคลั่งพลันก่อตัว ต้นพุทราส่ายไปมา ผลพุทรานับไม่ถ้วนถูกสายลมคลั่งปลิดจากกิ่งก้าน ม้วนตามสายลมโหมกระหน่ำเข้าปากกว้างของชายชรา
พวกอิ๋นจ้าวเซียนกับอิ๋นชิงยืนไม่เสถียร ยกมือบังหน้าอย่างตื่นตระหนกและหวาดกลัว
ผ่านไปแค่ไม่กี่ลมหายใจ สายลมคลั่งชั่วขณะนี้หยุดลง สองพ่อลูกพลันพบว่าผลบนต้นพุทรากลางลาน อย่างน้อยหายไปกว่าครึ่งแล้ว แต่กิ่งใบกลับไม่เสียหายเท่าไหร่
แต่ทำไมต้นพุทราซึ่งโบกไหวตามลมถึงมีท่าทางประหลาดอยู่บ้าง
กร๊อบ… กร๊อบๆ…
เสียงเคี้ยวดังมาจากปากของชายชราด้านข้างเป็นระลอก กลิ่นหอมสดชื่นของพุทราลอยออกมา
“ไม่เลวๆ รสชาติล้ำเลิศๆ!”
ตอนนี้พ่อลูกตระกูลอิ๋นใจเต้นตึกตักจนน่ากลัว ต่อให้เตรียมใจมาบ้างเสี้ยวหนึ่ง แต่เรื่องนี้แตกต่างจากที่คาดคิดไว้มากเกินไปแล้ว
“อาจารย์อิ๋น ข้าผู้ชรากินแค่คำเดียว ไม่ผิดคำพูดแม้แต่น้อย เรื่องวันนี้อย่าฟ้องท่านจี้เล่า ฮ่าๆๆๆ…”
แม้ว่าอิ๋นจ้าวเซียนใจกระตุกอยู่บ้าง แต่ยังสงบอารมณ์เต็มกำลัง ประสานมือไปทางชายชรา
“ข้าคนแซ่อิ๋นมีตาหามีแววไม่ ผู้อาวุโสรักษาคำพูด การกระทำเด็ดเดี่ยว กินแค่คำเดียวจริงดังว่า เพียงแต่สองพ่อลูกตระกูลอิ๋นตกใจแทบแย่ หากมีคราวหน้าหวังว่าผู้อาวุโสจะกล่าวเตือนสักประโยคก่อน!”
อิงหงกลืนผลพุทราเมื่อครู่แล้วสำรวจมองอิ๋นจ้าวเซียนโดยละเอียด เห็นว่าบุคลิกเขาผ่าเผยไม่ธรรมดา ยามนี้แม้ว่าเขายังหวาดผวาแต่กลับพูดจาสบายๆ เขายิ้มพลางพยักหน้ากล่าว
“สมเป็นสหายหนึ่งเดียวในอำเภอของท่านจี้ ข้าผู้ชราทำให้อาจารย์อิ๋นตกใจแล้ว หวังว่าจะไม่ถือสา!”
“ไม่กล้าๆ!”
พวกเขาโต้ตอบไปมา แม้ว่ายังหวาดผวา แต่บรรยากาศกลับกลมเกลียว เก็บผลพุทราลงมาจานหนึ่ง นั่งพูดคุยอยู่หน้าโต๊ะหิน ประเด็นสำคัญคือรู้จักจี้หยวนอย่างไร กลายเป็นสหายได้อย่างไร
พ่อลูกตระกูลอิ๋นพากันเล่าเรื่องจี้หยวนช่วยจิ้งจอกแดงทั้งยังนำมันไปปล่อยกลับพร้อมอิ๋นชิงเพิ่มเติม ใบหน้าชายชราเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
แม้ว่าคำพูดชายชรามีบางส่วนเห็นชัดว่าปิดบัง แต่อิ๋นจ้าวเซียนก็ไม่ซักไซ้ ทั้งไม่ถามความเป็นมาของชายชราซึ่งเห็นชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาส่งเดช แค่รับฟังและพูดด้วยเท่านั้น
ทั้งสองคนคุยกันถูกคอ ชายชรานามว่าอิงหงคล้ายนึกถึงเรื่องหนึ่งกะทันหัน ตบศีรษะร้องขึ้นมา
“เกือบลืมแล้ว!”
ขณะกล่าวเขาหยิบกาสุราเคลือบคอเรียวและจอกกระเบื้องสองใบออกมาจากด้านหลังเหมือนเล่นกล ก่อนวางลงบนโต๊ะหิน
“ข้าติดค้างค่าเลี้ยงสุราท่านจี้คราหนึ่ง น่าเสียดายว่าท่านจี้เป็นบุคคลอัศจรรย์ ตามหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ มาที่นี่เพื่อดูว่าผลพุทราสุกงอมหรือไม่ ทั้งมาดูว่าเขากลับมาหรือยัง ในเมื่อเจออาจารย์อิ๋นครั้งแรกแต่รู้สึกสนิทสนมเหมือนเพื่อนเก่า ขอเชิญอาจารย์ลิ้มรสสุรานี้แทนท่านจี้ก่อนเป็นอย่างไร”
“ทำไมจะไม่ได้!”
อิ๋นจ้าวเซียนสบายๆ แม้ว่าดื่มสุราน้อยมาก แต่คิดว่าไม่อาจทำให้ท่านจี้ขายหน้า ก็แค่ดื่มสุราเท่านั้น!
ชายชราแย้มยิ้มไม่พูดจา รินสุราจอกหนึ่งให้เขาและตนด้วยตัวเอง
“อาจารย์อิ๋นเชิญ!”
“ผู้อาวุโสอิงเชิญ!”
ทั้งสองต่างยกจอกดื่ม สุราหนึ่งจอกลงท้อง อิ๋นจ้าวเซียนรู้สึกเพียงกลิ่นหอมหวานหนาแน่นรสสุราคงทน ความร้อนพลุ่งพล่านภายในกาย ใบหน้าแดงระเรื่อ
“สุรา… ดี…”
ยังกล่าวไม่จบประโยค เขานอนคว่ำบนโต๊ะหินไม่เคลื่อนไหว
อิ๋นชิงซึ่งมัวแต่กินพุทราอยู่ด้านข้างลนลานแล้ว มองชายชราแล้วหันมองบิดา รู้อยู่ว่าชายชราคงไม่มีทางทำร้ายบิดาตน แต่เขายังคงกังวล
“ผู้อาวุโส ทะ… ท่านพ่อ… เขาไม่เป็นไรใช่หรือไม่”
“ฮ่าๆๆๆ… ไม่เป็นไรๆ อาจารย์อิ๋นคออ่อน เมาแล้ว!”
ชายชรายกจอกดื่มสุราของตน หัวเราะร่าอย่างเบิกบาน!
“รีบกลับบ้านไปนำผ้าห่มมาคลุมบิดาเจ้า คืนนี้ปล่อยให้เขานอนกลางลานเถอะ! รีบไปๆ!”
อิ๋นชิงกลืนน้ำลายพยักหน้า ถึงขั้นไม่กล้าขัดเจตนาของผู้อาวุโสคนนี้ รีบวิ่งตะบึงออกจากลานกลับบ้าน
รอเมื่ออิ๋นชิงจากไป ชายชราเก็บรอยยิ้มเล็กน้อย เทสุราอีกจอกหนึ่ง ถือจอกสุราลุกขึ้นมา
สายตาเหลือบมองต้นพุทรากลางลาน
“หึๆ เลี้ยงเจ้าจอกหนึ่งด้วยแล้วกัน!”
พูดจบเขายกจอกเทลงรากต้นไม้ สุราไม่ซึมซาบ ถึงขั้นว่าแม้แต่ดินยังไม่ชื้น
เมื่ออิ๋นชิงถือผ้าห่มพามารดาตระกูลอิ๋นซึ่งหน้าตาเป็นกังวลกลับมาพร้อมกันอย่างรีบเร่ง กลางลานนอกจากอิ๋นจ้าวเซียนซึ่งนอนคว่ำบนโต๊ะแล้วไม่มีใครอื่น