CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

เซียนหมากข้ามมิติ - ตอนที่ 198 ที่แท้เป็นเจ้า!

  1. Home
  2. เซียนหมากข้ามมิติ
  3. ตอนที่ 198 ที่แท้เป็นเจ้า!
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ตอนที่ 198 ที่แท้เป็นเจ้า!

สำนักศึกษาเมตตาตั้งอยู่ทางมุมตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัดชุนฮุ่ย บริเวณนั้นค่อนข้างเงียบสงบ ครองพื้นที่อยู่ไม่น้อย สิ่งก่อสร้างทั้งสูงและต่ำเรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบ มีต้นเหมย กล้วยไม้ ไม้ไผ่ และดอกเบญจมาศปลูกอยู่ทั่วไปในสำนักศึกษา

ในบรรดาอาจารย์ไม่ขาดบัณฑิตอาวุโสที่เคยได้รับคะแนนดีระหว่างการสอบระดับเมืองเอก แม้กระทั่งยังมีขุนนางที่ชราแล้วอยู่บ้านว่างๆ ไม่มีอะไรทำแล้วทนไม่ไหวอยู่สองคนด้วย

หากใช้คำพูดเมื่อชาติก่อนของจี้หยวนก็คือบรรยากาศการเรียนสมบูรณ์แบบ เป็นสถานศึกษาที่แข็งแกร่งมาก ไม่เสียแรงที่เป็นสำนักศึกษาใหญ่อันดับหนึ่งของทั้งรัฐจี

แม้จะบอกว่าลูกหลานตระกูลใหญ่ซึ่งศึกษาอยู่ที่สำนักศึกษาเมตตามีอยู่ไม่น้อย แต่บุตรของดาวบุ๋นอิ๋นย่อมพิเศษมาก สำนักศึกษาคาดหวังต่อการมาถึงของอิ๋นชิงนานแล้ว ครั้งก่อนได้รับจดหมายจากดาวบุ๋นอิ๋น และได้รู้ว่าหลายวันนี้อิ๋นชิงใกล้ถึงแล้ว ดังนั้นห้องหับในสำนักศึกษาจึงเป็นเรื่องที่ต้องจัดการเป็นพิเศษในช่วงนี้

นักเรียนสำนักศึกษาเมตตากินนอนอยู่ที่นี่ แม้จะเป็นบุตรของคนในจังหวัดชุนฮุ่ยเองก็ไม่อนุญาตให้กลับไปอยู่ที่บ้าน ต้องได้รับจดหมายยินยอมจากอาจารย์ถึงจะเข้าออกสำนักศึกษาในวันที่ไม่ใช่วันหยุดเรียนได้ ให้ความรู้สึกคล้ายกับโรงเรียนประจำในชาติที่แล้วของจี้หยวนอยู่บ้าง

แต่สิ่งที่แตกต่างกันชัดเจนมาก ความจริงแล้วการเรียนการสอนของสำนักศึกษาอยู่ที่การเรียนรู้ด้วยตนเองเป็นหลัก นักเรียนฟังในวิชาเรียนแล้วจะทบทวนด้วยตนเอง แม้ทุกระยะจะมีการสอบถามตอบปัญหาบทความ แต่ที่จริงไม่มีสิ่งที่เรียกว่าการทำการบ้านสักเท่าไหร่ และอาจารย์ของสำนักศึกษาส่วนใหญ่ก็กินนอนร่วมกับนักเรียนด้วย ไม่เพียงสอนวิชาเรียนเท่านั้น ยังสอนด้วยว่าจะต้องใช้ชีวิตในสังคมอย่างไร ความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์และนักเรียนแน่นแฟ้นยิ่งกว่าที่จี้หยวนจินตนาการไว้อีก

ประตูหน้าของสำนักศึกษาเมตตาก็มีการเพิ่มคนจับตามองอยู่บ้าง หากใกล้ช่วงที่ไม่ใช่วันหยุดเรียนมีคนท่าทางเหมือนนักเรียนมา ก็เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเป็นอิ๋นชิง

ดังนั้นเมื่อเห็นจี้หยวนและอิ๋นชิงเดินมา พลันรู้สึกได้รางๆ ว่าอาจเป็นบุตรของจ้วงหยวนมาถึงแล้ว โดยเฉพาะมองไปไกลๆ แล้วพบใบหน้าหล่อเหลา สดใส อ่อนโยน และซื่อตรงของอิ๋นชิง ส่วนจี้หยวนมองแล้วไม่เหมือนนักเรียน แต่กลับมีกลิ่นอายไม่ธรรมดา

ตามคาด เมื่ออิ๋นชิงและจี้หยวนมาถึงบริเวณใกล้เคียง อิ๋นชิงแบกกล่องตำราเดินไปถึงหน้าประตูตามลำพัง ก่อนจะคารวะแล้วเอ่ยปาก

“ข้าน้อยอิ๋นชิง มาจากอำเภอหนิงอันแห่งจังหวัดเต๋อเซิ่ง ตั้งใจขอเข้าศึกษาที่สำนักศึกษาเมตตา!”

“มีจดหมายหรือไม่”

เสียงคำถามดังขึ้นที่หน้าประตู อิ๋นชิงวางกล่องตำราลง หยิบจดหมายสองฉบับออกมาจากข้างใน ฉบับหนึ่งคือจดหมายของบิดาอิ๋นจ้าวเซียน ส่วนอีกฉบับหนึ่งเป็นจดหมายที่อาจารย์อาวุโสที่อำเภอหนิงอันเขียนให้

“นี่คือจดหมายของบิดาข้าและอาจารย์โจว เชิญอ่าน”

อิ๋นชิงส่งจดหมายให้ หนึ่งในคนเฝ้าประตูรีบรับไว้ด้วยสองมือ กล่าวว่า “โปรดรอสักครู่” จากนั้นรีบร้อนวิ่งเข้าไปในสำนักศึกษา

จี้หยวนอยู่ห่างออกไปเล็กน้อย ใช้ตาทิพย์สังเกตสำนักศึกษาเมตตาที่ว่ากันว่าสี่สิบปีมานี้มีผู้สอบขุนนางได้อันดับสามสามคน และได้อันดับสองหนึ่งคน มีปราณบุ๋นลอยวนเวียนอยู่จริงๆ

ไม่นานเท่าไหร่ก็มีอาจารย์ท่าทางอายุไม่น้อยหลายคนรีบร้อนออกมาจากประตู คนเพิ่งเดินมาถึง อิ๋นชิงก็ประสานมือโค้งคารวะเหล่าอาจารย์อย่างนอบน้อมแล้ว

“สวัสดีอาจารย์ทุกท่าน!”

“ดีๆๆ คุณชายอิ๋นมีความสามารถสง่างามจริงดังคาด!”

“ไม่เลว คุณชายอิ๋นมาศึกษาที่สำนักศึกษาเมตตาของพวกเรา เห็นทีอนาคตของสำนักศึกษาจะต้องมีจ้วงหยวนอีกคนหนึ่งเป็นแน่ ฮ่าๆๆ…”

อิ๋นชิงรีบตอบว่า “มิกล้า” อยู่หลายเสียง

ระหว่างทักทายกัน มีอาจารย์อาวุโสประสานมือให้จี้หยวนที่อยู่ห่างออกไป

“ไม่ทราบว่าท่านนี้เป็นอะไรกับคุณชายอิ๋นหรือ”

อาจารย์อาวุโสก็มีประสบการณ์เต็มเปี่ยม จี้หยวนมัดมวยผมด้วยปิ่นหยกดำทว่าไม่ได้รวบผมขึ้นทั้งหมด ผมด้านหลังและจอนผมยาวสองข้างปล่อยสยายอย่างชัดเจน แต่โดยรวมแล้วกลับเป็นธรรมชาติยิ่งนัก เป็นการแต่งกายของบัณฑิตที่ถูกต้อง กระนั้นก็มีความคล้ายคลึงกับจอมยุทธ์ผู้งามสง่าอยู่บ้าง

จี้หยวนประสานมือคารวะ

“ข้าน้อยแซ่จี้นามหยวน เป็นเพื่อนบ้านของตระกูลอิ๋น นับเป็นสหายของอาจารย์อิ๋นเช่นกัน อิ๋นชิงออกจากบ้านเดินทางไกลเป็นครั้งแรก ข้าจึงร่วมเดินทางมากับเขาด้วย”

“อ๋อ ที่แท้เป็นท่านจี้ เสียมารยาทแล้วๆ!”

อิ๋นจ้าวเซียนแต่เดิมเคยรับหน้าที่เป็นอาจารย์ที่อำเภอ เรื่องนี้ทั่วทั้งอาณาจักรรู้ไม่นับว่าเป็นความลับ แต่วันนี้ในบรรดาบัณฑิตในรัฐจีแม้กระทั่งทั้งอาณาจักรต้าเจินต่างเรียกอิ๋นจ้าวเซียนว่า ‘ดาวบุ๋นอิ๋น’ หรือ ‘ท่านอิ๋น’ ด้วยความเคยชิน ส่วนผู้ที่เรียกว่า ‘อาจารย์อิ๋น’ เพียงพูดได้ว่าเคยชินมานานมากจนยากจะแก้แล้ว

“ท่านจี้ คุณชายอิ๋น เชิญข้างในเถอะ!”

ด้วยคำเชิญของอาจารย์ จี้หยวนและอิ๋นชิงเข้าไปในสำนักศึกษาด้วยกัน

พาครอบครัวชมสำนักศึกษาก็เป็นประเพณีของสำนักศึกษาเมตตาเช่นกัน อาจารย์หลายท่านต่างมีธุระ ดังนั้นสุดท้ายแล้วมีอาจารย์อาวุโสตระกูลเฉินนำพวกเขาเที่ยวชมเพียงคนเดียว

ระหว่างนั้นมีนักเรียนสำนักศึกษาที่ได้ข่าวอยู่บ้างมาดูอิ๋นชิง เพราะอยากเห็นว่าบุตรชายของดาวบุ๋นอิ๋นในคำร่ำลือหน้าตาเป็นอย่างไรกันแน่ โชคดีเหมือนกันที่รูปลักษณ์ของอิ๋นชิงไม่ได้ทำให้บิดาตนเองเสียหน้า แม้ไม่มีใครตัดสินคนที่ภายนอก แต่เมื่อมีหน้าตาดีเป็นตัวเสริมย่อมดีกว่ามากอย่างแน่นอน

สุดท้ายมาถึงเรือนพักของอิ๋นชิง เมื่อจัดการเรื่องเข้าอยู่แทนอิ๋นชิงเรียบร้อย จี้หยวนถึงค่อยบอกลาอิ๋นชิง บอกกล่าวกับอิ๋นชิงว่าอีกสองวันหลังจากนี้เป็นวันหยุดเรียนของสำนักศึกษาแล้วจะกลับอำเภอหนิงอัน

ส่วนหูอวิ๋นย่อมพักโรงเตี๊ยมเดียวกับจี้หยวน

เย็นวันเดียวกันนั้น ในโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งกลางเมือง จี้หยวนนอนตะแคงหลับตาหายใจอย่างสม่ำเสมออยู่บนเตียง ดูแล้วเหมือนหลับสนิท

หูอวิ๋นที่นอนคว่ำอยู่บนพื้นหูกระดิกก่อนค่อยๆ ลืมตาขึ้น ยืนสองขาเขย่ง ใช้สองขาหน้าจับขอบเตียงมองดูจี้หยวน เห็นจี้หยวนหลับสนิทมากจึงเดินไปทางหน้าต่างอย่างแผ่วเบา

มันใช้อุ้งเท้าจิ้งจอกข้างหนึ่งยันราวไม้ข้างเตียง จากนั้นเปิดหน้าต่างด้วยความระมัดระวัง

เอี๊ยด…

เสียงไม้เก่าดังขึ้นเล็กน้อย จิ้งจอกแดงฟังแล้วเหงื่อออกที่อุ้งเท้า ครั้นหันไปมองดูแล้วถึงถอนหายใจเสียงหนึ่ง ด้วยกลัวว่าหันไปแล้วจะเห็นจี้หยวนยืนอยู่ข้างหลัง

ครั้นเห็นจี้หยวนยังคงหลับสนิท หูอวิ๋นรีบพาดราวไม้กับหน้าต่าง จากนั้นกระโจนตัวออกไป จากชั้นสองตกลงบนพื้นที่ลานด้านหลังโรงเตี๊ยมอย่างราบรื่น ทั้งกระบวนการไม่เกิดเสียงแม้แต่น้อย หางใหญ่ปุกปุยเหมือนกับหางกระรอกอย่างไรอย่างนั้น

‘หึๆ!’

หูอวิ๋นมุ่งหน้าออกไปข้างนอกเมืองด้วยความเบิกบานใจ

ข้างเตียงจี้หยวน กระบี่เครือเขียวที่พิงอยู่ใกล้ผ้าปูที่นินลอยขึ้นอย่างเชื่องช้า ทว่าจี้หยวนซึ่งนอนตะแคงอยู่บนเตียงไม่ได้ลืมตา เพียงพูดลอยๆ ว่า

“ข้าจัดการไว้แล้ว ปล่อยมันไปเถอะ!”

ได้ยินเจ้านายออกคำสั่ง กระบี่เครือเขียวตกลงอีกครั้ง พิงอยู่ข้างเตียงอย่างสงบดังเดิม

ผ่านไปประมาณไม่ถึงสองลมหายใจ จี้หยวนพลันลุกจากเตียงขึ้นนั่ง

“เรื่องน่าสนุกขนาดนี้ ไม่มีเหตุผลให้ข้าไม่ไปดูสักหน่อยกระมัง ไปดีกว่า!”

จี้หยวนรีบสวมเสื้อนอกใส่รองเท้าเรียบร้อย พกกระบี่เครือเขียวกระโดดออกไปทางหน้าต่างเช่นกัน

…

ในสองวันหนึ่งคืนที่นั่งเรือมาจังหวัดชุนฮุ่ยก่อนหน้านี้ จี้หยวนและอิ๋นชิงนัดหมายกับปลาชิงฮื้อนัดเรียบร้อยว่าจะพบกันที่ริมแม่น้ำ เพื่อให้หลังจากนี้อิ๋นชิงมาพบปลาชิงฮื้อในวันหยุดเรียนได้สะดวก

ส่วนหูอวิ๋นก็นัดพบปลาชิงฮื้อในคืนนี้อย่างลับๆ เช่นกัน มันรู้สึกว่าตอนกลับไปท่านจี้อาจเหยียบเมฆขี่หมอกกลับอำเภอหนิงอัน จึงถือโอกาสพบสหายใหม่สนทนากันตอนนี้เสียเลย

ความตื่นเต้นที่จะได้ไปเจอปลาชิงฮื้อกำจัดความกังวลอันเกิดจากสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยไปแล้ว หูอวิ๋นวิ่งตลอดทางจนถึงกำแพงเมือง วิ่งไต่กำแพงขึ้นไปเหนือหลังคากำแพงเมืองราวกับตุ๊กแก จากนั้นวิ่งตามกำแพงเมืองลงไป สุดท้ายวิ่งเลียบช่วงแม่น้ำมุ่งหน้าทางใต้ไปพลาง ตามหาไปพลาง

ประมาณไม่ถึงหนึ่งเค่อ ในที่สุดหูอวิ๋นก็พบสถานที่นัดหมาย ตำแหน่งของต้นหลิวแข็งแรงหลายต้นเอนไปยังกลางแม่น้ำก็คือสถานที่ซึ่งตระกูลเว่ยพบเต่าเฒ่าในตอนนั้น

พอหูอวิ๋นเห็นต้นหลิวหลายต้นเอนหาแม่น้ำ ในใจเกิดความดีใจรีบกระโดดไปข้างหน้า ยืนอยู่บนต้นหลิวซึ่งเอนหาแม่น้ำต้นหนึ่งโดยตรง

ขณะมองผิวแม่น้ำสีดำมืด หูอวิ๋นส่งเสียงเรียกเบาๆ

“ชิงฮื้อ…ชิงฮื้อ…เจ้าอยู่หรือไม่”

ซ่า…

ผิวน้ำใต้ต้นหลิวกวนจนเกิดละอองน้ำ ปลาชิงฮื้อตัวหนึ่งลอยขึ้นมา

“บุ๋ง…บุ๋ง…บุ๋ง…”

“ฮ่าๆๆ เจ้าอยู่นี่ วันนี้ท่านจี้พาข้าไปร้านขนมที่ใหญ่มากๆ ร้านหนึ่ง คึกคักยิ่งกว่าหอนอกศาลที่อำเภอหนิงอันอีก ของข้างในก็อร่อยมากด้วย มาๆๆ อย่าหาว่าพี่หูไม่นึกถึงเจ้า ท่านจี้ไม่อนุญาตให้ข้าไปหาอิ๋นชิง ข้าจึงนำมามอบให้เจ้าแทน”

หางใหญ่ของหูอวิ๋นกวาดไปข้างหน้า อุ้งเท้าคู่หนึ่งคลำกลางขนหางยาวอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะปลดห่อใบบัวขนาดเล็กสองห่อลงจากข้างใน

เมื่อเห็นภาพนี้ จี้หยวนซึ่งซ่อนตัวอยู่บนต้นหลิวต้นหนึ่งตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ไม่ไกลออกไปชะงักค้าง เขารู้ว่าหูอวิ๋นซ่อนขนมไว้ ทว่าก็หลับตาข้างหนึ่งไม่ใส่ใจ ไม่คิดเลยว่าจะซ่อนไว้มากขนาดนี้ ด้วยนิสัยหวงอาหารของหูอวิ๋นแล้วนับว่ายากนักจะได้เห็น

จิ้งจอกแดงแกะห่อใบบัวช้าๆ โยนขนมข้างในลงน้ำทีละชิ้น ปลาชิงฮื้อคอยรับอยู่ข้างล่าง

“ฮ่าๆๆ…ไม่ทราบว่าให้ข้าชิมรสชาติขนมบ้างได้หรือไม่”

ผิวน้ำไม่ไหลเกิดระลอกคลื่นขนาดใหญ่ เสียงแก่ชราดังมาจากทางนั้น ปลาชิงฮื้อว่ายน้ำห่างออกไปไกลมากตามสัญชาตญาณ รออยู่ริมฝั่งแต่กลับไม่กล้าออกไปไกลเกินไป เพราะหูอวิ๋นยังอยู่บนต้นหลิวอยู่เลย

ครืน…

เต่าเฒ่ากระดองดำลอยขึ้นมาเหนือผิวน้ำ ต้นหลิวเอนเข้าหาผิวน้ำ ดวงตาเต่าขนาดใหญ่ห่างกับดวงตาจิ้งจอกเพียงไม่ถึงหนึ่งหมี่

‘เต่าเฒ่าตัวใหญ่นัก ใหญ่กว่าเจ้าภูเขาลู่เสียอีก…’

หูอวิ๋นเสียดายอยู่บ้างที่ไม่ได้หนีไปตั้งแต่แรกเพราะความใคร่รู้ ส่วนตอนนี้ตกตะลึงตัวแข็งค้างไปแล้ว

“ท่านก็อยากกินขนมหรือ”

จิ้งจอกแดงมองห่อใบบัวที่แผ่อยู่บนก้านต้นหลิว สงสัยยิ่งนักว่าขนมที่เต่าเฒ่าพูดถึงหมายถึงพวกนี้หรือไม่ ไม่แน่ว่าตนเองต่างหากที่เป็นขนมของมัน ทว่าก็ยังคงคว้าขนมหลายชิ้นโยนลงไปตามสัญชาตญาณ

เต่าเฒ่ายืดคออ้าปากรับขนมที่ต่อให้ยัดซอกฟันยังไม่พอ เคี้ยวอยู่ในปากครู่หนึ่ง

“อืม…รสชาติดี”

เต่าเฒ่ามองจิ้งจอกแดงและปลาชิงฮื้อที่อยู่ห่างออกไปสองสามจั้งและกำลังกลัวอย่างชัดเจน ทว่าทรงตัวและเตรียมพร้อมแล้ว

“วันนี้ใต้เท้ายักษ์แดงมีธุระ จึงรบกวนข้าลาดตระเวนช่วงแม่น้ำนี้แทน คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้พบท่านสองท่าน นับว่ามีวาสนาต่อกันแล้ว เผ่าวารีว่ายน้ำอยู่ในแม่น้ำไม่แปลก กลับเป็นจิ้งจอกแดงอย่างเจ้าที่ปรากฏตัวนอกจังหวัดชุนฮุ่ย ไม่กลัวถูกเจ้าหน้าที่ศาลมืดจับไปหรือ”

“ข้า เรื่องนั้น…ข้าไม่กลัว!”

หูอวิ๋นใช้อุ้งเท้าแหวกขนตรงหน้าอก เผยให้เป็นแผ่นป้ายไม้หยิน

“อ้อ…เมื่อครู่ข้าก็รู้สึกอยู่ว่าปราณของเจ้าพิเศษยากจะคาดเดาได้ ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง แต่เจ้าอยู่ที่จังหวัดชุนฮุ่ยได้ ส่วนปลาชิงฮื้ออยู่ในช่วงแม่น้ำนี้ไม่ได้”

เต่าเฒ่ายื่นเท้าข้างหนึ่งออกมา ปลาชิงฮื้อเพียงรู้สึกว่ากระแสน้ำรอบกายพลันหมุนเวียนคล้ายน้ำวน ทำให้มันว่ายออกไปไหนไม่ได้เลย จากนั้นถูกชักนำให้ไปอยู่ใกล้ๆ เต่าเฒ่า

“นี่ๆๆ ท่านทำอะไรน่ะ ปล่อยชิงฮื้อนะ ระวังข้าตามท่านจี้มาจัดการท่าน!”

เต่าเฒ่ายิ้ม ยากนักจะได้เห็นเผ่าวารีและปีศาจบนพื้นพิภพมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันขนาดนี้

“เอาอย่างนี้แล้วกัน การจะได้พบเผ่าปีศาจบนแผ่นดินเป็นเรื่องยาก เจ้าก็นับว่าหลอมกระดูกแล้ว อีกทั้งพูดภาษาคนได้ด้วย ต้องมีประสบการณ์บางอย่างแน่ อยู่คุยเล่นกับข้า หากมีเรื่องน่าสนใจอะไรเล่าให้จนข้ารู้สึกสนุก ข้ารับปากว่าจะช่วยไปขอร้องใต้เท้ายักษ์และเทพแม่น้ำสักครั้ง เพื่อให้ปลาชิงฮื้ออยู่ในช่วงแม่น้ำนี้”

เต่าเฒ่าพูดเช่นนี้นับว่าเป็นการประกาศฐานะตนเอง ชัดเจนว่าตนเองสนิทสมกับเทพแม่น้ำเช่นกัน แต่ความจริงแล้วเรื่องพรรค์นี้ขอร้องยักษ์ก็พอแล้ว

“เอ่อ เรื่องอะไรดี”

“ย่อมต้องเป็นเรื่องบนแผ่นดินอยู่แล้ว!”

หูอวิ๋นรู้สึกว่าคำขอพรรค์นี้น่าจะไม่นับเป็นเรื่องยาก ปลาชิงฮื้ออยู่ข้างๆ เช่นกัน จึงลองเล่าเรื่องบนภูเขาและในอำเภอหนิงอัน กอปรกับเต่าเฒ่าพูดเสริมหลายประโยคอยู่เรื่อยๆ ทำให้จิ้งจอกแดงยิ่งเล่ายิ่งสนุก ยิ่งพูดยิ่งเก็บงำไว้ไม่ได้

ความรู้สึกที่ได้สนทนากับเผ่าปีศาจอื่นแล้วได้รับการเห็นพ้องต่างจากเวลาสนทนากับอิ๋นชิงมาก และเต่าเฒ่ายิ่งแตกต่างกับเจ้าภูเขาลู่ อีกฝ่ายอ่อนโยนกว่าอย่างเห็นได้ชัด จิ้งจอกแดงฮึกเหิมขึ้นเรื่อยๆ เล่าประสบการณ์ส่วนตัวจำนวนหนึ่งไม่ยอมหยุด

จนสุดท้ายเล่าถึงเรื่องลงเขาได้รับบาดเจ็บครั้งนั้น ขณะพูดอยู่หูอวิ๋นรู้สึกแปลกๆ อยู่บ้าง เต่าเฒ่าไม่ได้พูดอะไรนานทีเดียว บรรยากาศแปลกไปเช่นกัน

ครั้นก้มหน้าตั้งใจมองผิวน้ำ กลับพบปากเต่าขนาดใหญ่

โครม

เต่าเฒ่ากัดกิ่งขนาดใหญ่ของต้นหลิว ห่างจากจิ้งจอกแดงที่ตะลึงตาค้างเพียงแค่ฉื่อเดียว

หูอวิ๋นหันหน้าไปมองกิ่งไม้อย่างช้าๆ ราวกับรูปปั้นไม้ ตรงนั้นถูกปากเต่ากัดจนแหว่ง ถ้าอีกฝ่ายไม่ได้กัดต้นไม้แต่กัดตนเองล่ะก็…

“ฮู่…ฮู่…”

เต่าเฒ่าส่งเสียงหน้าประหวั่นออกมา เคี้ยวท่อนไม้อยู่ครู่หนึ่งค่อยกลืนลงไปโดยตรง

“ที่แท้…ที่แท้จิ้งจอกน่าตายนั่นก็คือเจ้า…”

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 198 ที่แท้เป็นเจ้า!"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์