เซียนหมากข้ามมิติ - ตอนที่ 227 น้ำท่วมแล้ว
ตอนที่ 227 น้ำท่วมแล้ว
เมื่อประกายกระบี่จางหาย มังกรเจียวดำหอบหายใจฮึดฮัดอยู่บนพื้นไม่หยุด แม้หายใจย่ำแย่กว่าเมื่อครู่นี้เล็กน้อย แต่กลับรับรู้ถึงความผ่อนคลายได้อย่างชัดเจน
เทพหลักเมืองกับมังกรเจียวบนพื้นต่างก็ผ่อนคลายไม่น้อย สิ่งของก่อนหน้านี้แม้จะแปลกพิสดารมาก ทว่าอย่างไรเสียมีจี้หยวนอยู่ข้างๆ ความคิดที่ว่าต่อให้ฟ้าถล่มก็ยังมีผู้สูงส่งยันไว้ไม่ได้มีอยู่กับชาวบ้านเท่านั้น
มองดูรอบๆ หุบเขาหมู่บ้านสะพานโค้งคู่ คนที่อยู่ในบ้านเหล่านั้นส่วนใหญ่ได้ยินมังกรร้องและเสียงร้องประหลาดแหลมแสบหูจากระยะใกล้แล้วเป็นลมสลบไป มีคนไม่น้อยเลือดไหลออกจากหูด้วย
เทพหลักเมืองหลี่ลงมืออย่างทันท่วงที แสงสีรุ้งปกคลุมรอบพื้นที่ขนาดใหญ่ในชั่วพริบตา ชาวบ้านหลายคนน่าจะไม่เป็นไรมาก อย่างมากฟื้นขึ้นมาแล้วหูหนวกช่วงระยะเวลาหนึ่ง ไม่มีทางส่งผลกระทบต่อชีวิตหลังจากนั้น แน่นอนว่าความตื่นกลัวในช่วงนั้นย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้
จี้หยวนยังคงเปิดตาทิพย์เต็มที่ สังเกตรอบกายมังกรเจียวดำอย่างละเอียด ขณะเดียวกันสายตากวาดมองท้องฟ้าสูง ไม่กล้าลดความระแวดระวังลงชั่วคราว
แม้ตาทิพย์จะพิเศษมาก แต่เมื่อเข้าใจและสัมผัสเรื่องราวต่างๆ มากขึ้น ประสบการณ์มากขึ้นตาม จี้หยวนยิ่งมายิ่งเข้าใจบางสิ่งบางอย่าง ถึงแม้เปิดตาทิพย์เต็มที่ก็ไม่อาจมองตรงๆ จนเกินไปได้
พูดตามตรงว่ายากนักที่โลกนี้จะมีวิชาเร้นร่างโดยสมบูรณ์ แต่กลับซ่อนร่องรอยแม้เพียงเล็กน้อยได้ดีมาก พลังมองทะลุก็คล้ายคลึงกัน ถึงใช้ตาทิพย์มองก็จำต้องตั้งอกตั้งใจถึงจะใช้ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ามีอะไรเล็ดรอดตาทิพย์ของเขาไปได้
หลังจากนั้นครู่ใหญ่ จี้หยวนผ่อนลมหายใจเล็กน้อย ตอนนี้น่าจะไม่เป็นไรแล้วจริงๆ
“เอาล่ะ มังกรเจียวดำ ตอนนี้พูดได้แล้วใช่หรือไม่”
“ฮู่…ฮู่…ฮู่…”
ขณะหอบหายใจ ปากมังกรเจียวดำมีไอสีขาวหลายกลุ่มพ่นออกมา นอกจากนั้นแล้วปราณพิสุทธิ์ราวสายน้ำที่ไหลออกจากร่างเริ่มหยุดลงแล้ว
เดิมทีอยากใช้อุ้งเท้ามังกรยันกายลุกขึ้น แต่ฝืนอยู่ครู่หนึ่งแล้วกลับไร้เรี่ยวแรง จึงทำได้เพียงพยายามผงกศีรษะมังกรให้จี้หยวน
“ขอบคุณ…ขอบคุณท่านจี้ที่มีเมตตาช่วยเหลือ…ไม่เช่นนั้นโม่หรงคงต้องตายไปแล้ว…เกรงว่าจะไม่ตายอย่างสงบเสียด้วยซ้ำ!”
มังกรเจียวดำขยับลูกตา ดวงตาสีอำพันกวาดมองโดยรอบ ชัดเจนว่ามองไปถึงหมู่บ้านรอบข้างด้วย จากนั้นมองหลี่เทียนเป่า เทพหลักเมืองจังหวัดลี่ซุ่นก่อนถึงค่อยมองที่ตัวจี้หยวน
“ท่านจี้ ข้ายังหวังให้ท่านเชิญประมุขมังกรมา ข้าน้อยถูกดึงเส้นเอ็นมังกรไป ปราณพิสุทธิ์รอบกายก็แทบจะจางหายไปจนสิ้น เหลือเวลาไม่มากแล้ว แต่หากยังไม่บอกเรื่องในใจกับประมุขมังกรด้วยตนเอง ข้าไม่มีทางตายตาหลับแน่”
เทพหลักเมืองหลี่เป่าเทียนมุ่นคิ้วถามด้วยความแปลกใจ
“หรือว่าแม้แต่ท่านจี้ก็จัดการไม่ได้รึ”
มังกรเจียวดำขยับหนวดมังกรครั้งหนึ่ง แววตาเหนื่อยล้า
“ท่านจี้ใช้พลังขับไล่วิญญาณผูกมัดวิญญาณก็ถือว่าวิเศษยิ่งนักแล้ว…แต่ข้าคนแซ่โม่เชื่อใจประมุขมังกรยิ่งกว่า…หวังว่าท่านจี้จะพิจารณาด้วย!”
มังกรพ่นลมหายใจกลิ่นคาวเลือดออกมา
“ฮู่…เฮือก…ฮู่…”
พูดอยู่หลายประโยคแล้ว มังกรเจียวดำคล้ายกับสิ้นเปลืองแรงมหาศาล หอบหายใจอย่างชัดเจน
“ตนลง ข้าคนแซ่จี้จะส่งข่าวไปที่แม่น้ำเทียมฟ้า!”
จี้หยวนไม่ได้ใส่ใจ แต่ไหนแต่ไรเขาไม่ใช่คนขี้โมโห ถึงอย่างไรก็เป็นเผ่าปีศาจ ไม่เชื่อเขาย่อมเป็นเรื่องปกติ อีกอย่างเขาไม่ใช่สหายสนิทจากแม่น้ำเทียมฟ้า และไม่ใช่ว่าเทพแม่น้ำวสันต์ก็พึ่งพาเขาแบบนั้น รวมถึงอีกฝ่ายเป็นเผ่ามังกร เมื่อเผชิญหน้ากับความตายก็ยังคงทะนงตนอยู่ดี
เขาไม่ได้ลังเลมาก นิ้วชี้ทิ่มขึ้นสู่ท้องฟ้า จากนั้นกระบี่เครือเขียวพุ่งขึ้นด้านบนทันที ยิ่งบินไปยิ่งรวดเร็วท่ามกลางสายฟ้าหลากสายฟาดลงสู่เมฆดำ สุดท้ายเร้นกายเข้าสู่สายลมเหนือหมู่เมฆ บินสู่จังหวัดจิงจีทันที
“ท่านจี้ ร่างมังกรเจียวดำอยู่กลางหมู่บ้านคงไม่เหมาะสม ขอท่านใช้จิตย้ายไปที่ทะเลสาบไพศาลดีกว่า”
เทพหลักเมืองหลี่คำนึงถึงผลกระทบที่เรื่องมังกรตกจากฟ้ามีต่อคนธรรมดา จึงหวังว่าท่านจี้จะย้ายมังกรเจียวยักษ์ความยาวหลายสิบจั้งไปยังทะเลสาบไพศาลที่อยู่ห่างออกไปสามสิบลี้
ย้ายมังกรที่เทพหลักเมืองว่าย่อมไม่ใช่ใช้ร่างกายไปย้าย แต่เป็นการใช้วิชาบางอย่างต่างหาก ทั่วไปเรียกกันว่าวิชาขนย้าย ทว่าในนั้นมีวิชาขนย้ายผีและจิตวิญญาณ และมีเคล็ดวิชาพลังโยกย้ายด้วย ท่ามกลางวิชาที่คล้ายกันมากมายย่อมมีข้อดีและหลักการของตนเอง
ทว่า…จี้หยวนเบิกดวงตาสีเทากว้างขึ้นเล็กน้อย มองไปยังร่างกายสีดำใหญ่ซึ่งมีเกล็ดหนาแน่น มันใช่สิ่งที่เขาแซ่จี้ย้ายได้หรือ
แต่ปล่อยมังกรเจียวทิ้งไว้เช่นนี้ไม่เหมาะสมจริงๆ เมื่อฝนหยุดแล้วจะต้องดึงดูดชาวบ้านมามุงดูอย่างแน่นอน และด้วยปรานมังกรคุกคาม ปล่อยไว้นานไม่จัดการทำให้คนใจเสาะอกสั่นขวัญแขวนได้อยู่แล้ว
เมื่อคิดถึงฝน เขาใช้มือข้างซ้ายและขวาขยับตัดสลับกัน เกิดอากาศไหลออกจากแขนเสื้อ ด้วยใช้เคล็ดวิชาควบคุมร่วมด้วย พลังจำนวนมากจึงหลั่งออกมาตามการใช้เคล็ดวิชา ขณะเดียวกันก็ปรากฏชัดเจนในแขนเสื้อ
แม้จุดตันเถียนแสดงวิชาของจี้หยวนไม่ใหญ่ ขอบเขตพลังไม่กว้าง แต่ปราณโอสถในเตาโอสถเขตแดนยิ่งใหญ่มหาศาลนัก จุดเด่นที่ใหญ่ที่สุดก็คือฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ขอเพียงไม่ได้สิ้นเปลืองพลังปริมาณมากในครั้งเดียวเหมือนเมื่อครู่นี้ ในสภาวะที่รักษาความเร็วขณะใช้พลังได้ก็มีความรู้สึกต่อเนื่องแล้ว
ยิ่งจี้หยวนสำแดงวิชา น้ำฝนผืนใหญ่เริ่มรวมกลุ่มกันบริเวณใกล้เคียง หลายสถานที่ถึงขนาดมีความรู้สึกว่าฝนตกแรง ฝนตกปานกลาง ฝนตกปรอยๆ ไล่เรียงกันมา
ซ่า…ซ่า…
เทพหลักเมืองพบว่ากระแสน้ำใต้เท้าเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมองไปยังบ้านเรือนในหมู่บ้านโดยรอบ ทางนั้นมีน้ำเพิ่มสูงขึ้นมากแล้ว แม้ระดับน้ำเกือบสูงเท่าบานประตู ทว่าไม่ได้ไหลเข้าไปในตัวเรือน
‘วิชาเลี่ยงวารีนี้ยอดเยี่ยมนัก!’
นอกจากได้รับการกราบไหว้เป็นเจ้าที่ตั้งแต่แรก พวกเทพหลักเมืองแทบเป็นเทพที่อาศัยแรงปรารถนากำยานฝึกปราณขึ้นมาได้ ยิ่งสะสมใช้วิชาผีหรือวิชาหยินจะก่อให้เกิดข้อจำกัดด้านวิชาธาตุทั้งห้า อย่างไรเสียขาดกายเนื้อไปแล้ว ต่อให้มีอายุขัยสำเร็จในวิชาร่างทอง ก็ไม่มีทางฝึกวิชาห้าธาตุเสมือนเป็นของตนเองได้อย่างชัดเจน แต่ไม่ได้หมายความว่าเทพหลักเมืองแยกแยะความสำเร็จของวิชาพรรค์นี้ไม่ได้
ว่ากันว่าเห็นลายจุดเดียวก็รู้ทั้งตัวเสือดาว แม้ค่อนข้างมองด้านเดียว แต่ก็เพียงพอให้เทพหลักเมืองจังหวัดลี่ซุ่นหลี่เป่าเทียนจินตนาการออกว่าท่านจี้เป็นคนเช่นไร ถึงสำแดงความสามารถของการควบคุมได้ทุกรูปแบบ
ซ่า…ซ่า…
ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานก็พ้นทั้งร่างของมังกรเจียวดำในที่สุด
ฝนยังคงตกหนัก ทว่าหมู่บ้านสะพานโค้งคู่คล้ายกับจมสู่ทะเลสาบใหญ่มากกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว คลื่นน้ำซัดเข้าที่หน้าหมู่บ้านอย่างแรงกลับไม่สร้างความเสียหายแม้แต่น้อย
ที่จริงจี้หยวนนับว่าใช้วิธีที่ค่อนข้างมีเล่ห์เหลี่ยม เพราะวิชาที่เขาใช้เป็นตลอดมานี้ไม่นับว่ามีมาก ถึงขนาดผ่านมานานมากแล้วก็ใช้เป็นแค่วิชาคุมเพลิงและวิชาเลี่ยงวารี เขาจึงเป็นกังวลมากในการปรับใช้วิชาเป็นเวลานาน
การมีอยู่ของเสียงบัญชาก็ทำให้เขาใช้วิชาต่างๆ ได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้หมากซ่อนซึ่งอยู่ในแขนเสื้อดูดซับปราณวิญญาณร้ายและปราณพิสุทธิ์ที่ไหลออกจากมังกรเจียวดำอย่างต่อเนื่อง ลดความสิ้นเปลืองในการใช้พลังลงแล้ว ทำให้ใช้วิชาคุมวารีจนระดับน้ำเท่าในตอนนี้ได้
แต่เวลานี้จี้หยวนพบปัญหาหนึ่งอย่างรวดเร็ว สายตามองมังกรเจียวดำที่ยังไม่จมลงน้ำ
‘ดูเหมือน…ถ้าจมลงน้ำแล้วจะไม่ลอยขึ้นมา…’
ร่างของมังกรเจียวมีขนาดใหญ่มาก หนักมากเช่นกัน เหมือนกับเหล็กสีดำยาวหลายสิบจั้งอย่างไรอย่างนั้น เมื่ออยู่กลางกระแสน้ำจึงไม่ขยับเลยแม้แต่นิดเดียว
เท่านี้ก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกมากแล้ว ด้วยความสามารถในการคุมวารีของจี้หยวนในตอนนี้ อาศัยปราณย้อนกลับอย่างต่อเนื่องโคจรพลัง ความจริงรวมลมก่อคลื่นจึงไม่นับว่ายากลำบากเกินไป แต่หากต้องการอานุภาพชนิดคลื่นยักษ์เทียมฟ้าถาโถม เพียงครู่เดียวก็เกินขีดจำกัดการใช้พลังของเขาแล้ว
หากใช้คำพูดเมื่อชาติก่อนก็คือ บรรลุศักยภาพของน้ำที่ยืดยาวไม่ขาดสายได้ แต่ก็ขาดพลังระเบิดที่รุนแรงเช่นกัน
โชคดีที่ความกลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้ไม่ได้คงอยู่นานมาก หลังจากนั้นไม่กี่ลมหายใจ มังกรเจียวดำที่แต่เดิมอยู่ในสภาวะหลับใหลก็รู้สึกได้ว่าตนเองจมลงสู่กระแสน้ำ ตอนนี้คล้ายกับฟื้นฟูกำลังขึ้นมาได้บ้างแล้ว สติสัมปชัญญะก็แจ่มชัดขึ้นมากเช่นกัน
มังกรเจียวดำรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของกระแสน้ำ ยิ่งรู้สึกได้ถึงปราณวิญญาณและปราณพิสุทธิ์ที่เต็มเปี่ยมในกระแสน้ำ ทำให้มันรู้สึกได้ว่าเรี่ยวแรงฟื้นกลับมาอย่างช้าๆ ความเจ็บปวดบนร่างหายทุเลาลงอย่างชัดเจน
“ขอบคุณท่านจี้มาก!”
หนวดมังกรสองเส้นของมังกรเจียวดำขยับขึ้นลงในกระแสน้ำ มันลืมดวงตาสีอำพันขึ้นอีกครั้ง กรงเล็บมังกรทั้งสี่ถีบไปข้างหลังอย่างเชื่องช้า ร่างมังกรแหวกว่ายเคลื่อนไหวอยู่ในสายน้ำแล้ว
ซ่า…
ละอองน้ำปริมาณมากปะทะขึ้นจากกลาง ‘ทะเลสาบ’ ซึ่งปรากฏขั้นใหม่ มังกรเจียวดำขนาดยักษ์เคลื่อนไหวอยู่ที่ ‘ก้นทะเลสาบ’ แล้ว
ขณะที่จี้หยวนผ่อนลมหายใจและใช้วิชาคุมวายุร่วมด้วย กระแสน้ำก่อตัวเป็นยอดน้ำท่วมที่อบอุ่น ไหลไปทางทะเลสาบไพศาลท่าเดียว
หมู่บ้านอยู่ห่างจากทะเลสาบไพศาลสามสิบลี้ ระยะทางนี้ถือว่าปกติ ไม่ว่าสำหรับเทพหลักเมืองหลี่เป่าเทียนหรือจี้หยวน รวมถึงตัวมังกรเขียวดำเองล้วนเป็นระยะทางที่เดินเล่นแล้วไม่นับว่าไกล แต่ตอนนี้กลับเป็น ‘ขบวน’ ขนาดเล็กช่วงหนึ่ง
เทพหลักเมืองจังหวัดลี่ซุ่นเริ่มไม่เข้าใจอยู่บ้าง ท่านจี้ใช้วิชาคุมวารีที่วิเศษปานนี้ช่วยมังกรเจียวดำใกล้ตายว่ายน้ำกลับทะเลสาบไพศาล จิตวิญญาณและพลังที่สูญเสียไประหว่างนั้นยากนักจะประเมินได้ มิสู้ย้ายมังกรเจียวไปที่ทะเลสาบไพศาลโดยตรงน่าจะลำบากน้อยกว่านี้
แต่ไม่นานนักเทพหลักเมืองหลี่ก็สัมผัสได้ มังกรเจียวดำเริ่มจากดิ้นรนในคลื่นน้ำก่อนจะค่อยๆ ว่ายน้ำอย่างชำนาญ ปราณพิสุทธิ์และจิตวิญญาณกลับคืนสู่สภาพปกติ ไม่ได้ได้ไหลออกไปไม่กลับมาเพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะการฟื้นคืนของ ‘วิญญาณ’ ที่กว่าจะได้คืนกลับมาไม่ใช่เรื่องง่าย
‘เหมือนกับในคำร่ำลือดังคาด ท่านจี้เคารพและให้ความสำคัญกับผู้ใฝ่ในมรรคและอดทนฝึกปราณอย่างมีวินัยทุกคน’
เทพหลักเมืองใคร่ครวญ เพราะการเคลื่อนไหวของมังกรเจียวดำในตอนนี้ไม่เพียงฟื้นคืนกำลังกลับมาได้เล็กน้อย จากแม้แต่ยืนก็ยืนไม่ขึ้นจนกระทั่งว่ายน้ำเองได้ สิ่งที่ได้กลับมาด้วยเช่นกันคือความมั่นใจ หัวใจกลับมากล้าแกร่ง อย่างน้อยก็ช่วยให้มันอดทนได้อีกระยะหนึ่ง
ความจริงแล้วหมู่บ้านสะพานโค้งคู่มีคูน้ำเล็กๆ ไหลผ่าน ทั้งหน้าและหลังหมู่บ้านมีสะพานโค้ง จึงตั้งชื่อว่าหมู่บ้านสะพานโค้งคู่ ตอนนี้จี้หยวนใช้วิชาคุมวารีช่วยมังกรเจียวว่ายน้ำ สองฝ่ายรวมพลังกันคุมคลื่นอ้อมสะพานโค้งคู่ด้านหน้า จากนั้นเข้าสู่คูน้ำไป
ทว่าคูน้ำนี้เล็กเกินไป มังกรเจียวอยู่ในนั้นไม่ได้โดยสิ้นเชิง ดังนั้นคลื่นน้ำสูงหกถึงเจ็ดจั้งยังคงเคลื่อนที่ไปข้างหน้า อีกทั้งขยายไปยังทั้งสองข้างของคูน้ำ เรียกได้ว่าเป็นมวลน้ำมหาศาลไหลบ่าไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง
คูน้ำเชื่อมต่อกับทะเลสาบไพศาล ระยะทางสามสิบหว่าลี้จะผ่านหมู่บ้านจำนวนหนึ่ง มีคนในหมู่บ้านเห็นฝนตกหนักเกิดเป็นคลื่นน้ำขนาดใหญ่เต็มทั้งสองข้างของคูน้ำ อีกทั้งพุ่งมาทางนี้อย่างแรง จึงส่งเสียงร้องด้วยทำอะไรไม่ถูกอยู่ไม่น้อย
“น้ำท่วมแล้ว…น้ำท่วมแล้ว…”
“น้ำท่วมแล้ว!”
“ท่านแม่ช่วยด้วย ไยน้ำในคูน้ำถึงได้สูงขนาดนี้”
ทว่าตกอกตกใจได้ชั่วครู่เท่านั้น ไม่นานพวกเขาก็พบว่าน้ำปริมาณมากคล้ายกลับเกิดจากคนจากสวรรค์ถือถังสาดน้ำใส่ กระนั้นไหลบ่าตามคูน้ำไปข้างหน้าเท่านั้น ไม่ได้เข้าใกล้บ้านเรือนชาวบ้านรายทางและไม่ส่งผลกระทบอะไรมาก กระแสน้ำไหลเชี่ยวอยู่บ้างแต่สูงไม่พ้นข้อเท้า
พร้อมกันนั้นเอง มีคนจำนวนไม่น้อยอาศัยอยู่ในพื้นที่ค่อนข้างสูง เมื่อมองดูน้ำมหาศาลที่พุ่งมานี้จากระยะไกล พวกเขามองเห็นว่าน้ำตรงใจกลางดูขุ่นมั่ว รู้สึกอยู่รางๆ ว่ามีสิ่งมีชีวิตบางอย่างเคลื่อนไหวไปข้างหน้าอยู่ในนั้น
จากหมู่บ้านสะพานโค้งคู่ถึงข้างทะเลสาบไพศาล ใช้เวลาหนึ่งชั่วยามกว่ากับระยะทางสามสิบลี้ พลังที่จี้หยวนใช้ไปถือว่าน้อยกว่าครั้งอื่น กระนั้นสิ้นเปลืองแรงใจไปไม่น้อยเช่นเดียวกัน ถึงขนาดด้วยวิธีการนี้ของเขา รวบรวมปราณพิสุทธิ์ซึ่งรั่วไหลออกจากมังกรเจียวเหล่านั้นไปพลาง ควบคุม ‘มวลน้ำ’ ไปข้างหน้าอย่างพิถีพิถันไปพลาง ตัวเขาเองคิดดูแล้วก็รู้สึกเหลือเชื่อเช่นกัน
หลังจากมวลน้ำถอยไป คูน้ำสายนั้นถูกขยายออกหลายเท่า รูปทรงของหลายๆ สถานที่เหมือนกับมีงูเลื้อยผ่าน หมู่บ้านสะพานโค้งคู่ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นมีร่องคลานลึกและใหญ่ยาวไปจนถึงคูน้ำสายหนึ่งบริเวณหุบเขา