เซียนหมากข้ามมิติ - ตอนที่ 229 ตามธาราหลังตาย
ตอนที่ 229 ตามธาราหลังตาย
หลังจากมังกรเฒ่าไปแล้ว จี้หยวนครุ่นคิดเรื่อง ‘ความโกลาหล ณ เขตแดนอันแห้งแล้งทั้งสอง’ ที่อีกฝ่ายกล่าวถึงเมื่อครู่นี้ พูดให้ถูกต้องน่าจะเป็นเกาะทักษิณรกร้างและเกาะวิญญาณนิทราทมิฬ
เกาะทักษิณรกร้างมีภูเขาใหญ่รกร้างและลึกลับเป็นพันหมื่น ทีแรกรู้เรื่องความโกลาหลของยาลูกกลอนจากปากกวางขาว แต่ความจริงแล้วโกลาหลมาตลอดตั้งแต่ในอดีต เล่ากันว่าเป็นสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยมารและปีศาจ
แม้เกาะวิญญาณนิทราทมิฬจะมีคำว่าเกาะวิญญาณ แต่ความจริงแล้วย่ำแย่กว่าเกาะทักษิณรกร้างอยู่หลายระดับ พื้นที่ทั้งหมดนับว่ากว้างใหญ่ไพศาลในบรรดาดินแดนสิบทิศใต้หล้า บนนั้นเป็นทิวทัศน์ธรรมชาติที่ค่อนข้างกว้างอ้างว้าง ทว่ามีภูเขาแม่น้ำที่สวยงาม กระนั้นภายในกลับวุ่นวายโกลาหล
สิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้สภาพการณ์โกลาหลมีนับไม่ถ้วน มรรคเซียนตามครรลองส่วนน้อยขอไม่พูดถึง สิ่งที่มีมากกว่าคือกลุ่มกำลังมารและมหามารพลังแก่กล้า กำลังคนมีน้อยนิดเป็นอย่างยิ่ง ถึงขนาดเล่ากันว่าซ่อนตัวอยู่ในถ้ำจำนวนหนึ่ง และมีมนุษย์จากอาณาจักรตกอยู่ในการควบคุมของมารปีศาจ ถูกใช้งานเยี่ยงปศุสัตว์
พื้นที่เกาะทั้งสองถูกคนในโลกฝึกปราณดั้งเดิมเรียกว่า ‘ทักษิณรกร้าง’ และ ‘ทมิฬรกร้าง’ แต่ชัดเจนว่าเกาะแรกแค่มีหนึ่งพื้นที่รกร้างบนเกาะ แต่เกาะหลังวุ่นวายเป็นอย่างยิ่งโดยสมบูรณ์
และเมื่อพูดถึงเรื่องเกาะนิทราทมิฬ ก็จำต้องพูดเรื่องในอดีตอีกเรื่องที่อยู่ในใจจี้หยวน แผ่นไม้หยินที่เทพหลักเมืองจังหวัดชุนฮุ่ยฝากอิ๋นจ้าวเซียนมามอบให้ในปีนั้น ใช้วิธีวัตถุสื่อจิตบรรยายเนื้อหาการสอบสวน
ว่ากันว่าฮูหยินแดงผู้นั้นเคยเป็นคนรักของมหาปีศาจอยู่ช่วงหนึ่ง นางเคยไปถ้ำ ‘เลี้ยงดู’ แห่งหนึ่งบนเกาะทมิฬรกร้าง ภายในนั้นมี ‘อาณาจักรชู่เหริน’ ตั้งแต่ออกไปจากที่นั่นก็เฝ้าคิดถึงอยู่ตลอด หลายปีให้หลังวางแผนร้ายที่เกาะเมฆาบูรพาได้พอประมาณแล้ว อีกทั้งร่วมมือกับปีศาจไม่น้อย แต่งตั้งตนเองเป็นราชาปีศาจ ปรากฏว่าถูกเทพและผู้ฝึกเซียนหลายแขนงพบเข้า ร่วมกันตามสังหาร สุดท้ายมหาปีศาจถูกสังหารสิ้น ปีศาจจำนวนหนึ่งหนีหายกระจายตัวไป กลุ่มของฮูหยินแดงรอดชีวิตหนีเข้าไปในต้าเจิน
ข้อมูลที่มีอยู่ในไม้หยินเป็นสิ่งที่ปีศาจงูตัวนั้นรวบรวมให้ เทพหลักเมืองมอบแผ่นไม้ให้เช่นนี้ คาดว่าหลักๆ เพื่อบอกจี้หยวนให้รู้เรื่อง แต่ไม่ได้คิดว่าจี้หยวนจะช่วย ‘อาณาจักรชู่เหริน’ นั่นหรือไม่
จี้หยวนทำได้เพียงบอกว่าตอนนี้อยากช่วยแต่ไร้ความสามารถ ข้อมูลไม่เพียงพอเป็นเรื่องรอง ความสามารถไม่ถึงต่างหากเป็นประเด็นสำคัญ
ไม่พูดถึงเรื่องในอดีตที่เข้าใจแล้วเหล่านี้เลย จี้หยวนมีความคิดเดียวกับมังกรเฒ่าเสมอ คิดว่าความโกลาหลของพื้นที่รกร้างทั้งสองจะห่างไกลจากเกาะเมฆาบูรพาและต้าเจินมาก แต่คืนนี้ฟังมังกรเฒ่าพูดแล้ว หากไม่ใช่เพราะเรื่องของมังกรเจียวดำเกี่ยวข้องกับสถานที่เหล่านั้นอย่างสลัดไม่หลุด เช่นนั้นก็ต้องไต่สวนเท่านั้นแล้ว
‘ดูเหมือนก่อนหน้านี้เทพหลักเมืองหลี่ก็พูดอะไรบางอย่างที่ทำให้เรางุนงงเหมือนกัน!’
ตอนนี้จี้หยวนพลันนึกถึงเรื่องความล่าช้าอันเกิดจากมังกรตกจากฟ้า จึงถามรายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับเรื่อง ‘ฤดูใบไม้ร่วงที่จะมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายในต้าเจิน’
เดิมทีจี้หยวนอยากถามว่ารู้รูปลักษณ์ของตนเองได้อย่างไร แค่เรื่องนี้คาดเดาได้ ดังนั้นไม่นับว่าสำคัญอะไร
ปรากฏว่าเรื่องที่พูดคุยกันส่วนใหญ่จี้หยวนรู้หมดแล้วจริงๆ อาณาจักรต้าเจินอยู่ในสภาวะละเอียดอ่อนภายใต้การครองอำนาจของฮ่องเต้หยวนเต๋อ ภายในราชนิกูลของจังหวัดจิงจีและภายในชนชั้นขุนนางเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง หลายสถานที่ด้านในอาณาจักรเกิดปัญหาด้านการปกครอง ส่วนระดับเทพเซียนนั้น ก็มีเรื่องของหอความลับสวรรค์ที่เชื่อมโยงไปถึงทุกฝ่าย เทพผู้มีตำแหน่งและจิตวิญญาณสูงส่งมากมายล้วนเริ่มเข้าใจและเกิดความกังวล
ส่วนชื่อของจี้หยวนก็เป็นสิ่งที่เทพระดับบนจำนวนหนึ่งล่วงรู้ในสถานการณ์แบบนี้เช่นกัน อืม ร่วมกับพลังเหนือธรรมชาติที่ไม่มีใครเทียบได้ของ ‘ท่ากระบี่ฟ้าทลาย’
…
ที่อยู่เดิมของมังกรเจียวดำโม่หรงคือนอกทะเลบูรพา แต่มังกรเจียวต้องการกลายร่างเป็นมังกร สร้างน้ำท่วมถือเป็นหนึ่งในมรรคจริงแท้ที่เก่าแก่ที่สุด มรรควิถีที่ซ่อนอยู่ภายในไม่เพียงเป็นการทำให้เกิดน้ำท่วมแล้วไหลลงแม่น้ำ แต่ยังรวมถึงจุดเริ่มต้นไปสู่ภูเขา แม่น้ำ หนองน้ำที่ไหลมาระหว่างทางด้วย ทะเลสาบไพศาลเป็นหนึ่งในทะเลสาบใหญ่ทั้งสี่ของต้าเจิน เชื่อมโยงสายน้ำจากทั้งสี่ทิศ เป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมซึ่งมองเห็นได้แห่งหนึ่ง
แต่มังกรเจียวดำเป็นสุข ช่วงหนึ่งในรอบหลายเดือนจะว่ายน้ำในทะเลเพื่อล่าสัตว์ขนาดใหญ่กิน ครั้งนี้เข้าใจมรรคระหว่างทางกลับจากทะเลบูรพา
มารที่ลงมือเหล่านั้นเดิมทีไม่คิดจะทำให้มังกรเจียวตัวนี้หนีกลับต้าเจินได้ คิดใช้วิชามารร้ายควบคุมมังกรเจียวดำ เพื่อให้ลงมือภายในพื้นที่อาณาจักรต้าเจิน น่าเสียดายที่ประเมินความร้ายกาจของมังกรเจียวดำต่ำไป ระเบิดมุกมังกรและกัดสังหารผู้ฝึกมารคนหนึ่ง ทนความเจ็บปวดหนีกลับต้าเจินไป
ทว่าอาศัยพลังน้อยนิดกลับถึงรัฐหวั่น แต่ไม่มีเรี่ยวแรงมุ่งหน้าไปยังแม่น้ำเทียมฟ้าที่อยู่ทางตะวันตกอีก เกิดเป็นเรื่องมังกรตกจากฟ้าที่จี้หยวนและเทพหลักเมืองจังหวัดลี่ซุ่นเห็นนั่นเอง
มังกรเฒ่าแห่งแม่น้ำเทียมฟ้าบินออกจากอาณาจักรต้าเจินด้วยความโมโห ทำให้มารและปีศาจที่ล้อมรอบต้าเจินหวนรำลึกได้ถึงเรื่องหนึ่ง ต้าเจินไม่เพียงมีเซียนเร้นกายใช้ ‘กระบี่ทลายฟ้า’ ได้ ยิ่งมีมังกรแท้อายุพันปีตัวหนึ่ง ทำให้มารชั่วปีศาจร้ายทั้งหมดเข้าใจว่าอะไรคือมังกรแท้บันดาลโทสะสั่นสะเทือนไปทั้งแปดดินแดน
พ่นมุกมังกรจากขอบทะเลบูรพาถึงทางใต้ ค้นหาปีศาจหรือสัตว์ประหลาด รวมถึงผู้ฝึกปราณนอกรีตที่ไม่เข้าตา ไม่สนว่าเจ้าเกี่ยวข้องกับเรื่องโจมตีมังกรเจียวดำจริงหรือไม่ ปราณมารมากผิดปกติหรือปราณร้ายเผยให้เห็นชัดเจน เช่นนั้นก็สังหารอย่างไม่ละเว้นทั้งสิ้น
ทุกที่ที่มังกรแท้ผ่านเกิดฟ้าแลบฟ้าร้องก้อนเมฆเป็นสีดำขลับ ต่อให้เป็นมารที่ฝึกปราณสายตรงเสมอมาก็ถูกสังหารทิ้งอย่างยากจะหลีกเลี่ยง อย่างเช่นพวกที่คลุกคลีกับสิ่งชั่วร้ายโดยบังเอิญเหล่านั้น
ตามคำพูดที่มังกรเฒ่าพูดกับจี้หยวนในภายหลัง ผู้ที่คลุกคลีกับสิ่งชั่วร้ายไม่ใช่คนดีอะไร ช้าเร็วอย่างไรก็จะกลายเป็นพวกเดียวกัน หากเป็นผู้บริสุทธิ์อย่างแท้จริง นั่นก็ทำได้เพียงนั้นว่าพวกเขาดวงซวยแล้ว
แต่มีเรื่องหนึ่งที่มังกรเฒ่าและจี้หยวนต่างเพิ่งเข้าใจ
จนกระทั่งมังกรเฒ่าบันดาลโทสะบุกสังการโดยรอบของต้าเจินแล้ว ถึงพบว่าเดิมทีเกาะเมฆาบูรพาแห่งนี้ อย่างน้อยอาณาจักรและชายแดนรอบนอกต้าเจินมีปีศาจอาศัยอยู่แล้วมากมาย อาจมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ
…
สิบวันหลังมังกรตกจากฟ้า ในสระทรายที่ก้นทะเลสาบไพศาลลึกพันฉื่อ
มังกรเฒ่าอิงหงสวมชุดยาวกระดุมสองแถวและจี้หยวนสวมชุดคลุมยาวสีขาวยืนอยู่ด้วยกัน เทพหลักเมืองกลับศาลไปนานแล้ว กลางสระทรายนอนไว้ด้วยมังกรเจียวดำขนาดยักษ์ยาวหลายสิบจั้ง
มังกรเจียวดำตัวนี้อยู่ที่นี่มาสิบกว่าปีแล้ว มีนิสัยเรียบง่ายเสมอมา แม้แต่จวนบาดาลก็ไม่สร้าง
ตอนนี้โม่หรงลมหายใจรวยริน ฝืนทนอยู่สิบวันคงถึงขีดจำกัดแล้ว
หากไม่ใช่เพราะความเป็นตายของโม่หรงบีบให้กลับมา มังกรเฒ่าคงต้องสังหารอยู่ข้างนอกช่วงหนึ่ง ตอนนี้ไอสังหารยังคงปรากฏรอบกายไม่ลดน้อยลง ปราณมังกรเข้มข้นและน่าครั่นคร้ามปะทุอย่างต่อเรื่อง
หากไม่เกิดเรื่องเหนือความคาดหมาย เมื่อเผ่ามังกรตายแล้ววิญญาณมังกรจะเข้าสู่ธารธารา ไหลตามกระแสน้ำลงสู่มหาสมุทร ระหว่างนี้จะค่อยๆ ละทิ้งพลังวิญญาณบนกาย ในท้ายที่สุดร่างจะละลายหายไปในมหาสมุทร หลงเหลือปราณวิญญาณแท้ไว้ในธารธารา
ปราณวิญญาณแท้จนถึงตอนนี้อยู่ในสภาวะไร้ความคิด ยิ่งเหมือนกับปราณวิญญาณบริสุทธิ์ที่วิเศษ ย่อมเวียนว่ายไปตามมหาสมุทรยิ่งใหญ่หรือไปตามสายน้ำในใต้หล้า จนกระทั่งพบกับเผ่าวารีที่มีบุญ เข้าสู่ร่างนั้นเกิดเป็นปัญญา กลายเป็นร่างใหม่และมีสักวันที่จะกลายร่างเป็นมังกรเจียวหรือมังกรแท้ได้อีกครั้ง
เมื่อกลายร่างเป็นมังกรเจียวกลับคืนสู่เผ่ามังกร ความทรงจำเมื่อชาติก่อนจะเริ่มสั่งสมกลับมาตามการฝึกปราณ
นี่เป็นขั้นตอนที่อัศจรรย์มาก เรียกได้ว่า ตามธารา’ เช่นกัน แต่กลับมีผลลัพธ์ในทางตรงกันข้ามกับการสั่งสมเพื่อกลายร่างเป็นมังกร
จี้หยวนมองว่านี่เป็นอภินิหารที่มีเอกลักษณ์ และเป็นความเพ้อฝันของเผ่ามังกรเจียว อย่างไรเสียอัตราความสำเร็จก็มีน้อยยิ่งนัก ทำได้แค่เรียกว่าเป็นความเพ้อฝัน
แต่มังกรเจียวมีความหยิ่งทะนงของตนเอง พวกมันส่วนใหญ่ยินยอมใช้โอกาสลวงตานี้ มากกว่ายอมกลายเป็นมังกรผี
“โม่หรง ข้าผู้ชราไม่รู้ว่าพวกโจรที่ลงมือกับเจ้าถูกกำจัดไปหมดแล้วหรือไม่ แต่มีผู้ถูกฝังร่วมกับเจ้าไม่น้อยเลย เจ้าจากไปอย่างสบายใจเถอะ!”
มังกรเฒ่าค่อยๆ เก็บลมปราณ จากนั้นถอนหายใจก่อนกล่าวประโยคนี้ ฝ่ายจี้หยวนยืนอยู่ข้างกายไม่พูดจา
ในดสงตามังกรสีอำพันของมังกรเจียวดำยังคงทอประกายดังเดิม อยู่ภายใต้น้ำที่มืดมิดแล้วราวกับตะเกียงสว่างไสวสองดวง
“ฮู่…ฮู่…”
ปราณมังกรสุดท้ายกำลังพ่นออกจากปากของมังกรเจียว ฟองอากาศใต้น้ำพรวนหนึ่งลอยขึ้นสู่ผิวน้ำทะเลสาบอย่างช้าๆ
รอจนกระทั่งเวลาผ่านไปอีกหนึ่งถ้วยชา ปราณมังกรทั้งหมดและปราณดั้งเดิมที่เหลืออยู่ล้วนหมดสิ้น เมื่อแน่ใจแล้วว่าร่างมังกรไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรอีก สีอำพันในดวงตามังกรถึงค่อยมืดลง
“ประมุขมังกรรักษาตัวด้วย”
เสียงแหบพร่าดังจากปากของมังกรเจียวดำ จากนั้นดวงตามังกรถึงปิดลง
วินาทีนี้บนร่างมังกรเขียวพลันเกิดฟองอากาศกลุ่มใหญ่ กระแสน้ำสายหนึ่งล้นออกจากร่างของมัน จี้หยวนใช้ตาทิพย์สังเกตเห็นเงามังกรจากไปภายในไม่กี่ลมหายใจเท่านั้น หลังจากนั้นก็ไม่รับรู้ถึงอะไรอีก
นี่เป็นครั้งแรกที่จี้หยวนได้เห็น ‘ตามธาราหลังตาย’ ของเผ่ามังกร และนับเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นการตายโดยธรรมชาติของปีศาจ วินาทีที่วิญญาณมังกรกลายเป็นเงาหายจากไป เขาคล้ายกับมีความเข้าใจใหม่ที่คลุมเครือเกี่ยวกับการฝึกปราณและความหมายของชีวิต
จี้หยวนมองร่างมังกรขนาดยักษ์ที่ยังคงอยู่ที่ก้นทะเลสาบ ร่างนี้สูญเสียปราณมังกรและปราณวิญญาณทั้งหมด นอกจากร่างที่ค่อนข้างหนักอึ้งแล้วก็ไม่มีความพิเศษอย่างอื่น แม้แต่ปลาหรือกุ้งตัวเล็กๆ ก็เล่นสนุกอยู่เหนือร่างมังกรได้ โดยจะไม่เน่าสลายไปเป็นเวลายาวนาน
บางทีวันใดสักวันที่ทะเลสาบไพศาลแห้งขอด หรือบางทีวันใดสักวันที่เกิดน้ำท่วมอย่างน่าประหลาด ก็อาจปรากฏร่างมังกรที่ก้นทะเลสาบให้เห็น หรือไม่ก็เป็นโครงกระดูกมังกร