เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 124 หลักฐานที่ทุกคนต้องการอยู่ตรงนี้แล้ว
บทที่ 124 หลักฐานที่ทุกคนต้องการอยู่ตรงนี้แล้ว
“นี่เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?”
“นี่เป็นเสียงของคณบดีหยางเหวินป๋อกับรองอธิการบดีหลี่ชิงฝูจริงเหรอ?”
“ไม่ใช่เสียงตัดต่อใช่ไหม?”
“ฉันว่าน่าจะตัดต่อนะ ถ้ามีหลักฐานขนาดนี้จริง ๆ ก็คงเอาออกมาแฉนานแล้วล่ะ”
“แล้วคลิปนี้หลุดมาได้ยังไง? แสดงว่ามีคนตั้งใจอัดเอาไว้ใช่ไหม?”
“ฉันว่าไม่น่าจะใช่เสียงตัดต่อนะ ตอนนี้ฉันงงไปหมดแล้วเนี่ย ไม่รู้จะเชื่อใจใครดี”
ผู้คนจำนวนมากเข้ามาทิ้งคอมเมนต์เอาไว้
อันที่จริงพวกเขายังคงเชื่อมั่นในตัวของหยางเหวินป๋อกับหลี่ชิงฝู เพราะผู้อาวุโสทั้งสองท่านนี้เป็นผู้นำของมหาวิทยาลัย ทุกคนย่อมไม่อยากให้เรื่องฉาวโฉ่เช่นนี้เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยของตัวเอง
เหล่านักศึกษาอยากให้คลิปเสียงนี้เป็นคลิปตัดต่อ แต่ใจหนึ่งพวกเขาก็คิดว่ามันไม่ใช่เสียงตัดต่อ ดังนั้นทุกคนจึงไม่รู้ว่าตนเองสมควรทำอะไรอีกแล้ว
แต่ผู้ใดจะเป็นคนให้คำตอบได้ล่ะ?
ทว่า อย่างไรก็ตาม
กระทู้นี้ปรากฏอยู่ได้เพียงไม่กี่นาที
มันก็ถูกลบทิ้งไป…
ทุกคนถึงกับชะงักงัน
เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงถูกลบทิ้งไปแล้วล่ะ?
แต่การลบกระทู้นี้ทิ้งไปยังไม่ใช่จุดจบ เพราะคลิปเสียงการสนทนาระหว่างหยางเหวินป๋อกับหลี่ชิงฝูได้เผยแพร่ไปทั่วโลกอินเทอร์เน็ตอย่างกว้างขวางแล้ว
ผู้คนในมหาวิทยาลัยล้วนพูดถึงเรื่องนี้
“ตกลงนี่เป็นคลิปเสียงจริงหรือเปล่า? ถ้าเป็นคลิปตัดต่อก็ถือว่าทำได้เนียนมากนะ”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ฉันเชื่อมั่นในตัวของคณบดีกับท่านรองอธิการ เดี๋ยวพวกเราก็คงได้รู้คำตอบในไม่ช้านี้แหละ”
ระหว่างเดินไปที่ห้องเรียน ไม่มีนักศึกษาคนไหนจะไม่พูดคุยถึงเรื่องนี้
เมื่อเดินผ่านตึกฝ่ายบริหาร
“เอ๊ะ นั่นมันท่านรองไม่ใช่เหรอ?”
พลัน นักศึกษาคนหนึ่งยกมือชี้ไปที่หลี่ชิงฝูซึ่งกำลังเดินลงบันไดออกมาจากตึกสูงใหญ่
ทุกคนหันไปมอง
หลี่ชิงฝูก็กำลังหันมามองทุกคนเช่นกัน ก่อนที่จะยิ้มแย้มและโบกไม้โบกมือทักทายด้วยความร่าเริง
จังหวะนั้น
มีนักศึกษาผู้กล้าหาญคนหนึ่งเดินออกมาโค้งคำนับให้แก่หลี่ชิงฝู แล้วถามว่า “ท่านรองอธิการครับ ไม่ทราบว่าคลิปเสียงระหว่างคุณกับคณบดีหยางเหวินป๋อที่ถูกโพสต์ลงมาในเว็บบอร์ดนั่น คุณได้ลองฟังแล้วหรือยัง?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า”
หลี่ชิงฝูไม่ตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อยเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำถามจากนักศึกษา เขายิ้มอย่างมีเมตตาและตอบว่า “ฉันเองก็ฟังไปแล้ว นั่นเป็นคลิปเสียงตัดต่อทั้งนั้น คนอย่างฉันจะไปพูดอะไรแบบนั้นกับคณบดีหยางได้ยังไง”
สีหน้าของเหล่านักศึกษาแจ่มใสขึ้นทันทีเมื่อได้ยินคำตอบนี้
“แล้วอาจารย์รู้ไหมครับว่ากระทู้นั้นถูกลบไปแล้ว?” นักศึกษาอีกคนหนึ่งยกมือขึ้นถามต่อ
“เรื่องนี้ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันนะ”
หลี่ชิงฝูยังคงพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า “แต่คงเป็นฝีมือแอดมินของเว็บบอร์ดลบไปนั่นแหละ เขาน่าจะไม่อยากให้เรื่องราวบานปลายไปมากกว่านี้ นักศึกษาอย่างพวกเธอจะได้ไม่ต้องมาสนใจเรื่องนี้อีก และจะได้กลับไปตั้งใจเรียนหนังสือเหมือนเดิมไงล่ะ”
“อีกอย่าง ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย ไม่มีอะไรต้องกลัวอยู่แล้ว”
พูดจบ หลี่ชิงฝูก็พยักหน้ายิ้มลาทุกคน ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป
เพียงแต่ว่า
บรรดานักศึกษาไม่ทันสังเกตว่าจังหวะที่ชายร่างอ้วนเตี้ยเดินจากไปนั้น หน้าผากของเขามีเหงื่อไหลหยดลงมา และมือที่ล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกงก็สั่นเทาอย่างรุนแรง
ถ้ารู้ว่าหยางเหวินป๋อจะแอบอัดเสียงตอนคุยโทรศัพท์เอาไว้ เขาก็คงไม่โทรไปหรอก!
แต่ตอนนี้ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ได้ก่อน!
คณะนักศึกษาหันมามองหน้ากันด้วยความตื่นเต้น
คำตอบที่ชัดเจนของรองอธิการบดีทำให้ความสงสัยในหัวใจของพวกเขาหมดไป
ถือว่าพวกเขาเชื่อมั่นในตัวคนไม่ผิดจริง ๆ!
คนที่เป็นถึงผู้นำของมหาวิทยาลัยจะละเมิดกฎเพื่อช่วยเหลือลูกศิษย์โกงคะแนนสอบได้อย่างไร!
ดังนั้น กลุ่มนักศึกษาจึงตะโกนไล่หลังหลี่ชิงฝูไปว่า
“ท่านรองสู้ ๆ นะครับ!”
“พวกเราจะเป็นกำลังใจให้!”
หนึ่งในกลุ่มนักศึกษาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและโพสต์บทสนทนาของท่านรองอธิการบดีหลี่ชิงฝูที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้ลงไปในเว็บบอร์ดรวมมิตรมหาลัย
“รองอธิการบดีประกาศลั่น : ในเมื่อไม่ได้ทำอะไรผิด ก็ไม่มีอะไรต้องกลัว!”
กระทู้นี้เตะตาผู้คนตั้งแต่แรกเห็น
เนื้อหาในกระทู้บรรยายถึงคำพูดที่หลี่ชิงฝูกล่าวไว้โดยไม่ตกหล่นสักพยางค์เดียว
ไม่นานหลังจากที่กระทู้นี้เผยแพร่ออกไป ขวัญกำลังใจของนักศึกษาคณะแพทย์แผนจีนก็กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง ทุกคนล้วนชื่นชมในความแน่วแน่เด็ดเดี่ยวของหลี่ชิงฝู
“เจ้าเด็กพวกนี้เชื่อคนง่ายจริง ๆ”
หลี่ชิงฝูพึมพำขณะอ่านกระทู้ระหว่างทางกลับบ้าน
“แต่นี่ต้องเป็นความคิดของหยางเหวินป๋อแน่ ๆ ที่ให้เราออกไปรับหน้านักศึกษาตามลำพัง”
“เราจะปล่อยให้นักศึกษาสูญเสียศรัทธาในตัวของคณะอาจารย์ไม่ได้ ไม่ว่าหัวเด็ดตีนขาดยังไง ก็ต้องยืนยันว่านี่เป็นคลิปเสียงตัดต่อเท่านั้น!”
“อีกอย่าง คนที่ตั้งกระทู้เปิดโปงนั่น ก็คงไม่มีหลักฐานเพิ่มเติมอีกแล้วล่ะมั้ง”
…
“ไม่ได้ทำผิดก็ไม่มีอะไรต้องกลัวงั้นเหรอ”
เมื่อเห็นคำพูดของหลี่ชิงฝูถูกถ่ายทอดอยู่ในกระทู้ใหม่ล่าสุด ซูเย่ก็อดยิ้มเหยียดหยามออกมาไม่ได้ เขานำหลักฐานทุกอย่างที่เพิ่งได้มาในอีเมล แนบลงไปในกระทู้ที่กำลังจะตั้งใหม่โดยทันที
“หลักฐานที่ทุกคนต้องการอยู่ตรงนี้แล้ว!”
เมื่อกระทู้ถูกตั้งเสร็จเรียบร้อย ก็มีนักศึกษาคณะแพทย์แผนจีนเข้ามาดูเป็นจำนวนมาก
“หืม…”
เพียงกวาดสายตาสำรวจดูเนื้อหาในกระทู้เท่านั้น บรรดานักศึกษาแพทย์แผนจีนต่างก็ตกตะลึงสุดขีด
สีหน้าของพวกเขาแสดงออกถึงความไม่อยากเชื่อ
เพราะว่าหลักฐานที่อยู่ในกระทู้นั้นแน่นหนาเหลือเกิน
นอกจากจะมีหลักฐานการรับเงินผ่านบัญชีธนาคารของหลี่ชิงฝูแล้ว ยังมีหลักฐานการรับเงินของหยางเหวินป๋อจากลูกศิษย์ที่ได้รับการช่วยเหลือให้สอบผ่านอีกด้วย รายละเอียดทั้งหมดมีครบถ้วนทุกด้านทุกมุม มีแม้กระทั่งสลิปการโอนเงินด้วยซ้ำ!
แม้แต่ลูกศิษย์ของหลี่ชิงฝูเองก็ได้รับการช่วยเหลือโกงคะแนนสอบเช่นกัน!
นี่คือหลักฐานที่ทำให้ดิ้นไม่หลุด!
หลังอ่านกระทู้นี้จบลง
หลายคนก็หวนนึกถึงคลิปเสียงก่อนหน้านี้อีกครั้ง
รวมไปถึงกระทู้เปิดโปงความฉ้อฉลของหยางเหวินป๋อ
เหล่านักศึกษาแพทย์แผนจีนแทบจะบ้าคลั่งแล้ว
หยางเหวินป๋อกับหลี่ชิงฝูคือบุคคลที่พวกเขาเชื่อใจมาตลอด ชายร่างอ้วนเตี้ยผู้เป็นรองอธิการบดีถึงกับบอกออกมาจากปากว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรผิด จึงไม่มีสิ่งใดต้องหวาดกลัว แต่ก็เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเขาได้กระทำผิดลงไปแล้ว!
ตลอดเวลาหลายวันที่ผ่านมา ถึงจะมีกระทู้เปิดโปงความผิดครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พวกเขาก็ยังอุตส่าห์แก้ตัวแทนหยางเหวินป๋อกับหลี่ชิงฝูด้วยความเชื่อใจ!
ตอนนี้เองที่กลุ่มนักศึกษารับทราบแล้วว่าตนเองถูกผู้บริหารทั้งสองคนนี้หลอกใช้!
เมื่อมีหลักฐานแน่นหนาขนาดนี้ พวกเขายังจะสามารถพูดอะไรได้อีก!
เหล่านักศึกษาแพทย์แผนจีนรู้สึกเจ็บปวดเหมือนถูกตบหน้า
ความโกรธแค้นทั้งหมดจึงพุ่งตรงไปที่หยางเหวินป๋อกับหลี่ชิงฝู
กระแสแสดงความคิดเห็นพลิกกลับตาลปัตรโดยทันที!
“แบบนี้มันสันดานคนโกงนี่หว่า!”
“ให้ตายสิ ฉันนึกไม่ถึงเลยนะว่าคณบดีหยางจะทำเรื่องแบบนี้ได้ลงคอ แม้แต่รองอธิการบดีก็รู้เห็นเป็นใจไปกับเขาด้วย พวกเขาไม่เห็นนักศึกษาตาดำ ๆ อย่างพวกเราอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ! แล้วไหนบอกว่ามหาลัยของเราเคารพคนที่ความสามารถไงล่ะ! โกหกชัด ๆ ฉันไม่มีทางเชื่อลมปากพวกเขาอีกแล้ว!”
“คุณมันเป็นจอมฉกฉวยผลประโยชน์จากนักศึกษา หน้าไม่อายที่สุด!”
“เรื่องนี้เราจะปล่อยผ่านไปไม่ได้เด็ดขาดนะ!”
“แจ้งตำรวจเลยดีไหม สองคนนี้จะได้หาทางหลบหนีความผิดไม่ได้อีก”