เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 100 คำสั่งเสียของหวังห่าว
บทที่ 100 คำสั่งเสียของหวังห่าว
บนบอร์ดผู้เล่น
“จะได้เวลาเล่นเกมแล้ว วันนี้จะเอาไงดี?”
“เกมไม่ได้มีประกาศอะไร แม้ว่าพวกเราจะปราบกองทัพมอนสเตอร์ได้ แต่โลกของเกมมันรีเฟรชใหม่ทุกวัน และสิ่งที่ได้รับความเสียหายก็จะฟื้นฟูมาใหม่ แล้วคราวนี้พวกมันจะกลับมาอีกครั้งไหม?”
“มีโอกาสเป็นไปได้”
“บ้าชิบ ถ้าเป็นงั้นจริง จะทำไง กลับมาใหม่ทุกวัน เราก็ต้องจัดการพวกมันทุกวันน่ะสิ”
“ไม่เหนื่อยแย่งั้นเหรอ ต้องไปทำสงครามทุกวันที่ออนไลน์?”
“แอคทางการไม่ได้พูดอะไรเลย สถานการณ์ในเกมคืนนี้จะเป็นยังไง?”
“อย่างมากก็ขอแค่เดือนละครั้งพอแล้ว มันยากเกินไปที่จะจัดการกองทะมอนสเตอร์ทุกวัน”
ทุกคนต่างวางแผนล่วงหน้า พวกเขารู้ว่าเกมอัพเดททุกวัน ทำให้พวกเขาเริ่มวิตกกังวล
และตัวอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วก็วางอยู่ต่อหน้าพวกเขา
หลังจากที่กองทัพมอนสเตอร์ในเขตมหานครตะวันออกพ่ายแพ้ มันก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น
ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ใครจะสามารถรับประกันได้ว่าหลังจากเข้าเกมในตอนกลางคืนภารกิจกองทัพมอนสเตอร์จะไม่ปรากฏขึ้นอีก?
ในไม่ช้า โพสต์ในบอร์ดผู้เล่นเกมทั้งหมดก็มีแต่ความกังวลฉายชัดออกมา
หลังจากนั้นหลายชั่วโมง ในที่สุดก็มีการประกาศอย่างเป็นทางการ
“เนื่องจากผู้เล่นทุกคนสามารถเอาชนะกองทัพมอนสเตอร์ได้อย่างสมบูรณ์ ภารกิจกองทัพมอนสเตอร์จึงหยุดลง และผู้เล่นทุกคนสามารถกลับสู่สภาวะปกติของเกมและสำรวจพื้นที่ได้ตามปกติ”
ทันทีที่ประกาศฉบับนี้ออกมา ผู้เล่นทุกคนพลันตื่นเต้นดีใจ
ในที่สุดเราก็สามารถเล่นเกมได้ตามปกติ!
ซูเย่เองก็ได้เห็นประกาศจากทางการแล้วเช่นกัน
“ในเกม ไม่ใช่ว่ารีเฟรชใหม่ทุกวันหรอกเหรอ?”
ร่องรอยของความสงสัยแวบเข้ามาในดวงตาของซูเย่
เจ้าหน้าที่ทำได้ยังไง?
Fantasy Dream ไม่เหมือนกับเกมอื่น ๆ เกมนี้ไม่ใช่ระบบเสมือนจริงที่ผู้สร้างสามารถเขียนและเปลี่ยนแปลงได้อย่างอิสระ
ระบบสามารถเพิ่มสิ่งวิเศษเข้าไปได้ แต่ไม่สามารถควบคุมสิ่งต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้วในโลกนี้ อย่างเช่นเหล่าสัตว์ประหลาดได้
สามารถเปลี่ยนความทรงจำของสัตว์ประหลาดไนท์แมร์? ข้อนี้ตัดทิ้งไปได้ มันไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน
คืนนี้คงต้องเข้าเกมไปดูสักหน่อยแล้วสิ!
ในยามค่ำคืน ห้านาทีก่อนเวลาเข้าเกม
ภายใต้คำสั่งของเบื้องบน ยอดฝีมือหลายคนเข้ามาในเกมล่วงหน้า พุ่งตรงไปยังพื้นที่ระดับ 40-50 และวางค่ายกลธาตุไม้ขนาดใหญ่ ทำการสังหารมนุษย์กิ้งก่าหกตน
การต่อสู้สิ้นสุดลงในเวลาเพียงสามนาที
เมื่อมนุษย์กิ้งก่าตายลง มอนสเตอร์ในพื้นที่ระดับ 40-50 ทั้งหมดกลับคืนสู่สภาพปกติอย่างสมบูรณ์
เวลาสี่ทุ่มตรง ผู้เล่นออนไลน์เข้าเกมทันที
พบว่าการภารกิจกองทัพมอนสเตอร์ได้หายไปแล้ว และการเข้าสู่พื้นที่ผจญภัยระดับ 40-50 ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีกองทัพมอนสเตอร์อีกต่อไป
แต่แม้ว่าปัญหานี้จะหมดไป ทว่ามอนสเตอร์ในพื้นที่ผจญภัยระดับ 40-50 ยังคงมีแววความหงุดหงิดฉายชัดเพราะอิทธิพลของหินสีเขียวใต้ดิน
แต่เนื่องจากพวกมันไม่ได้บ้าคลั่งและไม่ได้ถูกควบคุมอย่างสมบูรณ์ พวกมันจึงไม่ได้ก่อตัวเป็นกองทัพมอนสเตอร์ก็เท่านั้น และพวกมันบางตัวก็เริ่มฆ่ากันเองอีกด้วย
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ ในที่สุดทุกคนก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก เกมได้เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มรวมทีมและฟันมอนสเตอร์เก็บค่าประสบการณ์ตามปกติ
ซูเย่ก็กำลังออนไลน์อยู่ เขารู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นว่าทุกคนร่วมมือกันเก็บเลเวล แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าทางการทำได้ยังไง แต่ก็ถือว่าแก้ปัญหาได้อย่างสวยงาม
ตอนนี้เขาจะพยายามค้นหาสัตว์ประหลาดที่บินได้เพื่อดูว่าเคล็ดลับควบคุมอสูรมีประโยชน์จริงหรือไม่
“อินทรีทะลวงเมฆา… ยินดีด้วย แกคือผู้ถูกเลือก”
หลังจากอ้อมไปรอบ ๆ พื้นที่ผจญภัยระดับ 40-50 เล็กน้อย ในที่สุดซูเย่ก็พบสัตว์ประหลาดที่มีรูปร่างตรงตามความต้องการ! อินทรีทะลวงเมฆา มอนสเตอร์ระดับ 46
ร่างกายของมันมีขนาดใกล้เคียงกับเจ้านกอินทรีในละครโทรทัศน์เรื่องเอี้ยก้วยเจ้าอินทรี มีปากและกรงเล็บที่แหลมคม มีขนสีทองทั่วทั้งลำตัว ทำให้มันดูน่าเกรงขาม
เมื่อเจอเป้าหมาย ซูเย่ก็พุ่งทะยานเข้าไปทันที และก่อนที่มันจะทะยานขึ้นฟ้าหนีไป เขาก็กดทับมันไว้โดยพลัน
จากนั้นเริ่มบริกรรมคาถาควบคุมอสูร
ทันทีที่เริ่มท่องออกมา จู่ ๆ ซูเย่พลันรู้สึกถึงกระแสพลังที่อธิบายไม่ได้ซึ่งดูดซับพลังปราณในร่างกายของเขา จากนั้นจึงแทรกซึมเข้าไปในตัวสัตว์ประหลาด
“หืม?”
ซูเย่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาใช้วิชาประหลาดเช่นนี้ ชายหนุ่มรู้สึกว่ากระแสพลังที่อธิบายไม่ถูกนั่นเป็นส่วนหนึ่งของเขา
“พลังปราณที่ถ่ายทอดไปยังตัวสัตว์ประหลาดนั้น ก็เพื่อใช้ควบคุมมันงั้นเหรอ?”
ซูเย่กระโดดลงไปยืนบนพื้นด้วยความสับสน ปล่อยเจ้านกอินทรียักษ์ให้เป็นอิสระ แต่มันไม่ได้จากไป แม้ว่าจะดูหงุดหงิดเล็กน้อย แต่มันก็มองไปยังซูเย่ด้วยดวงตาที่เรียบเฉย ไม่ได้แฝงไปด้วยความเกลียดชังแต่อย่างใด ราวกับว่ามันถือว่าซูเย่เป็นพวกพ้องของมัน
“ยินดีด้วย คุณปราบอินทรีทะลวงเมฆามอนสเตอร์เลเวล 46 ได้ และได้รับมันเป็นสัตว์พาหนะ”
แจ้งเตือนของระบบเด้งมา
“ได้ผลจริง ๆ !”
ซูเย่กะพริบตาปริบ ๆ ด้วยความประหลาดใจ และเขาก็กดเปิดดูหน้าสัตว์พาหนะในระบบทันที เขาพบว่ามีมันอยู่ในหน้าสัตว์พาหนะจริง ๆ
“เคล็ดวิชานี้เอาไปใช้ในดินแดนภูผามหานทีได้ไหมนะ?”
ซูเย่รู้สึกประหลาดใจ
หากเป็นสิ่งของของระบบเกมที่เพิ่มเข้ามา ซูเย่ในฐานะผู้เล่นฝึกยุทธ์ ก็คงไม่สามารถใช้มันได้ ยิ่งไปกว่านั้น ในตอนที่ร่ายคาถา ซูเย่รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าพลังปราณของเขากำลังถูกกระตุ้น
ถ้าแบบนี้ แสดงว่าเคล็ดวิชาควบคุมอสูรก็สามารถใช้ได้จริงที่ดินแดนภูผามหานที?
“ถ้าเป็นอย่างนั้น เจ้าสิ่งนี้ก็มีค่ามหาศาลน่ะสิ!”
ยิ่งคิดเรื่องนี้เขาก็ยิ่งตื่นเต้น
ชายหนุ่มขึ้นขี่เจ้านกอินทรียักษ์ทันทีโดยไม่ลังเล เขาควบคุมให้มันบินวนไปรอบ ๆ อย่างสุขสำราญ
ความเร็วของอินทรีทะลวงเมฆาตัวนี้เกือบจะเท่ากับความเร็วตอนขี่ดาบเวหา
“ไม่รู้ว่าวิชานี้จะมีผลกับสัตว์ประหลาดน้ำแข็งหรือไม่ ถ้าสามารถปราบมันให้กลายเป็นสัตว์พาหนะได้…”
ซูเย่ยกมือเท้าค้างอย่างครุ่นคิด แล้วส่ายหัวทันที เขารู้สึกว่าสมองของเขาชักจะคิดเรื่อยเปื่อยเกินไปแล้ว
……
เช้าวันรุ่งขึ้น ซูเย่ออฟไลน์ก่อน 10 นาที เมื่อถอดหมวก VR ออก ชายหนุ่มก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คดูแจ้งเตือน และพบข้อความที่ยังไม่ได้อ่านบนโทรศัพท์ของเขา
เมื่อเปิดดูก็เห็นว่าเป็นข้อความที่ส่งมาจากหวังห่าว
เนื้อหาดูเหมือนจะเป็นที่อยู่ของสถานที่แห่งหนึ่ง
“หมายความว่าไง?”
ซูเย่ต่อสายหาหวังห่าวอย่างสับสน
“ขออภัย หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถใช้บริการได้ในขณะนี้”
มีเสียงของระบบดังมาจากปลายสาย
ซูเย่ผงะไปเล็กน้อย พลันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
นี้มันผิดปกติมากเกินไป!
ในฐานะหัวหน้าทีม โทรศัพท์มือถือของหวังห่าวจะต้องเปิดตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถติดต่อได้ตลอดเวลา แต่จู่ ๆ เขาก็ไม่สามารถติดต่อได้
เมื่อคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติ ซูเย่หยัดกายลุกขึ้นและมุ่งหน้าไปที่ห้องฝึกทันที
ในห้องฝึก ซูเย่เห็นเพียงเซียวจวิ้นคนเดียว
“นายมาเร็วจัง?”
หลังจากได้รับการแจ้งเตือนจากเจ้าหน้าที่ เซียวจวิ้นก็เข้ามาถามอย่างแปลกใจ
“คุณรู้ว่าผมจะมาเหรอครับ?”
ซูเย่ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“หัวหน้าบอกว่านายจะมาแน่นอน”
เซียวจวิ้นกล่าวตอบ
“แล้วเขาหายไปไหนครับ?”
ซูเย่เอ่ยถามทันที “ผมได้รับข้อความที่เขาส่งมา เนื้อหาคือที่อยู่ของสถานที่แห่งหนึ่ง ที่นั้นคืออะไร”
“หัวหน้าไปเข้าร่วมการฝึกชี้ชะตา”
เซียวจวิ้นเอ่ยด้วยสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดี
“การฝึกชี้ชะตา?”
คิ้วของซูเย่ขมวดแน่นกว่าเดิม ชื่อการฝึกนี้ดูไม่ค่อยมงคลเท่าไหร่… ในใจเขาพลันรู้สึกไม่ดีไปด้วย
“ใช่”
เซียวจวิ้นถอนหายใจยาวแล้วเอ่ยตอบ “เราเตือนเขายังไงก็ไม่ได้ผล เขาจะไปฝึกบ้าอะไรนั่นให้ได้ แล้วไปครั้งนี้จะได้กลับมาไหมก็ไม่รู้…”
ประโยคสุดท้ายน้ำเสียงของเซียวจวิ้นยิ่งเบาลงเรื่อย ๆ
“ไปฝึกแล้วอาจตาย?”
ซูเย่ขมวดคิ้ว
“อืม”
เซียวจวิ้นพยักหน้ายืนยันแล้วกล่าวเสริม “ตายแบบตายจริง ๆ”
“ทำไมถึงอาจตายได้?”
ซูเย่เอ่ยถาม หวังห่าวมีฝีมือดีมากอยู่แล้ว ทำไมจู่ ๆ เขาถึงไปเข้าร่วมการฝึกแบบนั้น?
“ไม่ใช่เพราะว่าถูกกระตุ้นโดยนายหรอกเหรอ”
เซียวจวิ้นยิ้มอย่างขมขื่นและกล่าวต่อ “หัวหน้าทิ้งวิดีโอไว้ให้นายก่อนที่เขาจากไป นายเปิดดูเองเถอะ”
เมื่อพูดจบ เขาก็ยื่นโทรศัพท์มือถือให้ซูเย่ บนหน้าจอโทรศัพท์มีวิดีโออยู่ในสถานะหยุดชั่วคราว
ซูเย่กดแตะเล่นวิดีโอทันที
ในตอนต้นของวิดีโอ สิ่งที่ปรากฏเข้าสู่สายตาก็คือหวังห่าวที่กำลังยิ้มอย่างสดใส
รอยยิ้มของหวังห่าวที่สดใสเช่นนี้ แตกต่างไปจากตัวเขาในยามปกติอย่างสิ้นเชิง มันดูทำให้เขาลดความเคร่งขรึมบนใบหน้าลงไป และดูอ่อนเยาว์ขึ้นเล็กน้อย
“สวัสดีซูเย่ ฉันได้เฝ้าดูนายเติบโตด้วยสายตาของฉันในช่วงที่ผ่านมา นายกำลังไล่ตามหรืออาจจะแซงหน้าฉันไปทีละก้าว ฉันยินดีเป็นอย่างมากที่นายได้ผลลัพธ์ที่ดีในการฝึกฝน”
“แต่ในเวลาเดียวกัน… มันก็ทำให้ฉันรู้สึกกดดัน เพราะฉันเป็นหัวหน้าของนาย และนายก็เป็นผู้ฝึกหน้าใหม่กลุ่มแรกที่ฉันเป็นหัวหน้าเช่นกัน ซึ่งเมื่อเห็นการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของนาย ฉันก็ตระหนักได้ทันทีว่าฉันต้องฝึกฝนให้หนักขึ้นและเป็นแบบอย่างที่ดี”
“ฉันก็เลยเลือกที่จะไป นี่คืออีกหนึ่งก้าวที่ฉันจำเป็นต้องก้าวเดิน นี่คือทางเลือกของฉันเอง ฉันไม่ต้องการที่จะเป็นคนที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังตามกาลเวลา บอกทุกคนว่าไม่ต้องเป็นห่วงฉัน”
“ถ้า… ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับฉัน รบกวนนายช่วยดูแลพ่อแม่ของฉันด้วย”
“ฉันรู้ นายถูกกำหนดให้เป็นคนพิเศษ สุดท้ายนี้ ขอบคุณนะ ซูเย่” เมื่อคำสุดท้ายของหวังห่าวพูดออกมา ภาพวิดีโอได้หยุดลงพร้อมกับภาพใบหน้าที่ยิ้มแย้มของหวังห่าว
หลังจากดูวิดีโอ ซูเย่พลันมีลางสังหรณ์ใจบางอย่างโดยไม่รู้ตัว นี่มันเหมือนกับการพูดคำสั่งเสียมากเกินไป!
“เขาไปฝึกอยู่ที่ไหน”
หลังจากคืนโทรศัพท์ ซูเย่ก็ถามขึ้นทันที
“ไม่รู้เลย”
เซียวจวิ้นส่ายศีรษะพร้อมถอนหายใจแผ่วเบา “ว่ากันว่าอยู่ที่ชายแดนเขตที่ 4-5 แต่สถานที่ฝึกประเภทนี้มักจะเป็นพื้นที่ลับที่ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ และบุคคลภายนอกไม่สามารถรู้ได้”
“นานแค่ไหนกว่าจะออกมา?”
ซูเย่ถามอีกครั้ง
“เร็วสุดครึ่งปี ถ้านานกว่านั้นก็หลายปี หรือ…”
เซียวจวิ้นไม่ได้พูดประโยคต่อมาให้จบ แต่ซูเย่รู้ดี ‘หรืออาจจะไม่มีวันได้ออกมาอีกเลย’
“หัวหน้าไปแล้ว และต่อไปฉันจะเป็นคนพานายไปสู่ดินแดนภูผามหานที”
เซียวจวิ้นกล่าวต่อ “ฉันเพิ่งได้รับการแจ้งเตือนล่าสุด พวกนายสามารถเข้าสู่ดินแดนภูผามหานทีได้ก่อนกำหนด เนื่องจากพื้นที่ระดับสี่ภายในนั้นถูกเปิดชั่วคราว ถ้ามีข่าวใหม่ ฉันจะบอกให้รู้อีกที”
“ครับ”
ซูเย่พยักหน้า
เนื่องจากความพิเศษของพื้นที่ระดับสี่ เกือบทุกคนที่ไปถึงขั้นสี่จึงไม่สามารถเข้าสู่พื้นที่ภายในได้
ผู้ฝึกยุทธ์ที่ไปถึงขั้นสี่ส่วนใหญ่จะเลือกทำภารกิจในพื้นที่ระดับสามเพื่อรับทรัพยากร และส่วนใหญ่จะสมัครตำแหน่งในเมืองใหญ่ เพื่อให้ได้รับทรัพยากรในการฝึกฝน
หลังจากทะลวงสู่ขั้น 5 แล้ว ก็จะเข้าสู่พื้นที่ระดับ 5 ไปเลย
ภายใต้สถานการณ์ตอนนี้ พื้นที่ระดับ 3 และระดับ 4 เชื่อมต่อกันโดยธรรมชาติ ดังนั้นเมื่ออันตรายของพื้นที่ระดับ 4 ถูกจัดการไปแล้ว บรรดาผู้ฝึกยุทธ์ขั้น 3 และ 4 ทุกคนจึงสามารถเข้าไปสำรวจได้ตามปกติ
ซูเย่มองไปยังที่อยู่ที่หวังห่าวส่งมาบนโทรศัพท์ของเขา
เห้อ นี่คงเป็นที่อยู่บ้านพ่อแม่ของหวังห่าว
……
บนเวยป๋อ
หลี่จื้อหง แอคเคาท์หนึ่งที่ได้รับการรับรองจากเวยป๋อโพสต์ข้อความ
“หลังจากการทดลองหลายครั้ง ผมก็พิสูจน์ได้แล้วว่ายาจีนโบราณเป็นยาหลอกและไม่มีผล”
ข้อความถูกโพสต์ออกไป พร้อมกับรูปภาพประกอบ
“ข้อมูลจากการทดลองการฝังเข็มและการรมยาแบบอำพรางสองฝ่าย!”