เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 105 กลุ่มฝังเข็มหลอกอาการดีขึ้น
บทที่ 105 กลุ่มฝังเข็มหลอกอาการดีขึ้น?
ซูเย่เหลือบมองไปในกลุ่มคนอย่างสงสัย เขารู้สึกว่ามีดวงตาที่ประสงค์ร้ายปะปนอยู่ แต่ตอนนี้หาไม่เจอแล้ว
“นายพร้อมไหม?”
ต่อหน้าสื่อทั้งหมด หลี่จื้อหงมองไปที่ซูเย่และเอ่ยถาม
ซูเย่พยักหน้า
“เริ่มได้เลย”
“โอเค”
หลี่จื้อหงยิ้มอย่างมั่นใจ “งั้นเรามาเริ่มกันเลย แต่ก่อนอื่น.. วันนี้เราจะไม่รักษาผู้ป่วยไมเกรน แต่เปลี่ยนเป็นโรคปอดอักเสบ!”
“เนื่องจากการฝังเข็มสำหรับผู้ป่วยไมเกรนได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นเท็จ ไม่จำเป็นต้องทำการทดสอบเพิ่ม แล้วทำไมเราไม่ลองเปลี่ยนไปรักษาโรคอื่นกันล่ะ?”
ทันทีที่ทุกคนได้ยินประโยคนี้พลันตกตะลึง
ทุกคนในห้อง ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นคนทั่วไปที่มารับชมหรือเป็นนักข่าวที่มาทำการถ่ายทอดสด พวกเขาต่างคิดว่าการท้าทายในวันนี้คือการฝังเข็มเพื่อรักษาผู้ป่วยไมเกรน
พวกเขาคิดไม่ถึงแม้แต่น้อยว่าหลี่จื้อหงจะหลอกทุกคน เห็นได้ชัดว่าเป็นการป้องกันไม่ให้ซูเย่เตรียมตัวล่วงหน้า!
ในโลกออนไลน์ ห้องถ่ายทอดสดของสื่อชั้นนำและคนดังทางอินเทอร์เน็ต
เมื่อได้ยินสิ่งที่หลี่จื้อหงกล่าว ชาวเน็ตต่างวิจารณ์เขาในเชิงลบ
‘ร้ายกาจเกินไปแล้ว’
‘มีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่าเป็นการฝังเข็มสำหรับไมเกรน แต่ทำไมจู่ ๆ ก็เปลี่ยนเป็นปอดอักเสบ’
‘หน้าด้านจริง ๆ แม้ว่าฉันจะไม่คิดว่าเขาเป็นคนดี แต่เมื่อคิดอย่างรอบคอบแล้ว การกระทำที่น่ารังเกียจเหล่านี้ของเขาทำให้ความท้าทายนี้น่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีก’
…
โรงพยาบาล
“ไม่รักษาไมเกรน? โรคปอดอักเสบ? มันจงใจเกินไปแล้ว”
ซูชือขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าของเขาดูหม่นหมอง สีหน้าของจินฟานที่นั่งอยู่ด้านข้างก็เปี่ยมไปด้วยความกังวลไม่ต่างกัน
ส่วนหลี่เคอหมิง เมื่อได้ยินว่าหลี่จื้อหงกลับคำ เขาแค่ขมวดคิ้วเล็กน้อยและไม่พูดอะไร
ในความเห็นของเขา ไม่สำคัญว่าจะเป็นโรคอะไร เพราะยังไงการรักษาอย่างวิภาษของศาสตร์แพทย์แผนจีนก็เอาอยู่!
“นักศึกษาซูเย่ นายมีปัญหาอะไรไหม”
หลังจากประกาศเพียงฝ่ายเดียวเพื่อเปลี่ยนหัวข้อการท้าทายจากการฝังเข็มรักษาผู้ป่วยไมเกรนไปเป็นโรคปอดอักเสบ หลี่จื้อหงก็หันไปยิ้มให้ซูเย่
“ผมได้หมด จะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ”
ซูเย่มองเขาด้วยแววตาที่ลึกล้ำ พลันเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้ม
“ดีมาก”
หลี่จื้อหงยิ้มเล็กน้อย “ฉันคัดเลือกผู้ป่วย 150 คนและแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 50 คน กลุ่มหนึ่งไม่ได้รับการรักษา กลุ่มที่สองฝังเข็มหลอก ส่วนนายทำการรักษากลุ่มสุดท้าย”
“เพื่อให้แน่ใจว่าการทดสอบครั้งนี้มีความเป็นธรรม ระหว่างการรักษาห้ามพูดคุย เพื่อที่ผู้ป่วยจะไม่ทราบว่าใครเป็นผู้รักษา”
“เมื่อเช้านี้ เราได้ติดตามอาการของผู้ป่วยทุกรายผ่านเครื่องมือต่าง ๆ รวมทั้งการตรวจเลือด อิงตามข้อมูลของวันนี้ พรุ่งนี้หลังการรักษาทำการตรวจใหม่เพื่อดูว่าตัวชี้วัดเปลี่ยนแปลงหรือไม่”
นักข่าวทุกคนต่างตกตะลึง พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าการทดสอบวันนี้หลี่จื้อหงจะเตรียมทุกอย่างพร้อมมากขนาดนี้
ไม่น่าแปลกใจเลยที่เริ่มการทดสอบตอนบ่าย หลี่จื้อหงเตรียมตัวมาก่อนจริง ๆ
“ไม่มีปัญหา”
ขณะที่ทุกคนขมวดคิ้ว สงสัยว่าซูเย่จะยอมรับคำท้านี้หรือไม่ ซูเย่ก็เอ่ยตอบอย่างเฉยชา
“สถานที่สำหรับการรักษาอยู่ข้างหลัง”
หลี่จื้อหงหันกลับมาและชี้ไปที่อาคารผู้ป่วยในของโรงพยาบาลเอกชนที่อยู่ข้างหลังเขา “แต่ละห้องมีผู้ป่วยสิบคน และผู้ป่วยทั้งหมดสวมผ้าปิดตา พวกเขามองไม่เห็นว่าใครกำลังรักษาพวกเขา ซึ่งพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้พูด”
“เริ่มกันเถอะ”
ซูเย่พยักหน้ารับ ภายใต้ความสนใจของทุกคน หลี่จื้อหงเดินนำซูเย่และคนอื่น ๆ ไปที่ห้องรักษา
คนดังทางอินเทอร์เน็ตและนักข่าวคนอื่น ๆ ที่เหลือถูกกั้นไว้ด้านนอก มีเพียงนักข่าวและสื่อที่ได้รับเชิญเป็นพิเศษจากหลี่จื้อหงเท่านั้นที่สามารถติดตามเข้าไปได้
นักข่าวที่ติดตามซูเย่ตลอดการรักษา มีเพียงเสียงฝีเท้าเบา ๆ ในกลุ่มคน ไม่มีใครปริปากพูดอะไร
เมื่อเขามาถึงห้องรักษาห้องแรก ซูเย่เห็นว่าผู้ป่วยทั้งสิบคนสวมผ้าปิดตาตามที่หลี่จื้อหงกล่าว เขาสาวเท้าเดินเข้าไปหาผู้ป่วยคนแรกทันที และเริ่มทำการรักษา
เพราะเขาไม่สามารถพูดได้ เขาจึงไม่สามารถใช้การวินิจฉัยสี่วิถีที่จำเป็นต้องถามอาการได้ ดังนั้น ซูเย่จึงสามารถค้นหาสาเหตุของโรคได้โดยการวัดชีพจร
ในการแพทย์แผนจีน
โรคปอดอักเสบเป็นโรคทั่วไปของระบบทางเดินหายใจ เมื่อใช้การฝังเข็ม ควรเลือกจุดฝังเข็มและวิธีการฝังเข็มที่แตกต่างกันตามประเภทของอาการ
แม้ว่าเขาจะพูดไม่ได้ แต่ด้วยความสามารถของซูเย่ แค่จับชีพจรคนไข้ก็เพียงพอสำหรับเขาแล้ว
หลังจากที่จับชีพจรคนไข้
แต่เพื่อความเข้มงวดยิ่งขึ้น และแสดงให้ผู้ชมหน้าจอเห็นว่าแพทย์แผนจีนรักษาผู้ป่วยอย่างไร
หลังจากตรวจชีพจรแล้ว ซูเย่ก็เขียนวิธีการรักษา
ผู้ป่วยรายแรกเป็นกลุ่มอาการปอดร้อนรุนแรง
จุดฝังเข็ม: จุดเหอกู่ จุดชฺวีฉือ จุดฉื่อเจ๋อ จุดซ่าวซาง จุดเฟ่ยซูเป็นหลัก และคนไข้มีอาการเสมหะร้อนอุดกั้นปอด เพิ่มจุดเฟิงหลง
ในการฝังเข็มจะใช้วิธีการการปั่นเข็มเพื่อระบาย
เมื่อเห็นฉากนี้ ชาวเน็ตทั้งหมดพยักหน้าเบา ๆ ซูเย่รักษาอย่างวิภาษจริง ๆ ไม่เหมือนแพทย์แผนจีนจอมปลอมที่เมื่อรู้ว่าผู้ป่วยเป็นโรคอะไร ก็ใช้ชุดการรักษาที่เหมือนเดิมตลอด
ซูเย่ฝังเข็มลงไปและได้ชี่*[1]ทันที
ผู้ป่วยคนที่สอง
กลุ่มอาการลมร้อนคุกคามปอด
จุดฝังเข็ม: จุดเหอกู่ จุดชฺวีฉือ จุดว่ายกวน จุดต้าจุยเป็นหลัก และผู้ป่วยมีอาการเจ็บคอ เพิ่มจุดซ่าวซางด้วย
ในการฝังเข็มจะใช้วิธีการการปั่นเข็มเพื่อระบาย
เมื่อเขียนวิธีรักษาเรียบร้อย ซูเย่ก็ทำการฝังเข็มทันที
ที่หน้าจอช่องถ่ายทอดสด ฮัวเหรินเชิงมาเห็นฉากที่รักษาของซูเย่อย่างชัดเจน พลันพยักหน้าเบา ๆ แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วย จึงไม่สามารถบอกได้ว่าการรักษาซูเย่ถูกต้องหรือไม่ แต่ในเมื่อทำการวินิฉัยแล้ว งั้นซูเย่ก็ต้องแน่ใจในการรักษาของตัวเอง
สำหรับซูเย่ นี่ไม่ใช่เรื่องยาก
ผู้ป่วยรายที่สาม
กลุ่มอาการที่เกิดจากความร้อน
จุดฝังเข็ม: จุดฉีเหมิน จุดเสินเหมิน จุดชฺวีเจ๋อ จุดเก๋อซู จุดเซวี่ยไห่
ในการฝังเข็มจะใช้วิธีการการปั่นเข็มเพื่อระบาย
ผู้ป่วยรายที่สี่อาการเหมือนกับผู้ป่วยคนที่สอง
ผู้ป่วยรายที่ห้า
กลุ่มอาการชี่ของหัวใจพร่อง
จุดฝังเข็ม: จุดเหรินจง จุดเน่ยกวน จุดไป๋ฮุย จุดชี่ไห่ จุดกวนหยวน
เมื่อตรวจให้ผู้ป่วยห้ารายติดและฝังเข็มครบห้าราย
แพทย์แผนจีนหลายคนที่ขมวดคิ้วตั้งแต่ต้นการถ่ายทอดสด เมื่อเห็นว่าการรักษาของซูเย่นั้นเข้มงวดและราบรื่นมาก ในที่สุดหัวคิ้วของพวกเขาก็คลายลงเล็กน้อย
เดิมที พวกเขาคิดว่าซูเย่ทำไม่ได้ แต่เมื่อดูแล้ว พวกเขาพบว่าการฝังเข็มของซูเย่นั้นเร็วมากและเทคนิคก็แม่นยำมาก ชายหนุ่มดูไม่เหมือนมือใหม่ แต่กลับเหมือนแพทย์จีนที่มีประสบการณ์ ดูเหมือนว่าความสามารถคงพอใช้ได้
ซูเย่ยังคงทำการรักษาต่อไป
ผู้ฝ่วยรายที่หก เจ็ด แปด อาการของพวกไม่ต่างจากกรณีก่อนหน้านี้ มาถึงผู้ป่วยรายที่เก้า ถึงมีอาการต่างออกไป
ผู้ป่วยรายที่เก้า
อาการเจิ้งชี่พร่อง
จุดฝังเข็ม: จุดเฟ่ยซู จุดเกาหวง จุดไท่เยฺวียน จุดไท่ซี จุดซานอินเจียว และร่างกายของผู้ป่วยมีไข้ต่ำ เพิ่มจุดเน่ยกวน
ใช้วิธีการบำรุงและระบายเท่ากัน
หลังจากรักษาผู้ป่วยรายกที่เก้าแล้ว ซูเย่ก็ไปดึงเข็มสำหรับผู้ป่วยสองคนแรกออก
ผู้ป่วยรายที่สิบ สิบเอ็ด สิบสอง…
……
และในขณะเดียวกัน
ในห้องอีกห้องหนึ่ง หลี่จื้อหงให้พยาบาลคนหนึ่งฝังเข็มให้คนไข้ที่มีผ้าปิดตาอยู่ โดยให้แทงเข็มตามใจชอบ เพียงแค่ต้องหลีกเลี่ยงส่วนสำคัญ โดยเลียนแบบเทคนิคการฝังเข็ม นักข่าวก็ยังถ่ายขั้นตอนต่าง ๆ อย่างเงียบเชียบ
อีก 50 คนที่ไม่ได้รับการรักษาก็ถูกนักข่าวคนอื่น ๆ ถ่ายไว้ด้วยเช่นกัน
ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ หน้าจอของช่องถ่ายทอดสดมีหน้าต่างเล็ก ๆ แสดงห้องการรักษาทุกห้อง ทั้งหมดนี้ถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้าโดยหลี่จื้อหง จุดประสงค์คือต้องเปิดเผยอย่างโปร่งใส เพื่อให้แพทย์แผนจีนแพ้ เพื่อให้ซูเย่แพ้ และยอมรับโดยดี
……
ซูเย่เองก็กำลังดำเนินการรักษาต่อไป
คนที่ 20.. 30.. 40..
ตอนนี้เขาไม่ได้ใช้พลังปราณช่วยรักษาแม้แต่น้อย ใช้เพียงวิธีการรักษาทั่วไป
เขาจะพูดตามข้อเท็จจริงว่าศาสตร์แพทย์แผนจีนมีผลลัพธ์เช่นไร
ไม่จำเป็นต้องใช้พลังปราณเพื่อทำให้มันเกินจริง เพียงใช้วิธีที่เหมาะสมที่สุดในการรักษาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมที่สุดเพื่อให้ทุกคนมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับศาสตร์แพทย์แผนจีน นี่คือทางเลือกที่ดีที่สุดในการพัฒนาวงการแพทย์แผนจีน
ภายใต้การจ้องมองของดวงตานับไม่ถ้วน
การวินิจฉัย การเลือกจุดฝังเข็ม การจัดสรร วิธีการฝังเข็ม การได้ชี่ กระบวนการทั้งหมดเขาทำได้อย่างชำนาญและราบรื่น
หลังจากฝังเข็มที่จุดหนึ่งแล้ว เขาก็ไปยังจุดต่อไปได้ทันที
กระบวนการทั้งหมดนั้นรวดเร็วมาก
สองชั่วโมงหลังจากนั้น ซูเย่เสร็จสิ้นการฝังเข็มสำหรับผู้ป่วยทั้ง 50 ราย
สิบห้านาทีต่อมา เข็มที่เหลืออยู่ของผู้ป่วยคนสุดท้ายก็ถูกนำออกไป
เขาเดินออกมาจากห้อง กลับมาที่ห้องโถง ซูเย่เอ่ยปากบอกกับทุกคน “การรักษาสิ้นสุดลงแล้ว”
เมื่อได้ยิน ชาวเน็ตทุกคนที่รับชมการถ่ายทอดสดเริ่มประหม่า
“เร็วขนาดนี้เลย?”
“เร็วมาก แต่ฉันไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร”
“ดูเหมือนว่าซูเย่จะผ่อนคลายมาก แต่หลี่จื้อหงป็นผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ฮวาเซียงเก๋อ คำท้าของเขาจะง่ายขนาดนี้จริงเหรอ?”
“รักษาผู้ป่วย 50 รายภายใน 150 นาที เร็วเกินไปไหม”
ชาวเน็ตต่างพิมพ์คอมเมนท์ตามความคิดเห็นของตัวเอง
แต่หลี่จื้อหงผู้ซึ่งเฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ ๆ ก็หัวเราะออกมา
“เร็วขนาดนี้เลย? ดูเหมือนว่าระดับเด็กคนนี้จะไม่ค่อยดี!”
“ต่อให้หมอจีนมีประสบการณ์มาก ก็ไม่กล้าพูดว่าจะรักษาคนไข้หนึ่งคนได้ภายในสามนาทีแบบนี้ เด็กคนนี้แกล้งทำเป็นเชี่ยวชาญหรือเปล่า?”
“ดี! ในเมื่อแกล้งทำเป็นเก่ง งั้นฉันจะปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด แล้วมาดูกันว่านายจะอธิบายให้คนอื่นฟังว่ายังไง”
ตามซูเย่กลับไปที่ห้องโถง หลี่จื้อหงประกาศด้วยรอยยิ้ม “การรักษาจบลงแล้ว เราแค่ต้องรอผลการทดสอบที่จะออกในวันพรุ่งนี้เช้า จากนี้ไปจนกว่าผลจะออกพรุ่งนี้ ฉันหวังว่าทุกคนจะจริงจังและจับตาดูกระบวนการควบคุมทั้งหมด เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งรบกวนใด ๆ จนกว่าผลการทดสอบจะออกในเช้าวันพรุ่งนี้”
สื่อส่วนใหญ่เริ่มไม่มีความสุข แต่เมื่อคิดว่าหลี่จื้อหงได้จ่ายเงินเป็นจำนวนมากสำหรับค่าเดินทางไว้ล่วงหน้าแล้ว พวกเขาก็ยอมรับมันอย่างง่ายดาย
เวลากลางคืน มีการถ่ายทอดสดจากกล้องวงจรปิดตลอดเวลา มีชาวเน็ตเข้ามาดูอยู่บ้าง ตลอดทั้งคืนผ่านไปโดยไม่มีการรบกวนใด ๆ
เช้าวันรุ่งขึ้น
ชาวเน็ตทุกคนที่ให้ความสนใจกับเหตุการณ์นี้เริ่มเปิดดูการถ่ายทอดสดทันทีที่นาฬิกาปลุกดังขึ้น
เวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง ในที่สุดก็ได้เริ่มการดูผลการรักษา
อันดับต่อมา ภายใต้การถ่ายทอดสดของสื่อ ผู้ป่วย 150 คนไปทำการตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลและในขณะเดียวกันก็เก็บเลือดเพื่อทำการตรวจสอบ
หลังจากการตรวจสอบทั้งหมดเสร็จสิ้น
เวลาบ่ายโมง
ผลการรักษาออกมาแล้ว
“ต่อไป ฉันได้เชิญผู้อำนวยการจางจากแผนกระบบทางเดินหายใจที่มีอำนาจสูงสุดของโรงพยาบาลมาดำเนินการในขั้นตอนสุดท้ายนี้และเปรียบเทียบรายงานการรักษา”
หลี่จื้อหงเชิญชายวัยกลางคนสวมเสื้อคลุมสีขาวที่มีสีหน้าจริงจังขึ้นมา
ผู้อำนวยการจางปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน และเริ่มเปรียบเทียบผลการรักษาโดยปราศจากคำพูดแนะนำตัว
“กลุ่มแรกคือกลุ่ม 50 คนที่ไม่ได้รับการรักษา”
ผู้อำนวยการจางหยิบรายงานการตรวจสอบสองฉบับของเมื่อวานและวันนี้ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ มองดูอย่างรวดเร็ว
“ผู้ป่วยรายแรก อาการไม่ดีขึ้น”
จากนั้นหยิบผลการตรวจของผู้ป่วยรายที่สองมาดู
“ผู้ป่วยรายที่สอง อาการไม่ดีขึ้น และมีแนวโน้มแย่ลงเล็กน้อย”
……
หลังจากการเปรียบเทียบอย่างรวดเร็วจากผู้ป่วย 50 คน ผู้อำนวยการจางประกาศ “การเปรียบเทียบรายงานการทดสอบสองวัน ผู้ป่วย 50 รายที่ไม่ได้รับการรักษาไม่มีอาการดีขึ้นและ 10% มีแนวโน้มแย่ลง”
เมื่อเขาพูดจบ ทุกคนก็พยักหน้า นี่คือเรื่องปกติ กลุ่มนี้ไม่ได้รับการรักษา อาการจึงไม่ได้ดีขึ้น
“กลุ่มที่สอง :กลุ่มฝังเข็มหลอก”
ทุกคนตั้งใจฟังทันที กลุ่มนี้ผลจะเป็นอย่างไรบ้าง?
อาการดีขึ้น? ไม่มีอาการดีขึ้น?
ผู้อำนวยการจางหยิบตัวบ่งชี้การทดสอบแรกขึ้นมา เปรียบเทียบตัวบ่งชี้อย่างรวดเร็ว “ผู้ป่วยรายแรก หลังจากการฝังเข็มหลอก อาการต่าง ๆ ได้รับการบรรเทาอย่างมีนัยสำคัญ อาการต่างๆ เช่น เสมหะและความแน่นหน้าอกลดลง และอุณหภูมิของร่างกายลดลง และฟิล์ม X-ray และ CT scan ที่ถ่ายปอดทั้งสองข้างดูเหมือนจะไม่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยสรุป อาการดีขึ้น”
ต่างจากกลุ่มที่ไม่ได้รับการรักษา ครั้งนี้ผู้อำนวยการจางเอ่ยรายละเอียดอาการและการรักษาของผู้ป่วยด้วย เขารู้ด้วยว่าการเปรียบเทียบนี้เน้นที่กลุ่มฝังเข็มหลอกและกลุ่มฝังเข็มจริง
[1]การได้ชี่ 得气 หรือปฏิกิริยาต่อเข็ม (needling sensation) หมายถึง ความรู้สึกถึงการออกฤทธิ์ของเข็มเมื่อแทงเข็มลงไปถึงจุด โดยผู้ป่วยอาจรู้สึกปวด, ชา, พองแน่น หรือรู้สึกหน่วงบริเวณรอบจุดที่ฝังเข็ม ในขณะเดียวกันแพทย์ฝังเข็มจะรู้สึกว่าเข็มในมือตึงแน่นเหมือนถูกหน่วงเอาไว้ ซึ่งการได้ชี่มีความสำคัญมากในการฝังเข็มให้ได้ผลในการรักษา