เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 25 ขึ้นสู่คำค้นหายอดนิยม
บทที่ 25 ขึ้นสู่คำค้นหายอดนิยม
ตัวอย่างรายการชุมนุมวิชาการไม่มีอะไรซับซ้อน มันเป็นการคัดตัวอย่างฉากที่น่าตื่นเต้นระหว่างการตอบคำถาม
โดยเฉพาะการตอบคำถามของซูเย่ที่ทำให้หลายคนอยากรู้ว่าหมอนี่จะมีความสามารถมากแค่ไหน
เมื่อดูคลิปตัวอย่างรายการจบลง
ทุกคนก็ถึงกับตกตะลึง
“นั่นมันซูเย่ที่อยู่ระหว่างการแข่งขันค้นหาสุดยอดแพทย์แผนจีนรุ่นใหม่ไม่ใช่หรือไง?”
“การแข่งขันจัดขึ้นในเมืองตี้ตูเหมือนกัน หมายความว่าซูเย่ยังแบ่งเวลาไปออกรายการทีวีได้อีกเหรอเนี่ย?”
“ขนาดแวะไปออกทีวี หมอนี่ก็ยังกลับมาแข่งได้คะแนนเต็มอีกเนี่ยนะ”
“หมายความว่าซูเย่แข่งขันไปด้วยและแวะอัดรายการทีวีไปด้วย แต่ก็ยังสามารถเอาชนะทุกคนได้ง่ายๆ เหมือนเดิมอยู่ดี?”
“ให้ตายสิ คนอะไรจะเก่งขนาดนี้วะ?”
ไม่มีใครไม่ตกตะลึง
ทุกคนตื่นเต้นที่จะได้รับชมรายการชุมนุมวิชาการ
พวกเขาอยากรู้ว่าความสามารถของซูเย่จะไปสิ้นสุดลงที่ตรงไหน
…
วันต่อมา เวลา 19:50 น.
กำลังจะถึงเวลาออกอากาศของรายการชุมนุมวิชาการแล้ว
เมืองตี้ตู
เขตที่อยู่อาศัยใจกลางเมือง
ณ ห้องนั่งเล่นที่มีขนาดกว้างขวาง
ผู้กำกับจ้าวเหมียนและชายร่างอ้วนผู้เป็นหัวหน้าฝ่ายผลิตของสถานีโทรทัศน์นั่งอยู่ด้วยกัน พวกเขากำลังดื่มสุราระหว่างดูฉากโฆษณาบนหน้าจอโทรทัศน์
สิ่งที่พวกเขาต้องการรับชมก็คือการตอบคำถามของซูเย่ในรายการชุมนุมวิชาการ
“ผมขอบอกเลยว่าคุณห้ามพลาดอีพีนี้เด็ดขาด” จ้าวเหมียนยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบและพูดกับชายร่างอ้วนด้วยความตื่นเต้น “เหตุผลที่ผมเรียกคุณมาในวันนี้ ก็เพื่อให้คุณได้เห็นด้วยตาของตนเอง กรุณาเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับความตกตะลึงด้วยนะครับ!”
“ผู้กำกับจ้าว รายการของคุณออกอากาศได้สักพักแล้ว ไม่เห็นจะมีอีพีไหนได้รับความนิยมเลย ตอนนี้คุณจะมาฝากความหวังไว้ที่นักศึกษาซูเย่แค่คนเดียว ไม่กลัวผิดหวังบ้างหรือไง?”
ชายร่างอ้วนถาม
“อย่าเพิ่งมีอคติสิครับ” จ้าวเหมียนตอบ ใบหน้ายิ้มแย้ม “ดูให้จบก่อนแล้วค่อยคุยกันทีหลังก็ได้”
“ขนาดนั้นเลยเชียว?” ชายร่างอ้วนยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ พูดด้วยความไม่อยากเชื่อ
“ดูจบเดี๋ยวคุณก็รู้เอง”
จ้าวเหมียนกล่าวด้วยความมั่นใจ
ในเวลาเดียวกันนี้
แฟนๆ รายการชุมนุมวิชาการกำลังรอคอยการออกอากาศด้วยความตื่นเต้น เพราะรายการประจำสัปดาห์นี้ถูกตัดต่อมาเพื่อรองรับเทศกาลปีใหม่โดยเฉพาะ
เป็นเวลา 20:00 น.
รายการชุมนุมวิชาการเทปพิเศษก็ได้เวลาออกอากาศ
…
ค่ำคืน
คุณป้าของซูเย่บังคับให้ลูกๆ ของตนเองทั้งสองคนมานั่งดูโทรทัศน์เป็นเพื่อน
“พวกแกมาศึกษาเรื่องบทกวีจีนเอาไว้ สมองจะได้มีความรู้ประดับไว้บ้าง”
เมื่อลูกพี่ลูกน้องของซูเย่ได้ยินคำนั้น พวกเธอก็ถึงกับแสดงกิริยาเบะปากออกมาทันที
น่าเบื่อจริงๆ
พูดอย่างอื่นบ้างก็ได้นะแม่!
คุณป้าซึ่งกำลังทำหน้าดุพลันมีสีหน้าฉงนสงสัยเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนว่าผู้เข้าแข่งขันคนที่ห้ามีนามว่า “ซูเย่”
ซูเย่ไหนกันนะ?
รอจนกระทั่งซูเย่ปรากฏตัวขึ้นมาบนเวที
สามแม่ลูกก็ยังไม่อยากเชื่ออยู่ดี
เป็นซูเย่จริงๆ ด้วย!
“เป็นซูเย่คนนี้ไปได้ยังไง? คนอย่างเสี่ยวเย่ไปออกทีวีได้ด้วยเหรอ?”
คุณป้าอุทานออกมาด้วยความเหลือเชื่อ
…
ไม่ไกลจากบ้านของคุณป้าซูเย่
คุณปู่ของสองสาวฝาแฝดไป๋จือกำลังนั่งดูโทรทัศน์ และรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาคนในจอ ท่านจึงหยิบแว่นตามาสวมใส่ เมื่อแน่ใจแล้วว่าสิ่งที่ตนเองคิดถูกต้อง คุณปู่ก็พูดว่า “รีบมาดูทีวีเร็วเข้า พ่อหนุ่มคนนี้เพิ่งมาบ้านเราเมื่อไม่กี่วันก่อนไม่ใช่เหรอ ที่ว่าเขาเป็นเพื่อนกับหลานๆ ของเราน่ะ?”
ตอนนี้สองสาวฝาแฝดกลับบ้านไปแล้ว ที่นี่จึงเหลือเพียงสองปู่ย่าอยู่ด้วยกันตามลำพัง
“ตาฝาดหรือเปล่า?”
คุณย่าไป๋จือพูดพร้อมกับเดินเข้ามา
แต่หลังจากนั้น ท่านก็เห็นหน้าของชายหนุ่มในโทรทัศน์
“เป็นเขาจริงๆ ด้วย”
คุณย่าอุทานด้วยความประหลาดใจ
ก่อนนั่งลงรับชมรายการอยู่เคียงข้างคุณปู่ไป๋จือ
…
รายการตัดต่อได้อย่างเร้าใจ ทำให้ทุกคนที่ได้รับชมอยากจะดูต่อไปไม่มีหยุด
เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น
รายการก็จบลง
“นั่นคือเสี่ยวเย่ที่พวกเรารู้จักจริงๆ เหรอ?” เมื่อรับชมจบแล้ว คุณป้าของซูเย่ก็พูดออกมาด้วยความพิศวง
ซูเย่ที่ปรากฏตัวอยู่ในโทรทัศน์ช่างแตกต่างจากซูเย่ที่เธอรู้จักราวฟ้ากับเหว
เมื่อหายจากอาการตกตะลึง คุณป้าถึงได้หันไปมองหน้าลูกๆ ทั้งสองคนของตนเอง
พวกเธอก็กำลังทึ่งไปกับกับความยอดเยี่ยมที่ซูเย่แสดงให้เห็นในรายการเช่นกัน
“นี่เขาเป็นคนเดียวกับอีตานั่นจริงๆ เหรอ?” พวกเธอหันมองหน้ากัน ต่างก็พบเห็นความตกตะลึงในแววตาของกันและกัน
“พูดอะไรแบบนั้น”
เมื่อเห็นลูกๆ ของตัวเองอยู่ในอาการตะลึงงัน คุณป้าก็รีบพูดออกมาทันที “เฮ้อ ดูเหมือแม่จะเข้าใจผิดไปเอง ครั้งสุดท้ายแม่หวังว่าพวกแกจะเก่งได้สักครึ่งหนึ่งของเสี่ยวเย่ แต่ตอนนี้ ขอแค่พวกแกเก่งได้เท่าเขาเศษเสี้ยวเดียว แม่ก็พอใจแล้ว!”
“ฉันกับแม่เขาก็ไม่ได้ต่างกันสักเท่าไหร่ ทำไมพอมีลูกออกมา ลูกถึงได้ต่างกันขนาดนี้นะ?”
คุณป้าพึมพำต่อไป
สองพี่น้องแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน
หลังจากนั้น คุณป้าก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรไปหาแม่ของซูเย่
เมื่ออีกฝ่ายรับสาย เธอก็พูดด้วยความตื่นเต้นว่า
“น้องจ๋า ลูกชายของเธอได้ออกทีวีด้วยละ!”
“ฉันเพิ่งดูรายการจบเมื่อกี้นี้เอง ลูกเธอเก่งมากเลยนะ ตอบคำถามได้ทุกข้อ ได้รับคะแนนเต็ม อย่างนี้ถ้าไม่เรียกว่าอัจฉริยะแล้วจะเรียกอะไรได้อีก!”
…
ในเวลาเดียวกันนี้
บ้านของซูเย่
“เสี่ยวเย่เนี่ยนะไปออกทีวี?” เมื่อได้รับการแจ้งข่าวจากน้องสาวของตนเอง แม่ของซูเย่ก็ชำเลืองมองชายหนุ่มที่นอนเอกเขนกอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น “ทำไมฉันถึงไม่เห็นรู้เรื่องเลย?”
พูดจบ
เธอก็มองซูเย่ด้วยแววตาคาดโทษ
เด็กคนนี้มันน่าตีนัก ไปออกโทรทัศน์ทั้งที ไม่เห็นมาบอกแม่บ้างเลย
เมื่อวางสาย พ่อและแม่ของซูเย่ก็เดินเข้าไปหาซูเย่ด้วยความฉุนเฉียว
“นี่แกไปออกทีวีมาเหรอ?”
ทั้งพ่อทั้งแม่ต่างก็ถามออกมาพร้อมกัน
ซูเย่ยิ้มตอบกลับไป “ผมอัดไว้ตอนไปแข่งค้นหาสุดยอดแพทย์แผนจีนน่ะครับ พอดีมีเวลาว่างนิดหน่อย ผมก็เลยไปอัดรายการชุมนุมวิชาการและก็ชนะได้อันดับหนึ่งด้วย”
“แล้วทำไมไม่บอกกันบ้างเลย?” แม่ของซูเย่ตวัดมือตีขาลูกชายหนึ่งเพี๊ยะด้วยความโกรธ “ได้ออกทีวีทั้งที น่าจะบอกให้พ่อแม่รู้บ้าง”
“ผมเห็นว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ ก็เลยไม่ได้บอกครับ”
ซูเย่รีบชักขาหลบเมื่อเห็นแม่ทำท่าจะตีต่อ
“ไม่ใช่เรื่องสำคัญกับผีสิ!”
ทั้งพ่อและแม่ของซูเย่ประสานเสียงด้วยความดุดัน ก่อนจะรีบไปรับชมรายการย้อนหลังอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้น
“ติ๊ง!”
เสียงสวรรค์ดังขึ้นในหัวของซูเย่
หัวใจของชายหนุ่มพองโตโดยอัตโนมัติ
แต้มศีลธรรม +20!
ในที่สุดก็มาแล้ว
ซูเย่ยิ้มเล็กน้อย
นี่แหละคือเป้าหมายที่แท้จริงซึ่งทำให้เขาเข้าร่วมรายการชุมนุมวิชาการ
มันไม่ได้เป็นเพราะว่าซูเย่อยากจะเอาชนะใครเลย!
แต่เขาเดาว่าเมื่อรายการได้ออกอากาศ ความยอดเยี่ยมของเขาในรายการ ‘ชุมนุมวิชาการ’ ก็จะต้องทำให้ผู้คนมากมายเกิดความประทับใจ และมีแรงบันดาลใจที่จะศึกษาเกี่ยวกับวัฒนธรรมจีนเพิ่มมากขึ้น
เมื่อรวมเข้ากับแต้มศีลธรรมจากพี่น้องไป๋จือ ขณะนี้ ซูเย่ก็มีแต้มศีลธรรม 100 คะแนนแล้ว
…
บ้านคุณปู่คุณย่าของสองแฝดไป๋จือ
“เก่งมาก เด็กคนนี้เก่งมาก”
คุณย่าอดชื่นชมออกมาไม่ได้เมื่อดูรายการจบลงพร้อมกับคุณปู่
“ถือเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์”
คุณปู่พยักหน้ายิ้มกว้าง สีหน้ามีความสุข บอกชัดถึงความประทับใจ
…
บ้านของจ้าวเหมียน
“เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย…”
เสียงอุทานด้วยความตื่นเต้นดังขึ้นต่อเนื่องในห้องนั่งเล่น
ความร้อนจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ไม่ได้ทำให้สมองของชายอ้วนตื่นเต้นเท่ากับการตอบคำถามของซูเย่ในรายการชุมนุมวิชาการ ตลอดเวลาที่จ้องมองซูเย่บนหน้าจอโทรทัศน์ ชายอ้วนก็มีสีหน้าตกตะลึงราวกับได้ค้นพบโลกใบใหม่
“เป็นไงล่ะครับ?”
ผู้กำกับจ้าวเหมียนสอบถามด้วยความตื่นเต้น “ผมพูดถูกใช่ไหม? คุณคงรู้แล้วว่าไม่ผิดนะครับที่ผมจะฝากความหวังเรตติ้งในรายการค้นหาสุดยอดแพทย์แผนจีนไว้ที่เขา?”
“ถูกต้อง เขานี่แหละตัวความหวังของเรา!” ชายอ้วนพยักหน้าด้วยความตื่นเต้น “คราวนี้แหละรายการของพวกเราต้องดังเป็นพลุแตกแน่!”
“ผมรู้ว่าเราควรต้องทำยังไง!”
หลังจากนั้น ชายอ้วนก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดโทรไปหาใครบางคน
“ฟังนะ”
“คุณเอาเทปรายการชุมนุมวิชาการมาตัดต่อใหม่ ตัดเอาแค่ไฮไลท์การตอบคำถามของซูเย่แล้วเอาไปโพสต์ลงในเว่ยป๋อนะ จ่ายเงินค่าโฆษณาด้วย ผมอยากจะปั้นให้เขาติดหนึ่งในสิบคำค้นหายอดนิยมให้ได้!”
ชายอ้วนออกคำสั่งต่อบุคคลปลายสายด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น หลังจากนิ่งเงียบไปเล็กน้อย เขาก็ยิ้มออกมา “แค่ติดสิบอันดับแรกก็พอ เอาถึงหนึ่งในสามแพงเกินไป”
จ้าวเหมียนยิ้มด้วยความขมขื่นและส่ายหน้าเล็กน้อย
ไม่มีทางเลยที่รายการของเขาจะได้รับงบประมาณจากทางผู้ผลิตอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
ตลอดเวลาที่ผ่านมา รายการจึงไม่เคยทำเงินอย่างเป็นกอบเป็นกำ
แต่หลังจากนี้ พวกเขาคงต้องคิดหาที่เก็บเงินกันมากกว่า
“ว่าไงนะ?!”
“เขามีชื่อติดอยู่ในคำค้นหายอดนิยมอยู่แล้วเหรอ?”
“ตอนนี้อยู่อันดับเจ็ดแล้ว?”
ชายอ้วนอุทานเสียงหลง
เมื่อได้ยินเสียงอุทานของชายอ้วน
จ้าวเหมียนซึ่งคิดเรื่องนี้ไม่ถึงเช่นกันก็ต้องหยิบโทรศัพท์มาเข้าแอปเว่ยป๋อ เพื่อตรวจสอบด้วยตัวเอง
หลังจากนั้น
เขาก็ต้องเบิกตาโต
ปรากฏว่าซูเย่และรายการชุมนุมวิชาการกลายเป็นคำค้นหายอดนิยมอันดับที่เจ็ดในเว็บเว่ยป๋อแล้ว
“รายการเพิ่งออนแอร์จบก็ขึ้นเทรนด์แล้วเหรอ? เป็นไปได้ยังไง?”
จ้าวเหมียนพึมพำกับตัวเองด้วยความเหลือเชื่อ
เขามั่นใจว่าจอมงกเฉินไม่มีทางจ่ายค่าโฆษณาแน่นอน
นั่นหมายความว่านี่เป็นคำค้นหาจากชาวเน็ตของจริง!
รายการของพวกเขากำลังจะดังระเบิด!
จ้าวเหมียนอดตื่นเต้นไม่ได้
ในเวลานี้
ในเว็บไซต์เว่ยป๋อก็กำลังเกิดกระแสแชร์คลิปวิดีโอการตอบคำถามของซูเย่จากรายการชุมนุมวิชาการ
“ชุมนุมวิชาการ : กำเนิดอัจฉริยะคนใหม่”
“ชุมนุมวิชาการ : ชายหนุ่มมหัศจรรย์”
“ชุมนุมวิชาการ : ตำนานบทใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว”
“ชุมนุมวิชาการ : เผยโฉมผู้ชนะที่ทำให้คุณต้องอึ้ง!”
คลิปวิดีโอเหล่านี้กำลังถูกแชร์อย่างแพร่หลายในเว็บเว่ยป๋อ
ทุกคนกดเข้าไปดูด้วยความสนใจ
ไม่มีใครไม่ตกตะลึง
“ถึงเขาจะดูขี้เก๊กไปหน่อยก็เถอะ แต่ในโลกนี้จะมีใครเก่งได้เท่าเขาบ้างเนี่ย!”
“สุดยอดเลยอ่ะ”
“นักศึกษาซูเย่คนนี้โคตรเก่ง!”
“พอเอามาเทียบกับตัวเองแล้ว ฉันนี่มันเศษขยะชัดๆ”
“ต่อให้พวกเราทุกคนเอาสมองรวมกันก็ยังสู้เขาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”
“ที่สำคัญหมอนี่หน้าตาดีอีกด้วย!”
“รูปหล่อแถมฉลาด…เออ ยอมแพ้ก็ได้ว่ะ”
“ให้ตายสิ ฉันขนลุกไปหมดแล้วเนี่ย ถ้าเทียบกันแล้ว ฉันเหมือนเกิดมาไม่มีประโยชน์เลยง่ะ!”
คอมเมนต์มากมายในเว็บเว่ยป๋อแสดงความชื่นชมซูเย่จากใจจริง
…
ที่ไหนสักแห่ง
“ซูเย่?”
หลี่มู่เสวี่ยซึ่งกำลังไถหน้าจอในแอปเว่ยป๋อสะดุดใจกับคลิปวีดีโอที่มีชื่อ ‘ซูเย่’ อยู่ในแคปชั่น เธอจึงกดเข้าไปดูด้วยความสงสัย
หลังจากนั้น
หญิงสาวก็ถึงกับสะดุ้งเฮือก
“ใช่เขาจริงๆ เหรอ?”
“ทำไมถึงได้เก่งขนาดนี้?”
แววตาของหลี่มู่เสวี่ยเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ
ไม่ว่าจะเป็นเธอหรือเพื่อนร่วมโรงเรียนระดับประถมและมัธยมของซูเย่ บุคคลที่ได้รับชมคลิปวิดีโอเหล่านี้ต่างก็ตกอยู่ในอาการตกตะลึงเหมือนกันทั้งสิ้น
พวกเขาไม่รู้เลยว่าซูเย่ไปเรียนเรื่องราวพวกนี้มาจากไหน
แต่ว่า
คนที่ตกใจมากที่สุด
กลับเป็นพวกของหวังจี้เชา
ผู้ที่ได้ผ่านเข้ารอบ 50 คนสุดท้ายของการแข่งขันค้นหายอดแพทย์แผนจีนรุ่นใหม่ ต่างรับทราบเป็นอย่างดีว่าซูเย่ได้ไปบันทึกเทปถ่ายทำรายการชุมนุมวิชาการระหว่างการแข่งขัน ดังนั้น พวกเขาจึงเปิดทีวีดูด้วยความอยากรู้ว่าซูเย่จะทำได้ดีสักแค่ไหน
ผลก็คือ
หลังจากดูจบแล้ว ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 49 คนต่างก็ตะลึงงัน
พวกเขาตกตะลึงในความสามารถของซูเย่
“ให้ตายสิ หมอนี่มันอยากอวดความสามารถตัวเองมากเลยใช่ไหม?”
“หมอนี่มันเป็นปีศาจชัดๆ!”