เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 40 เรตติ้งทะลุ 2 รายการวาไรตี้ชั้นนำ!
บทที่ 40 เรตติ้งทะลุ 2 รายการวาไรตี้ชั้นนำ!
“1.5 แล้ว เรตติ้งถึง 1.5 แล้ว!!!”
ในห้องพักของโรงแรม โทรศัพท์มือถือของจ้าวเหมียนมีเสียงตะโกนด้วยความประหลาดใจดังออกมาจากทีมงาน
เมื่อได้ยิน ร่างกายของจ้าวเหมียนพลันชะงักค้าง ความตึงเครียดในหัวใจของเขาผ่อนคลายในทันที และดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
เรตติ้งรายการนี้ขึ้นอยู่กับซูเย่จริงๆ!
เรตติ้ง 1.5 มันดีกว่าสองตอนก่อนหน้านี้อีก!
“มันเพิ่มขึ้น… เรตติ้งยังคงเพิ่มขึ้น”
ในเวลานี้ เสียงของทีมงานดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้ผู้กำกับจ้าวที่เพิ่งผ่อนคลายรู้สึกประหม่าอีกครั้ง
ยังคงเพิ่มขึ้น? วันนี้จะทำสถิติใหม่ได้ไหม?
ใช่ รายการเพิ่งเล่นไปได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น และยังมีอีกครึ่งตอน!
ในใจของจ้าวเหมียนเปี่ยมไปด้วยความคาดหวัง
……
ในหน้าจอทีวี การสอบยังดำเนินต่อไป
ในตอนที่ชาวเน็ตเห็นผู้เข้าแข่งขันในพื้นที่รอสอบและในห้องรับรองต่างตกตะลึงกับเวลาสอบของซูเย่ พวกเขาก็ยิ่งตื่นเต้น
แม้แต่ผู้ชมที่ไม่เข้าใจแพทย์แผนจีนก็ยังรู้สึกว่าความสามารถของซูเย่ในตอนนี้มันเยี่ยมยอดมากจนไม่รู้จะอธิบายยังไง
โดยเฉพาะเมื่อมีคนถามว่านาฬิกาจับเวลาพังหรือเปล่า
ในช่องถ่ายทอดสดทางอินเทอร์เน็ต มีคอมเมนต์ ‘สุดยอดไปเลย’ เด้งขึ้นมาไม่หยุด
การสอบยังคงดำเนินต่อไป
จำนวนผู้ที่รับชมการถ่ายทอดสดก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การสนทนาและคอมเมนต์ของชาวเน็ตในแพลตฟอร์มต่างๆ ก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน
ต่อมา ภาพในหน้าจอเปลี่ยนไปที่การสอบครั้งสุดท้ายของตอนนี้ทันที
ภายใน 30 นาที ให้ค้นหาหญิงตั้งครรภ์โดยการจับชีพจรจากอาสาสมัคร 100 คน!
“หาผู้หญิงท้องเหรอ บ้าจริง ทำแบบนี้ได้ด้วยงั้นเหรอ”
“รายการอื่นๆ ก็เคยมีแบบนี้เหมือนกัน แค่จับชีพจรก็รู้ว่าท้องหรือไม่ท้องจริงเหรอ แต่ก่อนฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องโกหก ที่แท้แล้วมันทำได้จริงๆ สินะ?”
“แบบนี้หรือเปล่าที่หมอจีนเขาเรียกว่าชีพจรมงคล เหมือนจะง่ายอยู่นะ”
ทุกคนคิดว่าการสอบครั้งนี้ไม่ได้มีความยากเลยแม้แต่น้อย นักศึกษาแพทย์แผนจีนที่กำลังดูรายการอยู่จึงรีบพิมพ์คอมเมนต์อธิบายทันที
“พวกคุณไม่สังเกตเหรอว่าในละครทีวี ส่วนมากจะมีแค่หมอจีนที่อายุมากเท่านั้นที่สามารถตรวจชีพจรมงคลได้”
“การจับชีพจรมงคลไม่ใช่เรื่องยาก แต่สิ่งที่ยากจริงๆ คือการหาหญิงตั้งครรภ์จากผู้หญิง 100 คน และการตรวจหญิงมีครรภ์นั้นไม่สามารถดูจากภายนอกได้!”
“ไม่เพียงเท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น!”
“ทุกครั้งที่หมอจีนจับชีพจร ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งนาทีหรือประมาณนั้นเพื่อระบุสภาวะการเต้นของชีพจร ในการจับชีพจรสำหรับ 100 คนต้องการเวลาอย่างน้อย 100 นาที แล้วการสอบครั้งนี้มีเวลาเพียง 30 นาที มันจะไปพอได้ยังไง!”
“การสอบนี้ ในฐานะนักศึกษาแพทย์ฉันรู้สึกว่ามันดูโรคจิตเกินไป”
เมื่อเห็นคอมเมนต์ของคนที่เรียนแพทย์ ชาวเน็ตถึงได้เข้าใจว่าการสอบครั้งนี้ไม่ได้ง่ายเลยแม้แต่น้อย
ในหัวของพวกเขาพลันมีความคิดหนึ่งแวบเข้ามา ‘รายการทำบ้าอะไรเนี่ย ทำอีกนะ ชอบ!’
ณ เวลานี้การสอบได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว สายตาของผู้ชมต่างจับจ้องที่จอไม่วางตา ในเวลาไม่นานซูเย่ก็เดินเข้าห้องสอบ
ก่อนหน้าซูเย่จะเข้าไป ผู้ที่เร็วที่สุดคือหวังจี้เชา ซึ่งทำการตรวจเสร็จสิ้นภายในเวลาเพียง 25 นาที และคอมเมนต์ของชาวเน็ตก็ถล่มทลายเมื่อเห็นฉากนี้
เร็วเกินไปแล้ว!
ช่วงเวลาที่ซูเย่เข้าห้องสอบ ความรู้สึกคาดหวังของทุกคนเพิ่มขึ้นอีกครั้งในทันที และพวกเขาทั้งหมดต้องการดูว่าซูเย่ใช้เวลานานเท่าใดในสอบครั้งนี้ให้เสร็จสิ้น
แต่นาทีถัดมา ผู้ชมทุกคนพลันตกตะลึง พวกเขาเห็นจริงๆ ว่าซูเย่กำลังจับชีพจรของคนสองคนในเวลาเดียวกัน?
“บ้าไปแล้ว”
“จับชีพจรแบบนี้ได้ด้วย”
“สุดยอด”
“วาดภาพด้วยสองมือยังพอว่า ตอนนี้จับชีพจรด้วยสองมือ?”
“สุดยอดเกินไปแล้ว”
“จับชีพจรต้องใช้จิตใจที่สงบ จะใช้สองมือได้ยังไง?”
ทันทีที่เห็นชาวเน็ตต่างแตกตื่นกันยกใหญ่
วินาทีต่อมา ไม่ถึงสิบวินาทีหลังจากที่เขาจับชีพจรเสร็จ ซูเย่ก็เดินไปหาอาสาสมัครสองคนถัดไปทันที
“บ้าไปแล้ว!”
“จับชีพจรไม่ใช่ว่าต้องใช้เวลาหนึ่งนาทีเหรอ ถึงแม้ว่าเวลาในการจับชีพจรของผู้เข้าแข่งขันคนก่อนหน้าจะไม่ถึง 60 วินาที แต่อย่างน้อยก็ 30 วินาทีหรือมากกว่านั้น เขาจับชีพจรบ้าอะไรแค่สิบวินาที?”
“เขาคงไม่ได้แค่ทำท่าทำทางไปอย่างนั้นเหรอใช่ไหม?”
“ถ้าจับชีพจรด้วยมือทั้งสองข้างด้วยเวลาสิบวินาทีจริงๆ …นี่เขาคือ ‘คอมพิวเตอร์’ งั้นเหรอ!!”
“ฉันสงสัยว่าเขาไม่ใช่นักศึกษาแพทย์แผนจีน แต่เขาคือหมอจีนปลอมตัวมา!”
……
“ทะลุ 2 แล้ว เรตติ้งทะลุ 2 แล้ว!”
เสียงร้องดังมาจากปลายสาย เมื่อได้ยินผู้กำกับจ้าวพลันกระโดดลุกขึ้นนั่งตัวตรง
ใบหน้าของเขาเปี่ยมไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เขาถึงกับตื่นเต้นจะหน้าแดง
ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น ทีมงานของรายการทุกกลุ่มในโรงแรมต่างตื่นเต้นจนร้องตะโกนลั่น
เช่นเดียวกับทีมงานที่อยู่ที่ตึกสถานีโทรทัศน์ พวกเขาก็ลิงโลดด้วยความดีใจไม่ต่างกัน
“วาไรตี้ชั้นนำ!”
“ตอนนี้รายการของพวกเราคือรายการวาไรตี้ชั้นนำแล้ว!”
“ผมไม่เคยเห็นเรตติ้งรายการวาไรตี้เพิ่มขึ้นทุกตอนเลยแบบนี้เลย ตอนที่ออกอากาศตอนที่สาม เรตติ้งก็เกิน 2 ได้! และไม่มีรายการวาไรตี้ที่มีเรตติ้งทะลุ 2 มาปีกว่าแล้ว!”
“ผลลัพธ์นี้น่าทึ่งมาก! พวกเราสุดยอดไปเลย!”
ทีมงานรู้สึกตื่นเต้นจนแทบพูดจับใจความไม่ได้
ในเวลาเดียวกัน ทุกคนในอุตสาหกรรมรายการวาไรตี้ที่ติดตามรายการนี้ต่างตกตะลึงกับผลลัพธ์นี้เช่นกัน
มีการพูดคุยเพื่อถกประเด็นกันมากมายในกลุ่ม
“แม่เจ้า ออนแอร์สามตอนก็ทะลุ 2 แล้วงั้นเหรอ”
“สมแล้วที่เป็นช่องดัง ความนิยมไม่มีตก!”
“ไม่เกี่ยวกับช่องดังหรอก แต่รายการเขาดีจริงๆ ต่างหาก”
“ช่วงเปิดรายการจืดชืดไปหน่อย แต่พอดูไปเรื่อยๆ มันก็สนุกดีอย่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ!”
“รายการวาไรตี้นี้จะต้องดังระเบิดแน่ๆ!”
……
หลังจากทุกคนกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุข จ้าวเหมียนจึงสูดหายใจเข้าลึกเพื่อปรับอารมณ์ก่อนจะแจ้งทีมงานคนอื่นๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือที่กำลังวิดีโอคอลทันที
“ยิ่งเรตติ้งดีขึ้นเท่าไหร่ เราก็ยิ่งห้ามเย่อหยิ่ง เรายังต้องทำงานหนักเพื่อให้รายการนี้ดีที่สุด!”
“ทุกคนใจเย็นๆ ก่อน สงบจิตสงบใจ ลืมเรตติ้งนี้ไปซะ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะมีการถ่ายทำกันต่อ”
“รองานเลี้ยงฉลองปิดกล้องเถอะ ถึงเวลานั้นพวกเราค่อยมาดื่มกันอย่างมีความสุขกันเถอะ!”
“ครับ/ค่ะ”
ทุกคนตอบรับอย่างพร้อมเพรียง
……
ในจอโทรทัศน์ แสดงภาพซูเย่เดินออกจากห้องสอบแล้ว
ในระหว่างการสอบทั้งหมดชายหนุ่มใช้เวลาเพียงสิบนาทีเท่านั้น
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ในสถานการณ์ที่เวลา 30 นาทีแทบจะไม่เพียงพอ แต่ซูเย่กลับตรวจเสร็จในเวลาเพียง 10 นาที!!!
ผลลัพธ์นี้ ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้เข้าร่วมทั้งหมดยากจะเชื่อ แต่ยังทำให้ผู้ชมทั้งหมดตะลึงพรึงเพริด
พวกเขาสามารถมองเห็นได้ชัดเจน ซูเย่จับชีพจรอาสาสมัครหลายร้อยคนภายใน 10 นาที และตรวจหาคนท้องได้อย่างแม่นยำ
ผลลัพธ์นี้ ทำให้ทุกคนแทบจะไม่เชื่อสายตาของตัวเอง
เขาจะเก่งเกินไปแล้ว!
การสอบสิ้นสุดลง ในตอนสุดท้ายที่กำลังจะประกาศคะแนน ไม่มีใครสงสัยในตัวซูเย่ ทุกคนต่างคิดว่าเขาสมควรได้รับที่หนึ่ง
จะให้ทำไงได้ละ เขาเก่งเกินไปนี่น่า!!!
เมื่อเห็นรายชื่อหวังจี้เชาเป็นอันดับที่สองเช่นเดิม ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
และภาพที่หวังจี้เชายกมือถาม ก็กลายเป็นประเด็นในช่วงท้ายของรายการพอดี …เหมือนกับก่อนหน้านี้ไม่ผิด ทำให้ตัวเองขายหน้าอีกแล้ว!!
“หวังจี้เชาน่าเวทนาเหมือนกันนะ แต่ทำไมฉันถึงขำไม่หยุดแบบนี้ ฮ่าฮ่า”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ฉันก็เหมือนกัน เขาน่าสงสารมาก แต่ฉันขอขำก่อน”
……
บ้านของซูเย่
“ลูกของฉันเก่งจริงเลย ได้ที่หนึ่งตลอด”
คุณแม่ซูมองไปทางพ่อซูแล้วเอ่ยขึ้นอย่างภาคภูมิใจ
“ลูกของเราต่างหาก”
คุณพ่อซูเอ่ยแย้งขึ้น
“ลูกของฉันต่างหาก!”
คุณแม่ซูเบิ่งตากว้างมองไปทางพ่อซู
“ได้ได้ได้ ลูกคุณคนเดียวก็ได้”
……
บ้านปรมาจารย์ฮั่ว
“อืม สอนได้ไม่เลวเลยนะ”
หลังจากดูตอนที่สามแล้ว ฮัวเหรินเชิงยิ้มและพยักหน้าให้หลี่เคอหมิงซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ เขาแล้วเอ่ยต่อ “แม้ว่าวิธีการจะทำให้คาดไม่ถึง แต่ก็ถือว่ามีพื้นฐานที่ดี”
หลี่เคอหมิงยิ้มรับและพยักหน้าเห็นด้วยทันที
คะแนนของซูเย่ทำให้เขาประหลาดใจจริงๆ ทั้งที่เพิ่งสอนอีกฝ่ายไปได้ไม่นานแท้ๆ ตัวเขาไม่ได้คาดหวังว่าซูเย่จะเก่งขึ้นได้เร็วเพียงนี้!
แน่นอนว่าชายหนุ่มคนนี้จะต้องเป็นอัจฉริยะด้านการแพทย์แผนจีนในอนาคตแน่!
……
“พ่อหนุ่มคนนี้ ยิ่งดูยิ่งเก่ง ยิ่งดูยิ่งชอบ”
คุณย่าของสองพี่น้องไป๋เอ่ยขึ้นอย่างยิ้มแย้ม
ใบหน้าของคุณปู่เองก็ฉายแววพอใจ
แล้วจะขอให้เสี่ยวหรานหรือว่าเสี่ยวเหยียนดีละ?
……
“ซูเย่เก่งขนาดนี้เลยงั้นเหรอ?”
สองพี่น้องตระกูลไป๋ก็ตกใจต่อผลคะแนนของซูเย่เช่นกัน
หลี่มู่เสวี่ยที่บังคับตัวเองไม่ให้เปิดดูรายการ ในที่สุดเธอก็อดไม่ได้ที่จะเปิดดูตอนที่สาม
หลังจากดูจบแล้ว สีหน้าของเธอก็ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ
ซูเย่ที่เก่งมากในด้านการแพทย์ตะวันตก เขากลับมาอีกครั้งแล้ว เพียงแต่ครั้งนี้เขาอยู่ในแวดวงแพทย์แผนจีนก็เท่านั้น
……
บนโลกอินเทอร์เน็ต
เมื่อชาวเน็ตดูตอนที่สามจบ พวกเขาก็เข้ามาดูความเห็นคนอื่นในเวยป๋อ แล้วได้เห็นว่ามีสื่อข่าวรายงานเกี่ยวกับเรตติ้งของรายการในทันที
ชาวเน็ตหลายคนเห็นยอดเรตติ้งของรายการทะลุสองก็ตื่นตะลึงทันที
“ทะลุ 2?”
“เจ๋งไปเลย”
“รายการวาไรตี้ดังๆ ในช่วงนี้อย่างมากก็ได้แค่ 1.6 รายการอนาคตแพทย์แผนจีนที่ดูไม่น่าเอามาทำรายการวาไรตี้ได้ กลับได้รับเรตติ้งสูงขนาดนี้เลยเหรอ?”
“เรตติ้งสูงจนน่าตกใจมาก นี่มันรายการวาไรตี้ชั้นนำ!”
“ไม่เคยมีรายการวาไรตี้เกี่ยวกับการแพทย์แผนจีนมาก่อน และนักศึกษาทุกคนที่เข้าร่วมรายการนี้ก็แข็งแกร่งและมั่นใจมาก แถมยังมีซูเย่ที่มีความสามารถอันยอดเยี่ยม แล้วจะไม่ดังได้ยังไง”
“ฮ่าฮ่า ฉันคิดว่าสิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือการเผชิญหน้ากันระหว่างซูเย่และหวังจี้เชา มันดูน่าสนใจมาก! พวกเขาดูเหมือนมีเรื่องกันมาก่อน! คนหนึ่งก็คือที่หนึ่งจอมปากร้าย อีกคนหนึ่งเป็นที่สองที่ยอมตายดีกว่ายอมจำนน ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
“พวกเขาสองคนนี้น่าสนใจมากจริงๆ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือซูเย่ปากร้ายมากเกินไปแล้ว”
ผู้คนในแวดวงรายการวาไรตี้ ต่างตกตะลึงกับข่าวสถิติเรตติ้งสูงสุดใหม่นี้ ดังนั้นทันทีที่รายการสิ้นสุดลง การวิเคราะห์ก็เริ่มขึ้นทันที
หลังจากวิเคราะห์ตั้งแต่การออกแบบรายการ จังหวะการดำเนินรายการ เงินทุนในการผลิต และทีมงานเบื้องหลัง ในที่สุดเป้าหมายก็ไปตกอยู่ที่ตัวซูเย่
“ซูเย่ ผู้ชายคนนี้เกิดมาเพื่อรายการวาไรตี้!”
“มีความแข็งแกร่งแต่ไม่หยิ่งจนเกินไป และเฉิดฉายได้อย่างมีความเป็นธรรมชาติ กระตุ้นความหัวร้อนของผู้เข้าแข่งขันคนอื่นได้อย่างดีเยี่ยม ถ้าไม่ใช่เพราะตัวตนของเขาในฐานะนักศึกษาวิทยาลัย ฉันคิดว่าผู้ชายคนนี้เป็นเจ้าพ่อรายการวาไรตี้ที่ยอดเยี่ยม! ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่าเขารู้ขั้นตอนและเนื้อหาการสอบก่อนคนอื่นๆ เขาถึงได้ทำได้ดีขนาดนั้น จนกระทั่งฉันรู้มาว่าการแข่งขันนี้ถูกจัดขึ้นโดยกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุข”
“พรสวรรค์แบบนี้หาได้ยากจริงๆ! การแสดงนี้เป็นสมบัติล้ำค่าจริงๆ รายการนี้ดังมาก ความสำเร็จมากกว่าหกส่วนของรายการมาจากตัวซูเย่ อีกสองส่วนคือหวังจี้เชา และอีกสองส่วนสุดท้ายคือผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ”
“ทำไมจ้าวเหมียนถึงได้รายการนี้ไปทำ?”
“น่าเสียดาย น่าเสียดายจริงๆ”
“ถ้าเขาไม่ไปเป็นนักศึกษาแพทย์แผนจีน เขาจะต้องกลายเป็นดาวรายการวาไรตี้แน่ๆ”
ทีมงานในแผนกรายการวาไรตี้ที่สถานีโทรทัศน์หลายแห่งต่างมีความคิดที่ไม่ต่างกันผุดขึ้นมาในหัวเมื่อดูรายการนี้
……
“ติ้ง!”
ตอนนี้ในหัวของซูเย่มีเสียงเตือนดังขึ้น
คะแนนคุณธรรมเพิ่ม 80 คะแนน!
“เยอะขนาดนี้เลย?”
แววตาของซูเย่มีความประหลาดใจพาดผ่านเล็กน้อย