เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 76 รับเงินสิบห้าล้าน
บทที่ 76 รับเงินสิบห้าล้าน
“ร้านในถนนเส้นนี้ทุกร้านรับซื้อหมด แต่ร้านพวกนี้ก็เป็นร้านมืดเช่นกัน ถึงแม้จะไม่ได้ดำมืดมากนัก ทว่าก็มีของไม่ดีบางอย่างที่หยิบออกมาขายเอากำไร แต่ถ้าไม่มีอะไรให้ทำพอดี ก็แวะไปพูดคุยเล่นกับเจ้าของแผงได้”
“หากแต่ถ้านายอยากขายจริง ๆ งั้นก็ไปที่หอหวังเป่า”
เจ้าของแผงเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม
“ขอบคุณครับ”
ซูเย่ยิ้มพลางเอ่ยขอบคุณ แล้วมุ่งหน้าออกไป
เป็นไปตามที่เจ้าของแผงกล่าว
ของตกแต่งของร้านค้าในละแวกนี้ ต่างจากร้านของขายทั่วไป มองแวบเดียวก็จะเห็นพวกของที่เกี่ยวกับดินแดนภูผามหานที
เมื่อเดินสำรวจหนึ่งรอบ ซูเย่ก็เดินไปร้านที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ที่ตั้งอยู่ใจกลางทันที
“หอหวังเป่า”
เขามองสำรวจป้ายชื่อร้านสีทองขนาดใหญ่ แล้วเดินก้าวเท้าเข้าไปในร้าน
“สวัสดีครับ”
ทันทีที่เดินเข้าประตู ก็มีชายวัยกลางคนที่สวมชุดคลุมยาวสีเขียวมรกตเดินเข้ามาต้อนรับ “หอหวังเป่ายินดีต้อนรับครับ หอหวังเป่าของเราเป็นร้านที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ และมีสาขาย่อยครอบคลุมทั้งหกเขต ไม่ว่าจะอาวุธแบบไหน ตำราวรยุทธ์อะไรทางเราล้วนมีให้เลือกสรร ไม่ทราบว่าคุณต้องการอะไรหรือครับ”
“ผมขอเดินดูก่อนนะครับ”
ซูเย่เอ่ยตอบ
“ได้ครับ ผมพาเดินชมเอง”
ภายใต้การนำของหวังอวี้ เจ้าของร้านวัยกลางคนที่พาชมสินค้าในร้าน ซูเย่ได้เห็นรูปแบบการตกแต่งของร้านที่มีความเก่าแก่มาก ทำให้รู้สึกเหมือนมีบรรยากาศที่เรียบง่าย เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดในร้านเป็นไม้มะฮอกกานีและแม้แต่ภาชนะที่วางสินค้าก็เป็นไม้มะฮอกกานีเหมือนกัน
บนชั้นวางของ ซูเย่ได้เห็นข้าวของมากมายที่มาจากดินแดนภูผามหานที ในร้านยังมีชิ้นส่วนร่างกายของมอนสเตอร์อีกด้วย
เมื่อชมครบหนึ่งรอบ ในใจซูเย่พลันแอบตกตะลึงเล็กน้อย
คิดไม่ถึงว่าจะมีร้านค้าที่คล้ายคลึงกับของทางการมาขนาดนี้ แม้แต่ราคาก็เท่า ๆ กัน โดยพื้นฐานแล้วทุกอย่างในร้านนี้เหมือนกับของทางการทุกกระเบียดนิ้ว
“มีแค่นี้เหรอครับ?”
เมื่อเดินดูรอบ ๆ แล้ว ซูเย่ก็เอ่ยถาม
“ของในร้านก็มีประมาณนี้แหละครับ”
เจ้าของร้านหวังอวี้กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถ้าคุณต้องการสินค้าพิเศษบางอย่าง บอกผมได้ ถ้าสาขาอื่นไม่มี คุณยังสามารถสั่งจองไว้ก่อนได้ครับ”
“ผมไม่ได้มาซื้อของ”
ซูเย่เอ่ย
“ไม่ได้มาซื้อของ?”
หวังอวี้รู้สึกแปลกใจอย่างเห็นได้ชัด แต่เขาไม่รีบร้อน เขายังพูดด้วยรอยยิ้ม “ในเมื่อคุณไม่ได้มาที่นี่เพื่อซื้อของ งั้นคุณมาเพื่อขายสินค้า?”
“ครับ”
ซูเย่พยักหน้าและถามตรง ๆ “คุณรับซื้อโอสถไหมครับ?”
หวังอวี้ผงะไปครู่หนึ่งพลันรีบเอ่ยถาม “คุณมีโอสถงั้นเหรอ!”
ทันทีที่พูดจบ เขาก็รู้สึกว่าตนเองเสียอาการมากไป ดังนั้นจึงรักษาท่าทางของตนให้คงที่อย่างรวดเร็ว
“โอสถที่นี่ไม่ค่อยมีเหรอครับ?”
ซูเย่ถามพร้อมรอยยิ้ม
“ขึ้นอยู่กับว่าเป็นยาแบบไหน”
หวังอวี้กล่าวพร้อมรอยยิ้มประดับใบหน้า “หากคุณหมายถึงยาเม็ดในยุคปัจจุบัน เราจะไม่รับซื้อ แต่ถ้าคุณหมายถึงยาเม็ดที่หลอมด้วยเตาหลอมโอสถ ก็คงต้องหารือกันก่อน”
“แน่นอนว่าผมหมายถึงอย่างหลัง”
ซูเย่ยิ้มเล็กน้อย
ตอนนี้เขาจับสังเกตได้จากสีหน้าของถังอี้และชายวัยกลางคนผู้ที่อยู่เบื้องหน้าเขาในยามนี้ ดูเหมือนว่าการหลอมโอสถจะไร้ผู้สืบทอดและเริ่มหายไปแล้ว!
นี่เป็นสิ่งที่ดีสำหรับเขาอย่างแน่นอน!
เขาครุ่นคิดและเข้าใจว่าแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น
แม้ว่านักหลอมโอสถในสมัยโบราณจะได้รับความนิยมอย่างมาก แต่ด้วยการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย พวกเขาบางคนหลอมโอสถออกมาโดยไม่ควบคุมปริมาณให้ดี ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากยาเม็ดไปไม่น้อยและการหลอมยาเริ่มถูกระงับอย่างช้า ๆ
และตอนนี้มี Fantasy dream ทุกคนจึงสามารถกินหญ้าปราณได้โดยตรง ใครจะไปคิดเกี่ยวกับการหลอมยา?
ต่อให้มีคนต้องการหลอมยา พวกเขาก็อาจจะไม่สามารถหาวิธีที่ถูกต้องได้เพราะวิธีการบางอย่างจำเป็นต้องสืบทอด และการหลอมยาตามบันทึกที่เขียนไว้คงมีข้อมูลไม่เพียงพอ
“ให้ผมดูก่อนได้ไหมครับ”
แววตาของหวังอวี้เป็นประกาย และเขาแบมือไปเบื้องหน้าซูเย่ทันที
ซูเย่หยิบโอสถเรียกปราณออกมา
อีกฝ่ายหยิบมันขึ้นมาอย่างระมัดระวังและตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน
“หืม?”
ดวงตาของเขาพลันเป็นประกายจ้า
เขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังปราณที่เล็ดลอดออกมาจากโอสถเม็ดนี้ และมันไม่ใช่พลังปราณธรรมดา แต่เป็นพลังปราณที่ได้รับการขัดเกลา เมื่อพิจารณาจากสิ่งนี้แล้ว โอสถเม็ดนี้ก็คือโอสถที่แท้จริง!
หวังอวี้จ้องไปที่ซูเย่ด้วยความตกใจ พร้อมเอ่ยถาม “โอสถนี้มีผลอะไร?”
“ช่วยให้ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งสามารถเลื่อนไปขั้นสองได้ทันที”
ซูเย่เอ่ย
“อะไรนะ!”
เมื่อหวังอวี้ได้ยินเช่นนี้ ดวงตาที่เบิกกว้างของเขาก็เบิกกว้างอีกกว่าเดิม จ้องซูเย่ไม่วางตา ในแววตาของเขาฉายแววอารมณ์ที่แตกต่างออกไป
“เด็กคนนี้มาจากสำนักโบราณงั้นเหรอ?”
“ยุทธภพในปัจจุบัน มีเพียงสำนักโบราณบางแห่งที่ยังคงมีการหลอมยา แต่ว่าสำหรับสำนักโบราณ วิธีการหลอมยาก็ไม่ใช่ความลับ”
“แม้ว่าบางสำนักโบราณจะมีวิธีการหลอมยา แต่ส่วนใหญ่ก็มีเพียงวิธีการธรรมดาทั่วไป และวิธีการหลอมยาแบบโบราณส่วนใหญ่ได้สูญหายไปนานแล้ว”
“เด็กคนนี้ต้องเป็นบุคคลสำคัญของสำนักโบราณบางสำนักแน่ มิฉะนั้น เขาคงไม่สามารถนำโอสถออกมาขายได้!”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หวังอวี้กล่าวทันที “โอสถเม็ดนี้ ผมรับซื้อเอง”
“หนึ่งเม็ด?”
ซูเย่ผงะไป
“มีมากกว่านี้เหรอ”
หวังอวี้ตะลึงงัน เขาคิดว่ามีเพียงเม็ดเดียวก็ดีมากแล้ว
“สองร้อยเม็ด พอจะซื้อได้ไหมครับ?”
ซูเย่เอ่ยพร้อมรอยยิ้ม
“อะไรนะ!”
หวังอวี้ตื่นตะลึงยิ่งกว่าเดิม เขาตกใจจนเผลออ้าปากค้าง เมื่อเรียกสติได้ เขาก็เอ่ยถาม “คุณแน่ใจนะว่ามีสองร้อยเม็ด”
“ครับ”
ซูเย่พยักหน้ายืนยัน
เวลานี้ ดวงตาของหวังอวี้มองไปยังซูเย่อย่างเหม่อลอยเล็กน้อย
เด็กคนนี้คงเป็นทายาทสายตรงของสำนักโบราณ!
ทายาทแบบที่บรรพบุรุษกำหนดไว้ด้วยตัวเองให้สืบเชื้อสายมาจากรุ่นสู่รุ่น มิฉะนั้น เขาไม่มีทางเอาโอสถถึงสองร้อยเม็ดมาได้แน่นอน!
“หรือว่า เขาเป็นคนหลอมเอง? เป็นไปไม่ได้ ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่ามีผู้สืบทอดจากสำนักไหนหลอมยาได้เยอะขนาดนี้…”
“คุณมีจริง ๆ แน่นะ”
หวังอวี้สูดหายใจเข้าลึกหนึ่งเฮือก และถามย้ำอีกครั้ง ซูเย่หยิบถุงผ้าออกมาวางบนโต๊ะ หวังอวี้ตรวจสอบอย่างรวดเร็ว
ความตกใจในดวงตาของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และลมหายใจของเขาก็หนักขึ้น
มี 200 เม็ด และมีคุณภาพเหมือนกัน!
นี่เป็นเทคนิคการหลอมยาแบบไหนกันแน่ ที่สามารถควบคุมเตาหลอมยาได้อย่างยอดเยี่ยม!
หวังอวี้สูดหายใจเข้าลึกอีกครั้งและพูดอย่างพยายามสงบจิตใจ “สาขาย่อยของเรารับซื้อเยอะขนาดนี้ไม่ไหวจริง ๆ แต่ถ้าคุณขาย ผมจะช่วยติดต่อให้ได้”
“เท่าไรครับ?”
ซูเย่ไม่รีบตอบรับข้อเสนอ แต่ถามกลับอย่างใจเย็น
ชายวัยกลางคนคิดคำนวณในใจอย่างรวดเร็ว “200 เม็ด ไม่ต่ำกว่า 12 ล้านแน่นอน! รายละเอียดคุณและผู้ซื้อหารือกันได้”
“โอเคครับ”
ซูเย่พยักหน้า หนึ่งเม็ดหกหมื่น ได้มากกว่าที่ถังอี้บอกไว้นิดหน่อย ดูเหมือนว่าชายวัยกลางคนเบื้องหน้าเขาคนนี้ จะเป็นคนที่มีจรรยาบรรณต่อวิชาชีพ
“เอาอย่างนี้ เพื่อจะได้สบายใจกันทุกฝ่าย พรุ่งนี้คุณค่อยมาใหม่ แล้วผมจะให้คำตอบที่แน่ชัด”
ชายวัยกลางคนขอข้อมูลติดต่อของซูเย่ไว้
“รบกวนด้วยครับ”
ซูเย่พยักหน้า เตรียมหันกายเดินออกไป
“เดี๋ยวก่อน!”
ชายวัยกลางคนเอ่ยรั้งซูเย่ “คุณยังไม่ได้บอกชื่อโอสถให้ผมรู้เลย”
“โอสถเรียกปราณ”
ซูย่เอ่ยตอบแล้วเดินจากไป
โอสถเรียกปราณ?
ชื่อเหมาะกับคุณสมบัติของมันดี ชายวัยกลางคนยืนขึ้น เขาสะกดความตื่นเต้นในใจไว้ แล้วเดินไปด้านหลังร้าน
ในเวลาไม่นาน ก็มีข่าวที่สั่นสะเทือนวงการตลาดมืดปล่อยออกมา
มียาเรียกลมปราณออกสู่ตลาดถึง 200 เม็ด
ครั้งแรกที่ได้ยินข่าวนี้ ทุกคนยังไม่รู้ว่าโอสถเรียกปราณคืออะไร แต่ต่อมาก็มีคนมาช่วยไขข้อข้องใจ มีบันทึกในตำราโบราณ โอสถเรียกปราณเป็นโอสถที่มีความพิสดารเป็นอย่างยิ่ง สามารถทำให้ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งเลื่อนไปขั้นสองได้ทันที
เมื่อได้รับรู้ ทุกคนในตลาดมืดพลันตกตะลึง
มันคือโอสถที่เพิ่มความสามารถของผู้ฝึกยุทธ์ได้แบบก้าวกระโดด?
มีโอสถแบบนี้อยู่ด้วยงั้นเหรอ?!
แต่ว่าระดับมันต่ำไปหน่อย
ทำไมไม่มียาที่ช่วยเลื่อนขั้นจากขั้นสองไปขั้นสามหรือว่าขั้นที่สูงกว่านี้นะ?
แม้ว่าจะมีผลแค่กับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งเท่านั้น ทว่าทุกคนรู้ดี ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องการยาตัวนี้ และยา 200 เม็ดนี้หมายความว่าภายในเวลาอันสั้น จะสามารถบ่มเพาะผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองได้ถึง 200 คน
เลื่อนขั้นสอง สำหรับคนหนึ่งคนไม่มีผลอะไรมากนัก แต่ถ้าเลื่อนพร้อมกันเป็นกลุ่มก็ค่อนข้างน่ากลัว
“คุณได้ยา 200 เม็ดมาได้ยังไง?”
“ปกติเม็ดเดียวก็ไม่ค่อยพบเห็น แล้วทำไมคราวนี้ถึงมี 200 เม็ดออกสู่ตลาด?”
“ใครเป็นคนปล่อยของมาได้เยอะขนาดนี้กัน”
“ยาจำนวนมากขนาดนี้ ต้องเป็นพวกที่ได้รับการสืบทอดมาจากสำนักโบราณแน่เลย”
ภายในเวลาไม่นาน ก็ดึงดูดความสนใจจากผู้คนนับไม่ถ้วน
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางการถกเถียงกันอย่างดุเดือดในตลาดมืด มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งรีบรุดมุ่งหน้าไปที่หอหวังเป่า บนถนนโบราณฉางอัน ในเมืองจี้หยางทันที
“ยา 200 เม็ด ฉันต้องการมันทั้งหมด ตั้งราคามาได้เลย!”
……
อีกด้านหนึ่งซูเย่เพิ่งกลับถึงมหาวิทยาลัย ยังไม่ทันกลับถึงหอพัก ก็ได้รับข้อความที่ส่งมาจากเถ้าแก่หอหวังเป่า
“มีคนรับซื้อแล้ว รีบมา”
เมื่อได้รับข้อความ ซูเย่พลันรู้สึกเหนื่อยใจ ถ้ารู้แบบนี้ก็จะได้รออยู่ในร้านแต่แรก ไม่ต้องไปกลับอีกรอบ!
เมื่อมาถึงหอหวังเป่า ซูเย่ก็เห็นชายวัยกลางคนที่รูปร่างสูงใหญ่ ดูเป็นคนตรงไปตรงมา
ในมือของเขาว่างเปล่า บนร่างสวมชุดผู้ฝึกยุทธ์แบบดั้งเดิม
เขามองที่มือของอีกฝ่ายอย่างละเอียด มีร่องรอยของหนังที่ตายแล้วค่อนข้างหนา…
นั่นมันคือมือของผู้หลอมโอสถ!
“เรื่องของราคาเชิญพวกคุณต่อรองกันได้เลยครับ ผมแค่ช่วยติดต่อให้”
หวังอวี้เอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “ถ้าพวกคุณตกลงกันได้ ผมก็แค่เก็บค่านายหน้าเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น”
“เชิญนั่ง”
ชายวัยกลางคนผายมือไปยังโซฟาข้างโต๊ะชา เพื่อเชิญซูเย่ให้นั่งลง
“ขอบคุณครับ”
ซูเย่พยักหน้า
เมื่อทั้งสองคนนั่งเรียบร้อยแล้ว
“ผมขอดูของก่อนได้ไหมครับ”
ทันทีที่นั่งลงไป ชายวัยกลางคนก็จ้องซูเย่เขม็ง แล้วเอ่ยถาม
“แน่นอน”
ซูเย่สวมหน้ากาก และไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะมองเขาอย่างไร ชายหนุ่มหยิบโอสถออกมาทันทีแล้ววางลงบนโต๊ะ
อีกฝ่ายหนึ่งก็ไม่รีบร้อน เขาทำเพียงขยับเข้ามามองใกล้ขึ้นเล็กน้อย เมื่อดูอย่างละเอียดดวงตาของเขาพลันเป็นประกาย
“คุณภาพดี! ผมซื้อหมดเลย”
ชายวัยกลางคนเอ่ยราคาขึ้นทันที “เหมาหมดราคาสิบห้าล้าน ค่านายหน้าผมจ่ายเอง”
ตรงไปตรงมาขนาดนี้เลย?
ซูเย่มองอีกฝ่ายอย่างสงสัย
เฉลี่ยแล้วเม็ดละเจ็ดหมื่นห้า มากกว่าที่คิดไว้หนึ่งหมื่นห้าแหนะ
แถมยังไม่ต้องจ่ายค่านายหน้าเองอีก ดูเหมือนว่าหลอมโอสถก็ได้เงินดีไม่น้อย!
ใบหน้าของซูเย่มีแววครุ่นคิดเล็กน้อย เขาต้องการรอให้อีกฝ่ายเสนอราคาที่สูงขึ้น
“ราคานี้สูงที่สุดแล้วแน่นอน”
ชายวัยกลางคนพูดด้วยรอยยิ้ม “ราคาตลาดสำหรับยานี้อยู่ที่ประมาณห้าหมื่น ถ้าไม่ใช่ปริมาณการซื้อขายที่เยอะขนาดนี้ ในคราวเดียว ผมคงไม่สามารถให้คุณในราคาสูงเช่นนี้หรอกนะ”
“แน่นอนว่าคุณสามารถรอดูไปก่อนก็ได้ แต่คงไม่มีใครให้ราคาดีเท่าผมแล้วแน่นอน”
“โอเค ตกลงตามนี้ครับ”
เมื่อเห็นดังนั้น ซูเย่ก็ไม่พูดอะไรอีก คว้าถุงยาออกมาวางเปิดโต๊ะ แล้วเปิดถุงให้เห็นยาข้างใน “ทั้งหมด 200 เม็ดพอดี”
ขณะพูด เขาก็หยิบบัตรธนาคารที่หวังห่าวมอบให้เขาก่อนหน้านี้วางลงบนโต๊ะ
ชายวัยกลางคนเปิดเช็คดูยาทันที หลังจากยืนยันว่ามีจำนวน 200 เม็ดและตัวยาไม่มีปัญหาอะไร เขาก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ
แล้วโอนเงินสิบห้าล้านทันที เงินเข้ากระเป๋าซูเย่ด้วยความรวดเร็ว
“ยินดีที่ได้ทำธุรกิจด้วยกันครับ”
ชายวัยกลางคนยื่นมือออกไปจับมือกับซูเย่พร้อมรอยยิ้ม
“ต่อไปถ้ามีของดีอะไรก็สามารถมาหาผมได้ทุกเมื่อ”
“ครับ”
ซูเย่พยักหน้า “ไว้ผมไปดูในดินแดนภูผามหานทีก่อนนะครับ ไม่แน่ว่าอาจจะได้เจอของดีอะไรมาขายให้อีก”
เมื่อพูดจบ เข้าก็เดินจากไปพร้อมบัตรธนาคาร
หามาจากดินแดนภูผามหานทีงั้นเหรอ?
ดวงตาของชายวัยกลางคนและหวังอวี้เจ้าของร้านพลันเป็นประกาย
ชายวัยกลางคนจ่ายเงินค่านายหน้าด้วยความรวดเร็ว แล้วออกจากหอหวังเป่า มุ่งหน้าไปยังที่แห่งหนึ่งทันที