เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 200กลัวการแต่งงาน1
ตอนที่ 200กลัวการแต่งงาน1
ตอนที่200 กลัวการแต่งงาน เธอปรายตามอง รู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวใจ
พอได้สติก็รีบหลบสายตาอันเฉียบคมคู่นั้น “ฉันไม่อยาก รับใช้คุณทั้งสองพ่อลูกแล้ว ไม่ได้รีไง!”
สีหน้าของโม่เริ่มเคร่งขรึมลงทันที “สารเลว”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำแต่ดุดันด้วยความโมโห “เข้า มาเป็นเลขาผม พอก่อเรื่องวุ่นวายเสร็จก็สะบัดตูดหนีปัด ความรับผิดชอบ ทิ้งปัญหาไว้ให้ผมมารับหน้าแทน! ได้ เรื่อง นั้นฉันไม่ติดใจเอาความอะไรก็ได้! แต่งานแม่บ้านคุณก็ยัง ทำงานไม่ได้เรื่องอีก กู้ฮอน คุณนี่หรือผมต้อง?!
กู้ฮอนกัดริมฝีปากเพื่อรวบรวมสติ “ฉันไม่อยากเป็นแม่ บ้านแล้ว เพราะฉันรำคาญเด็กๆ พอใจ!”
หลังจากโพล่งประโยคนี้ออกไปด้วยความอัดอั้น เธอจึง รู้ตัวว่าตนก็ปวดใจเหมือนกัน
หากเธอเลือกได้ การดูแลเด็กๆ เป็นฝันเกินเอื้อมที่เธอ แทบไม่.
“ได้!” เป่ยหมิงโม่ตะคอกกลับด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน กำหมัดแน่นจนสั่นระริก ใจอยากจะบีบคอเธอให้ตายคามือไปเลย! นี่เป็นครั้งแรกที่เป่ยหมิงโม่ไม่สามารถตอบโต้อะไรเธอได้
เลย
ป้ง!
เสียงหมัดที่ต่อยเข้าไปกับเก้าอี้แถวหน้าเข้าอย่างจัง เธอสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ
“แล้วเมื่อกี้นี้คุณทำอะไรอยู่? อย่าบอกนะว่ากำลังพลอด รักกับนายคนนั้นอยู่ คบกันมานานแค่ไหนแล้วล่ะ ดูรักใคร่ กันดีนี่ ถึงขั้นจะไปพบผู้ใหญ่กันแล้ว ขั้นต่อไปก็คงจด ทะเบียนสมรส แต่งงาน เข้าห้องหอ บำเรอผู้ชายแล้วสินะ ใช่
มั้ย?”
เขาพูดเค้นลอดไรฟันออกมาทีละคำ และทิ่มแทงไปตรง กลางใจของเธอ
“เป่ยหมิง โม่! มันจะมากเกินไปแล้วนะ! ฉันจะคบกับใคร แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณไม่ทราบ!”
เธอโกรธจนเลือดขึ้นหน้า ดวงตาคู่งามทอประกายแรง
โทสะ
“ไม่เกี่ยวกับผมงั้นเหรอ?” เขาช้อนร่างบางของเธอเข้าสู่ อ้อมอกของตัวเองด้วยท่อนแขนอันกำยำ “พวกคุณไปถึงขั้น ไหนกันแล้ว? เขารู้เหมือนที่ผมรู้หรือเปล่า ว่าส่วนใหนของคุณที่ไวต่อความรู้สึกที่สุด และนายนั่นรู้ดีเท่าผมมั้ย ว่าตรง นั้นของคุณมันฟิตขนาดไหน?”
ไฟปรารถนาลุกโซน จนต้องเลื่อนไปดึงม่านกั้นระหว่าง ห้องโดยสารกับคนขับรถลงมา
ห้องโดยสารมืดลงจนกลายร่างเป็นห้องลับๆ ขึ้นมา
รถติดเครื่องยนต์และค่อยๆ เคลื่อนออกไปบนท้องถนน กู้ฮอนใจหายวาบเหมือนหัวใจจะหยุดเต้น
“เป่หมิงโม่คุณมันคนโสมม! หลิวเจ๋อเฉิงเขาไม่สกปรก เหมือนคุณหรอก!”
เธอปัดป้องขัดขึ้น และพยายามหาทางลงจากรถ
แต่กลับถูกเขาโอบเข้าที่เอวบาง พร้อมอุ้มขึ้นนั่งบนตัก อย่างง่ายดายและไร้ทางสู้
กลิ่นความรักไม่ชัดเจนปะทุขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง
“ผมสกปรกงั้นเหรอ?” เขายิ้มอย่างเย้ยหยัน “คุณเองก็ ชอบที่ผมเป็นคนสกปรกโสมมแบบนี้ไม่ใช่เหรอ?”
เขาไม่พูดเปล่า แต่มือหยาบนั้นก็ฉีกทิ้งเสื้อผ้าของเธอ
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” กู้ฮอนตกใจจนอกสั่นขวัญแขวน “ไอ้คน เลว หยุดเดี๋ยวนี้นะ”
แควก
เสียงผ้าฉีกขาดดังขึ้น
ตามด้วยเสียง
เพียะ
เสียงฝ่ามือที่ประทับรอยนิ้วมือบนหน้าเขา
ทันใดนั้น เหมือนทุกอย่างหยุดชะงักลง
เป่ยหมิง โม่จ้องมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา
ตัวเอง
ใบหน้าคมสันนั้นค่อยๆ เผยรอยนิ้วมือทั้งห้าขึ้นมาอย่าง
ชัดเจน
“ตบหน้าฉันจนติดใจแล้วใช่มั้ย?!”
เขาจำได้ว่านี่เป็นการที่เธอตบหน้าเขาครั้งที่3แล้ว
ไฟโทสะคุกรุ่นอยู่ในอก เป่ยหมิงโม่เงยหน้าขึ้นมองด้วย สายตาพร้อมปะทุ
แต่กลับต้องหยุดลงด้วยความตกตะลึง เมื่อเขามองเข้าไป ในดวงตาคู่งามนั้นของเธอ
รถหรูแล่นไปบนถนนที่มีรถวิ่งไปมาอย่างขวักไขว่
แสงไฟนีนอนจากริมถนนที่คึกคัก ส่องกระทบกับกระจกรถ อย่างระยิบระยับ
ไฟสลัวหลากสีที่สาดส่องมาที่รถนั้น ทำให้เขาได้เห็น ดวงตาดำขลับเปล่งประกายขึ้นน้ำตาคู่นั้นอย่างชัดเจน
ทันทีที่เขาเห็นน้ำตาที่คลอเบ้านั้น สิ่งที่เขาพยายามทำ เหมือนไม่แยแส ไม่สะทกท้านมาตลอด20กว่าวันนี้ พังทลาย ลงทันที
อารมณ์โกรธที่คุกรุ่นอยู่ในดวงใจเมื่อครู่นี้ บัดนี้ได้ถูก น้ำตาดับมอดจนหมดสิ้นแล้ว
นิ้วมือของเขาอยู่ในตำแหน่งที่น่ากระอักกระอ่วนนั้นของ เธอ กางเกงถูกชายหนุ่มฉีกเป็นรูโบ๋ เธอพยายามจะปกปิด เรียวขาขาวนวลนั้นด้วยความทุลักทุเล
บรรยากาศในรถเงียบสงัด
ถึงแม้ว่าฉิงฮัวจะอยู่ในห้องคนขับที่มีม่านดำกั้น จนมองไม่ เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องโดยสาร แต่ทว่าหากเขาลองเงี่ยหูฟัง ความเคลื่อนไหวของเจ้านายและกู้ฮอน เขาก็คงจะคาดเตา ได้ไม่ยากว่าเมื่อครู่นี้ทั้งสองได้เปิดศึกกันอีกแล้ว
ฉิงฮัวขับรถต่อไปอย่างเงียบๆ ไม่วายที่จะถอนหายใจด้วย
ความเหนื่อยหน่าย
เจ้านายผู้สุภาพเคร่งขรึมมาโดยตลอด กลับไม่รู้ตัวเลยว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาเจอกับกู้ฮอน ความเย็นชามาดแมนที่เขา คิดว่าสูงส่งนั้น กลับกลายเป็นความป่าเถื่อนและมุทะลุ จนบางทีเหมือนสามีโรคจิตที่อยากจะเฝ้าทะนุถนอมภรรยา เหมือนจงอางหวงไข่ เกรงว่าชายอื่นจะมาเห็นยังไงอย่างงั้น เลย ตลกสิ้นดี
เฮ้อ….ิงฮัวส่ายหัวไปมาอย่างเอ็นดู น่าเสียดายที่เจ้า นายเหมือนโดนปิดหูปิดตา จนมองไม่เห็นความรู้สึกที่แท้จริง ของตัวเอง..
เงียบ เป้หมิงโม่ไม่รู้ว่าจะต้องเงียบไปถึงเมื่อไหร่
เขามองเธอที่กัดริมฝีปากเพื่อกลั้นน้ำตาที่เอ่อล้นเบ้า ไม่ ให้ไหลออกมาอย่างสุดทน สุดท้ายชายหนุ่มก็ยอมแพ้
เขากัดฟันกรอดอย่างเป็นกังวล ลืมความเจ็บบนแก้มที่เพิ่ง โดนตบไปฉาดใหญ่นั้น
ถอนหายใจอย่างแผ่วเบา ก่อนจะค่อยๆ ผละมือออกจาก สะโพกเธอ แล้วโอบหญิงสาวสู่อ้อมอกของตนด้วยท่าทีที่ เคอะเขิน ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ติดๆ ขัดๆ ว่า
“คนที่โดนตบหน้าครั้งแล้วครั้งเล่าคือผมแท้ๆ แล้วคุณจะ
ร้องไห้หาสวรรค์วิมานอะไร”
ภายใต้คำพูดที่ฟังดูหยาบคายและตำหนินั้น ก็แอบมี ความอ่อนโยนซ่อนอยู่ในนั้น
กู้ชอนไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกต่อไป
ความรู้สึกไม่เป็นธรรมเจ็บปวดใจ กลัว หวาดหวั่น ที่อัดอั้นตันใจมานาน พรั่งพรูออกมาเมื่อเธอได้พบเป่หมิงโม่อีก ครั้ง
“ฮือ.. เธอปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายในอ้อมอก ของชายหนุ่ม
“ฮือ….เป่หมิงโม่…ไอ้คนเลว…” กู้ฮอนร้องไห้โฮ เหมือนระบายความอัดอั้นที่เก็บกดมานาน น้ำตาน้ำมูกไหล ออกมาอย่างไม่มีที่ท่าจะหยุดหย่อน เธอถไถไปมาบนเนื้อผ้า ราคาแพงของเขาเพื่อเช็ตมัน